กิน...........

กระทู้สนทนา
.



             ภารกิจสุดท้ายในอวกาศอันเวิ้งว้างสิ้นสุดลง เขาในฐานะผู้บังคับบัญชาการยานอวกาศของสหพันธ์โลกกำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน----โลกมนุษย์

             หลังจากการยิงหลอดขยะขนาดใหญ่บรรจุกากนิวเคลียร์ และสารมลพิษอื่นๆไปยังดวงอาทิตย์ เขานำทีมพายานอวกาศทรงอุ้ยอ้ายแต่ความเร็วสูง   ตรงไปยังดาวพระศุกร์  รับแร่ธาตุสำคัญจากยานลำเลียงที่ทยอยขึ้นมาจากพื้นด้านล่าง  แร่ธาตุหลายชนิดกำลังขาดแคลนบนโลก อันเป็นผลจากการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือยนับศตวรรษของเหล่าบรรพบุรุษ  ทำให้คนรุ่นหลังจำเป็นต้องแสวงหาแร่ธาตุถึงต่างดาว  

             จะว่าไปแล้วคนรุ่นก่อนเคยคิดสั้น ถึงกับฝังกากนิวเคลียร์ลงใต้พื้นพิภพ หรือฝังใต้ทะเลเสียด้วยซ้ำ โดยคิดว่ามันสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและสะดวก พวกวิศวกรของโรงงานต่างๆ ประกาศแข็งขันว่ากากมหันตภัยเหล่านั้นจะถูกปิดตาย  จากมวลมนุษย์นับล้านปี

             แต่หลังการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่  ทำให้พวกเขารู้ว่าคิดผิด…กัมมันตรังสีรั่วไหลออกมาจากถังที่ฝังลึกใต้พื้นดินนับสิบกิโลเมตร ซึมแพร่สู่แหล่งน้ำและบรรยากาศ  มีคนทยอยตายไปนับล้าน นั่นคือการทบทวนโครงการทำลายกากนิวเคลียร์โดยการส่งไปกำจัดที่ดวงอาทิตย์  ดูเหมือนว่าดวงอาทิตย์ได้กลายเป็นเตาเผาขยะของมนุษย์ไปเสียแล้ว

             สภาพไร้น้ำหนักในบรรยากาศมีผลดีต่อเรือนร่างขนาดมหึมา   ถ้าอยู่บนโลกอาจวัดมวลถึงสี่ร้อยกว่ากิโลกรัม เขาคิดว่าทำงานโดยใช้สมองมากกว่าร่างกาย   จึงทำเป็นไม่แยแสต่อมวลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ   ถ้าอยู่พื้นโลกบางครั้งต้องใช้เก้าอี้เลื่อนกึ่งหุ่นยนต์ที่ออกแบบเป็นพิเศษ นั่นเป็นการแสดงถึงอำนาจทางการเงินทางการเมือง  และเศรษฐกิจโลก

             บนยานอวกาศลำนี้…มีการควบคุมปริมาณอาหารอย่างเข้มงวด เพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีพจนกลับถึงโลก  จึงเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสสำหรับเขา มันเป็นกฎสากลว่าทุกคนต้องปฏิบัติตาม  ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน

             การพยายามขออาหารเพิ่มในแต่ละมื้อจบลงด้วยความล้มเหลว---คนครัว…ซึ่งถ้าว่ากันจริงๆแล้ว ก็คือหุ่นชีวภาพผู้ทำตามคำสั่งโปรแกรมอย่างเคร่งครัด ผู้เขียนโปรแกรมของหุ่นเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นยานมาด้วย  เขาจึงไม่มีสิทธิ์จะไปแก้ไขโปรแกรม  แม้ว่าจะมีอำนาจสูงสุดในยานก็ตาม ไม่ยุติธรรมเลย ถ้ามีอำนาจสูงสุดจริงควรจะบงการทุกอย่างได้ตามใจนึก

             ลูกเรือทั้งหมดเป็นหุ่นชีวภาพ พวกเขาเกิดจากความสำเร็จของการพยายามรวมไมโครชีฟเข้ากับดีเอ็นเอของมนุษย์  ทำให้พวกเขากลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีชีวิต ปัญหาเรื่องการระบายความร้อน   การส่งผ่านข้อมูลหมดไป ความมีชีวิตทำให้พวกเขาสามารถซ่อมแซมโครงสร้างของส่วนประกอบ หรือโปรแกรมที่ผิดพลาดด้วยตัวเอง ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวมีความจำเป็นมากในการปฏิบัติงานในอวกาศยาวนาน

