สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
"คนเราขาดอะไรก็ต้องการหาสิ่งนั้นมาทดแทน" ผมว่าน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดนะครับ
เป็นเรื่องปกติครับที่คนไทยจะมาใช้ของ Brand name ราคาแพงสูงๆกันมากขึ้น ญี่ปุ่นก็เคยผ่านจุดนั้นมานานมากแล้ว ขาดความมั่นใจต้องการแสดงออก หรืออาจจะเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น เพราะได้ไปเห็นมา ก็จะไปหาเอามาให้ตัวเองรู้สึกว่าฉันได้ครอบครองได้สัมผัสมันแล้ว
คนชอบมาคุยกับผมเรื่องแฟชั่นบ่อยครับ ผมทำงานให้ บ. ในสายงานนี้ บางคนก็มาบอกผมว่าของมันดี มาร์เกตติ้งเค้าดี จริงๆแล้วไม่ใช่อะไรหรอกครับ เราๆก็เหยื่อยดีๆ ที่คิดว่าซื้อความฝันที่เค้าหลอกขายเรา ผมว่าเหมือนๆกันหมดแล้วแต่ว่าคุณหรือเค้าขาดอะไรเท่านั้นเอง ราคาต้นทุนมันก็แค่ไม่เท่าไรอยู่แล้ว ที่เหลือที่จ่ายแพงไปก็คือจ่ายค่าความฝันของแต่ละคนเองครับ
เอาเข้าจริงๆจะมีคนไทยกี่คนที่รู้ว่า Brand name อย่าง Hermès หรือ Chanel เวลาขายของแพงตัวเองไม่ออก ก็เอามาขายให้ พนง. ตัวเอง หรือ กลุ่มคน กลุ่มหนึ่งก่อน และเวลามี Sales ก็ไม่เรียกช่วงลดราคา จะเรียกเป็นการขายช่วงพิเศษ พอมันล้น Stock จริงๆเพราะขายไม่ออกเพราะราคาสูงเวอร์ ก็ส่งไปทำลายทิ้ง "สาระเลวไหมครับ ?" เสียเวลาผลิต เสียเวลาทำลาย ไม่มี outlet นะครับเดี๋ยวเสียชื่อ Brand name high end ทั้งหมดนี้ เพื่อที่จะประครองราคาสิ้นค้าตัวเอง และก็ขายให้ได้ราคาแพงสุดๆ เพื่อคนที่อยากซื้อฝันแบบเราๆ กำไรหลักๆของ พวก Brand นี้ก็มาจากเศษหนังชิ้นเล็กๆน้อยๆประมาณนี้แหละครับ เพราะมันไม่ต้องใช้ช่างฝีมือมาก ขายได้ราคาไม่รู้กี่เท่าตัวจากราคาต้นทุน
ส่วนเสื้อผ้าพนักงานของร้านเค้าเอง แทนที่จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศตัวเอง ก็สั่งนำเข้าราคาถูกเข้ามา เวลาไปที่ร้านพวกนี้ถาม พนง. เค้าดูนะครับว่า uniforme เค้าผลิตมาจากประเทศอะไรกัน ไม่ได้ Made in FRANCE เหรอครับ ?
คือผมไม่ได้สงสัย แต่อยากมาบ่นๆให้ฟังเหมือนกันครับ
เป็นเรื่องปกติครับที่คนไทยจะมาใช้ของ Brand name ราคาแพงสูงๆกันมากขึ้น ญี่ปุ่นก็เคยผ่านจุดนั้นมานานมากแล้ว ขาดความมั่นใจต้องการแสดงออก หรืออาจจะเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น เพราะได้ไปเห็นมา ก็จะไปหาเอามาให้ตัวเองรู้สึกว่าฉันได้ครอบครองได้สัมผัสมันแล้ว
คนชอบมาคุยกับผมเรื่องแฟชั่นบ่อยครับ ผมทำงานให้ บ. ในสายงานนี้ บางคนก็มาบอกผมว่าของมันดี มาร์เกตติ้งเค้าดี จริงๆแล้วไม่ใช่อะไรหรอกครับ เราๆก็เหยื่อยดีๆ ที่คิดว่าซื้อความฝันที่เค้าหลอกขายเรา ผมว่าเหมือนๆกันหมดแล้วแต่ว่าคุณหรือเค้าขาดอะไรเท่านั้นเอง ราคาต้นทุนมันก็แค่ไม่เท่าไรอยู่แล้ว ที่เหลือที่จ่ายแพงไปก็คือจ่ายค่าความฝันของแต่ละคนเองครับ
เอาเข้าจริงๆจะมีคนไทยกี่คนที่รู้ว่า Brand name อย่าง Hermès หรือ Chanel เวลาขายของแพงตัวเองไม่ออก ก็เอามาขายให้ พนง. ตัวเอง หรือ กลุ่มคน กลุ่มหนึ่งก่อน และเวลามี Sales ก็ไม่เรียกช่วงลดราคา จะเรียกเป็นการขายช่วงพิเศษ พอมันล้น Stock จริงๆเพราะขายไม่ออกเพราะราคาสูงเวอร์ ก็ส่งไปทำลายทิ้ง "สาระเลวไหมครับ ?" เสียเวลาผลิต เสียเวลาทำลาย ไม่มี outlet นะครับเดี๋ยวเสียชื่อ Brand name high end ทั้งหมดนี้ เพื่อที่จะประครองราคาสิ้นค้าตัวเอง และก็ขายให้ได้ราคาแพงสุดๆ เพื่อคนที่อยากซื้อฝันแบบเราๆ กำไรหลักๆของ พวก Brand นี้ก็มาจากเศษหนังชิ้นเล็กๆน้อยๆประมาณนี้แหละครับ เพราะมันไม่ต้องใช้ช่างฝีมือมาก ขายได้ราคาไม่รู้กี่เท่าตัวจากราคาต้นทุน
ส่วนเสื้อผ้าพนักงานของร้านเค้าเอง แทนที่จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศตัวเอง ก็สั่งนำเข้าราคาถูกเข้ามา เวลาไปที่ร้านพวกนี้ถาม พนง. เค้าดูนะครับว่า uniforme เค้าผลิตมาจากประเทศอะไรกัน ไม่ได้ Made in FRANCE เหรอครับ ?
