
หากจะพูดถึงหูฟัง Earbud ราคาถูกเสียงดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สมาชิกเพื่อนพันทิพย์ก็ต้องแนะนำชื่อคุ้นๆหูกันแน่ ไม่ว่าจะเป็น Oker DS-300, PK2, Rizz, Sennheiser, aiwa, sony ไม่ก็ "หูฟัง iPhone นี่แหละ" แต่แล้วเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในวงการหูฟังได้มีการปฏิวัติเกิดขึ้น ด้วยกองทัพหูฟังราคาถูกจากจีนมากมายหลายรุ่นกระหน่ำเข้ามา ชื่อยี่ห้อแปลกๆแต่หน้าตาคุ้นๆ(เพราะไปก๊อปเค้ามาคล้ายๆกัน) โดยราคาอยู่ในช่วงร้อยกว่าบาทไปจนถึง 5,6 พัน ที่น่าตกใจคือไอ้ตัวร้อยกว่าบาทเนี่ย สุ้มเสียงมันร้ายเกินตัวไปมาก ขึ้นไปเทียบกับหูฟังตัวสองสามพันในสมัยก่อนสบายๆ ที่สาธยายมาทั้งหมดก็เผื่อคนที่ไม่ได้ติดตามครับ
เอาล่ะมาว่ากันด้วย DIY EMX500 ที่โคตรจะโนเนมในตลาดตัวนี้มาได้ยังไง มันเกิดขึ้นจากการที่ผมได้ลองซื้อหูฟังทั้งหมดหลายรุ่นมาเทสหลายสิบตัว ถามว่าทำไมต้องซื้อมากขนาดนั้น? นั่นก็เพราะ ในบอร์ดหูฟังระดับโลกอย่าง head-fi หรือกลุ่มดังๆใน facebook ต่างก็มีคนมาแนะนำว่าตัวนั้นดีนะ ตัวนี้ดีนะ แล้วเริ่มมาบอกเล่ากันไปมา แต่สุดท้ายแล้วไม่มีใครเลยที่จะบอกได้ว่า "ตัวไหนล่ะมันดีที่สุด?" แล้วกระเป๋าตังผมก็ระเบิดออกด้วยการสั่งหูฟังเหล่านั้นทั้งหมดที่เค้าว่าเสียงดี ราคาถูกมาก มาลองฟังให้หายข้องใจ และแล้วเมื่อหูฟังมาถึงทั้งหมดก็เข้าโพรเซสการ เบิร์นๆๆๆๆ ฟังๆๆๆๆ วนไปวนมา หยิบสลับไปมา ทั้งดูหนัง ทั้งฟังเพลง เล่นเกม จนในที่สุดตัวที่ลงตัวที่สุด ดีที่สุด ฟังสบายหูที่สุด อะไรที่มันสุดๆทุกอย่างมันมาจบที่เจ้า DIY EMX500 ตัวนี้ตัวเดียว เพราะมันนำข้อดีในแต่ละแนวเสียงของหูฟังหลายๆตัวมารวมกัน เค้าทำได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว
แนวเสียง
-----------
Sound Stage หรือ มิติเสียง
ทุกอย่างดูเปิดกว้าง ทั้งแนวเพลงคลาสสิค ลูกทุ่ง ป๊อป ร๊อค มันดูโล่งสบายหมด จากที่เคยฟังเพลงหนักๆมาจนหูล้า เพลงหนักๆเหล่านั้นเมื่อเจอเจ้าหูฟังตัวนี้มันกลับพอดีไปซะทุกอย่าง ฟังสนุกและนุ่มสบายไปในตัว ด้วยความกว้างของเวที ตำแหน่งเครื่องดนตรีที่ไม่กระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่ง หากจะเทียบเนื้อเสียงตรงนี้กับหูฟัง Earbud ราคาแพงก็จะเหมือนกันกับ VE Zen 1.0 (ตัว Zen จะเหนือกว่าเพียงนิดหน่อยเท่านั้น)
เสียงสูง
