[CR] ไม่ถึง 1,000 บาท ก็นอนกลางอุเอโนะได้นะ รู้ยัง?

สวัสดีจ้ะ หลังจากที่คราวก่อนป้าได้มาพาไปเลาะถ้ำที่ทั้งยาว ทั้งใหญ่ ในจังหวัดสตูลกันไปแล้ว ... คราวนี้ ขอมารีวิวที่พักใจกลางขุมทรัพย์ของคนรักการช้อปปิ้ง อย่างโซนอุเอโนะ และตลาดอะเมะโยโกะกันมั่ง สะดวกมากกกกกกก โดยเฉพาะหากลุยเดี่ยวมาเองอย่างป้านี่ละ!

แน่ละจ้ะ ตามสไตล์ป้า ก่อนจะพาไปเที่ยว ขอพูดถึงที่ซุกหัวนอนกันก่อน ที่พักที่ป้าเลือกนอนหนนี้ อยู่ถัดจากตลาดอะเมะโยโกะไปประมาณแค่สองซอย สามารถเดินทะลุมาได้สบาย โดยที่ป้าไปควานที่นี่เจอใน booking.com จ้ะ แว้บแรกที่เห็นราคาก็นึกว่าตาฝาด เพราะตอนที่ป้าจองมา เป็นช่วงที่ดีลราคาถูกสุดพอดี เลยได้อยู่ที่คืนละ 800 กว่าบาทเองอ่ะ แถมบอกเลยว่าสะดวกมากกกกก เพราะออกจากสถานีรถไฟอุเอโนะ ก็เดินลากกระเป๋าข้ามถนนมาสวยๆ ฝั่งที่จะไปอะเมะโยโกะ จากนั้นใช้กูเกิ้ลแม็พก็จะง่ายสุด ใส่ชื่อโรงแรมเข้าไปปึ้ง เดินตามเลยจ้ะ ถึงแน่นอน



อ้าว ... โม้จนลืมบอกชื่อโรงแรม Capsule Net Omotenashi no Oyado คือชื่อโรงแรมนี้จ้ะ ยาวเหยียดสะใจ ใครจะไปจำได้ แถมด้านหน้าโรงแรมนางก็ไม่มีป้ายชื่อบอกนะ อาศัยว่าคุ้นตาจากหน้าเว็บของ booking เลยเข้าไปแหย่หน้าถามดูว่าใช่มั้ย ก็เลยเอวังกันจ้ะ ได้เช็คอินตามที่จองมาอย่างไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่ที่ฟร้อนท์เค้าพูดอังกฤษได้ดี เซอร์วิสดีมาก แถมตัวโรงแรมก็ดูใหม่ สะอาดสะอ้าน เรียกว่าป้านี่แอบกระหยิ่มในใจอยู่คนเดียวว่ามันช่างคุ้มราคาที่จองมาซะเหลือเกิน เพราะเคยไปนอนแคปซูลที่หน้าตาคล้ายกัน แต่อาจจะกว้างขวางกว่าที่นี่หน่อยนึง แถวใกล้ซึคิจิ ปรากฏว่าราคาแรงมากกก คือนอนโรงแรมเล็กๆ ได้สบาย ... ที่นี่จึงถูกอกถูกใจป้านักแล เมื่อได้เห็น

เมื่อเราเช็คอิน เราจะได้รับชุดยังชีพในโรงแรม ซึ่งประกอบด้วยชุดนอน ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม หลักๆ ก็ประมาณนี้ ขอโทษทีเถอะ ไอ้ป้าก็ลืมถ่ายรูปเอาไว้ เอาเป็นว่าพอได้ของเรียบร้อย เค้าก็จะให้กุญแจล็อคเกอร์เก็บรองเท้า ให้เราเอาไปเก็บไว้ในบริเวณที่จัดไว้ตรงข้ามฟร้อนท์นั่นละ จากนั้นก็ไปห้องพักกันเลย ป้าจองห้องรวมเฉพาะผู้หญิงไว้ ซึ่งโดยรวมแล้ว ก็แลดูปลอดภัยดี เพราะจากลิฟท์ เราต้องผ่านประตูซึ่งต้องใช้ตัวกุญแจคล้องข้อมือซึ่งเค้าจะให้มาเฉพาะแขกแต่ละเตียง คือพอเราเอาเจ้าตัวคล้องข้อมือไปสแกน มันจะขึ้นให้เลยว่าเรานอนเตียงไหน ซึ่งมันน่าจะเป็นการจำกัดการเข้าออกให้เป็นเฉพาะแค่คนที่นอนในชั้นนั้นๆ เท่านั้นที่เข้าได้ พอเข้าไป เราจะเจอกับห้องล็อคเกอร์ ซึ่งเป็นห้องสำหรับเก็บกระเป๋าสัมภาระ ล็อคได้ และสามารถเปิดปิดกระเป๋าเอาของได้โดยที่เสียงไม่รบกวนออกมาถึงด้านนอกที่เป็นเตียงนอน

