[CR] เที่ยว ยุโรปยังไงให้งบพอพอกับญี่ปุ่น (สวิสเซอร์แลนด์ อิตาลี ฝรั่งเศส) 39000 บาท / 2 อาทิตย์


จะพาทุกคนไปเที่ยว ยุโรป มิติ ที่ประหยัดกันคะ ยิ้ม ก่อนออกเดินทางวางแผนสักนิด สูตรกระชับไม่เวิ่น ช่วงเดินทางคือ ต้นปีคะ อากาศ ก็ชิวๆ เลขตัวเดียว ใส่โค้ทสวยๆ

ไปเที่ยวกันคะ ทำยังไงให้ถูกที่สุด เท่าที่จะได้

1. ตั๋วเครื่องบิน ทริปจะถูก ขึ้นอยู่กับตั๋ว ติดตามโปร ข่าวสารจากเพจต่างๆ ทำให้ได้โปรตั๋วมาราคา 11000 บาท บิน  KL-  Paris - Milan - BKK
หาตั๋วโปร ประมาณ 1500 บาท พร้อมเป๋า 20 กิโล ของ Airasia
2. ตั๋วรถไฟ จองล่วงหน้าก่อนเดินทาง 3 เดือน จองจากเว็บ Busradar ดีมาก มันจะ compare ให้หมด อันไหนถูกแพง ของแต่ละเจ้าคล้ายๆ Skyscanner แต่อันนี้เป็นตั๋วรถไฟและรถบัส
3. ที่พัก เน้นประหยัด แต่ไม่นอน ห้องรวม จอง Airbnb แบบ Private room หรือ Entire Room
คือได้ห้องของตัวเอง โรงแรมบ้างเป็นบางประเทศ อ่าน Comment ของคนเคยพักอะไรดี ได้อะไรเพิ่มเติม
4. ดู Google Map เยอะๆๆ ว่าไปทางไหน ไปเจอเมืองอะไรบ้าง จะได้แวะเที่ยวกลางทาง
5. เตรียมอาหาร มาม่า ขนม ไปด้วย ได้กิน ชัวร์
6. เข้า Supermarket ของประเทศ เขา ลองอาหาร Local แต่ละเมือง

วันที่ 1 :

เดินทางถึง KL รอ check in ที่สนามบิน กัวลาลัมเปอร์ เดินทางด้วย Oman Air สายการบินแขก  

ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมง เปลี่ยนเครื่องที่ Oman ถึงจะบินต่อไป Paris CDG Airport เป็นครั้งแรกที่บินกับ Oman Air ทุกอย่างโอเคเลยที่เดียว ไม่แย่ และไม่ได้ดีมาก


อาหารพอใช้ได้ รสชาติดีที่เดียว


ประเทศโอมาน มองไปทางไหน เจอแต่ทะเลทราย แดดเผาผิวแทบไหม้

ใช้เวลา Transit แต่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ลงจากเครื่องแล้ว รีบเดินไปรอ อีก Gate ทันที

ช่วงเวลาที่เราบิน คือช่วงเช้า ทำให้เห็นวิว สวยๆเต็มไปหมด

ณ CDG Airport Paris

มาถึง ปารีสประมาณ 6 โมงเย็น รีบรับกระเป๋าเดินทาง  แล้วหาทางออกเข้าเมืองให้ไวที่สุด เพราะปารีสไม่ใช่เมืองที่จะเดินชิวๆ สวยๆ ได้ทั้งวัน
ตัวเลือกที่เราเลือกคือ Rossy Bus ราคา 11 EURO มาลง Opera House  เดินไปที่สถานี Opera ซือตั้ว Carnet ตั้วชุด 10 ใบ ราคา 14.1 EURO แล้วนั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี
Garibaldi Host มารอรับที่สถานีเลย น่ารักมาก

วันที่ 2 :

มีความ Jetleg ตื่นมาตอน ตี 3 หิวด้วย เลยเอามาม่า โอวัลติน ชงกิน มื้อแรกในปารีส กลับไปนอน ที่นี่หลับยาว ถึงเช้าเลย
วันแรก เราจะเที่ยวตามจุด Hilight กัน หอไอเฟล

