[CR] ++ ดูไบ ไปทัวร์คุ้มกว่าไปเอง++ #สายแชะ

กระทู้รีวิว
ครั้งนี้ ขอไปประเทศที่ หลายๆคน ไม่คิดที่จะไป ผมก็คนนึง ที่ไม่คิดจะไปเลย พวกเมืองทะเลทราย ตะวันออกกลาง
กลัวไปเรื่อย กลัวร้อน กลัวแขก กลัวเหม็น กลัวอาหารไม่อร่อย กลัวระเบิด กลัวไม่สนุก กลัวไม่สวย กลัวฯลฯ
...
คงเป็นแบบวันนี้ที่ฝนตก แล้วไม่มีอะไรทำ กลับบ้านเร็ว เลยมานั่งเขียนรีวิว ให้เพื่อนๆ พี่ๆ ได้รู้หน่อยว่า ดูไบ มันเป็นยังไง ไปดีไหม
ครั้งนี้จะลงแบบไม่เจาะลึกนะครับ เพราะไปกับทัวร์ แต่จะให้ดูว่าไปแบบไหน ที่ไหน ยังไง เท่าไหร่บ้าง

ระหว่างอ่านรีวิว ฟังเพลงเพลินๆกันก่อน
https://www.youtube.com/watch?v=eRH_v2o1a9w


เรื่องของเรื่อง นั่งเบื่อๆ เปิดเน็ตไปเรื่อยๆ เจอทัวร์นึงในเฟซบุ๊ค บอกราคาไปดูไบราคาไม่ถึง 2 หมื่น...
พร้อมๆกับ เพื่อนตัวเที่ยวของผมคนนึงที่เคยไปตะวันออกกลาง คอนเฟิร์มมาว่า "มันถูกมาก" เพราะเขาไปเองมา
ไปกับพ่อ 2 คน หมดเกือบแสน (แต่เขาไปประเทศอิหร่านมั้ง)

จัดการถามคนที่อยากไป สุดท้าย ได้คนในครอบครัวนี่ละครับ แม่ + น้อง และ หัวหน้าที่ทำงานวัยเกษียณ แต่หัวใจวัยรุ่นยังชอบเที่ยว
เปิดหาโลกกว้างอย่างสม่ำเสมอ
ทัวร์ครั้งนี้ ใช้เวลา 5 วัน 3 คืน สกุลเงินดูไบที่ควรแลกไปคือเงินดีแรม หรือ AED ตอนนี้น่าจะ 9 บาทกว่าๆ ต่อ 1 ดีแรม
ลักษณะสภาพอากาศของสหรัฐอาหรับเอมเิรตส์ มี 2 ฤดกูาล คือ ฤดูนาวและฤดูร้อน
สำหรับ
ฤดูร้อนจะเกิด ในเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนกันยายน โดยสภาพอากาศค่อนขา้งรอ้นจัดและมี
ความชื้น สูง อุณหภูมิประมาณ 32-48 องศา ส่วนตุลาคมจนเมษายนเป็นช่วงฤดูหนาว แต่สภาพอากาศไม่ได ้หนาวเย็นมากนัก มีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ประมาณ 15-30 องศาเซลเซียส เวลาเดินช้ากว่าไทย 3 ชม.

เราเดินทางวันที่ 10-14 พ.ค. ตรงกับวันหยุดราชการพอดี เสียวันลาน้อยหน่อย


และแน่นอน เราต้องไม่พลาดที่ก่อนไป ต้องไปใช้บริการ Kingpower Lounge ซึ่งอยากจะบอกว่า เขาเปลี่ยนแล้วนะ!
ตอนนี้ เลาจน์มีทั้ง 2 ฝั่ง ไม่ต้องเดินหลายโล ไปเข้าเลาจน์ แล้วต้องรีบวิ่งขาลากมาขึ้นเครื่องเหมือนเดิมแล้ว
อาหารเขาก็ดีกว่าเดิม ไม่ได้มีแต่ขนมกะโหลกกะลาแบบเก่า แต่มีข้าวต้ม และเค้กมาเต็มๆ อร่อยอิ่มตื้อกว่าซื้อตามสนามบินแพงๆ เป็นไหนๆ
แต่ก่อน คิงพาวเวอร์จะมีแค่เลาจน์เดียวตรงทางเกท A ซึ่งคงลำบากมาก ถ้าใครต้องไปขึ้นเกท F เพราะห่างกันคนละฝั่ง เรียกได้ว่า เดินเป็นกิโลจนเหนื่อยเลย แต่... ณ บัดนี้ เลาจน์คิงพาวเวอร์ ได้สร้างใหม่อีก 2 ที่แล้วววววว
แต่จะหลบๆ อยู่ในโซนดิวตี้ฟรีของคิงพาวเวอร์ ระหว่าง โซน A 1 ที่ และแถวๆ โซน E อีก 1 ที่ เพราะฉะนั้น ใครจะขึ้นทางไหนก็สบายหายห่วง ส่วนเลาจน์เดิมนั้นก็ยังมีอยู่ แต่จะรับเฉพาะบัตรที่ได้ระดับ 4 ขึ้ันไป (ผมแค่ระดับ 2 เป็นสีเขียว)

