College of Interdisciplinary Studies เป็นนวัตกรรมใหม่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการนำเอาคณาจารย์จากหลากหลายคณะในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาร่วมจัดการเรียนการสอนระดับปริญญาตรี มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตอย่างมีคุณภาพ โดยที่ 3 หลักสูตรมีจุดเน้นร่วมกันคือ ต้องการผลิตบัณฑิตที่มีองค์ความรู้ชัดเจนในทางวิชาการที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ทางด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ พฤติกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และศาสตร์ในแนวประยุกต์อื่น ๆ โดยมีลักษณะการเรียนการสอนในลักษณะสหวิทยาการเพื่อพัฒนาให้นักศึกษาเอาองค์ความรู้ดังกล่าวมาโยงใยให้มีความเชื่อมโยงเป็นเนื้อเดียวกันไม่แยกออกเป็นส่วนๆ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเรียนยำกันขนาดนี้จบมาจะได้วุฒิอะไร?
ซึ่งวุฒิที่ได้ก็คือ ศิลปศาสตร์บัณฑิต ในใบ Transcript แต่!!! ทางกพ.นั้น (สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) กำหนดให้เป็น
"รัฐศาสตร์บัณฑิต" นั่นก็หมายความว่าสามารถสอบอะไรก็ได้ที่รัฐศาสตร์สอบได้เช่น ปลัด นายอำเภอ เจ้าที่ในกระทรวงต่างๆ ฉะนั้นหมดห่วงได้ ไม่เหมือนวุฒิศิลปศาสตร์(ของหลายๆคณะ) ที่บางครังเวลามีสอบข้าราชการต่างๆมักจะไม่สามรถสมัครได้ หรือนานๆทีปีหนถึงสามารถสมัครสอบได้
*อ้อถึงการ Admission หรือ รับตรง จะบอกว่าเป็น
ภาคพิเศษ แต่เป็นแค่ชื่อเฉยๆนะ เพราะเรียนเวลาตามราชการปกติเหมือนคณะอื่นๆเล๊ยย ซึ่งจริงๆต้องเรียกว่าโครงการพิเศษมากกว่า น้องๆอาจจะสงสัยว่าว่าโครงการพิเศษมันคืออะไร เอางี้เรามาเริ่มกัน โดยธรรมศาสตร์นั้นพวกคณะเรียนต่างๆจะมี 2 แบบ คือ 1.โครงการปกติ 2.โครงการพิเศษ ความแตกต่างมันอยู่ตรงที่พวกโครงการปกติก็คือคณะ, หลักสูตร ทั่วไปๆอ่ะ ส่วนโครงการพิเศษนั้นจะมีทั้งหลักสูตรภาคไทย ภาคอินเตอร์ ซึ่งค่าเทอมจะแพงกว่ามาก โดยโครงการเหล่านี้จะมีความเป็นอิสระ บริหารงานกันเอง จึงต้องหาเลี้ยงตัวเอง (ค่าเทอมถึงได้แพง 555555) และความแตกต่างที่สำคัญคือ หลักสูตรโครงการปกติ คือพวกใช้คะแนน Admission ส่วนหลักสูตรโครงการพิเศษ อาจจะมีไม่กี่คณะที่ใช้คะแนน Admission อย่าง PPE (ภาคไทย), BMCI (ภาคไทย), PBIC (ภาคอินเตอร์) แต่ส่วนมากจะสอบตรง/รับตรง กัน เอาเป็นว่ามันต่างกันที่ค่าเทอมเฉยๆ 555555
และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ
มักมีคนชอบพูดว่า "หลักสูตรนี้โคตรจับฉ่ายเลยว่ะ" จบมาเป็นเป็ดแน่ๆ (ลิเวอร์พรุน ถุ้ยยยย)?
