ผม เรียนจบมายังเคยทำงานอะไรกับเขามาก่อนเลย มีกิจการเล็กๆ เป็นของตัวเอง แต่ต้องมาจบทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ฝั่นไว้ ตอนอายุ29 หมดทุกอย่าง ต้องตระเวนหางานทำ ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์ภายนอกของสังคมมาก่อน ต้องเข้ากรุงเทพ เพื่อหางาน ผมเป็นผู้ชายคนเดี่ยวในบ้าน ที่มีแม่ น้อง พ่อ ต้องพึงอาศัย แต่ภายในวันนี้ชีวิตกลับเป็นหลังมือ ไปสมัครงานก็ไม่มีใครเข้ารับ เพราะอายุ ถึงจะมีวุฒิป.ตรี รปศ. เคยชอบราชการมาบ่างแต่ สู้ใครไม่ได้ เลยกลับบ้านมาเปิด ธุรกิจเล็กๆ แต่ก็มาล้มจมเพราะรับต้นทุนไม่ไหว และ ยังปัญหาที่เกิดขึ้นกับผมที่ว่า พ่ออายุ60 แม่อายุ62 แล้ว น้องเพิ่งทำงานได้ไม่นาน ทำให้น้องต้องแบกรับภาระไว้มาก ผมไม่เป็นอันกินอันนอน หน้าโซมลงหมองคล่ำ ทั้งที่กินอะไรไม่ค่อยลงกลับอ้วนขึ้น เพราะไม่มีกะจิตกะใจให้ออกแรง ออกำลัง แม้แต่สิ่งที่ต้องเรียนรู้ก็ไม่ยังยากที่จะเรียน หรือ รับรู้การเปลี่ยนแปลง ของสังคม ผมไม่เห็นอนาคตเลยว่าชีวติจะเดินต่อยังไง เพื่อนกเค่อยๆตีจาก เพื่อนหญิงดูใจก็หายเงียบ เหมือนไม่รู้จักกัน ญาติๆก้ไม่ค่อยให้ความช่วยเหลือ ถึงแม้จะมีคำปลอบใจอยู่บ่างแต่ก็แปบะเดี่ยวกลับมาหดหู่คิดอะไรไม่ออก ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนิ้มง่ายอารมดีร่าเริงแจ่มใส แต่ต้องมาเผชิญกับปัญหาที่เกินขีดความสามารถ ถึงจบป.ตรี แต่ไม่สวย 2.05 เพราะคิดว่ากิจการทางบ้านมีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าตัวเองคิดผิดไป จะกลับมาทบทวนเริ่มเนื้อหาสิ่งใหม่ๆก็ยายไปเสียแล้ว ยังมาจิตตก คิดย้อนหลังไป ก้ทำให้เจ็บปวดว่าทำไมกัน ทำไมเราไม่ตั้งใจให้มากกว่านี้ มองไม่เห็นหรือไงว่าอนาคตจะเป็นแบบนี้ ลงก็ได้แต่กล่าวโทษตัวเองที่ไม่เคยพยายาม หรือ ลงมือทำอะไร ตอนที่มีโอกาส....เลย แม้แต่น้อย ...ผมอยากตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ทำไมกัน...... เมื่อหางานไม่ได้ผมกลับบ้านก็ได้แต่ร้องไห้ เห็นแม่นั่งทำหน้าเศร้า เหมือนคนไร้วิญญาณ แล้วท่านก็มาปลอบผมว่า ไม่เป็นไรเดี่ยวแม่ออกไปหางานทำช่วยลูกอีกแรง ผมร้องไห้โห ไม่หยุด แม่ผมอายุ62 แล้ว ผมควรมีครอบครัว สร้างบ้าน สร้างความสบายใจให้ได้แล้ว แต่ตอนนี้ ผมได้แต่กีดร้องในใจ ว่าตัวเองไร้ความสามรถ ไม่สามารถทำให้ครอบครัวเจริญได้ คุณยายก่อนท่านเสียท่านยังบอกว่า จงเป็นคนดี ดูแลพ่อแม่ น้อง อย่าทำให้ต้องลำบากน่า.... ผมผิดต่อคำสัญญาณ ที่ให้ไว้ ผมไม่รู้ว่าจะก้าวไปทางไหน ไปหางานทำก็ไม่มีความมั่นใจ ทำตัวเหมือนเด็ก ที่กล้าๆกลัวๆ เหมือนไม่เคยทำอะไรมาก่อนเลย .....ผมคงมีชีวิตที่รอคอยวันที่พ่อแม่จากไป และ น้องที่ต้องทนทุข จนถึงวันนั้น อย่างเรี่ยงไม่ได้เป็นแน่ .....ได้แต่ก้อดตัวเอง และทำใจก็ยังทำไม่ได้ ได้แต่ลำพึงลำพันกับตัวเองว่าทำไมไม่ไปหาประสบการณ์ ทำไม่ตั้งใจให้มากกว่านี้ ทำไม.....ชีวิตถึงกล่าบมาเป็นแบบนี้...ผมได้คำชี้แนะหลายทาง และ ผมได้พยายามลองทำดุ ลองค้นหา แต่ผลที่ได้ กลับบั่นทอนจิตใจจนไม่เหลืออะไรอีกแล้วในชีวิตนี้ ... ทั้งที่ยังมี ครอบครัว อยู่เหมือนไม่มี...ที่ว่าทุกคนมีสีหน้า และ ความรู้สึกไม่ต่างจากตัวผมเท่าไรเลย.......เหนื่อยล้าทั้งกายใจ ผมจบมาได้ 6ปีแล้ว วิชาภาษาก็ลืมไปหมด ไม่เคยทบทวนเพราะไม่ค่อยได้ใช้ ตอนก่อนหน้านี้มีความสุขมาก เล่นได้เหมือนเด็ก...ยิ้มได้เต็มที่ แต่ตอนนี้แค่มาพิมพ์บอกเล่าน้ำตาไหลไม่หยุด กว่าจะพิมพ์ออกมาระบายให้รับฟัง ก้ยังลำบากมาก เวลาที่เสียไป สิ่งที่สามารถทำได้ เวลานี้ทำไม่ได้อีกแล้ว ชีวิตไม่รู้จะก้าวไปยังไง ไหวรึป่าวก็ยังไม่อาจรู้ได้ ต้องทนอีกนานแค่ไหน ต้องแสวงหาถึงเทื่อไร...จึงจะให้มีรอยยิ้มมีชีวชีวากลับมาอีกครั้งกันนะ อยากตะโกนดังๆ อยากระบายมันออกมา แต่ระบายเท่าไรก็ไม่หมดไปเสียที.... ผมพยายามหางาน หาเท่าทีจะทำได้แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย....ต้องรอเรียกตัว ทั้งที่เราอยากทำงานเลย ได้เงินให้เร็วที่สุด ไม่งั้นชีวิตต้องมาล้มหมอนนอนเสื้อกันแน่ๆ สมับติก็ค่อยหายไปทีละชิ้น ..... ในชีวิตนี้ไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว.....ผมไม่รู้จะทำไงดีแล้วครับ.....
ชีวิตจะเดินไปทางไหนดี เมือต้องพบกับปัญหาที่แก้ไม่ได้ ครอบครัวที่กำลังจะแตกสลาย......