ช่วงนี้มีกระแสย้อนยุค 90s กันมาก บางอย่างก็เป็นสิ่งที่ดี ที่อยากให้มีในยุคนี้ แต่ผมเชื่อว่ามีหลายอย่างที่คุณไม่ถวิลหา
ของผม
1.ตู้โทรศัพท์แบบหยอดเหรียญ หรือแบบบัตร อะไรก็แล้วแต่

ผมมีความหลังที่ไม่ดีกับตู้โทรศัพท์ จนผมต้องพกมือถือสำรองติดกระเป๋า กับ PowerBank 2 ลูก
เช่น ตอนเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่นน้ำท่วม โรงเรียนให้นักเรียนโทรหา ผปค. ให้มารับกลับบ้าน จะมีคนเข้าคิวใช้โทรศัพท์ที่มีจำนวนน้อย ยาวพอๆกับรอซื้อไอโฟนออกใหม่
หรือรอซื้อคริสปี้ครีมในยุค 2011 เลยทีเดียว คนบ้านรวยพกมือถือก็สบายไป ได้กลับก่อน
ระหว่างรอโทรศัพท์ กับเดินกลับบ้าน อย่างหลังน่าจะเร็วกว่า 55555
แต่ตอนนั้นยังเด็ก ใจไม่กล้าพอที่จะเดินกลับ มาตอนมัธยม เดินกลับได้ แต่ก็มีมือถือละ
และเคยมีเหตุฉุกเฉิน มือถือแบตหมด แต่ตู้โทรศัพท์พึ่งไม่ได้ ต่อมาผมก็ซื้อมือถือซัมซุงเครื่องละห้าร้อยบาทติดกระเป๋า รุ่นเก่ากว่าฮีโร่ (Samsung e1070) จนมี Powerbank เลยซื้อมาใช้
ปัจจุบันมีแอนดรอย์เก่าๆ (Galaxy 5 i5503) เครื่องเก่าที่เคยใช้เป็นเครื่องหลักติดกระเป๋าไว้ กับ Powerbank ลูกเล็ก 1 ลูก ลูกใหญ่ 1 ลูก หรือมากกว่านั้น
ไม่เคยคิดถึงโทรศัพท์หยอดเหรียญอีกเลย
มีข่าวว่าจะรื้อทิ้ง บางคนไม่อยากให้รื้อ แต่ สต อยากให้รื้อไปเลย แล้วเอาบุญเติมหรือ WiFi ฟรีแบบในรถเมล์ยูโรมาติดแทนจะดีกว่า
และในยุคมือถือแจกฟรี Powerbank เกลื่อนเมือง มือถือชาร์จกับคอมได้และใช้พอร์ตมาตรฐาน ผมว่ายิ่งไม่จำเป็น
2.น้ำใส่อุทัยทิพย์ตามร้านอาหาร

สมัยก่อนนี่มีเยอะมากๆ ผมไม่ชอบเพราะมีกลิ่นแปลกๆ
3.ลูกโป่ง

ยุค 90s ตามงานต่างๆชอบประดับด้วยลูกโป่งยางราคาถูก ระเบิดง่าย ตอนเด็กๆ ผมมีความหลังไม่ดีเกี่ยวกับลูกโป่ง
ตอนอายุ 3 ขวบ ลูกโป่งระเบิดใส่หน้าในงานวันเกิดญาติ หลังจากนั้นก็ไม่เข้าใกล้อีกเลย
ช่วงหลังมีน้อยลง ถ้ามีส่วนใหญ่เป็นลูกโป่งหนา แบบในร้านมือถือ Oppo Vivo ก็ยังดีกว่าสมัยก่อนมาก
4.ดิสเกต

