ทำโอที แต่บริษัทไม่ยอมจ่ายเงินครับ

สวัสดีครับ  นี่เป็นกระทู้แรกของผม  เนื่องจากผมมีเรื่องที่อึดอัดใจเลยอยากจะมาปรึกษาทุกท่านครับ

เนื่องจากบริษัทที่ผมทำงานอยู่ปัจจุบัน ผมได้เริ่มทำงานตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. 59 ที่ผ่านมา  และกฎระเบียบของบริษัทเดิม คือจะไม่มีการจ่ายโอทีเป็นเงินให้ แต่จะให้นำเวลาที่ทำงานล่วงเวลา ไปหยุดชดเชยวันอื่นแทน  ซึ่งผมก็ยึดระเบียบนี้มาตลอด และเมื่อผมได้ทำงานล่วงเวลา ผมก็จะจดบันทึกส่วนตัวไว้ทุกครั้ง

จนเมื่อมาถึงเมื่อปลายเดือน เม.ย. 60 ที่ผ่านมา  ทางบริษัทได้รับ G.M. คนใหม่มาทำงาน  ซึ่งมาวันแรกก็แสดงอิทธิฤทธิ์ขั้นสูง โดยการด่าว่าทีมของผมทำงานแย่ ทำงานห่วย ไม่มีศักยภาพ
(ธุรกิจของบริษัทเป็น ธุรกิจนำเข้าชอคโกแลตชื่อดังที่มีสาขาตามห้างสรรพสินค้า  ซึ่งทีมของผม มีเพียง 5 คน  อยู่กันมาตั้งแต่บริษัทยังไม่มีสาขา  จนปัจจุบัน มีสาขาแล้ว 4 สาขา  ผมคิดว่า คน 5 คนกับงานของแต่ละคนก็เยอะมากนะครับ  โดยตัวผมเอง ดูทั้งหน้าร้าน จัดซื้อ และคุมสต๊อกทั้งหมด  คนอื่นๆไม่ต้องพูดถึง ทำงานกันจนแทบถวายชีวิต)

เมื่อ G.M. ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ขนาดนี้ ก็ทำให้ทีมผมทั้ง 5 คนตัดสินใจลาออกพร้อมกัน (ซึ่งไม่ได้มีผลกับบริษัทเลย เพราะวันรุ่งขึ้นทีมงานใหม่ก็มาทำงานครบทีม)

ประเด็นของผมมันอยู่ที่  ระยะเวลาที่ผมทำ OT ตั้งแต่เริ่มงานมา รวมแล้วทั้งสิ้นเกือบ 100 ชั่วโมง  เมื่อผมแจ้งลาออกแล้ว ผมก็ได้ถาม G.M. ว่า โอทีของผม จะให้หยุดชดเชย หรือจะจ่ายเป็นเงิน  ซึ่งคำตอบที่ได้คือ จะจ่ายเป็นเงิน  กระนั้นแล้วผมก็ยังไม่ไว้ใจซักเท่าไหร่  จึงทำ MEMO ขึ้นมาเรื่องแจ้งจ่ายเงินค่าล่วงเวลาทั้งหมดให้ผม  โดย MEMO นี้ มีลายเซ็นของ หัวหน้าเก่า 2 คน, G.M. คนใหม่, และผู้บริหาร เรียบร้อยแล้ว  โดยมีลายมือของ G.M. เขียนเพิ่มเติมว่า "อนุมัติจ่าย" พร้อมเซ็นกำกับ  และ MEMO ฉบับนี้ก็ส่งของฝ่ายบุคคล เพื่อทำจ่ายค่า OT รวมกับเงินเดือน เดือนสุดท้าย

เมื่อวันสุดท้ายของการทำงานมาถึง  ผมได้รับแจ้งจากฝ่ายบุคคลว่า เงินค่า OT ของผม "ไม่อนุมัติจ่าย" ผมจึงไปสอบถาม G.M. คำตอบที่ได้คือ "G.M. ยังไม่ได้ตรวจสอบ และหัวหน้าเก่าของผมยังไม่ได้ยืนยันว่าผมทำงานจริง"  ซึ่งความสงสัยของผมก็เกิดขึ้นทันที  เพราะ MEMO ก็ทำเสร็จแล้ว  หัวหน้าผมไปจนถึงผู้บริหารก็เซ็นให้แล้ว  และ G.M. ก็เขียนด้วยลายมือตัวเองว่า "อนุมัติจ่าย" ทำไม G.M. กลับมาบอกเองว่ายังไม่ได้ตรวจสอบ แล้วที่เซ็นไปคืออะไร???

