[CR] SINGAPORE: สิงคโปร์ โนแฮชแทค เพราะสามวันมันสั้นจนคิดแฮชแทคไม่ทัน

16-18.07.2016

เมื่อตั๋วเครื่องบินราคาไม่แพง เด้งขึ้นมาบนแอพพลิเคชั่นสีน้ำเงินของเรา…
ทันใดนั้นเอง...สมองก็สั่งการให้กดแอพพลิเคชั่นสีเชียวขึ้นมา Say Hi เพื่อนรัก

“แกๆ เราอยากไปสิงคโปร์ ไปเป็นเพื่อนเราหน่อยสิ”


สาธารณรัฐสิงคโปร์
ประเทศที่มีลักษณะเป็นเกาะ และมีขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หนึ่งในสถานที่ ที่เราตั้งใจว่าจะต้องไปให้ได้

//ภาพแผนที่จาก Google Map


ก่อนที่จะให้รูปภาพอธิบายความงดงามของตัวมันเอง ขอพูดอะไรอีกเล็กน้อย
การเดินทางครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า...อะไรก็สร้างขึ้นได้ ในเมืองสิงคโปร์




และแล้ววันที่จะได้ไปเยือนสิงคโปร์ก็มาถึง...


หลังจากเครื่องบิน Landing ลงยังสนามบินสุดหรูแห่งประเทศสิงคโปร์ พวกเราก็รีบจับจองที่นอนสำหรับคืนนี้ในสนามบินกันเลยทีเดียว อยากแนะนำทุกคนที่จะไปนอนสนามบินว่า เอาผ้าห่มไปด้วยเด้อ หนาวมาก


...แว๊บแรกที่โผล่ขึ้นมาจากสถานีใต้ดิน Chinatown ในใจคิดว่าเมืองนี้เจ๋งอ่ะ โคตรเป็นระเบียบเลย
ไม่มีขยะสักชิ้น
ไม่มีเสาไฟรกๆ
ถนนราดยางมะตอย ตีเส้นถนนแบบเนียนกริ๊บ


เก็บข้าวเก็บของ อาบน้ำอาบท่า กินข้าวกินปลา (จริงๆคือปังปิ้งกับคอนเฟลก) เรียบร้อย
ก็ถึงเวลาออกสำรวจเมืองสิงคโปร์กันแล้วฮะ

เริ่มกันที่ย่าน China town ก่อนเลย
เราจะเดินกันไปเรื่อยๆ ถ้าเมื่อยเมื่อไหร่ก็มุดลงไปใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน
//ภาพแผนที่จาก Google Map


เดินผ่านตึกสูงๆ เตี้ยๆ รูปทรงแปลกตา ที่ถูกจัดเรียงไว้บนผังเมืองอย่างเป็นระเบียบ


นอกจากจะเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังทาสีน่ารักๆอี๊ก


มาลอง Kaya Toast ร้าน YAKUN สาขาแรก ที่เค้าว่ากันว่าเด็ดก่อนเลย
ร้านนี้มีสาขาที่เมืองไทยด้วยนะ


ปังปิ้ง+เนย+สังขยา
ไข่ลวก
ชานมเย็น
รสชาติไม่คุ้นลิ้น แต่อร่อยดี
// Set A - SGD5.6


เดินชมเมืองกันต่อ


เปิด Offline map เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ก็เจอ Cavenagh Bridge


ขณะที่กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศร้อนๆ ของสิงคโปร์ ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวาย ของเด็กๆที่รุมกันแย่งซื้อไอติมเวเฟ่อ ข้างสะพานอันละ SGD1.2 คนเยอะมากๆ สู้ไม่ไหว ถอยดีกว่า


ข้ามสะพานมาปุ๊บก็เจอสวนสาธารณะที่ตกแต่งด้วยลูกบอลกระจก ลูกเล็ก ลูกใหญ่ กระจกพวกนี้ให้ภาพสะท้อนกว้างๆ
เหมือนมองเมืองทั้งเมืองผ่านกล้องเลนส์ Super wide

