สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมจะมารีวิวการเดินทางของผมจากสายการบิน EVA Air บินตรงมาไกลจากลอนดอนเลยทีเดียว แต่จะเป็นเพียงรีวิวสั้นๆ เล่าเรื่องราวความประทับใจกับการบริการนะครับ เชิญติดตามได้เลย
EVA Air (อีวีเอ แอร์) เป็นสายการบินเอกชนสัญชาติไต้หวัน มีฐานการบินหลักอยู่ท่าอากาศยานเถาหยวน เมืองไทเป
และมีเที่ยวบินไปยังท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ทุกวัน (TPE-LHR via Bangkok)
Flight BR0068
Route : LHR-BKK
Date : 24 June 2017
Departure Time : 9.35 pm (BST +0.00)
Duration : 11 hrs 30 mins
Seat : 64C
Class : Economy Class
Aircraft : Boeing B777-300ER
Check-in
เรามาเช็คอินกันที่ Terminal 2 : The Queen's Terminal ตรงเข้าไปในประตู แล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะเจอกับ Check-in Row ของ Star Alliance
ด้านหน้า Check-in Row จะมีเครื่องเช็คอินอัตโนมัติ ทำตรงนั้นให้เสร็จเรียบร้อยตามขั้นตอนบนจอ จะได้ Boarding Pass และ Tag ติดกระเป๋าโหลดมา หลังจากนั้นก็ไปต่อคิวตามที่เจ้าหน้าที่บอก
สิ่งที่ผมไม่ค่อยประทับใจกับสนามบินนี้ คือการนำสายการบินเครือเดียวกันมาไว้ด้วยกัน มันก็สะดวกระดับหนึ่งในการหาสายการบินเรา แต่มันใช้เวลาต่อคิวนาน ขนาดคนน้อยๆ ก็อย่างน้อยครึ่งชม.ได้
หลังจากผ่านการCheck-in การตรวจกระเป๋าจากทางสนามบินเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลา enjoy shopping หรือแม้แต่ eating 555
YO! Sushi ซักหน่อย ราคาไม่แพงครับ 5.02ปอนด์ (ห้ามคูณเป็นเงินไทย xx) อันนี้ถือว่าราคาไม่ต่างจากด้านนอกเลยครับ
ส่วนใครที่ยังช้อปไม่เต็มที่ ที่T2 ก็มีช็อปมากมายให้เลือก ตั้งแต่ Harrods, Burberry, BOSS, Mulberry etc. รวมไปถึง Chocolate / Tea หรือของฝากเล็กๆน้อยครับ
ได้เวลาอันสมควร หลังจาก Gate ขึ้น ก็ตรงดิ่งไปยัง B46 ใช้เวลาเดิน 15 นาที ไกลพอควร
ที่ประทับใจอีกอย่างคือ สนามบินจะมีบอกว่าจากจุดนี้ ไปยังแต่ละGateจะใช้เวลากี่นาที เราจะได้คำนวณเวลาได้ถูกครับ
ส่วน Gate B47 ข้างๆเราก็เป็นการบินไทย B777-300ER เช่นกัน ปลายทางกรุงเทพฯ ออกห่างกัน 5 นาทีครับ
ฮู้วว.. ตื่นเต้นน จะได้กลับบ้านแล้ว ไม่ได้กลับบ้านมาเกือบปีแล้ว See you soon BKK!
