ท่านลุงอุบล ที่ข้าพเจ้ารู้จัก

กระทู้คำถาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ในห้องราชดำเนิน น้อยคนที่จะไม่มีใครรู้จักท่านลุงอุบล ผู้ใหญ่ใจดี ที่มีเมตตา มาเสมอ

ข้าพเจ้า ในฐานะ ที่เป็นเพื่อนร่วมบอร์ด และเป็นอีกคน ที่เคยได้พบปะ สนทนากับท่านลุงอุบลมาแล้ว แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ
แต่สิ่งที่ท่านลุงอุบล กรุณา สั่งสอน และ ให้ความเข้าใจในเรื่องธรรมะ กลับทำให้ข้าพเจ้า รู้สึกนับถือ และประทับใจ
ในชายผู้สูงวัยท่านนี้มากขึ้น สมกับคำร่ำลือ หรือความเคารพ ของใครหลายคนในนี้  จะมอบให้ท่านลุงอุบล อย่างไม่มีข้อสงสัยเลยค่ะ

ย้อนท้าวความกลับไป การพบกันของข้าพเจ้าและท่านลุงอุบล ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการสนทนาหลังไมค์กันสั้นๆ
เพราะสืบเนื่องจาก มีกระทู้หนึ่ง ที่ข้าพเจ้าเคยตั้งไว้ เกี่ยวกับเรื่อง  "  มิจฉาทิฐิ " แต่ด้วยความที่ตัวเอง ยังด้อยเรื่องธรรมะ อยู่มาก
เลยเขียน "  เป็นสัมมาทิฐิ "  และกระทู้นั้น มีคนเข้ามาคอมเม้นท์ ให้แตกความคิด ไปได้เยอะ ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนการสนทนา
อันเป็นประโยชน์ และมีคุณค่าต่อข้าพเจ้ายิ่งนัก

และ ท่านลุงอุบล เป็นอีกท่าน ที่ตามอ่านอย่างเงียบๆ  สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ ที่ใจดี และให้เกียรติคู่สนทนาคือ
ท่านกรุณา ส่งหลังไมค์มาบอก ว่า " มิจฉาทิฐิ " กับ " สัมมาทิฐิ"   ความหมายต่างกันอย่างไร ทำให้ข้าพเจ้าต้องรีบกลับไปแก้ไขข้อความ

และการที่ท่านไม่เขียนบอกหน้าบอร์ด  ข้าพเจ้าก็เข้าใจว่า ท่านลุงอุบล ต้องการรักษาหน้า ของข้าพเจ้า ที่เขียนผิด และ ต้องการให้กระทู้
สนทนาไปแบบแลกเปลี่ยน อย่างไม่สะดุด

ตรงนั้น ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่มองไกล และมิตรภาพของผู้ใหญ่ ที่มอบให้ ผู้น้อยอย่างเรา
ทำให้รู้สึกซึ้ง และนับถือท่านลุงอุบล ขึ้นมากกว่าเดิม และเป็นที่มาของการนัดพบกัน ที่สนามบินดอนเมือง เมื่อท่านลุงบินกลับอุบล

เรื่องนี้จึงทำให้ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่า การใช้หลังไมค์เพื่อปรับความคิด ชี้แนะ และสั่งสอน ทำความเข้าใจ  
จึงเป็นวิธีของคนส่วนใหญ่ที่มีความรู้ ความคิด จะพึงกระทำ  มากกว่าการติติงหรือ สร้างกระแส หน้าบอร์ด


ต่อมาเมื่อได้พบกับท่านลุงที่สนามบิน ท่านลุงไดมอบหนังสือให้เล่มหนึ่ง คือ หนังสือธรรมะของ หลวงพ่อคำเขียน  สุวัณโณ
เรื่อง  "ไม่เป็นอะไรกับอะไร"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


หลายปี ที่ข้าพเจ้าเฝ้าอ่าน เฝ้ามอง บุคคลในห้องราชฯ ที่มีแนวความคิดทางการเมืองในแต่ละขั้ว ว่าต่างกันอย่างไร
ใครมีแนวความคิดอย่างไร และ เข้ามาเล่นบอร์ด ด้วยจุดประสงค์ใดเป็นหลัก

บางคนก็เล่นเพราะอุดมการณ์ บางคนก็หาเพื่อน บางคนก็ล่นเพราะสนุก และอยากหาคนคุยเพื่อแลก เปลี่ยน ปสก และความรู้
บางคนก็อยากทราบข่าวสารบ้านเมือง และบางคนก็เล่นเพื่อผลประโยชน์  บางคนก็อยากมีตัวตนในสังคมของโลกไซเบอร์
ขึ้นอยู่กับตัวตนและอุปนิสัยของคนๆนั้น