คำตอบจาก G.M. คือ "ตามกฎหมายแรงงาน หากพนักงานจะทำ OT จะยื่นเรื่องขออนุญาตก่อนทำงานทุกครั้ง"  ซึ่งผมก็แย้งแล้วว่า บริษัทไม่เคยมีกฎนี้  การทำงานของผม อยู่ภายใต้การสั่งงานของหัวหน้าอยู่แล้ว แต่ G.M. ก็ยังยืนยันจะไม่จ่าย ต้องตรวจสอบก่อน


ผมเลยอยากจะมาปรึกษาทุกคนว่า...
1)  กรณีนี้ ผมควรยื่นเรื่องกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานไหมครับ (หลักฐาน MEMO ผมมีสำเนาไว้แล้ว)
2)  ตามที่ G.M. บอกว่า พนักงานที่จะทำ OT จะต้องยื่นเอกสารขออนุญาตก่อน  จริงหรือไม่ครับ
3)  โดยปกติเอกสาร ที่มีลายเซ็นของผู้มีอำนาจแล้ว และส่งต่อไปถึงฝ่ายบุคคลแล้ว  เมื่อถึงเวลาจ่ายเงิน บริษัทกลับไม่จ่ายโดยให้เหตุผลว่า ต้องตรวจสอบก่อน  บริษัทสามารถทำแบบนี้ได้ด้วยหรอครับ  (ในเมื่อเอกสารมีลายเซ็นอนุมัติเรียบร้อย  มันคือการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว  ผมเข้าใจถูกไหมครับ)


จริงๆผมก็จะยังไม่ยื่นเรื่องที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานหรอกครับ เพราะคิดว่าจะให้เวลาเขาตรวจสอบ  แต่พี่ที่บริษัทแอบมาบอกว่า G.M. คุยกันในทีมว่าจะไม่จ่าย เพราะผมไม่มีหลักฐานการทำงานเลย  สแกนลายนิ้วมือก็ไม่มี  (จะมีได้ไงอ่ะครับ  เพราะผมทำ OT แต่ละทีก็จะไปทำที่สาขา เพราะสาขาเพิ่งเปิดใหม่ ทีละสาขา ผมก็ต้องไปจัดร้าน แต่งร้าน เฝ้าช่าง ฯลฯ ซึ่งผมไม่ได้ทำงานในออฟฟิตนะครับ  จะสแกนลายนิ้วมือได้ไง!!!)  ทีนี้ผมเลยคิดหนักเลย จะแจ้งเลยดีไหม

และอีกประเด็นคือ จริงๆบริษัทของผมเป็นบริษัทเปิดใหม่ โดยแต่เดิมผู้บริหารของผมมีธุรกิจเดิมอยู่แล้ว แต่ได้เปิดบริษัทเพิ่ม เพราะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร  และทั้งของบริษํทก็ใช้ออฟฟิตร่วมกัน ทำให้ผมเห็นว่า การดำเนินการของผู้บริษัทจะเป็นแบบ "เมื่อพนักงานลาออก จะมีหมายไปหาถึงบ้านแทบทุกคน"  จนพนักงานพูดกันว่า "ที่นี่ ผู้บริหารฟ้องพนักงานจนเป็ยวัฒนธรรมองค์กร" ซึ่งกระทู้หน้า ผมจะมาเล่าให้ฟังนะครับ   และผมก็ได้ยินสารลับมาจากสปายว่า G.M. บอกว่า ทางบริษัทกำลังหาเรื่องฟ้องผมอยู่  ซึ่งผมคิดว่า ถ้าผมไปแจ้งกรมแรงงานเรื่อง OT  ผมก็จะโดนบริษัทหาเรื่องฟ้องกลับมาแน่นอน  จนพี่ที่สนิทกันแนะนำว่า ถ้าผมได้งานใหม่เงินเดือนดีๆ  O.T. ตรงนี้ก็ทิ้งไปเถอะ เพราะถ้าผมฟ้องกรมแรงงาน ไหนจะต้องเสียเวลามาศาล ไหนจะเรื่องบริษัทฟ้องผม  เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าใช้จ่าย ดีไม่ดี เสียความน่าเชื่อถือในหน้าที่การงานด้วย


ปัญหานี้ ผมนั่งคิดนอนคิดมาหลายวันแล้ว จนทำให้ผมนอนแทบไม่หลับเลย  ยอมรับว่าเครียดมาก  จึงอยากจะมีปรึกษาทุกท่านว่าผมควรทำอย่างไร และขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วยรับฟังปัญหาของผมนะครับ................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่