ไม่ใช่จุดเด่นของเจ้า EMX500 บางคนที่หลงไหลเสียงสูงอาจจะไม่ชอบมัน แต่นั้นไม่ได้หมายความว่ามันธรรมดา เสียงสูงเจ้าตัวนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีแล้ว รายละเอียดคมชัด ปลายเสียงเปิด ทั้งเสียงฉาบที่เป็นลูกๆ แยกแยะกับเสียงร้องและเครื่องดนตรีเสียงสูงชิ้นอื่นชัดเจนมาก ถ้าจะดีกว่านี้ก็คงต้องเป็นเสียงสูงจากตัว FAAREAL32 ที่ไปไกลกว่า แต่เจ้า FAAREAL นั้นก็ด้อยในเสียงกลางและเบส เกินกว่าที่จะรับข้อดีในเสียงสูงนั้นได้ ดังนั้นแม้เสียงสูงนี้ไม่ใช่จุดเด่นแต่ก็ไม่ได้ทำให้มันด้อยลงเลยเมื่อฟังในภาพรวม เพราะไม่มีอะไรที่ขุ่นมัวเกินไป หรือเสียงอะไรที่แสบหูออกมาแม้แต่นิดเดียว
เสียงกลาง
เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของเจ้าตัวนี้ เป็นเสียงกลางที่ Balance ไม่ได้เน้นเสียงร้องหรือเสียงดนตรี แต่กลับแยกแยะและวางตำแหน่งของทุกเสียงออกมาได้ถูกต้องลงตัวเหมือนกับที่ยืนฟังจากลำโพงเครื่องเสียงบ้านดีๆตัวหนึ่งที่หลักหมื่นกลางๆไม่ถึงหลักแสน ความเป็นประกายของเสียงร้องนั้นหวานหยาดเยิ้ม และกีตาร์นั้นคมชัด แต่ไม่ได้คมบาดหู ยิ่งเครื่องเป่า หรือเครื่องสี นั้นฟังเพลินเอามากๆ เป็นหูฟังราคาถูกตัวเดียวที่สามารถฟังได้ทั้งวันโดยที่ไม่ล้าหู ด้วยความนุ่มนวลแต่ไม่ขุ่นมัวของมัน ทำให้คนฟังรู้สึกสบายไปกับทุกเพลง
เสียงต่ำ/ทุ้ม/เบส
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือเสียงต่ำหรือเสียงเบสของเจ้าตัวนี้ลงลึกในระดับที่แทบไม่มี Earbud ตัวไหนในตลาดเป็นแบบนี้ ด้วยความที่มันนุ่มและลึก ทำให้ไม่มีการไปรบกวนย่านกลางและย่านสูงเลยสักนิด มันถูกจัดวางให้อยู่ในช่วงคลื่นความถี่ของมันและทำหน้าที่ได้เต็มที่เสมือนลำโพง Subwoofer แยกออกมา เขาทำได้อย่างไรกัน เทคโนโลยีอะไร ที่ทำให้มันมาลงในหูฟังราคาถูกแบบนี้ได้ ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ทำไมเขาถึงไม่ขายราคาซัก 3-4 พัน? ในเมื่อเสียงมันออกมาดีกว่าหูฟังราคาเหลานั้นไปไกล ไม่ใช่ผู้ริวิวเพียงคนเดียว ทุกคนที่ได้ลองฟังเจ้าตัวนี้ หรือมีบางคนที่เพิ่งหามาลองเมื่อไม่นานมานี้ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันดีเกินไป จนต้องซื้อเก็บเพราะกลัวโรงงานปิด หรือไม่ขายราคานี้แล้ว
บทสรุป
มันคือหูฟังโนเนมที่เป็นไอเท็มหายากของโลกตัวหนึ่งที่ควรมีไว้ครอบครอง ระดับเสีบงมันแทบจะแทนที่หูฟังได้ทุกตัวในระดับไม่เกิน 5 พัน ผมกลัวว่าหลังที่โพสรีวิวนี้ไปมันจะขาดตลาด ผมจึงได้ซื้อเก็บไว้ส่วนหนึ่งก่อน และเชื่อว่ามันจะเป็นที่กล่าวขานกันหลังจากนี้ไปอีกนาน
เทียบกับหูฟัง iPhone?
