สวัสดีค่า หลังจากที่หาข้อมูลในพันทิพย์มานาน เลยอยากจะตอบแทนข้อมูล และ เก็บบันทึกไว้ด้วย
เพราะชอบลืม
ทริปยุโรปนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเรา เพราะเคยไปสมัยเรียน ตอนนั้นก็ไปกับแฟนตอนนั้น (ปัจจุบันเป็นสามี อิอิ)
มีหลงๆลืมว่าเคยไปที่ไหนอะไร คราวนั้นกลับมาก็ไม่ได้เขียนลงไดอะรี่หรือบันทึก
ครั้งนี้เลยจะไม่พลาดค่ะ
มันเลยเป็นอะไรที่ดีมาก
ขอเริ่มต้นด้วยการเดินทางเลยนะคะ เรื่องทำวีซ่าขอเล่าแบบเร็วๆ เราทำวีซ่าเซงเก้น ของฝรั่งเศสค่ะ เพราะเป็นประเทศที่พำนักนานที่สุด ข้อยากของการทำวีซ่าครั้งนี้คือ เราไม่ได้ทำงานประจำ แต่แต่งงานแล้ว และอาจจะเคยไปฝรั่งเศสมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกไปเที่ยว (ขอที่สถานทูตเยอรมัน อันนี้มีความโหดแต่ก็ได้ เพราะเอกสารครบ) และ ไปทำงานค่ะ (ตอนนั้นทำงานประจำไปด่วน ลุ้นเครียดมาก แมสเอาพาสปอร์ตมาให้ที่สนามบินเลยทีเดียว) ครั้งนี้สามวันได้วีซ่าขอไปหนึ่งเดือน ได้มาหกเดือนค่ะ คือสามารถพุ่งตัวไปได้เลย วีซ่าทำไม่ยากนะคะ ถ้าเอกสารพร้อม
มาต่อที่การเดินทาง เราเดินทางวันแรก วันที่ 5 มกราคม 2560
เราบินด้วยสายการบิน การ์ตาร์แอร์เวยส์ คนเดียว ย้ำ คนเดียว เพราะสามีเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้วค่ะ นางมีธุระของนางก่อน
QR 833 BKK- DOH เวลา 19:30-22:55

ข้อดีของสายการบินนี้ในความคิดของเราคือ
- ราคารับได้ ถูกเลย เราจองก่อนประมาณเดือนครึ่งก่อนเดินทาง ก็ได้ราคา 22+++
- เครื่องใหญ่นั่งสบาย
- น้ำหนักกระเป๋าได้เยอะ 30 กิโล ((เหมาะกับความชอบช็อปปิ้งแบบเรา))
- entertainment บนเครื่องดีมากค่ะ

อุปกรณ์ที่ได้ ชอบๆ

อาหารมื้อแรก


มาถึงแล้ว สนามบิน HIA ฮ่าๆ มีความขำตัวย่อ

เนื่องจากการเดินทางคนเดียว คุณผู้ชายเลยให้เราไปนอนรอในเลาจ์ก่อนขึ้นเครื่องในไฟล์ทถัดไป
จ่ายเงินประมาณ 2000 บาท อาหารไม่อั้น มีที่นั่งเป็นสัดส่วน คนแอบไม่เยอะ คือถ้าเดินทางคนเดียวหรือต้องรอไฟล์ทนานๆก็แนะนำนะคะ ตอนแรกจะไปนอนใน รร. แต่ราคาชอคโลกมากค่ะ ประมาณเกือบซื้อบิสสิเนสคลาสได้เลย
เลยมานอนเลาจ์ดีกว่า
อันนี้คุณผู้ชายหลายคนคงชอบ เพราะเขามีเบียร์ บริการไม่อั้น น้ำไม่อั้น ขนม ของกินไม่อั้น เรียกว่า 24 ชม. คือราคาของกินในสนามบินพอๆกับมานอนในเลาจ์ได้เลยนะ สำหรับคนชอบดื่มเบียร์
มีห้องอาบน้ำ ผ้าขนหนู แปรงสีฟัน บริการ เราชอบตรงนี้ เพราะเรานอนแล้วตื่นมาอาบน้ำ แล้วเดินไปเกทต่อ รู้สึกดีมากกก ฉดชื่น และมีบริการอาหารเช้าด้วยค่ะ ขอบอกว่า โยเกิร์ตบ้านเมืองนี้ อร่อยมากกกกกกกกก ชอบบบบสุดๆ




เดินมาหน้าเกตแล้ว พนักงานมีความงง มีการมาถามว่า คุณไปปารีสแล้วจะกลับมาอีกไหม ไปทำอะไร ทำหน้าที่ดีเนอะ หรือจะกวนก็ไม่รู้เพราะเห็นเราไปคนเดียว เราเลยตอบไปว่า ไปหาสามี สามีอยู่โน่น กลับสิ จองตั๋วกลับแล้ว ยังมีบิสสิเนสที่ไทย (บอกเลยว่า ตม. CDG ไม่ถามไรสักคำ )


