---------------------------------
"Kidnap - ล่าหยุดนรก" (7.5/10)
---------------------------------

สวัสดีครับเพื่อนชาว Pantip ทุกท่านวันนี้เพจหนัง "Movies Feedback" ขอเสนอความเห็นหลังชมภาพยนตร์เรื่อง "Kidnap - ล่าหยุดนรก" ทางไปเพจผมครับ -->
https://www.facebook.com/FeedbackMovies
สงสัยจะมาถูกทางแล้วสำหรับสาว "ฮัลลี่ เบอร์รี่" ที่กลับมาฉายเดี่ยวในหนังทริลเลอร์ชวนลุ้น ชวนตื่นเต้นให้เราได้ดูกันอีกครั้ง โดยการกลับมาครั้งนี้ นางจะไม่ต้องคอยสั่งการผ่านโทรศัพท์อยู่ในสำนักงานเหมือนอย่างใน "The Call" หนังแนวเดียวกันที่เข้าฉายไปเมื่อปี 2013 แล้ว แต่ใช่ว่าความเหนื่อยของนางจะลดน้อยลง เพราะเกือบทั้งเรื่องในหนัง "Kidnap" ที่ผมกำลังจะพูดถึงนั้น นางจะต้องออกมาเหยียบคันเร่งไล่ล่าแก๊งลักพาตัวลูกของนางบนถนนไฮเวย์ในแบบที่ไม่คิดชีวิต
สำหรับเรื่องย่อของหนังนั้นจะพูดถึงวันพักผ่อนที่แสนโหดร้ายของ "คาร์ลา ดายสัน" คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ถูกผู้ร้ายลักพาตัวลูกชายวัยเพียง 6 ขวบของตนไป ใครจะคาดคิดว่าเพียงแว๊บเดียวที่เธอเดินออกมาโทรศัพท์อาจทำให้เธอต้องเสียลูกที่เธอรักไปตลอดกาล ในขณะที่เธอกำลังเดินตามหาลูกอย่างร้อนรน ทันใดนั้นเธอก็เหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังกระชากลูกของเธอขึ้นรถเก๋งสีฟ้าแล้วขับหนีออกไป ภารกิจไล่ล่าตามหาลูกแบบไม่คิดชีวิตจึงเกิดขึ้น เธอขับรถออกตามไปติดๆเพื่อเป้าหมายเดียวที่มีตามสัญชาติญาณของความเป็นแม่ นั่นคือ "การพยายามเอาลูกกลับคืนมา"
หนังเปิดเรื่องมาด้วยการนำเสนอความผูกพันของคู่แม่ลูกเพื่อให้ผู้ชมซึมซับอารมณ์และสร้างน้ำหนักของความสัมพันธ์ให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งยังบอกกล่าวการดำเนินชีวิตในแต่ละวันให้ดูราวกับว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นกับเราได้ทุกวัน ซึ่งเพียงไม่ถึง 15 นาทีหนังก็พาเราเข้าสู่โหมดของความตื่นเต้นทันที ความสนุกและความระทึกพอมีให้ลุ้นและตอบโจทย์ของแนวหนังได้ดี ซึ่งสำหรับผมแล้ว ความเพลิดเพลินของการชมหนังเรื่องนี้จะอยู่ที่ประเด็นการมีส่วนร่วมในการคิดและหาทางออกให้กับตัวนางเอก โดยหนังเปิดโอกาสให้เราพอเห็นช่องทางของการแก้ปมได้เป็นระยะๆ แต่ครั้งแล้วครั้งเล่า ทางออกเหล่านั้นก็ถูกอุดให้ตันจากเหตุผลที่หนังสร้างขึ้นมาซึ่งผมมองว่ามีเหตุผลที่พอเชื่อถือได้ จนเข้าสู่ช่วงท้ายที่ผมเองก็เริ่มตันกับการหาทางออกและเริ่มหันไปตื่นเต้นกับการหาทางจบของตัวหนังเอง แต่!!! ส่วนตัวมองว่าทางลงของหนังกลับไม่แปลกใหม่อะไร