เป็นเรื่องของพี่ชายเราเองค่ะ เป็นดาราวัยรุ่นชื่อดังอยู่ใน top 5 ของไทยเมื่อราวยี่สิบปีที่แล้ว เป็นคนที่โดนมรสุมข่าวลือแบบหนักหน่วงมาก เราคิดว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เล่า ถ้าหากข่าวลือเรื่องผลิตโชคเป็นเกย์ไม่ยอมหายไป แต่กลายเป็นว่ารังสีความเป็นแมนของเฮียมันแรงเสียจนหมดปัญหาเรื่องนั้น
เราก็ดีใจว่าไม่ต้องเล่าแล้ว แต่ก็มีปัญหาใหม่ๆ เข้ามา ก็เลยคิดว่าบทเรียนของคนรุ่นก่อน น่าจะเป็นประโยชน์แก่พวกเราบ้าง อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้มันเลือนหายไปกับกาลเวลา อาจจะเป็นบทความที่ยาวสักนิดนะคะ
แม่เราเป็นลูกครึ่ง ดังนั้นพี่ชายเราและเราจึงเป็นลูกเสี้ยว แต่คนที่หน้าตาดีมากๆ คือพี่ชายเรา เมื่อยี่สิบปีที่แล้วถ้าใครพอจะทัน ก็จะรู้ว่าคนหน้าตาลูกครึ่งฝรั่งจะเข้าวงการง่ายมาก พี่เราก็เช่นกัน เดินมาบุนครองแล้วแมวมองก็มาชักชวนเข้าวงการตอนอายุ 17 จริงๆ นางไม่สนใจวงการบันเทิง แต่อยากได้ตังค์แค่นั้นเอง
เริ่มแรกก็ถ่ายโฆษณา แล้วก็แจ้งเกิดจากโฆษณาตัวนั้นเลย จากนั้นก็ไปเรียนการแสดงเพื่อเตรียมตัวเล่นหนังของค่ายใหญ่ มาถึงตอนนี้พ่อเราเริ่มไม่โอเคแล้ว เพราะไม่อยากให้เข้าวงการแบบจริงจัง พ่อมองว่ามันเสี่ยงต่อการเสียคน
ณ ตอนนั้นคนที่ทำหน้าที่ดูแลพี่เราสมมติว่าชื่อ "พี่เอ" นะคะ (ไม่ใช่เอศุภชัยเด้อ) พี่เอคือคนที่ผู้จัดการของพี่เราส่งมา พ่อไม่โอเคกับผู้ชายคนนี้ คิอพ่อมองว่าจะพากันไปเสียคน แต่พี่เราก็ดื้อจะเป็นดาราให้ได้ พ่อเลยแก้ปัญหาโดยการเสียสละเลขาของตัวเอง ให้มาทำหน้าที่ดูแลพี่เราอีกคน โดยพ่อจ่ายตังค์จ้างเอง พี่คนนี้ให้ชื่อ พี่บี นะคะ
ต้องเล่าถึงพี่บีนิดนึงเพราะเป็นตัวละครที่สำคัญมาก พี่บีในตอนนั้นอายุเกือบสามสิบ แต่ดูเด็กและสวยมาก ทำงานกับพ่อมาตั้งแต่เพิ่งเรียนจบ ก็จะรู้นิสัยใจคอว่าเป็นคนดี มีความรับผิดชอบสูง สรุปพี่เรามีคนดูแล2คน คือพี่เอและพี่บี
ตัดกลับมาเรื่องงานของพี่ชาย หลังจากถ่ายโฆษณาหลายตัวก็ได้ไปเล่นหนังของค่ายใหญ่ เป็นบทกึ่งๆรับเชิญ คือบทมากกว่ารับเชิญนิดนึง แต่บทมันส่ง ประกอบกับหน้าตาที่อินเทรนด์ในยุคนั้น ปรากฏว่ามีคนกรี๊ดกันมาก ก็เลยเกิดกลุ่มแฟนคลับขึ้น มีแฟนคลับที่ตามเป็นทัพหน้าตามงานต่างๆ กับอยู่ในเว็บแฟนคลับ จขกท. จำไม่ได้แล้วว่ามีเท่าไหร่ ตอนนั้นเราอยู่ ป. 6 คือมันนานแล้วจริงๆ
ตอนนั้นครอบครัวเราได้สัมผัสกับคำว่าแฟนคลับแบบใกล้ๆ ได้เห็นกองของขวัญ ได้เห็นจดหมายเป็นปึกๆ ที่พีคคือตามมาส่องถึงหน้ารั้วบ้าน ตามไปคุยกับ จขกท. ที่โรงเรียนเพื่อล้วงเรื่องของพี่ชาย ไอเราก็เล่าหมด
ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะดี แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้น คือจู่ๆก็เกิดข่าวลิอในหมู่แฟนคลับว่า จริงๆแล้วพี่บีคือแฟนพี่เราที่แฝงตัวมาในคราบของผู้ดูแล มีการลือว่าสองคนนี้แอบเข้าโรงแรมไปมีอะไรกัน แอบมีอะไรกันในรถตู้ เริ่ม 18+ แระ
