[CR] Frist Time@Chiang Mai ความประทับใจไม่รู้ลืม (4 วัน 3 คืน กับเงินไม่เกิน 3,000 บาท)

เที่ยวเชียงใหม่ครั้งแรกของคนไม่มีรถส่วนตัว กับงบไม่เกิน 3,000 บาท


          ตามชื่อกระทู้ที่พิมพ์แหละคะ นี้คือกระทู้แรกที่เขียนในพันทิปนี้ หากผิดผลาดแต่ประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยน่ะค่ะอมยิ้ม17  
จุดเริ่มต้นของทริปนี้มีอยู่ว่า... อยากพักผ่อนย่อนใจหลังเรียนจบ เพราะเจอกับโปรเจคจบที่แสนหนักหนาสาหัส ประกอบกับแรงจูงใจที่มีตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชีย จองด้วยโปรราคาแสนถูกไปกลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ไม่เกิน 500 บาท ที่จองกันข้ามปี 555 แหมะจะรอไรล่ะคะ กายพร้อมใจพร้อมก็ไปกันเลยยยยย แต่เดี๋ยวววน่ะไปถึงเชียงใหม่ มีเงินติดตัวไปแค่ 2500 อยู่ 4 วัน 3 คืนจะรอดมั้ยนี้...
อมยิ้ม20อมยิ้ม20อมยิ้ม20


ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อ 27 มิถุนายน 2560 - 30 มิถุนายน 2560
เริ่มต้นทริป โดยการนั่งรถเมล์ รถเมล์สาย A2 จากจัตุจักรไปสนามบินดอนเมือง เพื่อที่จะขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่เจ้า เครื่องขึ้น 10.30 แต่มาถึงดอนเมืองตั้งแต่ 8 โมงตรง สงสัยจะตื่นเต้นเกินไป เลยเผื่อเวลาไว้ซะเยอะ ทำไงได้ล่ะคะ รอไปๆ และนี้คือการขึ้นเครื่องด้วยตัวเองครั้งแรก ขอบอกเลยว่าเอ๋อๆมึนๆงงๆสุดๆ กว่าจะได้ตั๋วเครื่องบินมาก็ทำเอางงไปบ้าง 555



ระหว่างที่นั่งรอจวนจะหลับ แต่แล้วต้องต้องสะดุ้งเฮือก! เมื่อได้ยินเสียง ประกาสเรียกชื่อผู้โดยสารไปขึ้นเครื่อง 5555 อารมณ์เหมือนโดนครูใหญ่เรียกไปหน้าเสาร์ธง ซึ่งความจริงเมื่อใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องเราควรไปรอที่หน้าเกต แต่ก็ยังที่บอกค่ะว่านั่งเครื่องครั้งแรกจริงๆ 5555


จากกรุงเทพไปเชียงใหม่ก็ใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงครึ่ง เรียกว่าตดไว้บนเครื่องยังไม่ทันหายเหม็นก็ถึงแล้วค่ะ ความรู้สึกเหมือนนั่งรถจากอนุเสาวรีย์มาพระรามสองยังไงยังงั้นเลย 5555


จากนั่นก็เดินต่อไปที่หน้าประตูทางออกสนาบินบินคะ เพื่อจะหารถไปท่าแพเพราะที่พักคืนแรกเลือกพักในท่าแพคะ เห็นเค้าว่ากันมีวัดในบริเวณท่าแพเยอะ พอเดินออกมานอกสนามบิน ก็ต้องร้องว้าวววววววว เมื่อเจอเข้ากับภูเขาเขียวชอุ่ม ก็ตอนนั่งเครื่องไม่ได้นั่งริมหน้าต่างนิค่ะเลยไม่ได้เห็นวิว อยู่เมืองกรุงเจอแต่ตึกพอมาเจอภูเขาบ้างรู้สึกชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก ^ ^


จากหน้าสนามบินเราเลือกโดยสารด้วยรถสองแถวแดงค่ะ ปรากฏมีลุงคนนึงมองมาและส่งสายตาเชิญชวน เลยรีบเข้าไปถาม "ไปท่าแพมั้ยค่ะ" ลุงพยักหน้า เราเลยกำชับไปเลยจ้า 30 บาทน่ะลุง ลุงบอกคนล่ะ 40 เอาก็เอาว่ะ 555  เค้าว่ากันว่าจะขึ้นรถแดงให้บอกสถานที่ไป อย่าถามราคาไม่งั้นเขาจะรู้ว่าเราไม่รู้ราคา อาจจะโดนโกงหรือโดนเรียกาคาเหมาได้ แต่ไปในตัวเมืองไม่ควรเกิน 50 บาทน่ะจ๊ะ 40 นี้พอรับได้ ไอโอเค 5555 ขอโทษน่ะค่ะที่ไม่ได้ถ่ายรูปรถแดงไว้ แต่คิดว่าถ้าเพื่อนๆไปเชียงใหม่ต้องเจอรถแดงในตำนานแน่ๆเพราะเหมือนกันหมดทุกคัน และมีเยอแยะมากมายในตัวเมือง ลุงพาเรามาจอดที่ประตูท่าแพค่ะ เราเลยเดินไปที่พักซึ่งไปไกลมากโดยการใช้ GPS โทรศัพท์นำทาง