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกก่อนเลยว่า หลักสูตรแบบสหวิทยาการ (Interdisciplinary) ที่เอาสาขาวิชามา Combine กันนั้นในปริญญาตรี มีมานานแล้วในต่างประเทศ อย่างเช่น University of Oxford ก็มีหลักสูตร PPE (Philosophy, Politics and Economics) ซึ่งเป็นที่แรกของโลก และวิทยาลัยสหวิทยาการ มธ. ก็เอาหลักสูตรนี้มาจากที่นี่เอง โดยเป็นที่แรกของไทย ส่วนมหาลัยคู่แข่งอย่าง University of Cambridge ก็มีหลักสูตรสหวิทยาการ HSPS (Human, Social, and Political Sciences) ที่เป็นคู่แข่งของ PPE Oxford (ปัจจุบันยังไม่มีสาขานี้ในมหาวิทยาลัยของไทย แต่ในอนาคต มธ.อาจจะนำหลักสูตร HSPS มาเปิดก็เป็นไปได้) ซึ่งทั้ง 2 เป็นสาขายอดฮิตในอังกฤษ มีอัตราการแข่งขันที่สูงและเข้ายากมาก ประเด็นก็คือ มหาลัยในไทยนั้นเปิดหลักสูตรแนวนี้ ถือว่าช้ามากๆ และเรายังมีมายาคติกับการศึกษาแบบเดิมๆ ที่ฉันต้องเรียนศาสตร์เดียวนะ และมีความไม่เข้าใจในสหวิทยาการ ที่เป็นของใหม่จากโลกตะวันตก จึงมักวิจารย์หลักสูตรพวกนี้ด้วยความไม่รู้ ว่าของพวกนี้อ่ะเป็นหลักสูตรจับฉ่าย "ดังนั้นโลกในยุคโลกาภิวัตน์ที่มาพร้อมกับเสรีนิยมใหม่ มีแต่จะยิ่งทวีความแรงมากขึ้น จึงไม่เพียงพอต่อไปแล้วที่จะอยู่รอดด้วยการมีองค์ความรู้เพียงศาสตร์ๆเดียว"
บทความเกี่ยวกับบริบทของหลักสูตร PPE ในหนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษ
PPE: the Oxford degree that runs Britain
https://www.theguardian.com/education/2017/feb/23/ppe-oxford-university-degree-that-rules-britain
Is PPE a passport to power – or the ultimate blagger's degree?
https://www.theguardian.com/education/2013/sep/23/ppe-passport-power-degree-oxford
https://www.youtube.com/watch?v=HXXuQ9sCKl8
เกี่ยวกับหลักสูตร
หลักสูตร PPE เป็นภาคไทยเน้อ!!!
ระยะเวลาในการศึกษาทั้งหมด 3 ปีครึ่งจย้า
ซึ่งหลายคนสงสัยว่าเรียนยังไง? นั่นก็คือ โดยปีแรกจะเรียนวิชาพื้นฐานของมหาลัย 10 วิชา (ของมหาลัย 7 ตัว+PPE 3ตัว)
ส่วนปีที่ 2 ในเทอมแรกนั้นก็จะเรียนวิชาของคณะ ส่วนเทอมที่ 2 จะเริ่มมันละครับ ซึ่งเราต้องเลือกลง track จาก 2 ใน 3 นั่นก็คือ Philosophy, Politics, Economics จับคู่กัน เช่น 1.Philosophy-Politics 2.Philosophy-Economics 3.Politics-Economics (track นี้คนฮิตเรียนสุด) แท่นแท๊นนน แต่เดี๋ยวก่อน!!! ถ้าใครอยากเรียน Economics ก็ต้องเรียนคณิตศาสตร์ และสถิติ ให้ผ่านก่อนนะจ๊ะ!
(ถ้าไม่ผ่าน หมดสิทธิ์เลือกจับคู่กับ Economics)
***PPE อาจพูดได้ว่านี่เป็นคณะเดียวของมธ. ที่เข้ามาแล้วยังคัดคนเข้ามาเรียนเศรษฐศาสตร์อีก ยังไงนะเหรอ ก็แบบว่าถ้าเราคะแนน Admission, รับตรงเข้า ผ่านคณะเศรษฐศาสตร์ หรือ PPE แล้ว สำหรับคณะเศรษฐศาสตร์นั้น หนูสามารถเรียนเศรษฐศาสตร์ได้เลย ไม่ต้องสอบแป๊ะไรอีก แต่! PPE หนู Admission มาแล้ว ยังต้องมาเรียน/สอบคณิต+สถิติ อีก เพื่อให้ได้จับคู่กับ Major เศรษฐศาสตร์ ผับผ่า คนที่ไม่ชอบเลขก็อดเลือก Major Economics ไปเลย***
ต่อมาปี 3 เพิ่มความเข้มข้นขึ้น ด้วยการขยายขอบเขตสาขาความรู้ ซึ่งเราต้องเลือก track จาก 3 ใน 4 นั่นก็คือ Philosophy, Politics & Laws, Economics development, Global Studies และก็เรียนวิชาภาคนิพนธ์ เอ้ยยเกือบลืม summer จะมีให้ฝึกงาน (บางคณะไม่มีฝึกงานนะจ๊ะ) ที่ฮอตฮิตก็คงจะเป็นพวกกระทรวงต่างๆเอย เช่นกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลังเป็นต้น