ซึ่งแม้การขมวดเรื่องราวจะทำได้ดี แต่มันกลับไม่ได้สร้างความแปลกใหม่ ความน่าสนใจและความประทับใจให้กับผู้ชมได้ดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม "ฮัลลี่ เบอร์รี่" ก็ยังเป็นสิ่งที่คู่ควรแก่การชื่นชม เพราะการที่เธอแบกหนังทั้งเรื่องให้ดูสนุกและลุ้นตามได้ขนาดนี้ ผมถือว่าเธอประสบความสำเร็จมาก เช่นเดียวกับจังหวะของหนังที่ทำได้อย่างลงตัว บวกกับการถ่ายภาพที่ทำออกมาสวยสดงดงามและสร้างฉากรุนแรงได้สมจริง ผมเชื่อว่าสองจุดนี้มีส่วนสร้างความระทึกตื่นเต้นให้กับหนังได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
ในภาพรวม แม้ "Kidnap" จะมีเรื่องราวของการเป็นหนังลักพาตัวได้ไม่ต่างจากหนังเรื่องอื่นๆ แต่หากพิจารณาในแง่ขององค์ประกอบอื่นๆและสิ่งที่ผู้ชมจะได้รับแล้ว ผมถือว่าหนังสอบผ่านเลย คุณจะได้พบกับความตื่นเต้น ลุ้นระทึกที่เกิดจากการไล่ล่ากัน ทั้งยังจะได้ร่วมหาทางออกจากวิกฤตที่เกิดขึ้นจากตัวละครของนางเอก เหล่านี้แหละครับที่นับเป็นประเด็นที่เราจะได้มีส่วนร่วมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้
เพื่อนๆสามารถเข้าไปกดไลก์และติดตามการรีวิวหนังกันได้ที่
https://www.facebook.com/FeedbackMovies
[CR] รีวิว "Kidnap - ล่าหยุดโลก" : สอบผ่านเรื่องความตื่นเต้น ระทึกใจ แต่บทยังเดิมๆ ชื่นชม ฮัลลี่ เบอร์รี่ ที่แสดงได้ยอดเยี่ยม
"Kidnap - ล่าหยุดนรก" (7.5/10)
---------------------------------
สวัสดีครับเพื่อนชาว Pantip ทุกท่านวันนี้เพจหนัง "Movies Feedback" ขอเสนอความเห็นหลังชมภาพยนตร์เรื่อง "Kidnap - ล่าหยุดนรก" ทางไปเพจผมครับ --> https://www.facebook.com/FeedbackMovies
สงสัยจะมาถูกทางแล้วสำหรับสาว "ฮัลลี่ เบอร์รี่" ที่กลับมาฉายเดี่ยวในหนังทริลเลอร์ชวนลุ้น ชวนตื่นเต้นให้เราได้ดูกันอีกครั้ง โดยการกลับมาครั้งนี้ นางจะไม่ต้องคอยสั่งการผ่านโทรศัพท์อยู่ในสำนักงานเหมือนอย่างใน "The Call" หนังแนวเดียวกันที่เข้าฉายไปเมื่อปี 2013 แล้ว แต่ใช่ว่าความเหนื่อยของนางจะลดน้อยลง เพราะเกือบทั้งเรื่องในหนัง "Kidnap" ที่ผมกำลังจะพูดถึงนั้น นางจะต้องออกมาเหยียบคันเร่งไล่ล่าแก๊งลักพาตัวลูกของนางบนถนนไฮเวย์ในแบบที่ไม่คิดชีวิต
สำหรับเรื่องย่อของหนังนั้นจะพูดถึงวันพักผ่อนที่แสนโหดร้ายของ "คาร์ลา ดายสัน" คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ถูกผู้ร้ายลักพาตัวลูกชายวัยเพียง 6 ขวบของตนไป ใครจะคาดคิดว่าเพียงแว๊บเดียวที่เธอเดินออกมาโทรศัพท์อาจทำให้เธอต้องเสียลูกที่เธอรักไปตลอดกาล ในขณะที่เธอกำลังเดินตามหาลูกอย่างร้อนรน ทันใดนั้นเธอก็เหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังกระชากลูกของเธอขึ้นรถเก๋งสีฟ้าแล้วขับหนีออกไป ภารกิจไล่ล่าตามหาลูกแบบไม่คิดชีวิตจึงเกิดขึ้น เธอขับรถออกตามไปติดๆเพื่อเป้าหมายเดียวที่มีตามสัญชาติญาณของความเป็นแม่ นั่นคือ "การพยายามเอาลูกกลับคืนมา"