ทัวร์นัดเราวันที่ 10 ตอน 4 ทุ่มกว่า และขอเก็บค่าทิปไกด์ไว้เลยก่อนไป

ในรายการทัวร์ เราจะบินด้วยสายการบิน ฟลายดูไบ รอบ ตี 2.35 ไปถึงตอนเช้าที่ดูไบ (อะ หมดไปวันนึงแล้ว)


สายการบินที่เรานั่งเป็นแบบ Lowcost นะครับ แต่ว่า มันเป็นโลว์แบบมีอาหารให้ด้วยนะ และโหลดกระเป๋าได้ฟรีอีก 20 โล
โอเค เรามีของกินให้อิ่ม จนถึงที่หมายแบบไม่เสียตังค์แล้ว

เครื่องเป็นแบบลำเล็ก แถวละ 3 ที่นั่ง ซ้ายขวา
หลายคนถามว่า แล้วขึ้นเครื่องไป เหม็นไหม???
ตอบได้ว่า "ไม่เหม็นครับ"

แสงอาทิตย์ส่องลงมา เป็นสัญญาณว่า เช้าแล้ว
ใช้เวลาบิน ประมาณ 6 ชม.

ถึงสนามบิน รวมตัว ขึ้นรถ ครั้งนี้ ไม่ต้องแบกเป้เที่ยวแล้ว มีไกด์คอยอธิบายเรื่องต่างๆด้วย
ลงมาก็นั่งรถไปอาบูดาบีเลย

ในตอนแรกความจริงวันนี้ โปรแกรมเราไม่ได้ไปอาบูดาบี แต่ที่ต้องเปลี่ยน เพราะถุ้าไปพรุ่งนี้ มัสยิดจะปิดทุกศุกร์
แวะปั๊มน้ำมันเพื่อเข้าห้องน้ำ เพราะไปอาบูดาบี ไกลประมาณ 180 กิโล และ... ขับได้ไม่เกิน 80กิโล/ชม.
ที่เห็นสวยงามนี่คือมัสยิดปกติ มีทั่วๆไป เหมือนวัดในไทย


อาหารในบ้านเขา แพงกว่าเราบ้างเล็กน้อย น้ำเปล่าประมาณ 10 บาท ดูไบ สามารถนำน้ำทะเลมากลั่นเป็นน้ำเปล่ากินได้


มัสยิดชิคซาเญด -ถ้าจะเข้ามัสยิด แต่งกายค่อนข้างเคร่ง ผุ้ชายไม่เท่าไหร่ แต่ผู้หญิง เคร่งมาก


Grand Mosque (มัสยิคชีคซาเญค) เป็นสุเหร่าประจำเมือง ของท่านเชคที่ก่อตั้งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต


ท่านเชคสร้างไว้ก่อนท่านจะสวรรคต การก่อสร้างใช้เวลา 10 ปี สุเหร่านี้มีพรหมผืนใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 5627 ตรม.
และโคมไฟ Chandelier ใหญ่ที่สุดในโลก นำเข้าจากประเทศเยอรมันทำด้วยทองคำและทองแดง


นอกจากนี้ มัสยิดแห่งนี้เป็นสุสานหลวงที่ฝังพระบรมศพของ Sheikh Zayed bin Sultan Al Nahyan อดีตประธานาธิบดีคนแรกแห่งอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองรัฐอาบูดาบี้ สามารถรองรับผู้มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้สูงถึง 40000 คน


การแต่งกาย ผู้ชาย ควรใส่แขนยาวขายาว รองเท้าอย่าแตะ ผู้หญิงคลุมผมเสื้อห้ามบาง ห้ามเห็นข้อมือข้อเท้า
บอกเลย เขาซีเรียสเรื่องแต่งตัวสำหรับผู้หญิง นักท่องเที่ยวมีเยอะ และข้อห้ามอีกเรื่องไม่ควรพกเป้ หรืออะไรมาเยอะแยะไม่ให้เข้า บุหรี่โดนโยนทิ้ง