inbox มาแล้วกันครับ ไม่กล้าพิมพ์ข้อความแรงๆออกสาธารณะ
[CR] "DIY EMX500" หูฟัง Earbud ราคาโคตรถูกแต่เสียงโคตรดีแห่งปี 2017
หากจะพูดถึงหูฟัง Earbud ราคาถูกเสียงดีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สมาชิกเพื่อนพันทิพย์ก็ต้องแนะนำชื่อคุ้นๆหูกันแน่ ไม่ว่าจะเป็น Oker DS-300, PK2, Rizz, Sennheiser, aiwa, sony ไม่ก็ "หูฟัง iPhone นี่แหละ" แต่แล้วเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในวงการหูฟังได้มีการปฏิวัติเกิดขึ้น ด้วยกองทัพหูฟังราคาถูกจากจีนมากมายหลายรุ่นกระหน่ำเข้ามา ชื่อยี่ห้อแปลกๆแต่หน้าตาคุ้นๆ(เพราะไปก๊อปเค้ามาคล้ายๆกัน) โดยราคาอยู่ในช่วงร้อยกว่าบาทไปจนถึง 5,6 พัน ที่น่าตกใจคือไอ้ตัวร้อยกว่าบาทเนี่ย สุ้มเสียงมันร้ายเกินตัวไปมาก ขึ้นไปเทียบกับหูฟังตัวสองสามพันในสมัยก่อนสบายๆ ที่สาธยายมาทั้งหมดก็เผื่อคนที่ไม่ได้ติดตามครับ
เอาล่ะมาว่ากันด้วย DIY EMX500 ที่โคตรจะโนเนมในตลาดตัวนี้มาได้ยังไง มันเกิดขึ้นจากการที่ผมได้ลองซื้อหูฟังทั้งหมดหลายรุ่นมาเทสหลายสิบตัว ถามว่าทำไมต้องซื้อมากขนาดนั้น? นั่นก็เพราะ ในบอร์ดหูฟังระดับโลกอย่าง head-fi หรือกลุ่มดังๆใน facebook ต่างก็มีคนมาแนะนำว่าตัวนั้นดีนะ ตัวนี้ดีนะ แล้วเริ่มมาบอกเล่ากันไปมา แต่สุดท้ายแล้วไม่มีใครเลยที่จะบอกได้ว่า "ตัวไหนล่ะมันดีที่สุด?" แล้วกระเป๋าตังผมก็ระเบิดออกด้วยการสั่งหูฟังเหล่านั้นทั้งหมดที่เค้าว่าเสียงดี ราคาถูกมาก มาลองฟังให้หายข้องใจ และแล้วเมื่อหูฟังมาถึงทั้งหมดก็เข้าโพรเซสการ เบิร์นๆๆๆๆ ฟังๆๆๆๆ วนไปวนมา หยิบสลับไปมา ทั้งดูหนัง ทั้งฟังเพลง เล่นเกม จนในที่สุดตัวที่ลงตัวที่สุด ดีที่สุด ฟังสบายหูที่สุด อะไรที่มันสุดๆทุกอย่างมันมาจบที่เจ้า DIY EMX500 ตัวนี้ตัวเดียว เพราะมันนำข้อดีในแต่ละแนวเสียงของหูฟังหลายๆตัวมารวมกัน เค้าทำได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่มันเกิดขึ้นแล้ว
แนวเสียง
-----------
Sound Stage หรือ มิติเสียง
ทุกอย่างดูเปิดกว้าง ทั้งแนวเพลงคลาสสิค ลูกทุ่ง ป๊อป ร๊อค มันดูโล่งสบายหมด จากที่เคยฟังเพลงหนักๆมาจนหูล้า เพลงหนักๆเหล่านั้นเมื่อเจอเจ้าหูฟังตัวนี้มันกลับพอดีไปซะทุกอย่าง ฟังสนุกและนุ่มสบายไปในตัว ด้วยความกว้างของเวที ตำแหน่งเครื่องดนตรีที่ไม่กระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่ง หากจะเทียบเนื้อเสียงตรงนี้กับหูฟัง Earbud ราคาแพงก็จะเหมือนกันกับ VE Zen 1.0 (ตัว Zen จะเหนือกว่าเพียงนิดหน่อยเท่านั้น)
เสียงสูง