ปีสุดท้ายละ ปี 4 เรียนแค่เทอมเดียวเท่านั้น โดยเรียกวิชาเลือกเสรี + เรียนวิชาภาคนิพนธ์ ทำ Research กับอ.ที่ปรึกษา เพื่อให้จบการศึกษา
OK~~คร่าวๆก็มีประมาณนี้นะ
สำหรับคนที่อยากไปต่างประเทศ หลักสูตรเรา มี Summer Exchange ด้วยนะ
โดยมีมหาลัยคู่สัญญา หลักๆจะเป็น 1-4 มหาลัยนี้ (ส่วนที่เหลือแล้วแต่ปี) บอกเลย U Top ทั้งนั้น
1.University of Copenhagen *ฮอตมาก นศ.ชอบไป* (U อันดับ 1 ของเดนมาร์ก อันดับที่ 73 ของโลก)
2.Warwick University *ฮอตมาก นศ.ชอบไป* (U อันดับ 10 ของอังกฤษ อันดับ 57 ของโลก)
3.Waseda University (U กลุ่ม Tokyo 6 Universities Alliance ซึ่งเปรียบดั่ง Ivy League ของญี่ปุ่น)
4.SOAS, University of London (U กลุ่ม Russell Group ซึ่งเปรียบดั่ง Ivy League ของอังกฤษ)
5.VU Amsterdam (U ชั้นนำของ เนธอร์แลนด์)
6.Utrecht University (U ชั้นนำของ เนธอร์แลนด์)
ปล. อันดับอ้างอิงจาก QS World University Rankings® 2018.
ตัวอย่าง Summer Exchange (แอบแพงไปนิด 5555555)
สังคมที่นี่เป็นยังไงอ๋อ?
ขอบอกเลยรุ่นหนึ่งจะมีประมาณ 80 คน เป็นครอบครัวเล็กๆที่อบอุ่นมาก สังคมเพื่อนก็จะมีตั้งแต่ลูกผู้ดียันเถื่อนถ่อย 5555555 ตึกคณะของเราก็จะอยู่ตรงกลางระหว่าง SPD กับบัญชี (เมื่อไหร่จะมีโรงอาหารเนี่ยยย) ต้าเหนิงก็เรียนคณะนี้นะ แต่นานๆจะเจอที -...-
อ้อ! เกือบลืม หลักสูตร PPE ท่าพระจันทร์นี้ Active กับปัญหาสังคมพอสมควรเลย เห็นได้จากมักจะมีการจัดเสวนาวิชาการอยู่บ่อยๆ ด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้ พูดได้เลยว่าสภาพแวดล้อมแบบนี้จะทำให้เราเป็นคนที่ Political Awareness เลยแหละ
ตัวอย่างงานเสวนาวิชาการ
อันนี้ถือเป็นตำนานเลย เพราะ 4 ปีที่แล้ว อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ก็มานั่งฟังงานนี้ ก่อนที่แกจะโดน 112 ลี้ภัยไปฝรั่งเศส
สามารถหาดูคลิปใน Youtube หรือ อ่านใน ประชาไท ได้
ใครว่าเรามีแต่วิชาการ ไม่วิชาการเราก็มีนะ work hard, play harder
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To day!!!!!!
เชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม PPE RoV Championship พบกับการแข่งขันเพื่อชิงทุนการศึกษารวมกว่า 5,000 บาท
ร่วมชมและเชียร์เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่เข้าร่วมแข่งกันกันได้ วันนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
ณ ห้องบรรยาย 202 ชั้น 2 อาคารวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
.
.
.
เล่นขำๆกันไป
แข่งร้องเพลงก็มีน้าาาา
และกิจกรรมอีกมากมาย บลาๆ เหนื่อย 55555
Trick แนะนำหนังสือเล็กๆน้อย~~~
สำหรับน้องๆที่ Admission และสอบรับตรงติดแล้ว ก่อนที่จะเข้ามาเรียน PPE เราควรที่จะรู้ intro อย่างน้อยๆของ Philosophy, Politics, Economics เพื่อเป็นองค์ความรู้ที่สามารถต่อยอดนำไปใช้ในการเรียนของเรา (อ่านก่อนตอนเปิดเทอมได้ยิ่งดี)
1. "โลกของโซฟี" ของโยสไตน์ กอร์เดอร์
เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดโลกปรัชญานั่นเอง
2. "ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย" ของคริส เบเคอร์, ผาสุก พงษ์ไพจิตร
เป็นหนังสือประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ครอบจักรวาลมากที่สุดในตอนนี้แล้ว
3. "เศรษฐศาสตร์ (ฉบับทางเลือก)" ของ HA-JOONG CHANG
หนังสือเศรษฐศาสตร์ที่ทุกคนต้องอ่าน! เศรษฐศาษสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัวและสำคัญมากซึ่งไม่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของนักเศรษฐศาสตร์
ขอพักไว้ก่อนแล้วจะมาใหม่ อิอิ...