เข้ามาในเครื่องเรียบร้อย ห้องโดยสารชั้นประหยัดจัดที่นั่งแบบ 3-3-3 นั่งสบายมากครับ seat pitch กว้างกว่า TG (ผมเป็นคนตัวใหญ่ยังนั่งสบายเลยครับ) และก็ leg room กว้างมากกก ผมสูง 175 ซม. ยังเหยียดได้เต็มที่เลย เบาะก็เอนได้เยอะกว่า TG ไฟลท์นี้หลับสบายยย Zzz
อีกหนึ่งอย่างที่ประทับใจคือจอบนเครื่อง ประทับใจจริงๆ จอลื่นมากกก Touch แค่ปลายนิ้วก็ไปแล้ววว ตอนแรกก็งมหารีโมต แต่เจ้านี้ไม่มีบริการนะฮะ แค่นิ้วจิ้มๆก็ไปแล้ว
ส่วนช่อง USB และช่องเสียบหูฟังก็อยู่ใต้จอเลย สะดวกสบายมากครับ
ผมเจอมีประสบการณ์นั่ง TG ช่องเสียบหูฟังจะอยู่ข้างที่นั่งเรา ผมก็นอนท่าไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีตื่นมา ทำไมเสียงไม่ออกจากหูฟัง พอยกผ้าห่มขึ้น เงิบบบบ .. แจ๊คหักคาช่องเสียบเลยจ้าา
ท้องฟ้าหลังจาก Take off ที่ LHR ณ ตอนนั้นคือเวลา4ทุ่มกว่าๆ ฟ้ายังสว่างอยู่เลย
(ช่วง Summer ของอังกฤษ พระอาทิตย์ขึ้นประมาณตีสี่กว่าๆ และฟ้ามืดช่วง 5ทุ่ม แต่หลังจากนั้นจะไม่มืดสนิทนะครับ เห็นแสงรำไรจากบนฟ้าอยู่)
หลังจาก Depart ได้สักครู่ ทางลูกเรือก็เริ่มแจกเมนูอาหารสำหรับไฟลท์นี้ครับ
ไฟลท์นี้มีลูกเรือไทย 4 ท่าน ที่เหลือเป็นชาวไต้หวันและชาวจีนครับ
ด้านซ้ายคือเมนูอาหารค่ำ ด้านขวาคือเมนูอาหารเที่ยง (ก่อนลงเครื่อง) ครับ
อันนี้บรรดาเครื่องดื่มต่างๆ บนไฟลท์นี้ครับ
พนักงานเริ่มเสิร์ฟอาหารชั้น Business ไล่มาถึงชั้น Premium Eco. และตามด้วยชั้น Eco. ครับ
ผมเลือก Tongan Chicken กับข้าวครับ
รสชาตินี่ สิบ สิบ สิบ ไปเลยจ้าาาา เป็นเมนูบนเครื่องที่รสชาติเข้มข้นดีมากกกก ถูกปากคนเอเชียแน่นอน
ส่วนอีกเมนูคือ Potatoes ที่เพื่อนผมสั่ง ตอนแรกคิดว่าจะรสชาติจืดๆ โอ้โห้.. ผิดคาดครับ รสชาติดีไม่แพ้กันเลย แต่ผมเบื่อกับการทานมันฝรั่งมานานแล้ว ขอเป็นข้าวละกันเนอะ
ช่วงเสิร์ฟเครื่องดื่ม ลายตะมุตะมิมากครับ ชอบความใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยของ EVA ครับ
สักพักก็ไปล้างหน้า ล้างตา เตรียมเข้านอนครับ
สำหรับผู้โดยสารชั้น Economy ก็มี Amenity Kits นะครับ หยิบใช้ได้เลย (รู้สึกว่าของ TG จะไม่มีแบบนี้)
และอีกอย่างที่ชอบมากคือ Hand Wash และ Hand Cream หอมมากครับบ
หลับไปประมาณ 7 ชั่วโมงครับ ตื่นมามองแผนที่ เย่ๆ ใกล้ถึงกรุงเทพแล้ววว
โดยส่วนตัว ผมชอบดูเครื่องบินเวลาบิน แต่เสียดายที่BRไม่มีกล้องติดด้านนอกเครื่อง ได้เห็นแค่กราฟิกครับ ผิดหวังเลยย
ไม่ได้ใช้ทีวีเลย เพราะหลับยาว เราก็มาสำรวจกันหน่อย พบว่า.. หนังกับเพลงมีประมาณนึงครับ
ความหลากหลายผมยกให้ TG ครับ
ประมาณ 3 ชั่วโมงก่อน arrival ทางลูกเรือก็เปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟอาหารเช้าครับ
