คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
คนที่จินตนาการก็จะติดอยู่กับโลกมายา
ไม่ใช่ของจริง ปรมัติอารมณ์ ไม่ใช่ไปนึกว่า ดินน้ำลมไฟ คือธาตุ4
อันนั้นเป็นปรยัติ เป็นสมมุติที่บัญญัติให้พูดกัน
ปรมัติอารมณ์ไม่ได้มาเห็นเป็นดิน น้ำ ลมไฟ
ปรมัติอารมณ์เห็นอารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน
เวลาโกรธก็รู้ว่าโกรธอยู่
เวลาชอบก็รู้ว่าชอบอยู่
เวลาไม่ชอบก็รู้ว่าไม่ชอบอยู่
ไม่ได้ไปปรุงแต่งว่าตนชอบ อะไร ใครไม่ชอบอะไร
อันนั้นไม่ใช่ปรมัติอารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน
อารมณ์เกิดขึ้นไม่ไปดูศึกษาแต่ไปปรุงแต่งก็ผิดจากปรมัติอารมณ์
ไปปรุงแต่งจินตนาการก็ไปปิดกั้นปัญญาที่เห็นจริงรู้จริง
ไปเอามายามาหลอกตนเอง แล้วก็หลงว่าจริง
ทุกวันนี้คนหลงว่าเท็จคือจริง จริงคือเท็จ
หลงว่าสุขคือทุกข์ ทุกข์คือสุข
ไม่ใช่ของจริง ปรมัติอารมณ์ ไม่ใช่ไปนึกว่า ดินน้ำลมไฟ คือธาตุ4
อันนั้นเป็นปรยัติ เป็นสมมุติที่บัญญัติให้พูดกัน
ปรมัติอารมณ์ไม่ได้มาเห็นเป็นดิน น้ำ ลมไฟ
ปรมัติอารมณ์เห็นอารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน
เวลาโกรธก็รู้ว่าโกรธอยู่
เวลาชอบก็รู้ว่าชอบอยู่
เวลาไม่ชอบก็รู้ว่าไม่ชอบอยู่
ไม่ได้ไปปรุงแต่งว่าตนชอบ อะไร ใครไม่ชอบอะไร
อันนั้นไม่ใช่ปรมัติอารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน
อารมณ์เกิดขึ้นไม่ไปดูศึกษาแต่ไปปรุงแต่งก็ผิดจากปรมัติอารมณ์
ไปปรุงแต่งจินตนาการก็ไปปิดกั้นปัญญาที่เห็นจริงรู้จริง
ไปเอามายามาหลอกตนเอง แล้วก็หลงว่าจริง
ทุกวันนี้คนหลงว่าเท็จคือจริง จริงคือเท็จ
หลงว่าสุขคือทุกข์ ทุกข์คือสุข
แสดงความคิดเห็น
คนที่ไม่มีอนาคต
อารมณ์ที่เป็นอนาคต คืออารมณ์ที่ตนไปไม่ถึง
ยังไม่เกิดอารมณ์ แต่ไปปรุงแต่งนึกเอาเอง
ไม่ดูศึกษาว่าปัจจุบันตนมีอารมณ์อย่างไร
ในขณะที่ลมหายใจเข้าในขณะที่ลมหายใจออก
เลยเป็นคนที่หมดอนาคต ไม่มีอนาคตไปไม่ถึงอนาคต
ยกตัวอย่าง อารมณ์ที่เป็นอนาคต
ปัจจุบันเรามีอารมณ์โกรธอยู่ เราไม่ดูศึกษาอารมณ์ที่เราโกรธอยู่
เราไปนึกถึงอารมณ์ที่ต้องการแก้แค้น ไปนึกถึงอารมณ์ที่ต้องการเอาคีน
ไปนึกว่าไม่โกรธ ซึ่งมันไม่ใช่อารมณ์ที่เป็นปัจจุบัน ไม่ใช่ปรมัติอารมณ์
อีกตัวอย่าง
ตนมีอารมณ์ที่ไปเห็นรถคันนี้สวย อยากได้ แต่ตนก็พยายามระงับ
ไปนึกว่ารถเป็นธาตุ4 เป็นดิน น้ำ ลม ไฟ อย่าไปโลภ
จิตมีอารมณ์อยากไม่ดูศึกษาความอยาก ที่เป็นทุกข์ ไม่กำหนดทุกข์
ไปดูอนาคต ที่เรายังไม่เห็น คือดิน น้ำ ลม ไฟ ธาตุ4 ไปนึกเอง