           คืนนี้เราพักกันที่ กมลา เกสท์เฮาส์ ท่าแพ จองที่พักด้วยอโกด้า โดนไป 370 บาทมาสองคน คนล่ะ 170 บาทถือว่าโอเคเลยยยย แต่มีค่ามัดจำกุญแจ 500 บาท ซึ่งทางที่พักจะคืนตอนเช็คเอาท์ออกน่ะค่ะ สภาพที่พักเตียงนอนสะอาดค่ะ แต่ไฟในห้องสว่างน้อยไปนิสนึง มีห้องน้ำในตัวค่ะ เครื่องทำน้ำอุ่น ยาสระผม สบู่ ไดร์เป่าผม มีทีวีเคเบิ้ล ถือว่าโอเคกับราคาเท่านี้เลย ให้คะแนน 8/10 คะแนน


          มาถึงที่พักก็เที่ยงพอดี ท้องก็ร้องสิค่ะ ต่อไปก็ต้องไปหาที่กินกัน เลยเดินออกจากที่พักค่ะเดินไปตามทาเรื่อยเจอร้านก๋วยเตี๋ยวกระดูกหมู เป็นร้านข้างทาง กลิ่นนี้หอมโชยยยมาแต่ไกล เลยตรงเค้าไปสั่งเลยคะ เอาเกาเหลาหมู ข้าวเปล่าสองค่ะ


          นี้คือสภาพเกาเหลาหมูค่ะ ที่เห็นพริกแดงๆนี้ปรุงเพิ่มน่ะคะ เอาให้แซบเลยทีเดียว รสชาติถือว่าโอเคเลยน่ะคะรสชาติกลางๆพอปรุงแล้วอร่อยแซบเลย ทั้งหมดนี้สนนราคาเพียง 50 บาท ขอย้ำเกาเหลาเต็มอิ่มข้าวเปล่าสองถ้วย 50 บาทเท่านั่น!!! ให้คะแนนไปเลยค่ะ 8/10 พิกัดร้านอยู่ ถนนราชวิถี หน้าปากซอยติดกับถนนใหญ่มีธนาคารไทยพาณิชย์ ร้านอยู่ตรงข้ามวัดดอกเอื้องเดินเลยวัดดอกเอื้องไป 50 เมตร ก็จะถึงร้านแล้วค่ะ
          เมื่อท้องอิ่มก็พร้อมตลุยวัดในบริเวณท่าแพกันเลยยยย ซื่งขอบอกเลยน่ะค่ะว่าวัดในบริเวณประตูเมืองนี้มีเยอะมากกก  ดูได้จากวัดที่ปรากฏในแผนที่ แต่ก็ยังมีวัดอีกมากมายที่ไม่ปรากฏในแผนที่คะ


ซึ่งพาหนะที่เราใช้ตะลุยวัดในครั้งนี้ก็คือจักรยานนั่นเอง ซึ่งเช่ามาในราคา 50 บาทขับได้ทั้งวันเลยค่ะ ซึ่งตอนที่เช่า เช่าในตอนบ่าย คุณลุงบอกว่าสามารถนำมาคืนพรุ่งนี้ตอนบ่ายได้ เพราะถ้าคืนวันนี้ก็จะเช่าไม่ครบ 24 ชม. ค่ามัดจำ 1,000 เช่า 2 คันจ่ายไปทั้งหมด 1,100 ถ้านำจักรยานมาคืนลุงก็จะคืนค่ามัดจำให้ทันทีเลยค่ะ ร้านลุงชื่อร้าน Mr.Beer รถเช่า ซึ่งร้านจะอยู่เลยร้านก่วยเตี๋ยวไปหน่อยนึงคุณลุงน่ารักใจดีค่ะ นี้เป็นภาพร้านลุงจากกูเกิ้ลแมพค่ะ


นี้เป็นโฉมหน้าของจักยานคู่ใจไปไหนไปกันค่าาาาาาาา  ^ ^


งั้นก็เริ่มตะลุยวัดไปด้วยกันเลยยย ต้องบอกมาน่ะที่นี้น่ะค่ะ ว่าทุกวัดไปง่าย ไม่มั่นใจให้เปิดกูเกิ้ลแมพ แต่ไม่ต้องกลัวค่ะเพราะวัดที่นี้จะอยู่ติดๆกัน ถือว่าขับจักรยานทัวร์ได้สบายๆ มีรูปวัดมาให้ชมกัน แต่อาจจะไม่ได้แนะนำวัดกับชื่อวัดน่ะค่ะเพราะว่ามีเยอะมากเลยเก็บข้อมูลมาไม่ครบถ้วน ภาพถ่ายอาจจะสีสันต่างกันหน่อยน่ะคะเพราะถ่ายด้วยกล้อง Dslr กับกล้องโทรศัพท์ Huawei GR5 Premium

นี้เป็นวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสวยงามมากกก ถ้าเพื่อนๆไปเที่ยวเชียงใหม่ไม่ควรพลาดวัดนี้น่ะคะ