edit ตอนนี้เรามีโรงอาหารเป็นของตัวเองแล้วน้าาา
[img]
https://f.ptcdn.info/335/058/000/
Review คณะ PPE (ปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์) ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ซึ่งวุฒิที่ได้ก็คือ ศิลปศาสตร์บัณฑิต ในใบ Transcript แต่!!! ทางกพ.นั้น (สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) กำหนดให้เป็น "รัฐศาสตร์บัณฑิต" นั่นก็หมายความว่าสามารถสอบอะไรก็ได้ที่รัฐศาสตร์สอบได้เช่น ปลัด นายอำเภอ เจ้าที่ในกระทรวงต่างๆ ฉะนั้นหมดห่วงได้ ไม่เหมือนวุฒิศิลปศาสตร์(ของหลายๆคณะ) ที่บางครังเวลามีสอบข้าราชการต่างๆมักจะไม่สามรถสมัครได้ หรือนานๆทีปีหนถึงสามารถสมัครสอบได้
*อ้อถึงการ Admission หรือ รับตรง จะบอกว่าเป็นภาคพิเศษ แต่เป็นแค่ชื่อเฉยๆนะ เพราะเรียนเวลาตามราชการปกติเหมือนคณะอื่นๆเล๊ยย ซึ่งจริงๆต้องเรียกว่าโครงการพิเศษมากกว่า น้องๆอาจจะสงสัยว่าว่าโครงการพิเศษมันคืออะไร เอางี้เรามาเริ่มกัน โดยธรรมศาสตร์นั้นพวกคณะเรียนต่างๆจะมี 2 แบบ คือ 1.โครงการปกติ 2.โครงการพิเศษ ความแตกต่างมันอยู่ตรงที่พวกโครงการปกติก็คือคณะ, หลักสูตร ทั่วไปๆอ่ะ ส่วนโครงการพิเศษนั้นจะมีทั้งหลักสูตรภาคไทย ภาคอินเตอร์ ซึ่งค่าเทอมจะแพงกว่ามาก โดยโครงการเหล่านี้จะมีความเป็นอิสระ บริหารงานกันเอง จึงต้องหาเลี้ยงตัวเอง (ค่าเทอมถึงได้แพง 555555) และความแตกต่างที่สำคัญคือ หลักสูตรโครงการปกติ คือพวกใช้คะแนน Admission ส่วนหลักสูตรโครงการพิเศษ อาจจะมีไม่กี่คณะที่ใช้คะแนน Admission อย่าง PPE (ภาคไทย), BMCI (ภาคไทย), PBIC (ภาคอินเตอร์) แต่ส่วนมากจะสอบตรง/รับตรง กัน เอาเป็นว่ามันต่างกันที่ค่าเทอมเฉยๆ 555555
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกก่อนเลยว่า หลักสูตรแบบสหวิทยาการ (Interdisciplinary) ที่เอาสาขาวิชามา Combine กันนั้นในปริญญาตรี มีมานานแล้วในต่างประเทศ อย่างเช่น University of Oxford ก็มีหลักสูตร PPE (Philosophy, Politics and Economics) ซึ่งเป็นที่แรกของโลก และวิทยาลัยสหวิทยาการ มธ. ก็เอาหลักสูตรนี้มาจากที่นี่เอง โดยเป็นที่แรกของไทย ส่วนมหาลัยคู่แข่งอย่าง University of Cambridge ก็มีหลักสูตรสหวิทยาการ HSPS (Human, Social, and Political Sciences) ที่เป็นคู่แข่งของ PPE Oxford (ปัจจุบันยังไม่มีสาขานี้ในมหาวิทยาลัยของไทย แต่ในอนาคต มธ.อาจจะนำหลักสูตร HSPS มาเปิดก็เป็นไปได้) ซึ่งทั้ง 2 เป็นสาขายอดฮิตในอังกฤษ มีอัตราการแข่งขันที่สูงและเข้ายากมาก ประเด็นก็คือ มหาลัยในไทยนั้นเปิดหลักสูตรแนวนี้ ถือว่าช้ามากๆ และเรายังมีมายาคติกับการศึกษาแบบเดิมๆ ที่ฉันต้องเรียนศาสตร์เดียวนะ และมีความไม่เข้าใจในสหวิทยาการ ที่เป็นของใหม่จากโลกตะวันตก จึงมักวิจารย์หลักสูตรพวกนี้ด้วยความไม่รู้ ว่าของพวกนี้อ่ะเป็นหลักสูตรจับฉ่าย "ดังนั้นโลกในยุคโลกาภิวัตน์ที่มาพร้อมกับเสรีนิยมใหม่ มีแต่จะยิ่งทวีความแรงมากขึ้น จึงไม่เพียงพอต่อไปแล้วที่จะอยู่รอดด้วยการมีองค์ความรู้เพียงศาสตร์ๆเดียว"
บทความเกี่ยวกับบริบทของหลักสูตร PPE ในหนังสือพิมพ์ The Guardian ของอังกฤษ
PPE: the Oxford degree that runs Britain
https://www.theguardian.com/education/2017/feb/23/ppe-oxford-university-degree-that-rules-britain
Is PPE a passport to power – or the ultimate blagger's degree?