คือผมไม่ได้สงสัย แต่อยากมาบ่นๆให้ฟังเหมือนกันครับ
pupunette ถูกใจ, dolwaya ถูกใจ, auotto ถูกใจ, happy birdy ถูกใจ, Katie_Elizy ถูกใจ, เกาะแน่นแน่นนะน้องนะ ถูกใจ, Hopes & Fears ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1938328 ถูกใจ, is that desiree ถูกใจ, ทานยาทันที ถูกใจรวมถึงอีก 4 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
เอิ่มมมมม สาวๆครับ เดี๋ยวนี้แฟชั่นรองเท้ากลายเป็นคู่ละหลายหมื่นแล้วหรือครับ...
พอยี่ห้อ C นิยม กลายเป็นหมื่นปลายถึงหลักแสน
ต่อมา กลายเป็น H กลายเป็นหลักแสน ถึงล้าน
คือผมก็เข้าใจความชอบของผู้หญิงนะครับ มันเป็นแฟชั่น ความชอบ สังคม ฯลฯ
กระเป๋า ยังเข้าใจได้ครับ เราถือ คนมอง มันมีความภูมิใจในตัวเอง แล้วถ้ารักษาดีๆ มันก็ยังมีราคา ยิ่งบางยี่ห้อที่เป็นที่นิยม ไม่ใช่แค่ราคาไม่ตก แต่ราคาขึ้นด้วยซ้ำ
แต่หลังๆ ที่งงคือมันกลายเป็นรองเท้าไปแล้ว
ปกติเวลาเราเดินเล่นตามห้าง เจอสาวๆสวยๆ เราก็จะมองหน้า มองหุ่น มองเสื้อผ้า มองผิวพรรณ มองนม มองก้น มองขา มองแขน ฯลฯ
ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เคยมองรองเท้าเลย
รองเท้าใส่ออกงาน คู่ละ 4-5 หมื่น ยังพอเข้าใจ มันอาจจะดูดี หรู ใส่สบาย ออกงาน 5 ดาวมันก็ต้องมีบ้าง
แต่รองเท้าแตะคู่ละเกือบ 3 หมื่น เฮ้ยยยยยยยย งงมาก เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นวัสดุที่เอารองเท้าเวลาเดิน ราคาแพงขนาดนี้แล้ว?
ใส่แล้ว ก็ต้องมาระวังห้ามใครมาเหยียบโดนรองเท้า
ขึ้นรถก็ต้องถอดแบบทนุถนอม
อุ๊ย ฝนทำท่าจะตก รีบกลับเถอะ หรือไม่ก็ให้รีบขับรถมารับ
ถามจริงๆครับ หวงขนาดนี้ เวลาเหยียบฝุ่นคุณไม่กลัวมันสกปรก? แล้วถ้าเผลอไปเหยียบขี้หมา ไม่ฟูมฟายจนเป็นลมเลยหรือ?
คือถ้าได้รายได้เป็นเงิน us dollar รายได้ขั้นต่ำเป็นของ ตปท เทียบแล้วมันก็ไม่แพงเท่าไหร่
แต่เทียบรายได้เป็นเงินไทย ผมว่า มันโคดแพงเลยสำหรับรองเท้า
พอถาม ก็จะได้คำตอบว่า "เคยขอเงินตะเองซื้อหรอ" อืออออ มันก็จริงของเค้า มันเงินเค้า ไม่ใช่เงินผม
คือผมแค่สงสัย อยากบ่นๆๆๆน่ะครับ