ยุคก่อน มีดิสเกต ขนาดแค่ 1.44MB ความเร็วในการเขียนข้อมูลก็ต่ำตมมาก เท่านั้นไม่พอ ยังเสียง่าย พังไวอีก
ใครเซฟงานในดิสเกต เกิดพังขึ้นมา ลมแทบจับ
แถมเวลาบันทึกยังเสียงดังน่ารำคาญ
ผมเลยใช้แต่ของ Sony เพราะไม่พังไว เสียแล้วยังมีเวลากู้ข้อมูลอีกนาน แพงกว่าเท่าตัวแต่สบายใจกว่า
หลังจากได้แฟลชไดรฟ์ Kingston 128MB ก็ไม่หันไปแลอีกเลย
จนเมื่อปีที่แล้ว ลองเอาดิสเกต Sony ไปลองเปิดดู ปรากฏว่า ยังอ่านและบันทึกข้อมูลได้อยู่ Sony มันเทพจริงๆ
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผม
ใครไม่อยากให้อะไรกลับมา หรือมีความหลังไม่ดีกับอะไร ลองมาคุยกันได้ครับ
ของในยุค 90s-2000s ที่คุณไม่อยากให้กลับมา คืออะไร???
ของผม
1.ตู้โทรศัพท์แบบหยอดเหรียญ หรือแบบบัตร อะไรก็แล้วแต่
ผมมีความหลังที่ไม่ดีกับตู้โทรศัพท์ จนผมต้องพกมือถือสำรองติดกระเป๋า กับ PowerBank 2 ลูก
เช่น ตอนเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่นน้ำท่วม โรงเรียนให้นักเรียนโทรหา ผปค. ให้มารับกลับบ้าน จะมีคนเข้าคิวใช้โทรศัพท์ที่มีจำนวนน้อย ยาวพอๆกับรอซื้อไอโฟนออกใหม่
หรือรอซื้อคริสปี้ครีมในยุค 2011 เลยทีเดียว คนบ้านรวยพกมือถือก็สบายไป ได้กลับก่อน
ระหว่างรอโทรศัพท์ กับเดินกลับบ้าน อย่างหลังน่าจะเร็วกว่า 55555
แต่ตอนนั้นยังเด็ก ใจไม่กล้าพอที่จะเดินกลับ มาตอนมัธยม เดินกลับได้ แต่ก็มีมือถือละ
และเคยมีเหตุฉุกเฉิน มือถือแบตหมด แต่ตู้โทรศัพท์พึ่งไม่ได้ ต่อมาผมก็ซื้อมือถือซัมซุงเครื่องละห้าร้อยบาทติดกระเป๋า รุ่นเก่ากว่าฮีโร่ (Samsung e1070) จนมี Powerbank เลยซื้อมาใช้
ปัจจุบันมีแอนดรอย์เก่าๆ (Galaxy 5 i5503) เครื่องเก่าที่เคยใช้เป็นเครื่องหลักติดกระเป๋าไว้ กับ Powerbank ลูกเล็ก 1 ลูก ลูกใหญ่ 1 ลูก หรือมากกว่านั้น
ไม่เคยคิดถึงโทรศัพท์หยอดเหรียญอีกเลย
มีข่าวว่าจะรื้อทิ้ง บางคนไม่อยากให้รื้อ แต่ สต อยากให้รื้อไปเลย แล้วเอาบุญเติมหรือ WiFi ฟรีแบบในรถเมล์ยูโรมาติดแทนจะดีกว่า
และในยุคมือถือแจกฟรี Powerbank เกลื่อนเมือง มือถือชาร์จกับคอมได้และใช้พอร์ตมาตรฐาน ผมว่ายิ่งไม่จำเป็น
2.น้ำใส่อุทัยทิพย์ตามร้านอาหาร
สมัยก่อนนี่มีเยอะมากๆ ผมไม่ชอบเพราะมีกลิ่นแปลกๆ
3.ลูกโป่ง
ยุค 90s ตามงานต่างๆชอบประดับด้วยลูกโป่งยางราคาถูก ระเบิดง่าย ตอนเด็กๆ ผมมีความหลังไม่ดีเกี่ยวกับลูกโป่ง
ตอนอายุ 3 ขวบ ลูกโป่งระเบิดใส่หน้าในงานวันเกิดญาติ หลังจากนั้นก็ไม่เข้าใกล้อีกเลย
ช่วงหลังมีน้อยลง ถ้ามีส่วนใหญ่เป็นลูกโป่งหนา แบบในร้านมือถือ Oppo Vivo ก็ยังดีกว่าสมัยก่อนมาก
4.ดิสเกต
ยุคก่อน มีดิสเกต ขนาดแค่ 1.44MB ความเร็วในการเขียนข้อมูลก็ต่ำตมมาก เท่านั้นไม่พอ ยังเสียง่าย พังไวอีก
ใครเซฟงานในดิสเกต เกิดพังขึ้นมา ลมแทบจับ
แถมเวลาบันทึกยังเสียงดังน่ารำคาญ
ผมเลยใช้แต่ของ Sony เพราะไม่พังไว เสียแล้วยังมีเวลากู้ข้อมูลอีกนาน แพงกว่าเท่าตัวแต่สบายใจกว่า
หลังจากได้แฟลชไดรฟ์ Kingston 128MB ก็ไม่หันไปแลอีกเลย
จนเมื่อปีที่แล้ว ลองเอาดิสเกต Sony ไปลองเปิดดู ปรากฏว่า ยังอ่านและบันทึกข้อมูลได้อยู่ Sony มันเทพจริงๆ
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผม
ใครไม่อยากให้อะไรกลับมา หรือมีความหลังไม่ดีกับอะไร ลองมาคุยกันได้ครับ