อากาศร้อนพอๆกับบ้านเรา แต่ในส่วนแชนเดอเลีย เป็นห้องแอร์


ที่นี่ ไลน์ เฟซ โซเชียลเล่นได้ แต่โทรหรือวีดีโอคอลไม่ได้ เปิดดูวีดีโอไม่ได้ (หมายถึงประเทศดูไบเลยนะ)
มีนักท่องเที่ยวเอเชียบางคน ทำท่ารูปหัวใจ เจ้าหน้าที่เดินมา ขอกล้องไปลบภาพทันที และเตือนให้ออกจากตรงนั้นเลย
ข้างในมีห้องน้ำที่เดียวด้านหน้าตรงร้านกาแฟ อย่าคิดอั้นเข้าไปหาข้างในอีก


จากมัสยิด ต่อกับการไปเก็บภาพประทับใจคู่กับ Emirate palace
Emirate Palace เป็นโรงแรมของรัฐบาลอาบูดาบี บริหารโดยกลุ่มเคมปินสกี้ เปิดให้บริการครั้งแรกปี 2548 โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสร้างสวยงามดุจดั่งกระราชวังของผู้เจ้าครองนคร โรงแรมนี้ตั้งอยู่บนที่ดินของอดีต ปธน. ชีค Al Anyan ซึ่งท่านเคยเป็น ปธน.ของ UAE
การจะเข้าที่นี่ ต้องจองโรงแรมเท่านั้น คืนนึงต่ำสุดน่าจะเกิน 4 หมื่น


ตึกที่พี่โล้นวินดีเซล ขับทะลุ 3 ตึก ในหนัง Fast7


ในรูปเราจะเห็นแค่ 2 ตึก ต้องไปเยื้องอีกถนน ถึงจะเห็น 3 ตึก


แวะทานข้าวกลางวันที่ปั๊ม (คนไปออกเอง แต่ก่อนหน้านี้ ไกด์เราแจกขนมขบเคี้ยว ให้ทานกันหิวระหว่างทาง)


จากนั้นพามาแวะที่ มอลล์ออฟเอมมิเรตส์


Mall of th Emirates เป็นห้างขนาดใหญ่ มีโรงหนัง Cinestar แบบคอมเพล็กซ์ มีอาเขตกว้างใหญ่ ติดตั้งตู้เกมส์ ลานโบว์ลิ่ง และร้านค้าอีกมากมาย รวมถึงร้านแบรนด์เนมดังๆทั้งหลาย จับยัดมารวมที่นี่ทั้งหมด จุดที่โดดเด่นที่สุดคือ Ski Dubai ใครอยากเลือกเล่นสกี สโนว์บอร์ด เลื่อนหิมะ หรือโยนบอลก็แล้วแต่ (อุปกรณ์ยิ่งเยอะยิ่งแพง)


เราจะมองเห็นตึกที่สูงที่สุดในโลกอยู่ไม่ไกล ตึกนี้เราจะไปวันที่ 3


ท้ายสุดกลับมาทานอาหารเย็นที่โรงแรมฟรี


ไอบิสที่เราพัก ถือว่า ได้พักโรงแรมเกรดดีพอควร ที่พักในเครือ Accor ถือว่ามีมาตรฐานระดับทั่วโลก


ห้องจะเล็กหน่อยสไตล์ไอบิส แต่มีครบ


อาหารที่ประเทศนี้ไม่ค่อยถูกปากผมเท่าไหร่ครับ
นี่คือสิ่งที่ไม่ชอบ


กินเสร็จไปเดินคาร์ฟูร์ สิ่งที่ไม่ชอบสำหรับที่นี่คือ หาซื้อแอลกอฮอล์ไม่ได้เลย ถ้าจะดื่ม ต้องไปเข้าผับเท่านั้น


สระว่ายน้ำสามารถใช้ของโนโวเทลที่ตั้งอยู่ข้างๆ มีทางเชื่อมกันที่ชั้น G


เช้าวันที่ 12/5/60 มุ่งหน้าไปเดอะปาล์ม ที่ที่เศรษฐีทั่วโลกมาจับจองซื้อกันขายแป๊บเดียวหมด


โครงการเดอะปาล์ม เป็นโครงการสุดยอดโปรเจคโดยการถมทะเล ให้เป็นเกาะเทียม สร้างเป็นรูปต้นปาล์ม 3 เกาะ บนเกาะมีที่พักโรงแรม รีสอร์ท อพาร์ตเมนท์ ร้านค้า ภัตตาคาร รวมทั้งสำนักงาน เดอะปาล์มเรียกได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของโลก

ชื่อสินค้า:   Dubai
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่