สถานี Trocadero ทางออกมีบอกเลยว่าจะไป Eiffel

ที่ที่สอง คือ Charles de Gaulle-Etoile หรือประตูชัยเมืองเก่า


เราใช้เวลาเที่ยวแบบดื่มดำ เที่ยวที่ละ หลายชั่วโมง วันนึงเที่ยวได้แค่ 2 - 3 ที่เท่านั้น สถานีไปกันต่อ China town ที่สถานี Porte d'lvry สาย 7
ย่านนี้เหมือนกับชุมชนคนจีน เอเชียมารวมกัน เราจะหาพวกกับข้าวได้จากที่นี่คะ แต่ไม่แนะนำให้อยู่นานนะคะ ไม่ค่อยปลอดภัย

วันที่ 3 :
วันนี้เหมือนจะปรับตัวได้แล้ว ตื่น สายขึ้นมาอีกนิด ตี 5 คะ 555+ นิคือสายแล้ว แต่อ้อยอิ่งอยู่ในห้อง เลยกว่าจะออกเสียเวลาไปเยอะอยู่

วันนี้ไป Norte Dame de Paris รถไฟใต้ดินให้ลงที่สถานี  Hotel De Ville สาย 1 หรือ 11 ต่อคิว เข้าไปดูภายในโบสถ์กันดีกว่า

มหาวิหารน็อทร์-ดาม เป็นอาสนวิหารประจำอัครมุขมณฑลปารีส ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงปารีส การก่อสร้างเป็นแบบกอทิก นับเป็นมหาวิหารแรกที่สร้างในลักษณะนี้
และการก่อสร้างก็ทำต่อเนื่องมาตลอดสมัยกอทิก ประติมากรรม และหน้าต่างประดับกระจกสี (stained glass) มีอิทธิพลจากศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์
ทำให้แตกต่างจากศิลปะโรมาเนสก์ที่สร้างก่อนหน้านั้น


หลังจากดื่มด่ำ ภายในโบสถ์แล้ว ข้ามถนน ไป กินไอติมกันดีกว่า ไอติมกุหลาบ ร้าน Amorino มีสาขาอยู่หลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบยุโรป ราคา 3.5 EURO


ไปต่อ สถานี Musee du Louvre เดินเล่น ใน ลูฟ


ซื้อของร้านคนไทย Benluxให้อารมณ์เหมือนเดินเจ๊เล้งราคาถูกลดราคาสำหรับคนไทยด้วย พนักงานเป็นคนไทย เขาฝากซื้อล้วนๆ คะ ของตัวเองไม่มี 555+

เดินเล่น ยาวๆ ไปตามสวน โผล่อีกที่ มาถึงสถานี อีกที่เลยที่เดียว


ไป ต่อสถานี La defense ประตูชัยเมืองใหม่ย่าน ที่ทำงาน มีทั้งห้างเต็มไปหมดเลย เย็นพอดี ไปกินข้าวที่  Pino Pizza ราคาไม่แพง ประมาณ 10 EURO

วันที่ 4:
วันนี้ วันอาทิตย์ มีตลาดนัด ตรงหน้าที่พัก เราจะไปเดินเล่นกัน


หน้าที่พักเป็นสวน นั่งเล่น รู้สึกการพักกับ Host ดีกว่าโรงแรมอีก ได้ใช้ชีวิตแบบเขาจริงๆ


ได้ขนมกลับบ้านมา อร่อยมากกกกกกกกกกกกก ขนมปังพี่แกอบใหม่ตลอด ตอนได้มา ยังร้อนๆอยู่เลย เค้กโครตน่ากิน


วันนี้ออกจะออกไปเดินเล่น ย่าน Opera House โชคดีของเรา มีคอนเสิร์ตพอดี เดินเล่นไปหลายชั่วโมง