คุณแม่เล่าว่า แฟนคลับบุกไปฟ้องพ่อถึงที่บริษัท ไปฟ้องแม่ตอนแม่กำลังเดินห้าง ตอนแรกพ่อแม่เราก็หวั่นไหวนะ เพราะคิดว่าไม่มีมูลหมาไม่ขี้ แล้วพี่เราเองก็เป็นเสือ คืออายุยังไม่ 20 แต่ one night stand กับผู้หญิงแล้ว แต่ในที่สุดพ่อเชื่อในความดีของพี่บี และที่จริงพี่บีมีแฟนที่คบกันมานานมาก
จริงๆ ที่บ้านเราก็ไม่ได้สรุปง่ายๆ หรอกนะว่าแฟนคลับมโน แต่พอสืบจริงๆ ปรากฏว่าที่เค้าอ้างว่าเข้าโรงแรมไปทำอะไรกันนั้น มันมีพยานหลายคนยืนยันได้ว่าพี่เราทำงานอยู่ ส่วนเรื่องรถตู้ คนขับเป็นคนถือกุญแจ ถ้าคนขับไม่อยู่ในรถ รถก็ล็อค เข้าไปฟีทเจอริ่งกันไม่ด้ายยยยย
ในส่วนของพี่บี ถามว่าโดนอะไรบ้าง ก็โดนด่าหยาบคาย ขับรถตาม มีคนไปพบแฟนพี่บีเพื่อบอกว่าเธอมีอะไรกับพี่ชายเรา สรุปคือเป็นที่เกลียดชังของแฟนคลับโดยที่นางไม่ได้ทำอะไรผิดเลย คำถามคือข่าวลือนั้นมาจากไหน ใครเป็นคนสร้างขึ้น ยังไม่เฉลยนะคะ ให้เดากันเล่นๆ ก่อน
เบรกหน้า เรื่องราวของแฟนคลับ พี่ชายเรา และพี่บี จะกลายเป็นเรื่องเล็ก เพราะมีปัญหาใหญ่กว่านั้นรออยู่
และไม่ต้องเดานะคะว่าพี่เราคือดาราคนไหน คือเราได้บิดเบือนเรื่องราวบางส่วนที่ไม่กระทบแกนหลักของเรื่องราวที่ต้องการนำเสนอ เพื่อไม่ให้รู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะพี่เราออกจากวงการ พ้นจากการเป็นบุคคลสาธารณะไปนานแล้วค่ะ
ข่าวลือ กับความเจ็บปวดของศิลปิน เรื่องจริงที่อยากให้ PFC ได้อ่าน
เราก็ดีใจว่าไม่ต้องเล่าแล้ว แต่ก็มีปัญหาใหม่ๆ เข้ามา ก็เลยคิดว่าบทเรียนของคนรุ่นก่อน น่าจะเป็นประโยชน์แก่พวกเราบ้าง อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้มันเลือนหายไปกับกาลเวลา อาจจะเป็นบทความที่ยาวสักนิดนะคะ
แม่เราเป็นลูกครึ่ง ดังนั้นพี่ชายเราและเราจึงเป็นลูกเสี้ยว แต่คนที่หน้าตาดีมากๆ คือพี่ชายเรา เมื่อยี่สิบปีที่แล้วถ้าใครพอจะทัน ก็จะรู้ว่าคนหน้าตาลูกครึ่งฝรั่งจะเข้าวงการง่ายมาก พี่เราก็เช่นกัน เดินมาบุนครองแล้วแมวมองก็มาชักชวนเข้าวงการตอนอายุ 17 จริงๆ นางไม่สนใจวงการบันเทิง แต่อยากได้ตังค์แค่นั้นเอง
เริ่มแรกก็ถ่ายโฆษณา แล้วก็แจ้งเกิดจากโฆษณาตัวนั้นเลย จากนั้นก็ไปเรียนการแสดงเพื่อเตรียมตัวเล่นหนังของค่ายใหญ่ มาถึงตอนนี้พ่อเราเริ่มไม่โอเคแล้ว เพราะไม่อยากให้เข้าวงการแบบจริงจัง พ่อมองว่ามันเสี่ยงต่อการเสียคน
ณ ตอนนั้นคนที่ทำหน้าที่ดูแลพี่เราสมมติว่าชื่อ "พี่เอ" นะคะ (ไม่ใช่เอศุภชัยเด้อ) พี่เอคือคนที่ผู้จัดการของพี่เราส่งมา พ่อไม่โอเคกับผู้ชายคนนี้ คิอพ่อมองว่าจะพากันไปเสียคน แต่พี่เราก็ดื้อจะเป็นดาราให้ได้ พ่อเลยแก้ปัญหาโดยการเสียสละเลขาของตัวเอง ให้มาทำหน้าที่ดูแลพี่เราอีกคน โดยพ่อจ่ายตังค์จ้างเอง พี่คนนี้ให้ชื่อ พี่บี นะคะ