ผมเลือกเป็นข้าวผัดกุ้ง บอกเลยว่ารสชาติดีมากกก ไม่มีพริกน้ำปลาก็เอาอยู่
Landing !! ถึงกรุงเทพฯ แล้วคร้าบบบบบ
Touch down : 2.50 pm (BST +06.00)
Arrival time : 3.05 pm (BST +06.00)
นี่เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ มีคำติชมอะไรก็commentได้เลย ผมจะนำไปปรับปรุงในครั้งต่อไป
สำหรับ Overall ประทับใจกับสายการบินนี้มากครับ สมกับเป็น Top 10 Airline (อันดับ 6) และ 5-Star Airline จาก Skytrax ปี 2017 ครับ
ซัมเมอร์หน้าถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาใช้บริการอีกครับ
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจไปอังกฤษนะครับ ตอนนี้มีเที่ยวบินตรง 4 เที่ยวต่อวัน
1. Thai Airways (TG) 2 เที่ยวบิน ใช้เครื่อง A380-800 และ B777-300ER
2. EVA Air (BR) 1 เที่ยวบิน เครื่อง B777-300ER
3. British Airways (BA) 1 เที่ยวบิน เครื่อง B777-200
สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาต่างประเทศก็ขอแนะนำให้นั่งกับ TG นะครับ จะได้ไม่ panic มีคำถาม มีปัญหาอะไร จะได้สามารถสอบถามลูกเรือคนไทยได้โดยตรง
[edit] อัพเดตล่าสุด !!! การบินไทยจะใช้เครื่อง A350-900 บินแทน B777 แล้วนะครับ ตั้งแต่กลาง ก.ย. 60 นี้
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ
[CR] [Mini Review] LHR-BKK with EVA Air (Economy Class)
และมีเที่ยวบินไปยังท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ทุกวัน (TPE-LHR via Bangkok)
Flight BR0068
Route : LHR-BKK
Date : 24 June 2017
Departure Time : 9.35 pm (BST +0.00)
Duration : 11 hrs 30 mins
Seat : 64C
Class : Economy Class
Aircraft : Boeing B777-300ER
Check-in
ด้านหน้า Check-in Row จะมีเครื่องเช็คอินอัตโนมัติ ทำตรงนั้นให้เสร็จเรียบร้อยตามขั้นตอนบนจอ จะได้ Boarding Pass และ Tag ติดกระเป๋าโหลดมา หลังจากนั้นก็ไปต่อคิวตามที่เจ้าหน้าที่บอก
สิ่งที่ผมไม่ค่อยประทับใจกับสนามบินนี้ คือการนำสายการบินเครือเดียวกันมาไว้ด้วยกัน มันก็สะดวกระดับหนึ่งในการหาสายการบินเรา แต่มันใช้เวลาต่อคิวนาน ขนาดคนน้อยๆ ก็อย่างน้อยครึ่งชม.ได้
หลังจากผ่านการCheck-in การตรวจกระเป๋าจากทางสนามบินเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลา enjoy shopping หรือแม้แต่ eating 555
ส่วนใครที่ยังช้อปไม่เต็มที่ ที่T2 ก็มีช็อปมากมายให้เลือก ตั้งแต่ Harrods, Burberry, BOSS, Mulberry etc. รวมไปถึง Chocolate / Tea หรือของฝากเล็กๆน้อยครับ
ได้เวลาอันสมควร หลังจาก Gate ขึ้น ก็ตรงดิ่งไปยัง B46 ใช้เวลาเดิน 15 นาที ไกลพอควร
ที่ประทับใจอีกอย่างคือ สนามบินจะมีบอกว่าจากจุดนี้ ไปยังแต่ละGateจะใช้เวลากี่นาที เราจะได้คำนวณเวลาได้ถูกครับ