หนังเปิดเรื่องมาด้วยการนำเสนอความผูกพันของคู่แม่ลูกเพื่อให้ผู้ชมซึมซับอารมณ์และสร้างน้ำหนักของความสัมพันธ์ให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งยังบอกกล่าวการดำเนินชีวิตในแต่ละวันให้ดูราวกับว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นกับเราได้ทุกวัน ซึ่งเพียงไม่ถึง 15 นาทีหนังก็พาเราเข้าสู่โหมดของความตื่นเต้นทันที ความสนุกและความระทึกพอมีให้ลุ้นและตอบโจทย์ของแนวหนังได้ดี ซึ่งสำหรับผมแล้ว ความเพลิดเพลินของการชมหนังเรื่องนี้จะอยู่ที่ประเด็นการมีส่วนร่วมในการคิดและหาทางออกให้กับตัวนางเอก โดยหนังเปิดโอกาสให้เราพอเห็นช่องทางของการแก้ปมได้เป็นระยะๆ แต่ครั้งแล้วครั้งเล่า ทางออกเหล่านั้นก็ถูกอุดให้ตันจากเหตุผลที่หนังสร้างขึ้นมาซึ่งผมมองว่ามีเหตุผลที่พอเชื่อถือได้ จนเข้าสู่ช่วงท้ายที่ผมเองก็เริ่มตันกับการหาทางออกและเริ่มหันไปตื่นเต้นกับการหาทางจบของตัวหนังเอง แต่!!! ส่วนตัวมองว่าทางลงของหนังกลับไม่แปลกใหม่อะไร ซึ่งแม้การขมวดเรื่องราวจะทำได้ดี แต่มันกลับไม่ได้สร้างความแปลกใหม่ ความน่าสนใจและความประทับใจให้กับผู้ชมได้ดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม "ฮัลลี่ เบอร์รี่" ก็ยังเป็นสิ่งที่คู่ควรแก่การชื่นชม เพราะการที่เธอแบกหนังทั้งเรื่องให้ดูสนุกและลุ้นตามได้ขนาดนี้ ผมถือว่าเธอประสบความสำเร็จมาก เช่นเดียวกับจังหวะของหนังที่ทำได้อย่างลงตัว บวกกับการถ่ายภาพที่ทำออกมาสวยสดงดงามและสร้างฉากรุนแรงได้สมจริง ผมเชื่อว่าสองจุดนี้มีส่วนสร้างความระทึกตื่นเต้นให้กับหนังได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
ในภาพรวม แม้ "Kidnap" จะมีเรื่องราวของการเป็นหนังลักพาตัวได้ไม่ต่างจากหนังเรื่องอื่นๆ แต่หากพิจารณาในแง่ขององค์ประกอบอื่นๆและสิ่งที่ผู้ชมจะได้รับแล้ว ผมถือว่าหนังสอบผ่านเลย คุณจะได้พบกับความตื่นเต้น ลุ้นระทึกที่เกิดจากการไล่ล่ากัน ทั้งยังจะได้ร่วมหาทางออกจากวิกฤตที่เกิดขึ้นจากตัวละครของนางเอก เหล่านี้แหละครับที่นับเป็นประเด็นที่เราจะได้มีส่วนร่วมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้
เพื่อนๆสามารถเข้าไปกดไลก์และติดตามการรีวิวหนังกันได้ที่ https://www.facebook.com/FeedbackMovies