เจอแล้วๆ คนเป็นล้านนนน
เธอตัวเล็กกว่าที่เราคิดเยอะเลยนะ


มุมนี้ให้อารมสัญลักษณ์ของเมืองเจริญๆ ได้ดีทีเดียว


ให้เวลากับการไปสิงคโปร์เยอะๆหน่อยก็ดีนะ มีอะไรน่าสนใจในทุกๆที่ที่เราเดินผ่านจริงๆ
Internet Sim ไม่ต้องซื้อหรอก Offline map กับความมั่วซั่วของตัวเองก็เพียงพอแล้วค่ะ


มุดจากสถานี Raffles place มาโผล่ที่ Tanjong Pagar
ตึกสีแดงที่เคยเห็นในเฟสบุ๊คคนอื่น พอมาเห็นเอง
แม่มมมมม...สวยหว่ะ


ใครสั่งใครสอนให้ทาสีแดงทั้งตึก
// Red Dot Design Museum Singapore


ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตึกแดง แค่เดินทะลุตึก เลี้ยวซ้ายเลียบตึก หันขวา ข้ามถนน เดินตรงไปเรื่อยๆ
เจอแล้ว Maxwell Food Center
ไม่ต้องกลัวหาร้านเด็ดไม่เจอนะ แถวยาวเป็นกิโลอยู่ร้านเดียวเลยค่ะ

ตัวไก่ กับข้าวมัน เหมือนของเมืองไทย แต่น้ำจิ้มที่นี่เป็นซอสพริกที่มีเนื้อพริกกับขิงปนอยู่หน่อยๆ
อร่อยใช้ได้
Chicken Rice
S – SGD 3.50
M – SGD 5.00
L – SGD 7.70
// Tian Tian Hainanese Chicken Rice


กินอิ่มแล้วไปเดินย่อยกันหน่อย
ตลาดขายของที่ระทึก เอ้ยยยย ระลึกใน Chinatown


Buddha Tooth Relic Temple


อกหักจากลุงแถวสะพาน มากินที่นี่ก็ได้ คราวนี้ SGD1.5
จัด Mint Chocolate Chip ไป
เห้ยยยย มันดจีย์


เดินไปตามถนนเรื่อยๆ เปื่อยๆ ก็เจอ Masjid Jamae (Chulia)


Sri Mariamman Temple


แวะมาซื้อตั๋ว Universal Studio ที่ตึก People's Park Centre
จัดไป SGD60 จากร้าน TRANS-WIND ข่ะ ปรบมืออออ


ข้ามถนนกลับมาที่ห้างสรรพสินค้าฝั่งตรงข้าม People's Park Center มาลองลิ้มชิมรสชาติ กระดูกหมูก้อนที่เด็ดมากๆ กินแล้วเหมือนมีไฟพุ่งออกจากหู ขอบคุณผู้แนะนำของเด็ดๆตลอดทริปนี้นะคะ

บังกุเต๋ที่นี่หน้าตาแบบนี้แหละ เหมือนต้มกระดูกหมูเลย
//Song Fa Bak Ku Teh


มุดจากสถานี Chinatown มาโผล่ที่ Little India
สีตึกย่านนี้เผ็ชมาก ช๊อบชอบ


ถ้านั่งใต้ดินมา ไม่ต้องกลัวหลงนะฮะ เหล่าคนอินเดียจะนำคุณมาถูกย่านแน่นอน
มาย่านนี้ต้องลองอาหารอินเดียหน่อย ตามประสาคนงบน้อย ต้องเลือกแบบชุดเดียวได้กินทุกสิ่ง
คนอินเดียที่นี่ใช้มือจกกินเลยฮะ แต่เราขอบายนะ ใช้ช้อนเนี่ยแหละสบายใจดี