             ปัญหาคงไม่รุนแรงเช่นนี้ถ้าอาหารเกือบครึ่งหนึ่งเกิดการบูดเสียจนต้องทิ้งไป มันเป็นผลจากการทุจริตในการสั่งซื้อตามระบบราชการทั่วไปของสังคมมนุษย์ ผลที่ได้คืออาหารคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน  .คุณภาพต่ำสุดแต่ราคาสูงสุด

             ยิ่งเดินทางใกล้พื้นโลก เขายิ่งกระวนกระวายมาขึ้นทุกที เบื่ออาหารสำเร็จรูปซึ่งต้องฉีดน้ำเข้าผสมทุกครั้ง  ก่อนถึงช่วงเวลาแห่งการกินที่เต็มไปด้วยความลำบาก ผิดพลาดนิดหน่อยมันจะกระจายเต็มห้อง  หยดน้ำที่เป็นก้อนกลมลอยขยุกขยิกในยานทำให้เขาประสาทเสีย

             ทำไมเขาต้องมาอดๆอยากๆ  อยู่ในยานบ้าๆ นี้ด้วยนะ….

             คำตอบง่ายมาก .. เพื่อชื่อเสียงล้นฟ้ามีหน้ามีตาเกินใคร

             เพราะเขาต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ … ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเก้าคนที่เคยควบคุมยานลำนี้ และเขาเป็นคนสุดท้าย..กับยานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขาชอบเรียกมันว่า ไททานิก ตามชื่อเรือในประวัติศาสตร์ที่ชนภูเขาน้ำแข็ง  จนจมลงสู่ก้นบึ้งของทะเลนอร์ธแอตแลนติก พร้อมผู้คนกว่าพันห้าร้อยกว่าคน

             เขาอุ่นใจว่าในอวกาศไม่มีภูเขาน้ำแข็ง จะมีก็แต่ภูเขาอวกาศ-อุกกาบาต ที่อาจหลุดมาจากวงโคจรของกลุ่มดาวพระเคราะห์น้อย แต่พวกมันไม่มีทางจะลอยเข้ามาใกล้ยานอวกาศลำนี้ได้  เพราะจะโดนยิงด้วยขีปนาวุธสำหรับอุกกาบาตขนาดใหญ่ ส่วนชิ้นเล็กๆ จะโดนทำลายด้วยลำแสงเลเซอร์อันทรงอานุภาพ

             เขามีเงินมากพอแล้ว มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง   สิ่งที่เขาต้องการที่สุดตอนนี้คือเกียรติยศและความภาคภูมิใจ  เขาไม่ใช่คนรุ่นหนุ่มไฟแรง แต่เป็นชายแก่ที่กำลังจะปลดเกษียณ เขาต้องไขว่คว้าโอกาสสุดท้ายให้มากที่สุด

             การเป็นผู้บังคับบัญชายานสำคัญต่อมนุษยชาติลำนี้  เขาจำเป็นต้องเอาชนะคู่แข่งหลายคน  ด้วยจำนวนเงินมหาศาลที่จ่ายออกไปทุกรูปแบบตั้งแต่ติดสินบน … การเสนอเงื่อนไข การเลื่อยขาเก้าอี้คู่แข่ง   และวิชามารอีกหลากหลายกับศัตรูทางการเมือง  เพื่อจะจารึกชื่อลงไปในหน้าประวัติศาสตร์การบินเที่ยวสุดท้ายที่มีมนุษย์แท้ๆ เป็นผู้บังคับการ แต่เพราะเคยอยู่อย่างสะดวกสบาย เขาจึงไม่รู้ซึ้งถึงความลำบาก โดยเฉพาะเรื่องของการกิน..


             การใช้มนุษย์จริง ๆ ในการควบคุมยานขนส่งแร่ และกำจัดขยะ  กำลังจะถูกเปลี่ยนเป็นทีมงานหุ่นชีวภาพทั้งหมด นักวิทยาศาสตร์พบวิธีทำให้หุ่นชีวภาพสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เหมือนมนุษย์   เมื่อรวมความสามารถที่ดีเยี่ยมของมนุษย์และสมองกลเข้าด้วยกัน ผลคือสังคมมนุษย์จะมีสิ่งมีชีวิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน พวกเขาเกิดจากกระบวนการโคลนนิ่ง…สมองถูกบรรจุด้วยไมโครชีฟชีวภาพ  ไม่มีอารมณ์   แต่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด   และแก้ปัญหาที่ละเอียดอ่อนซับซ้อนได้

             ช่วงหลังเขาเริ่มฝันเห็นอาหารนานาชนิดลอยเรียงรายมาส่งกลิ่นหอมยวนใจ  และตื่นขึ้นมาเพื่อพบกับอาหารอวกาศจืดชืดน่าเบื่อหน่าย ตอนนี้เขาไม่คำนึงถึงเรื่องอื่นนอกจากการกินให้อิ่ม… ทำไมระเบียบการบินต้องจำกัดอาหารให้อยู่ในระดับแค่พอประทังชีวิต …ไม่เข้าใจจริงๆ