นี้เป็นศาลหลักเมืองที่ตั้งอยู่ในวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ผู้หญิงห้ามเข้าน่ะคะ ส่วนคุณผู้ชายสามารถเข้าได้แต่ต้องกายสุภาพเรียบร้อยเพื่อเป็นการเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองคะ

วัดสุดท้ายที่จะแวะกันคือวัด พระสิงห์ค่ะ

พอทัวร์วัดรอบเมืองเสร็จ ก็กลับมาพักผ่อนกันก่อน เพื่อจะรอตลาดไนท์บาร์ซ่าเปิด ไนท์บาร์ซ่าจะเปิดประมาณทุ่มนึงจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งจากท่าแพสามารถเดินไปไนท์บาร์ซ่าได้โดยดูแผนที่หรือเปิด GPS หรือจะให้สะดวกหน่อยก็โบกรถแดง โดยระยะทางประมาณ 1 โลกว่าซึ่งถือว่าไม่ไกลมาก ก่อนถึงไนท์บาร์ซ่าจะมีตลาดวโรรส ตลาดวโรรสจะอารมณ์เหมือนตลาดทั่วๆไปมีของขายของกินราคาถูกอารมณ์เหมือนตลาดใหน้างานวัดนั่นแหละคะ

ภาพที่เห็นเป็นส่วนนึงของตลาดไนท์บาร์ซ่าน่ะค่ะ ซึ่งไนท์บาร์ซ่าจริงๆมีหลายตรอกซอกซอยมากกกก แต่ของขายส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายกันเป็นของพื้นเมืองของฝาก และงานศิลปะ ถูกใจชาวต่างชาติ ส่วนใครที่ชอบงานศิลป์ของพื้นบ้านเชิญมาที่ตลาดไนท์บาร์ซ่ากันเลยค่าาาา ไม่ควรพลาดดดเป็นอันขาดจ้าาาาา

พอเดินตลาดไนท์บาร์ซ่ากันเสร็จอาหารมื้อเที่ยงก็เริ่มย่อย ระหว่างทางเดินกลับที่พักเลยแวะเติมอาหารกันเสียก่อนเพื่อเพิ่มพลังงานในการเดินทางกลับที่พัก ซึ่งอาหารมื้อเย็นในวันนี้ก็เป็นก๋วยเตี๋ยวบะหมี่หมู น้ำซุปแสนอร่อย สนนราคาเพียง 40 บาทในปริมาณอิ่มท้องแถมสบายกระเป๋ากันเลยทีเดียว

จากนั่นก็กลับที่พักพักผ่อนตามอัธยาศัยเพื่อไปลุยกันต่อในวันพรุ่งนี้เลยค่าาาาาาา ส่วนใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าไปเชียงใหม่จะพักท่าแพดีมั้ย? บอกเลยว่าพักที่ท่าแพคุ้มค่ามาก ใกล้วัดวาอารามสวยงามอร่ามตาของกินที่พักราคาถูก แถมวันเสาร์อาทิตย์มีถนนคนเดิน ให้คะแนนย่านท่าแพไปเลย 10/10 ค่ะ

DAY 2
วันนี้เราเช็คเอาท์จาก กมลา เกสท์เฮ้าส์ เวลา 08.00 น. และเดินทางโดยจักรยานไปพักกันที่ จูเนียร์ เฮาส์ ในราคา 300 บาท ใกล้ขนส่งช้างเผือก และคิวรถสองแถวไปดอยสุเทพแถวประตูช้างเผือก  ทางจูเนียร์เฮาส์ให้เข้าพักในเวลา 14.00 น. เราเลยฝากสัมภาระ และออกไปคืนจักรยานกับทางร้านลุง

โดยวันนี้เราวางแผนกันว่าจะไปเที่ยวดอยสุเทพกัน โดยไปขึ้นรถจากประตูช้างเผือก ไป-กลับดอยสุเทพในราคา 80 บาท แต่พอดีว่ามีนักท่องเที่ยวขึ้นพระตำหนักภูพิงค์ เราเลยติดสอยห้อยตามๆขึ้นไป ไปกลับในราคา 160 บาท

ซึ่งพอขึ้นไปถึงพระตำหนักภูพิงค์แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆเพราะอากาศข้างบนเย็นกว่าข้างล่าง อากาศประมาณยี่สิบกว่าๆองศา พร้อมวิวธรรมชาติและดอกไม้นานาพรรณที่ออกดอกสวยงามหลายหลายสีสัน ต้นไม้ที่เขียวชอุ่มทั่วบริเวณถ้าจะบรรยายเป็นคำพูดคงไม่หมดงั้นไปดูภาพกันเลยจ้าาาาาา

นี้เป็นภาพจากจุดชมวิวน่ะค่ะทั้งสูงและสวยเลยที่เดียว

รีวิวนี้ยังไม่จบน่ะจ๊ะมีต่อในพาท 2 ติดตามได้ที่...
https://pantip.com/topic/36632356
ชื่อสินค้า:   จังหวัดเชียงใหม่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่