ซึ่งถ้าทำใจให้นิ่ง และยอมรับกับความเป็นมนุษย์ที่ มีลักษณะนิสัยและการอบรมเลี้ยงดูที่ต่างกันของแแต่ละครอบครัว
เราจะเห็นว่า ทุกอย่างล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น การเล่นบอร์ดจึงมีหลายนัยยะ หลายความคิดเห็น คนเล่นจึงต้องใช้วิจารณญาณ



ต่อมาอีกคือ ความเป็นจริง นอกบอร์ด หรือเราเรียกว่าโลกจริง ส่วนตัวเห็นด้วยกับการพบปะ สังสรรค์เพื่อสร้างมิตรภาพของกลุ่มเพื่อน
ที่มีแนวอุดมการณ์เหมือนกัน ตรงกัน และการพบปะพูดคุย และให้กำลังใจต่อ พรรคการเมือง และนักการเมืองที่เราชื่นชอบ หรือศรัทธา
ก็ไม่ใช่เรื่องผิด หรือเรื่องแปลกอันใด ทุกคน ทุกพรรค มีสิทธิ ที่จะทำได้ จัดกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์ได้ และการบอกกล่าว เล่าเรื่อง
ก็เป็น ความน่ารัก และมิตรภาพ ที่ทำให้คนอ่าน รู้สึกดี เมื่อเห็นกิจกรรมดีๆ เกิดขึ้น

จขกท เอง สนับสนุน และอยากเห็นทุกกลุ่ม ร่วมเสวนาทำกิจกรรม  และ แลกเปลี่ยนความเห็นกัน ในโลกจริง มากกวาในบอร์ดด้วยซ้ำ
เพราะ จขกท เชื่อว่าการพบปะกันในโลกจริง การสนทนาผ่านสายตา ความคิด คำพูด จะสามารถคัดกรอง และแยกแยะคน ได้ดีกว่า
การสนทนาผ่านตัวหนังสืออีกค่ะ  เรืยกว่า ดีไม่ดี ดูจากอากัปกิริยาท่าทาง หรืออุปนิสัย ที่แสดงออก ที่งทางคำพูดและวิสัยทัศน์ได้เลย

ในความคิดของ จขกท ในบอร์ดหากการอ้างถึงการไม่มีตัวตนและการเสมอภาค ก็ย่อมทำได้ในสิทธิเสรีและความคิดนั้นๆ
หากการถกเถียงจะเกิดดจากความเข้าใจผิด และไม่รู้ตัวตน หรือประวัติ ของคุ๋สนทนา ว่าเป็นมาอย่างไร

แต่หาก เมื่อพบปะกันในโลกจริง รู้จักตัวตนจริงๆ รู้จักหน้าที่การงาน และยิ่งถ้าเคยมีสัมพันธ์ไมตรี ที่ดีต่อกันแล้ว การรักษามิตรภาพ
อันดี และการแสดงออกถึงความเคารพ ผู้ที่มีทั้ง วัยวุฒิ และคุณวุฒิ ที่สูงกว่า ย่อมเป็นสิ่งที่ควรระลึกและจดจำไว้ในสำนึกเสมอ

เพราะหากไม่รักษามิตรภาพและน้ำใจต่อกัน มันยากที่จะเรียกความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้กันกลับมา เราจึงควรรักษาความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน
ไว้ให้นานที่สุดค่ะ เพราะถ้าใครเสียความรู้สึกดีๆไป มิตรภาพมันก็หายไปด้วย

สังคมไทยน้อยนักที่จะมองเห็นความก้าวร้าวต่อผู้ใหญ่ เป็นสิ่งที่ควรยกย่อง หรือสนับสนุน  เพราะนั้นคือความไม่รู้กาละเทศะ
และบ่งบอกถึงการอบรมเลี้ยงดู ว่าดีแค่ไหนและ ครอบครัวมีพื้นฐานอย่างไร

หลายครอบครัวจึงสอนให้ลูกหลาน เคารพผู้ใหญ่ และ ฟังเมื่อผู้ใหญ่พูด และอบรมสั่งสอนไปในแนวทางที่ถูกที่ควร

การเคารพผู้ใหญ่และเดินตามหลังผู้ใหญ่ จะเป็นแนวทาง ให้เด็กโต ขึ้นมาด้วยความอ่อนน้อม และกตัญญู และจะสร้างความเจริญ
ให้แก่ตนเองในภายภาคหน้าค่ะ    ดั่งคำที่ว่า ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน นั่นคือความจริงเสมอ


สวัสดีวันอาทิตย์ วันหยุดสบายๆค่ะ...flower
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่