อาหารบนเครื่องจ้า รู้สึกเสริฟเยอะกว่านี้นะคะ แต่ก็ถ่ายมาไม่หมด

วิวบนเครื่องสวยมากเลยค่ะ แถวไหนไม่รู้แต่ดีงาม รักเลย ( ใครทราบบอกหน่อยนะคะ อยากไปมาก แต่ดูเป็นความหนาวที่มนุษย์ไม่สามารถอาศัยได้)

เป็นเบรกเบาๆก่อนลงค่ะ
ถึง CDG แล้วววว ตอนต่อเข้าแถม ตม. ตรงนี้ขอบอกว่าวุ่นวายมากกกกก คือแถวไม่เป็นแถวแรง แซงกันจนหลุดโค้ง และหลากหลายเชื้อชาติมากๆๆๆๆ แขก จีน ไทย โอยยยสารพัด เราต่อตามคนญี่ปุ่นค่ะ ขอบอกว่าเป็นความคิดที่ผิด เพราะคนญี่ปุ่นมีระเบียบมาก และไม่อะหืออะรือกับใคร คนชาติอื่นเลยแซงๆๆๆๆๆ เราเองก็ทำถูกต้องตามเขาไปค่ะ
เราใช้บัสเข้าเมืองค่ะ เพราะกระเป๋าหนัก และเป็นวิธีที่รักสุด Le BUS Direct เป็นบัสที่ตรงเข้าปารีสเลยค่ะ ตรงแลนด์มาร์คในเมือง เป็นคนกลัวรถไฟที่ฝรั่งเศสมาก เพราะประสบการณ์ไม่ค่อยดี เลี่ยงได้ก็จะเลี่ยงค่ะ ขอเล่านิด
ไปฝรั่งเศสครั้งแรก ... ประตูปิดก่อน คลาดกับแฟนค่ะ ได้แต่บายๆ เราเลยไปลงสถานีหน้า ยืนตำแหน่งประตูเดิม รอแฟนตามมา ตื่นเต้นมาก ที่คลาดเพราะประตูแมนวลของนาง ที่ไปแล้วงงๆเปิดปิดไง โหห แย่มาก รถไฟเก่าและเหม็นมากก
ไปครั้งที่สอง เพื่อนโดนล้วงกระเป๋าค่ะ ล้วงเสร็จเอาเงินไปโยนกระเป๋าเงินใส่หลัง (( ไม่ควรใช้ลองชอมป์ไปเที่ยวน้า ซิปเปิดง่ายมาก และพวกนางล้วงเก่งกับกระเป๋าชนิดนี้ )
[CR] Honey Moon Trip 17 DAYS in EUROPE (PARIS AMSTERDAM BRUGES Antwerpen GHENT Colmar strasbourg Füssen Hallstatt) Part1
เพราะชอบลืม
ทริปยุโรปนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเรา เพราะเคยไปสมัยเรียน ตอนนั้นก็ไปกับแฟนตอนนั้น (ปัจจุบันเป็นสามี อิอิ)
มีหลงๆลืมว่าเคยไปที่ไหนอะไร คราวนั้นกลับมาก็ไม่ได้เขียนลงไดอะรี่หรือบันทึก
ครั้งนี้เลยจะไม่พลาดค่ะ
มันเลยเป็นอะไรที่ดีมาก
ขอเริ่มต้นด้วยการเดินทางเลยนะคะ เรื่องทำวีซ่าขอเล่าแบบเร็วๆ เราทำวีซ่าเซงเก้น ของฝรั่งเศสค่ะ เพราะเป็นประเทศที่พำนักนานที่สุด ข้อยากของการทำวีซ่าครั้งนี้คือ เราไม่ได้ทำงานประจำ แต่แต่งงานแล้ว และอาจจะเคยไปฝรั่งเศสมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกไปเที่ยว (ขอที่สถานทูตเยอรมัน อันนี้มีความโหดแต่ก็ได้ เพราะเอกสารครบ) และ ไปทำงานค่ะ (ตอนนั้นทำงานประจำไปด่วน ลุ้นเครียดมาก แมสเอาพาสปอร์ตมาให้ที่สนามบินเลยทีเดียว) ครั้งนี้สามวันได้วีซ่าขอไปหนึ่งเดือน ได้มาหกเดือนค่ะ คือสามารถพุ่งตัวไปได้เลย วีซ่าทำไม่ยากนะคะ ถ้าเอกสารพร้อม
มาต่อที่การเดินทาง เราเดินทางวันแรก วันที่ 5 มกราคม 2560
เราบินด้วยสายการบิน การ์ตาร์แอร์เวยส์ คนเดียว ย้ำ คนเดียว เพราะสามีเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้วค่ะ นางมีธุระของนางก่อน