             อีกครึ่งเดือน เขาคงเดินทางถึงพื้นโลก ในอวกาศไม่มีปัญหาน้ำหนัก  แต่แรงเฉื่อยยังคงเป็นปัญหาเมื่อต้องการเปลี่ยนทิศทาง มันทำให้ยานลำนี้ไม่สามารถเลี้ยวเปลี่ยนทิศทางได้เร็ว  ดั่งเช่นยานอวกาศลำเล็กๆ  ตัวเขาเองก็เช่นกัน

             ตอนเช้าเขาลองกดปุ่มเรียกหุ่นบริการมาพบ

             "ผมต้องการอาหารมากกว่าปกติสามเท่า"   บอกด้วยน้ำเสียงวางอำนาจ แม้รู้ว่าคู่สนทนาไม่ใช่มนุษย์  หุ่นบริการใช้เวลาคิดอยู่เสี้ยวของพันล้านวินาที ก่อนตอบด้วยเสียงเรียบ ๆ ว่า

             "เป็นไปไม่ได้หรอกครับ เราคำนวณอาหาร กับระยะการเดินทางไว้พอดีแล้ว"

             "แต่ผมคือผู้บังคับการที่นี่ ผมออกคำสั่งให้คุณปฏิบัติตาม"

              หุ่นบริการนิ่ง---หมายถึงการปฏิเสธ เขารู้สึกโมโหแต่ก็รู้ว่าการใช้อารมณ์กับหุ่นชีวภาพรุ่นนี้ไร้ความหมาย พวกเขายังไม่รับรู้สภาพการณ์ทางอารมณ์ของมนุษย์ มีทางเดียวคือใช้หลักตรรกะศาสตร์ในการเปลี่ยนโปรแกรม แต่ตอนนี้นึกไม่ออกและไม่แน่ใจว่าจะทำได้จริง ๆ

             ไม่น่าเชื่อว่าคนยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่างเขา  จะมาอยู่ในสภาพอดอยากเช่นนี้…เพียงแต่การกินให้อิ่มในแต่ละมื้อเขายังไม่สามารถกระทำได้

             เขาสั่งให้หุ่นบริการออกไป แต่กดปุ่มเรียกหุ่นวิชาการมาแทน

             หุ่นวิชาการดูไปก็คล้ายหุ่นบริการ พวกเขาอยู่ในวัยหนุ่ม หน้าตาดีแต่ไร้ความรู้สึก ข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำเต็มไปด้วยความรู้ทางวิศวกรรม การแพทย์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ พวกเขาอาจออกแบบสร้างยานลำนี้ขึ้นมาทั้งลำถ้าจำเป็น  โดยร่วมมือกับหุ่นบริการ

             "ผมต้องการอาหารเพิ่ม ถึงมันจะ ห่วย แตกก็ตามเถอะ คุณพอมีทางช่วยได้ไหม"

             "เสียใจด้วยครับ ตอนนี้ไม่มีทางทำได้ นอกจากจะมีการลดจำนวนพวกเราลง"    หุ่นวิชาการตอบทันทีด้วยสีหน้าท่าทางไร้ความรู้สึก

             "ลดจำนวน…"

             "ครับ…หมายถึงการชำรุด ถูกทำลายหรือที่พวกคุณเรียกว่าการตาย "

             "ถ้าผมจะขอแบ่งปันอาหารจากส่วนของพวกคุณล่ะ"

             "ไม่ได้ครับ พวกเราได้รับปริมาณอาหารในระดับต่ำสุดแล้วในการดำรงชีวิต"

             เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง เจ้าพวกบ้า....ทำไมไม่เข้าใจความหิวของมนุษย์    ความหิวเริ่มก่อตัวอีกแล้วทั้งที่อาหารเช้าเพิ่งผ่านไปไม่นาน มันเป็นเพราะความเคยชินตลอดชีวิตของเขามากกว่า  กับการตกเป็นทาสของรสอาหาร

             "ผู้บังคับการครับ กระผมมีเรื่องจะขอเรียนถาม"   จู่ๆหุ่นวิชาการก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

             "ทำไมวันๆท่านถึงคิดแต่เรื่องกินล่ะครับ…"

             เขาสะดุ้งเฮือก รู้สึกฉุนกึกขึ้นมาทันที  ถูกถามด้วยคำถามอย่างนี้ มันเหมือนกับการสบประมาทซึ่ง ๆ หน้า แต่เห็นสีหน้าราบเรียบไร้ความรู้สึก จึงค่อยระงับความเกรี้ยวกราดลงอย่างลำบากยากเย็น