กลับเข้าที่พัก เตรียมออกไปสถานี รถไฟไปอีกเมืองของ ฝรั่งเศส สถานี Paris East จากที่พักมาสถานีรถไฟ แค่ 10 นาที เราเรียก UBER มา โดนไปแค่ 8 EURO เอง
ไม่ต้องเหนื่อยยกของขึ้นรถไฟด้วย


หน้าตา รถไฟที่นั่งไปเมือง Strasbourg ราคาเพียง 32 EURO เท่านั้น จองล่วงหน้า ยาวไปคะ นั่งรถไฟได้เลยขึ้นให้ถูก coach นะคะ นั่งตามที่ระบุไว้เลย ใช้เวลา 4 ชั่วโมง


Host คนใหม่เธอมารับเราที่สถานีรถไฟ เราก็นั่งรถเธอมาถึงที่พัก ห้องที่เราอยู่เป็นห้องชั้นบนใต้หลังคา 2 ชั้น ชอบมาก อยากมีห้องแบบนี้ที่บ้านบ้าง วันนี้เหนื่อยแล้วไปพักก่อน

วันที่ 5:

เมืองจะเป็นเมือง มรดกโลก เงียบๆ เมืองแห่งความโรแมนติกตั้งอยู่ในแคว้นอัลซาส (Alsace)บ้านเมือง จะเป็นแนว Classic วันนี้เราจะไป City Tour กัน
หมู่บ้านโดยรอบ เมืองในตำนานสวยมากจริงๆ


ได้กรอบรูปเป็นที่ระลึก ราคา 8.5 EURO

ก่อนเข้าที่พัก Shopping กันหน่อย เห็นป้าย SALE ละใจไม่ดีเลย

H&M ตกขึ้นละ 100 - 200 บาทเท่านั้นเองงงง ดีงาม มากก


อย่างที่บอก ลองของ LOCAL เขา รสชาติ ดีมาก เป็นผลไม้ บ้านเขา


ซื้ออาหารเข้าบ้านพัก เอาไปทำกิน ราคาไม่แพงเลย ไข่ 1.5 EURO ขนม 1 EURO ขนมปัง 1.2 EURO หมดนี้ ประมาณ 200 บาทไทย

วันที่ 6:

ตื่นมาอุ่นอาหารกิน วันนี้ทำพิซซ่า อันนี้ ราคาแค่ 2 EURO หรือ 80 บาทไทย เก็บกระเป๋าเตรียมไป สวิสเซอร์แลนด์ รถไฟออกประมาณ 8.30 น.
รถไฟออกจากสถานี  Strasbourg มาถึงสถานี Basel SBB ประมาณ 10 โมงเช้า

หน้าตารถไฟ อันนี้ไม่ฟิคที่นั่งนั่งตรงไหนก็ได้ที่ Class 2 ราคา 23 EURO


มาถึง Swiss แล้ว งงๆๆ ทำไมมันเงียบจัง


มาที่พักด้วย Tram เลขที่ 10 หรือ 11  จากสถานี 2 ป้ายเอง หรือจะเดินมาก็ได้ ประหยัดดี ประมาณ 1 กิโลเมตร  ที่พักคือ Ibis budget basel hotel
โรงแรมให้ตั้วเดินทางฟรี 2 วันคือ Mobillity Ticket แนะนำให้พักที่นี้เลย ดีตรงนี้ ประหยัดไปอีกค่าาาาาา


นั่งรถ Tram สาย 10 ไปกลางเมือง


ลงสถานี Barfusserplatz มีโบสถ์ ถัดมา Marktplatz มีสถานที่สำคัญคือ ไปรษณีย์ประจำเมือง และร้านค้ามากมาย


ต่อมา สถานี Schiffande ติดทะเลสาป และร้าน COOP


สวิสทุกอย่างแพงไปหมด มีแค่น้ำ ยี่ห้อนี้ที่ถูกกว่าไทย 555+


เดินเล่นตรงย่านนี้ ถึงจะกลับเข้าที่พัก พักผ่อน
ชื่อสินค้า:   สวิส อิตาลี ฝรั่งเศส
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่