https://www.theguardian.com/education/2013/sep/23/ppe-passport-power-degree-oxford
https://www.youtube.com/watch?v=HXXuQ9sCKl8
หลักสูตร PPE เป็นภาคไทยเน้อ!!!
ระยะเวลาในการศึกษาทั้งหมด 3 ปีครึ่งจย้า
ซึ่งหลายคนสงสัยว่าเรียนยังไง? นั่นก็คือ โดยปีแรกจะเรียนวิชาพื้นฐานของมหาลัย 10 วิชา (ของมหาลัย 7 ตัว+PPE 3ตัว)
ส่วนปีที่ 2 ในเทอมแรกนั้นก็จะเรียนวิชาของคณะ ส่วนเทอมที่ 2 จะเริ่มมันละครับ ซึ่งเราต้องเลือกลง track จาก 2 ใน 3 นั่นก็คือ Philosophy, Politics, Economics จับคู่กัน เช่น 1.Philosophy-Politics 2.Philosophy-Economics 3.Politics-Economics (track นี้คนฮิตเรียนสุด) แท่นแท๊นนน แต่เดี๋ยวก่อน!!! ถ้าใครอยากเรียน Economics ก็ต้องเรียนคณิตศาสตร์ และสถิติ ให้ผ่านก่อนนะจ๊ะ!
***PPE อาจพูดได้ว่านี่เป็นคณะเดียวของมธ. ที่เข้ามาแล้วยังคัดคนเข้ามาเรียนเศรษฐศาสตร์อีก ยังไงนะเหรอ ก็แบบว่าถ้าเราคะแนน Admission, รับตรงเข้า ผ่านคณะเศรษฐศาสตร์ หรือ PPE แล้ว สำหรับคณะเศรษฐศาสตร์นั้น หนูสามารถเรียนเศรษฐศาสตร์ได้เลย ไม่ต้องสอบแป๊ะไรอีก แต่! PPE หนู Admission มาแล้ว ยังต้องมาเรียน/สอบคณิต+สถิติ อีก เพื่อให้ได้จับคู่กับ Major เศรษฐศาสตร์ ผับผ่า คนที่ไม่ชอบเลขก็อดเลือก Major Economics ไปเลย***
ต่อมาปี 3 เพิ่มความเข้มข้นขึ้น ด้วยการขยายขอบเขตสาขาความรู้ ซึ่งเราต้องเลือก track จาก 3 ใน 4 นั่นก็คือ Philosophy, Politics & Laws, Economics development, Global Studies และก็เรียนวิชาภาคนิพนธ์ เอ้ยยเกือบลืม summer จะมีให้ฝึกงาน (บางคณะไม่มีฝึกงานนะจ๊ะ) ที่ฮอตฮิตก็คงจะเป็นพวกกระทรวงต่างๆเอย เช่นกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลังเป็นต้น
ปีสุดท้ายละ ปี 4 เรียนแค่เทอมเดียวเท่านั้น โดยเรียกวิชาเลือกเสรี + เรียนวิชาภาคนิพนธ์ ทำ Research กับอ.ที่ปรึกษา เพื่อให้จบการศึกษา
OK~~คร่าวๆก็มีประมาณนี้นะ
โดยมีมหาลัยคู่สัญญา หลักๆจะเป็น 1-4 มหาลัยนี้ (ส่วนที่เหลือแล้วแต่ปี) บอกเลย U Top ทั้งนั้น
1.University of Copenhagen *ฮอตมาก นศ.ชอบไป* (U อันดับ 1 ของเดนมาร์ก อันดับที่ 73 ของโลก)
2.Warwick University *ฮอตมาก นศ.ชอบไป* (U อันดับ 10 ของอังกฤษ อันดับ 57 ของโลก)
3.Waseda University (U กลุ่ม Tokyo 6 Universities Alliance ซึ่งเปรียบดั่ง Ivy League ของญี่ปุ่น)
4.SOAS, University of London (U กลุ่ม Russell Group ซึ่งเปรียบดั่ง Ivy League ของอังกฤษ)
5.VU Amsterdam (U ชั้นนำของ เนธอร์แลนด์)
6.Utrecht University (U ชั้นนำของ เนธอร์แลนด์)
ปล. อันดับอ้างอิงจาก QS World University Rankings® 2018.