ส่วนช่อง USB และช่องเสียบหูฟังก็อยู่ใต้จอเลย สะดวกสบายมากครับ
ผมเจอมีประสบการณ์นั่ง TG ช่องเสียบหูฟังจะอยู่ข้างที่นั่งเรา ผมก็นอนท่าไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีตื่นมา ทำไมเสียงไม่ออกจากหูฟัง พอยกผ้าห่มขึ้น เงิบบบบ .. แจ๊คหักคาช่องเสียบเลยจ้าา
(ช่วง Summer ของอังกฤษ พระอาทิตย์ขึ้นประมาณตีสี่กว่าๆ และฟ้ามืดช่วง 5ทุ่ม แต่หลังจากนั้นจะไม่มืดสนิทนะครับ เห็นแสงรำไรจากบนฟ้าอยู่)
หลังจาก Depart ได้สักครู่ ทางลูกเรือก็เริ่มแจกเมนูอาหารสำหรับไฟลท์นี้ครับ
ไฟลท์นี้มีลูกเรือไทย 4 ท่าน ที่เหลือเป็นชาวไต้หวันและชาวจีนครับ
พนักงานเริ่มเสิร์ฟอาหารชั้น Business ไล่มาถึงชั้น Premium Eco. และตามด้วยชั้น Eco. ครับ
รสชาตินี่ สิบ สิบ สิบ ไปเลยจ้าาาา เป็นเมนูบนเครื่องที่รสชาติเข้มข้นดีมากกกก ถูกปากคนเอเชียแน่นอน
ส่วนอีกเมนูคือ Potatoes ที่เพื่อนผมสั่ง ตอนแรกคิดว่าจะรสชาติจืดๆ โอ้โห้.. ผิดคาดครับ รสชาติดีไม่แพ้กันเลย แต่ผมเบื่อกับการทานมันฝรั่งมานานแล้ว ขอเป็นข้าวละกันเนอะ
สำหรับผู้โดยสารชั้น Economy ก็มี Amenity Kits นะครับ หยิบใช้ได้เลย (รู้สึกว่าของ TG จะไม่มีแบบนี้)
และอีกอย่างที่ชอบมากคือ Hand Wash และ Hand Cream หอมมากครับบ
โดยส่วนตัว ผมชอบดูเครื่องบินเวลาบิน แต่เสียดายที่BRไม่มีกล้องติดด้านนอกเครื่อง ได้เห็นแค่กราฟิกครับ ผิดหวังเลยย
ความหลากหลายผมยกให้ TG ครับ
ผมเลือกเป็นข้าวผัดกุ้ง บอกเลยว่ารสชาติดีมากกก ไม่มีพริกน้ำปลาก็เอาอยู่
Touch down : 2.50 pm (BST +06.00)
Arrival time : 3.05 pm (BST +06.00)
นี่เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ มีคำติชมอะไรก็commentได้เลย ผมจะนำไปปรับปรุงในครั้งต่อไป
สำหรับ Overall ประทับใจกับสายการบินนี้มากครับ สมกับเป็น Top 10 Airline (อันดับ 6) และ 5-Star Airline จาก Skytrax ปี 2017 ครับ
ซัมเมอร์หน้าถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาใช้บริการอีกครับ
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจไปอังกฤษนะครับ ตอนนี้มีเที่ยวบินตรง 4 เที่ยวต่อวัน
1. Thai Airways (TG) 2 เที่ยวบิน ใช้เครื่อง A380-800 และ B777-300ER
2. EVA Air (BR) 1 เที่ยวบิน เครื่อง B777-300ER
3. British Airways (BA) 1 เที่ยวบิน เครื่อง B777-200
สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาต่างประเทศก็ขอแนะนำให้นั่งกับ TG นะครับ จะได้ไม่ panic มีคำถาม มีปัญหาอะไร จะได้สามารถสอบถามลูกเรือคนไทยได้โดยตรง
[edit] อัพเดตล่าสุด !!! การบินไทยจะใช้เครื่อง A350-900 บินแทน B777 แล้วนะครับ ตั้งแต่กลาง ก.ย. 60 นี้
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