มาโผล่ที่ Bugis ซึ่งอยู่ห่างจาก Little India แค่สองสถานี
แต่หลังจากที่เดินต่อเนื่องมาทั้งวัน ตอนนี้เท้าแทบจะระเบิดแล้วค่ะ

ถามเจ้าหน้าที่สถานีใต้ดินว่า street art อยู่ตรงไหน นางทำหน้างง แล้วบอกให้ไปออกประตูไหนก็ไม่รู้
เดินวนไปค่ะจุดนี้ เท้าที่จะพัง จะพัง ตอนนี้พังไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

จริงๆในบูกิส มีกำแพงที่สวยกว่านี้อีกนะ แต่ถอดใจแล้ว


ขึ้นรถเมล์จาก Bugis มาลงหน้าตึก Marina Bay Sands
เดินทะลุตึกเข้าไปในสวนด้านหลัง รอการแสดงไฟ

Gardens by the Bay มีการแสดงไฟวันละสองรอบ คือ 7.45 และ 8.45 pm. นะคะ


หันกลับมามองตึกเรือ ตอนใกล้ๆจะค่ำ
อดคิดในใจไม่ได้ว่ามนุษย์นี่เก่งเนอะ คิดยังไงถึงสร้างตึกแบบนี้ ทำไมต้องเป็นตึกที่มีเรืออยู่ข้างบน และที่สำคัญสร้างมันขึ้นมาได้ยังไง??
//Marina Bay Sands


ดูไฟจบก็ลากสังขาร กันต่อมาที่ Helix Bridge
พอไปยืนดมกลิ่นทะเล แล้วความรู้สึกอยากกลับบ้านก็ลอยมา เมืองสิงคโปร์ตอนกลางคืนนี่สวยจังเลยเนอะ


กลับถึงที่พัก อาบน้ำเสร็จ สลบทันทีเลย
...รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนนาฬิกาปลุกตอนเช้า

วันนี้ไปเล่นของเล่นกัน
//Universal Studios Singapore


มันส์ที่สุดใน Universal ก็อันนี้นี่แหละ


แวะไปจุดใต้สุดของแผ่นดินเอเชียกันซักหน่อย Palawan Island - The southernmost point of continental ASIA


หลังจากแวะไปย้ายกระเป๋าเข้า Hostel ที่ใหม่เรียบร้อย จะพลาด Clarke Quay ไปได้ไง เช็คมาแล้วว่าย่านนี้เบียร์โคดแพง มาเจอจริงๆก็ไม่ผิดหวังฮะ
เหยือกละ SGD31
Towerละ SGD80
ตัดสินใจเดินไปเซเว่นทันที แต่บัดนั้นเป็นเวลา 22.32 น. ซึ่งตามกฎหมายสิงโปห้ามขายเบียร์ตั้งแต่ 22.30-7.00 น.
สิ่งที่พวกเราทำได้คือไปเดินถ่ายรูปเล่นค่ะ
Ministry of Culture, Community & Youth


เดินกลับถึงที่พัก อาบน้ำ นอนยกขาสูง และฟังเสียงอีเตียงข้างๆกรนดังมาก
แต่จุดนั้นดังแค่ไหนก็ทำอะไรดิฉันไม่ได้แล้วค่ะ สลบอย่างไว

ถึงวันกลับแล้วหรอ เร็วจังเลย
มื้อเช้าสำหรับวันนี้ต้องหากินกันเอง แถว Hostel และนี่...งานอาหารห่อไปตอง สุดคูลปิดทริป


กับกาแฟผสมชา หอมๆ


บ๊ายบายสิงคโปร์ เมืองที่ทำให้รู้ว่ามนุษย์เจ๋งแค่ไหน
เจอกันคราวหน้าจะไปโซนสีเขียวๆของสิงคโปร์มั่งนะ

ถึงเวลาที่ต้องบอกลาประเทศสุดสวยแล้ว
บ๊ายบาย...