ไม่ใช่จุดเด่นของเจ้า EMX500 บางคนที่หลงไหลเสียงสูงอาจจะไม่ชอบมัน แต่นั้นไม่ได้หมายความว่ามันธรรมดา เสียงสูงเจ้าตัวนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีแล้ว รายละเอียดคมชัด ปลายเสียงเปิด ทั้งเสียงฉาบที่เป็นลูกๆ แยกแยะกับเสียงร้องและเครื่องดนตรีเสียงสูงชิ้นอื่นชัดเจนมาก ถ้าจะดีกว่านี้ก็คงต้องเป็นเสียงสูงจากตัว FAAREAL32 ที่ไปไกลกว่า แต่เจ้า FAAREAL นั้นก็ด้อยในเสียงกลางและเบส เกินกว่าที่จะรับข้อดีในเสียงสูงนั้นได้ ดังนั้นแม้เสียงสูงนี้ไม่ใช่จุดเด่นแต่ก็ไม่ได้ทำให้มันด้อยลงเลยเมื่อฟังในภาพรวม เพราะไม่มีอะไรที่ขุ่นมัวเกินไป หรือเสียงอะไรที่แสบหูออกมาแม้แต่นิดเดียว
เสียงกลาง
เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของเจ้าตัวนี้ เป็นเสียงกลางที่ Balance ไม่ได้เน้นเสียงร้องหรือเสียงดนตรี แต่กลับแยกแยะและวางตำแหน่งของทุกเสียงออกมาได้ถูกต้องลงตัวเหมือนกับที่ยืนฟังจากลำโพงเครื่องเสียงบ้านดีๆตัวหนึ่งที่หลักหมื่นกลางๆไม่ถึงหลักแสน ความเป็นประกายของเสียงร้องนั้นหวานหยาดเยิ้ม และกีตาร์นั้นคมชัด แต่ไม่ได้คมบาดหู ยิ่งเครื่องเป่า หรือเครื่องสี นั้นฟังเพลินเอามากๆ เป็นหูฟังราคาถูกตัวเดียวที่สามารถฟังได้ทั้งวันโดยที่ไม่ล้าหู ด้วยความนุ่มนวลแต่ไม่ขุ่นมัวของมัน ทำให้คนฟังรู้สึกสบายไปกับทุกเพลง
เสียงต่ำ/ทุ้ม/เบส
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือเสียงต่ำหรือเสียงเบสของเจ้าตัวนี้ลงลึกในระดับที่แทบไม่มี Earbud ตัวไหนในตลาดเป็นแบบนี้ ด้วยความที่มันนุ่มและลึก ทำให้ไม่มีการไปรบกวนย่านกลางและย่านสูงเลยสักนิด มันถูกจัดวางให้อยู่ในช่วงคลื่นความถี่ของมันและทำหน้าที่ได้เต็มที่เสมือนลำโพง Subwoofer แยกออกมา เขาทำได้อย่างไรกัน เทคโนโลยีอะไร ที่ทำให้มันมาลงในหูฟังราคาถูกแบบนี้ได้ ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ ทำไมเขาถึงไม่ขายราคาซัก 3-4 พัน? ในเมื่อเสียงมันออกมาดีกว่าหูฟังราคาเหลานั้นไปไกล ไม่ใช่ผู้ริวิวเพียงคนเดียว ทุกคนที่ได้ลองฟังเจ้าตัวนี้ หรือมีบางคนที่เพิ่งหามาลองเมื่อไม่นานมานี้ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันดีเกินไป จนต้องซื้อเก็บเพราะกลัวโรงงานปิด หรือไม่ขายราคานี้แล้ว
บทสรุป
มันคือหูฟังโนเนมที่เป็นไอเท็มหายากของโลกตัวหนึ่งที่ควรมีไว้ครอบครอง ระดับเสีบงมันแทบจะแทนที่หูฟังได้ทุกตัวในระดับไม่เกิน 5 พัน ผมกลัวว่าหลังที่โพสรีวิวนี้ไปมันจะขาดตลาด ผมจึงได้ซื้อเก็บไว้ส่วนหนึ่งก่อน และเชื่อว่ามันจะเป็นที่กล่าวขานกันหลังจากนี้ไปอีกนาน
เทียบกับหูฟัง iPhone?
inbox มาแล้วกันครับ ไม่กล้าพิมพ์ข้อความแรงๆออกสาธารณะ