ต้องเล่าถึงพี่บีนิดนึงเพราะเป็นตัวละครที่สำคัญมาก พี่บีในตอนนั้นอายุเกือบสามสิบ แต่ดูเด็กและสวยมาก ทำงานกับพ่อมาตั้งแต่เพิ่งเรียนจบ ก็จะรู้นิสัยใจคอว่าเป็นคนดี มีความรับผิดชอบสูง สรุปพี่เรามีคนดูแล2คน คือพี่เอและพี่บี
ตัดกลับมาเรื่องงานของพี่ชาย หลังจากถ่ายโฆษณาหลายตัวก็ได้ไปเล่นหนังของค่ายใหญ่ เป็นบทกึ่งๆรับเชิญ คือบทมากกว่ารับเชิญนิดนึง แต่บทมันส่ง ประกอบกับหน้าตาที่อินเทรนด์ในยุคนั้น ปรากฏว่ามีคนกรี๊ดกันมาก ก็เลยเกิดกลุ่มแฟนคลับขึ้น มีแฟนคลับที่ตามเป็นทัพหน้าตามงานต่างๆ กับอยู่ในเว็บแฟนคลับ จขกท. จำไม่ได้แล้วว่ามีเท่าไหร่ ตอนนั้นเราอยู่ ป. 6 คือมันนานแล้วจริงๆ
ตอนนั้นครอบครัวเราได้สัมผัสกับคำว่าแฟนคลับแบบใกล้ๆ ได้เห็นกองของขวัญ ได้เห็นจดหมายเป็นปึกๆ ที่พีคคือตามมาส่องถึงหน้ารั้วบ้าน ตามไปคุยกับ จขกท. ที่โรงเรียนเพื่อล้วงเรื่องของพี่ชาย ไอเราก็เล่าหมด
ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะดี แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้น คือจู่ๆก็เกิดข่าวลิอในหมู่แฟนคลับว่า จริงๆแล้วพี่บีคือแฟนพี่เราที่แฝงตัวมาในคราบของผู้ดูแล มีการลือว่าสองคนนี้แอบเข้าโรงแรมไปมีอะไรกัน แอบมีอะไรกันในรถตู้ เริ่ม 18+ แระ
คุณแม่เล่าว่า แฟนคลับบุกไปฟ้องพ่อถึงที่บริษัท ไปฟ้องแม่ตอนแม่กำลังเดินห้าง ตอนแรกพ่อแม่เราก็หวั่นไหวนะ เพราะคิดว่าไม่มีมูลหมาไม่ขี้ แล้วพี่เราเองก็เป็นเสือ คืออายุยังไม่ 20 แต่ one night stand กับผู้หญิงแล้ว แต่ในที่สุดพ่อเชื่อในความดีของพี่บี และที่จริงพี่บีมีแฟนที่คบกันมานานมาก
จริงๆ ที่บ้านเราก็ไม่ได้สรุปง่ายๆ หรอกนะว่าแฟนคลับมโน แต่พอสืบจริงๆ ปรากฏว่าที่เค้าอ้างว่าเข้าโรงแรมไปทำอะไรกันนั้น มันมีพยานหลายคนยืนยันได้ว่าพี่เราทำงานอยู่ ส่วนเรื่องรถตู้ คนขับเป็นคนถือกุญแจ ถ้าคนขับไม่อยู่ในรถ รถก็ล็อค เข้าไปฟีทเจอริ่งกันไม่ด้ายยยยย
ในส่วนของพี่บี ถามว่าโดนอะไรบ้าง ก็โดนด่าหยาบคาย ขับรถตาม มีคนไปพบแฟนพี่บีเพื่อบอกว่าเธอมีอะไรกับพี่ชายเรา สรุปคือเป็นที่เกลียดชังของแฟนคลับโดยที่นางไม่ได้ทำอะไรผิดเลย คำถามคือข่าวลือนั้นมาจากไหน ใครเป็นคนสร้างขึ้น ยังไม่เฉลยนะคะ ให้เดากันเล่นๆ ก่อน
เบรกหน้า เรื่องราวของแฟนคลับ พี่ชายเรา และพี่บี จะกลายเป็นเรื่องเล็ก เพราะมีปัญหาใหญ่กว่านั้นรออยู่
และไม่ต้องเดานะคะว่าพี่เราคือดาราคนไหน คือเราได้บิดเบือนเรื่องราวบางส่วนที่ไม่กระทบแกนหลักของเรื่องราวที่ต้องการนำเสนอ เพื่อไม่ให้รู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะพี่เราออกจากวงการ พ้นจากการเป็นบุคคลสาธารณะไปนานแล้วค่ะ