เราเปิดบริษัททัวร์ปีนี้ เข้าปีที่ 7
ในช่วง 4 ปีแรกธุรกิจดีมาก แต่พอ 2015 ถึงตอนนี้ กราฟก็เริ่มตกลงเรื่อยๆ
แต่ที่แย่มาก ๆ คือปีนี้
ตรงที่ เรามองเห็นว่า การใช้ travel agent มันเหมือน "หมดยุค" เพราะเดี๋ยวนี้สายการบิน ก็ให้จองหน้าเว็บไซด์ ทำ promotion ตรงกับลูกค้า บาง deal ราคาให้ถูกกว่า agent เสียอีก บางทีก็เท่ากันเลย
เดี๋ยวนี้พวก online travel agent อย่าง expedia, agoda, traveloka และอีกมากมาย ก็ดาหน้าหาผู้บริโภคโดยตรง
บัตรเครดิตก็ทำ promotion ใช้บัตรเขา จองห้องพัก จองลดเช่า ซื้อตั๋วเครื่องบิน ลดเปอร์เซ็นต์มากมาย จนตอนนี้ แทบทุกบริษัททัวร์ ต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้อยู่รอด ตัดราคาห้ำหั่นกันเอง หรือทำทัวร์แบบเอากำไรต่ำมาก การแข่งขันสูง เราเองบางทีก็ต้อง ๆ ขายไป ดีกว่า ไม่มีรายได้เข้า
เราเริ่มมองอนาคตข้างหน้าไม่เห็นว่า การทำธุรกิจแบบ travel agent จะเติบโตไปในทางบวก เพราะดูเหมือนว่า เทคโนโลยีจะเข้ามาแทนที่ และสนามนี้ดุเดือดเหลือเกิน มีผู้เล่นหน้าใหม่อยากเข้าวงการนี้ตลอดเวลา ส่วนผู้เล่นเก่า ก็เก๋า มีความ strong และเข้มแข็ง เปรียบเสมือนเขาเป็น lotus , bigC ในตลาดทัวร์ ดังนั้น "คนกลาง" ที่ประสบการณ์กลาง ๆ อย่างเรา และมี fixed cost ที่ต้องจ่ายเดือน ๆ หนึ่ง หลายแสน จะอยู่รอดในตลาดนี้หรือป่าว เราคิดว่า ปรับตัวสู้ จะสู้ไหวไหม
หรือเราควร ปิดกิจการเสียแต่ตอนนี้ เพื่อไม่ดันทุรัง จนเงินเก็บที่เหลือหมด หรือเราควรจะทำอีกก้าวของชีวิตไปในทางไหน
ปล. เราไม่ได้มีความถนัดทางด้านอื่น เรามีประสบการณ์ทำทัวร์มาสัก 10 ปีได้แล้ว แต่เราเป็นคนขยัน แต่ก็มีความจิตตก แต่บอกตรง ๆ ว่าถ้าให้ไปเป็นลูกจ้างใครตอนนี้ เราว่า มันไม่ใช่เรา ถ้าเป็นไปได้ เราอยากทำธุรกิจอื่นมากกว่า หากเราจะปิดอันนี้จริง ๆ แต่เราก็ไม่รู้ว่า เราจะทำอะไรดี ที่น่าจะเหมาะและมีอนาคตกับเรา ส่วนลูกน้อง เราจ่ายเขา 3 เดือน 6 เดือนตามกฏหมายอยู่แล้ว เขายังมีทางไป แต่เรานี่สิ ถ้าปิดจริง เราก็จะไม่มีอาชีพ
หรือ ดีกว่ามีอาชีพ ที่อาจจะรอด หรือไม่รอด แล้วต้องเอาเงินเก็บมาใช้ จนเงินเก็บหายไปเรื่อยๆ อันนี้เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้จริง ๆ
หาบทสรุปไม่เจอ อยากได้ความคิดเห็นที่หลายหลาย พิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป
ขอขอบคุณล่วงหน้า สำหรับความคิดเห็น
อนาคตอันริบหรี่ ของอาชีพ "Travel Agent” หรือว่า ควรปิดกิจการซะเลย
แต่ที่แย่มาก ๆ คือปีนี้
เดี๋ยวนี้พวก online travel agent อย่าง expedia, agoda, traveloka และอีกมากมาย ก็ดาหน้าหาผู้บริโภคโดยตรง
บัตรเครดิตก็ทำ promotion ใช้บัตรเขา จองห้องพัก จองลดเช่า ซื้อตั๋วเครื่องบิน ลดเปอร์เซ็นต์มากมาย จนตอนนี้ แทบทุกบริษัททัวร์ ต้องทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้อยู่รอด ตัดราคาห้ำหั่นกันเอง หรือทำทัวร์แบบเอากำไรต่ำมาก การแข่งขันสูง เราเองบางทีก็ต้อง ๆ ขายไป ดีกว่า ไม่มีรายได้เข้า
เราเริ่มมองอนาคตข้างหน้าไม่เห็นว่า การทำธุรกิจแบบ travel agent จะเติบโตไปในทางบวก เพราะดูเหมือนว่า เทคโนโลยีจะเข้ามาแทนที่ และสนามนี้ดุเดือดเหลือเกิน มีผู้เล่นหน้าใหม่อยากเข้าวงการนี้ตลอดเวลา ส่วนผู้เล่นเก่า ก็เก๋า มีความ strong และเข้มแข็ง เปรียบเสมือนเขาเป็น lotus , bigC ในตลาดทัวร์ ดังนั้น "คนกลาง" ที่ประสบการณ์กลาง ๆ อย่างเรา และมี fixed cost ที่ต้องจ่ายเดือน ๆ หนึ่ง หลายแสน จะอยู่รอดในตลาดนี้หรือป่าว เราคิดว่า ปรับตัวสู้ จะสู้ไหวไหม
หรือเราควร ปิดกิจการเสียแต่ตอนนี้ เพื่อไม่ดันทุรัง จนเงินเก็บที่เหลือหมด หรือเราควรจะทำอีกก้าวของชีวิตไปในทางไหน
ปล. เราไม่ได้มีความถนัดทางด้านอื่น เรามีประสบการณ์ทำทัวร์มาสัก 10 ปีได้แล้ว แต่เราเป็นคนขยัน แต่ก็มีความจิตตก แต่บอกตรง ๆ ว่าถ้าให้ไปเป็นลูกจ้างใครตอนนี้ เราว่า มันไม่ใช่เรา ถ้าเป็นไปได้ เราอยากทำธุรกิจอื่นมากกว่า หากเราจะปิดอันนี้จริง ๆ แต่เราก็ไม่รู้ว่า เราจะทำอะไรดี ที่น่าจะเหมาะและมีอนาคตกับเรา ส่วนลูกน้อง เราจ่ายเขา 3 เดือน 6 เดือนตามกฏหมายอยู่แล้ว เขายังมีทางไป แต่เรานี่สิ ถ้าปิดจริง เราก็จะไม่มีอาชีพ
หรือ ดีกว่ามีอาชีพ ที่อาจจะรอด หรือไม่รอด แล้วต้องเอาเงินเก็บมาใช้ จนเงินเก็บหายไปเรื่อยๆ อันนี้เป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้จริง ๆ
หาบทสรุปไม่เจอ อยากได้ความคิดเห็นที่หลายหลาย พิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป
ขอขอบคุณล่วงหน้า สำหรับความคิดเห็น