ตัวอย่าง Summer Exchange (แอบแพงไปนิด 5555555)
ขอบอกเลยรุ่นหนึ่งจะมีประมาณ 80 คน เป็นครอบครัวเล็กๆที่อบอุ่นมาก สังคมเพื่อนก็จะมีตั้งแต่ลูกผู้ดียันเถื่อนถ่อย 5555555 ตึกคณะของเราก็จะอยู่ตรงกลางระหว่าง SPD กับบัญชี (เมื่อไหร่จะมีโรงอาหารเนี่ยยย) ต้าเหนิงก็เรียนคณะนี้นะ แต่นานๆจะเจอที -...-
อ้อ! เกือบลืม หลักสูตร PPE ท่าพระจันทร์นี้ Active กับปัญหาสังคมพอสมควรเลย เห็นได้จากมักจะมีการจัดเสวนาวิชาการอยู่บ่อยๆ ด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้ พูดได้เลยว่าสภาพแวดล้อมแบบนี้จะทำให้เราเป็นคนที่ Political Awareness เลยแหละ
อันนี้ถือเป็นตำนานเลย เพราะ 4 ปีที่แล้ว อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ก็มานั่งฟังงานนี้ ก่อนที่แกจะโดน 112 ลี้ภัยไปฝรั่งเศส
สามารถหาดูคลิปใน Youtube หรือ อ่านใน ประชาไท ได้
ใครว่าเรามีแต่วิชาการ ไม่วิชาการเราก็มีนะ work hard, play harder
.
.
.
.
.
.
.
.
.
To day!!!!!!
เชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม PPE RoV Championship พบกับการแข่งขันเพื่อชิงทุนการศึกษารวมกว่า 5,000 บาท
ร่วมชมและเชียร์เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่เข้าร่วมแข่งกันกันได้ วันนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
ณ ห้องบรรยาย 202 ชั้น 2 อาคารวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
.
.
.
เล่นขำๆกันไป
แข่งร้องเพลงก็มีน้าาาา
Trick แนะนำหนังสือเล็กๆน้อย~~~
สำหรับน้องๆที่ Admission และสอบรับตรงติดแล้ว ก่อนที่จะเข้ามาเรียน PPE เราควรที่จะรู้ intro อย่างน้อยๆของ Philosophy, Politics, Economics เพื่อเป็นองค์ความรู้ที่สามารถต่อยอดนำไปใช้ในการเรียนของเรา (อ่านก่อนตอนเปิดเทอมได้ยิ่งดี)
1. "โลกของโซฟี" ของโยสไตน์ กอร์เดอร์
เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดโลกปรัชญานั่นเอง
2. "ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย" ของคริส เบเคอร์, ผาสุก พงษ์ไพจิตร
เป็นหนังสือประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ครอบจักรวาลมากที่สุดในตอนนี้แล้ว
3. "เศรษฐศาสตร์ (ฉบับทางเลือก)" ของ HA-JOONG CHANG
หนังสือเศรษฐศาสตร์ที่ทุกคนต้องอ่าน! เศรษฐศาษสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัวและสำคัญมากซึ่งไม่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของนักเศรษฐศาสตร์
ขอพักไว้ก่อนแล้วจะมาใหม่ อิอิ...
edit ตอนนี้เรามีโรงอาหารเป็นของตัวเองแล้วน้าาา
[img]https://f.ptcdn.info/335/058/000/