             "คุณรู้ไหม…ถ้าเป็นคนธรรมดาถามอย่างนี้  ผมสั่งยิงเป้าไปแล้ว"

             "นั่นเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานในทางที่ผิดนะครับ…เท่าที่ผมรู้….ผมเรียนว่าผู้ใหญ่ระดับท่าน  ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ไม่ใช่ลุแกโทสะวางอำนาจเหนือเหตุผล  ทำไมผู้มีอำนาจมักทำกันแบบนี้  สมองมีแต่เรื่องการกิน"

             "ออกไป….!" เขาตวาดอย่างโมโห

             หุ่นวิชาการหันหลังกลับ เดินออกไปทันทีเช่นกัน ท่าทางไม่ยินดียินร้ายกับอารมณ์อันเดือดพล่านของผู้บังคับการ เขากล้ำกลืนฝืนความรู้สึกอยู่สักพัก  จึงกดปุ่มติดต่อไปยังหุ่นปกครอง

            หุ่นปกครองเป็นผู้หญิง ใบหน้าเรียบเฉยเหมือนหุ่นชีวภาพทั่วไป บางทีคนออกแบบอาจคำนึงถึงความสวยงามบ้าง จึงออกแบบมาเช่นนี้

             "ผมรู้สึกไม่สบาย ต้องการอาหารเพิ่มจากปกติ"   เขาบอกทันทีเมื่อเห็นหน้าแขกผู้มาเยือนคนใหม่

             "ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเคยนะคะ  ท่านดูสมบูรณ์พูนสุขอ้วนท้วนมากกว่าจะเจ็บป่วย"

            เอาอีกแล้ว….เขาแทบร้องออกมาอย่างเหลืออด ทำไมหุ่นพวกนี้มันชอบต่อปากต่อคำเสียจริง  คอยดูนะ...กลับถึงพื้นโลกเมื่อไรจะเขียนรายงาน  ปลดพวกเขียนโปรแกรมลงในไบโอชีพออกจากงานให้หมด

             "หุ่นรุ่นเก่าอย่างพวกคุณจะรู้อะไร… ปัจจุบันมีโรคหลายโรคไม่มีในฐานข้อมูลของพวกคุณ ผมว่าคุณควรทำตามที่ผมบอก…ไปเปลี่ยนโปรแกรมหุ่นบริการเพิ่มอาหารให้ผม"

             "จะรับไว้พิจารณาค่ะ"

             "ไม่ต้องพิจารณาอะไรทั้งนั้น ผมจะบอกให้รู้ เราจะเดินทางลงถึงพื้นโลกในวันเกษียณของผมพอดี  ผมคำนวณเวลาการเดินทางไว้ตั้งแต่ก่อนจะขึ้นมาบนยานบ้าๆลำนี้เสียอีก  ทุกคนจะมารับผมที่ฐานจอดยาน  ผมอยากให้พวกเขาเห็นผมดูดี  ในสภาพสุขสบายเป็นปกติที่สุด"

             หุ่นปกครองจ้องหน้าเขาครู่หนึ่งก่อนพูดว่า

             "ตอนแรกดิฉันสงสัย…แต่ตอนนี้เริ่มแน่ใจแล้วว่าท่านไม่สบาย…ท่านอ้วนเหมือนหมูอวกาศไม่มีผิด"

             เขาแทบลอยขึ้นจากเก้าอี้กับคำพูดนั่น  ให้ตาย... ทำไมหุ่นพวกนี้มันปากคอเราะร้ายเหลือเกิน แต่คงจะจริง... การกินอย่างอดอยากช่วงหลังไม่ได้ทำให้น้ำหนักเขาลดลงแต่ประการใด ตอนลงจากยานเขาคงต้องวานให้หุ่นบริการสร้างเครื่องพยุงตัวอันหนักอึ้งของเขา

             นึกถึงผู้อำนวยการบินที่พื้นโลก รายนั้นหนักห้าร้อยกว่ากิโลกรัม สมองอันชาญฉลาดบรรจุอยู่ในศีรษะเล็กๆวางบนก้อนเนื้อมหึมามีเสาอลูมิเนียมและสายเคเบิลค้ำยันโยงยาง  อยู่ในห้องทำงานอันน่าเลื่อมใส ในยุคที่ไม่มีการยกย่องคนแข็งแรง เพราะคนแข็งแรงถูกจัดเกรดเป็นพวกใช้แรงงานชั้นต่ำ คนมีสง่าราศีต้องมีรูปร่างใหญ่โต   เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาใช้สมองทำงาน ไม่ใช่กล้ามเนื้อ ค่านิยมเปลี่ยนไปจากในสมัยอดีตหน้ามือเป็นหลังมือ แต่การกินยังไม่เปลี่ยนแปลง


……..
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่