QR 833 BKK- DOH เวลา 19:30-22:55
ข้อดีของสายการบินนี้ในความคิดของเราคือ
- ราคารับได้ ถูกเลย เราจองก่อนประมาณเดือนครึ่งก่อนเดินทาง ก็ได้ราคา 22+++
- เครื่องใหญ่นั่งสบาย
- น้ำหนักกระเป๋าได้เยอะ 30 กิโล ((เหมาะกับความชอบช็อปปิ้งแบบเรา))
- entertainment บนเครื่องดีมากค่ะ
อุปกรณ์ที่ได้ ชอบๆ
อาหารมื้อแรก
มาถึงแล้ว สนามบิน HIA ฮ่าๆ มีความขำตัวย่อ
เนื่องจากการเดินทางคนเดียว คุณผู้ชายเลยให้เราไปนอนรอในเลาจ์ก่อนขึ้นเครื่องในไฟล์ทถัดไป
จ่ายเงินประมาณ 2000 บาท อาหารไม่อั้น มีที่นั่งเป็นสัดส่วน คนแอบไม่เยอะ คือถ้าเดินทางคนเดียวหรือต้องรอไฟล์ทนานๆก็แนะนำนะคะ ตอนแรกจะไปนอนใน รร. แต่ราคาชอคโลกมากค่ะ ประมาณเกือบซื้อบิสสิเนสคลาสได้เลย
เลยมานอนเลาจ์ดีกว่า
อันนี้คุณผู้ชายหลายคนคงชอบ เพราะเขามีเบียร์ บริการไม่อั้น น้ำไม่อั้น ขนม ของกินไม่อั้น เรียกว่า 24 ชม. คือราคาของกินในสนามบินพอๆกับมานอนในเลาจ์ได้เลยนะ สำหรับคนชอบดื่มเบียร์
มีห้องอาบน้ำ ผ้าขนหนู แปรงสีฟัน บริการ เราชอบตรงนี้ เพราะเรานอนแล้วตื่นมาอาบน้ำ แล้วเดินไปเกทต่อ รู้สึกดีมากกก ฉดชื่น และมีบริการอาหารเช้าด้วยค่ะ ขอบอกว่า โยเกิร์ตบ้านเมืองนี้ อร่อยมากกกกกกกกก ชอบบบบสุดๆ
เดินมาหน้าเกตแล้ว พนักงานมีความงง มีการมาถามว่า คุณไปปารีสแล้วจะกลับมาอีกไหม ไปทำอะไร ทำหน้าที่ดีเนอะ หรือจะกวนก็ไม่รู้เพราะเห็นเราไปคนเดียว เราเลยตอบไปว่า ไปหาสามี สามีอยู่โน่น กลับสิ จองตั๋วกลับแล้ว ยังมีบิสสิเนสที่ไทย (บอกเลยว่า ตม. CDG ไม่ถามไรสักคำ )
ถึง CDG แล้วววว ตอนต่อเข้าแถม ตม. ตรงนี้ขอบอกว่าวุ่นวายมากกกกก คือแถวไม่เป็นแถวแรง แซงกันจนหลุดโค้ง และหลากหลายเชื้อชาติมากๆๆๆๆ แขก จีน ไทย โอยยยสารพัด เราต่อตามคนญี่ปุ่นค่ะ ขอบอกว่าเป็นความคิดที่ผิด เพราะคนญี่ปุ่นมีระเบียบมาก และไม่อะหืออะรือกับใคร คนชาติอื่นเลยแซงๆๆๆๆๆ เราเองก็ทำถูกต้องตามเขาไปค่ะ
เราใช้บัสเข้าเมืองค่ะ เพราะกระเป๋าหนัก และเป็นวิธีที่รักสุด Le BUS Direct เป็นบัสที่ตรงเข้าปารีสเลยค่ะ ตรงแลนด์มาร์คในเมือง เป็นคนกลัวรถไฟที่ฝรั่งเศสมาก เพราะประสบการณ์ไม่ค่อยดี เลี่ยงได้ก็จะเลี่ยงค่ะ ขอเล่านิด
ไปฝรั่งเศสครั้งแรก ... ประตูปิดก่อน คลาดกับแฟนค่ะ ได้แต่บายๆ เราเลยไปลงสถานีหน้า ยืนตำแหน่งประตูเดิม รอแฟนตามมา ตื่นเต้นมาก ที่คลาดเพราะประตูแมนวลของนาง ที่ไปแล้วงงๆเปิดปิดไง โหห แย่มาก รถไฟเก่าและเหม็นมากก
ไปครั้งที่สอง เพื่อนโดนล้วงกระเป๋าค่ะ ล้วงเสร็จเอาเงินไปโยนกระเป๋าเงินใส่หลัง (( ไม่ควรใช้ลองชอมป์ไปเที่ยวน้า ซิปเปิดง่ายมาก และพวกนางล้วงเก่งกับกระเป๋าชนิดนี้ )