ป้ายบอกสถานที่ในโรงแรมที่แปะอยู่ในลิฟท์
เตียงนอนสภาพเคยดี ที่เละอย่างนี้เพราะมานึกได้ว่าควรถ่ายรูปหลังจากตะลุยไปแล้ว

ส่วนของที่นอนก็กว้างขวางพอประมาณ นั่งแล้วเอามือเหยียดขึ้นไปได้ ไม่ต้องงแขน มีทีวี มีหูฟัง ไฟหัวเตียงซึ่งปรับระดับความสว่างได้ และที่เสียบ USB พร้อมผ้าห่มหนึ่งผืน หมอนหนึ่งใบ ก็ถือว่าสบายแบบพอเพียงนะ อยู่ได้ชิลล์ๆ ห้องน้ำก็สะอาดสะอ้าน มีหลายห้องไม่ต้องรอคิว แยกห้องสุขากับห้องอาบน้ำอย่างชัดเจน ในส่วนของห้องอาบน้ำ เมื่อเปิดเข้าไปจะเจอพื้นที่โซนแห้ง ไว้สำหรับวางของ หวีผม ซึ่งลูกบิดล็อคได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องของหาย ส่วนโซนด้านในผ่านประตูกั้นเข้าไปอีกชั้นจะเป็นฝักบัว พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำทั้งหลายที่มีให้ครบครันทั้งสบู่ แชมพู ครีมนวดผม ด้านนอกห้องอาบน้ำ มีโลชั่นเช็ดหน้า สำลี ทิชชู่ คอตต้อนบัต ไดร์เป่าผม หวี ยางมัดผมเส้นเล็กๆ สวยครบจบในขั้นตอนเดียวได้ที่นี่

นอกจากนั้น ที่โรงแรมนี้ยังมีชั้นที่แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ไว้กินอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งตอนเราไป เจอโปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์ซอฟท์ดริ๊งค์ ในราคา 100 เยนด้วยละ อีกหนึ่งพื้นที่ที่มีให้บริการคือโซนห้องสันทนาการ มีห้องสมุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนังสือภาษาญี่ปุ่น มีโซนดูหนัง ดูทีวี พร้อมโซฟาให้นั่งเม้าท์มอยชิลล์ๆ หากมาเป็นหมู่คณะ โดยรวมแล้วถือว่าดีเลยทีเดียวอ่ะ

มาดูห้องน้ำกันมั่ง

พื้นที่ส่วนกลางก็ดีนะ

ออกมาดูละแวกรอบๆ โรงแรมกันมั่งดีกว่า
ที่เด็ดมากคือตรงข้ามโรงแรมเป็นร้านอิซากายะ ซึ่งเห็นหนุ่มๆ มานั่งดริ๊งค์หลังเลิกงานกันแน่นเชียว หรือหากอยากกินอย่างอื่น หรืออยากเดินเล่น เชิญเดินได้เลยจ้ะ ละแวกซอยในโรงแรมนี้ มีทั้งร้านเกม ร้านปาจิงโกะ ร้านอาหารสารพัดรูปแบบ ร้านดอกไม้ ถัดไปอีกหน่อยใกล้ถนนใหญ่ก็มียูนิโคล่ตึกใหญ่ 5 ชั้น ที่สองชั้นด้านบนเป็น GU มีร้านขายของมือสองสารพัดแบรนด์ ร้านขายอาหารสด ร้านขายผลไม้ ร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงร้านรวงต่างๆ ที่คนไทยชอบไปช้อปนั่นละ เดินมาไม่เกินสามซอย หรือจะข้ามฟากมาเดินเล่นสวนสัตว์อุเอโนะที่อยู่อีกฝั่งทางออกของสถานีรถไฟ ก็ยังได้ ง่ายมาก

ร้านนี้อยู่หน้าโรงแรมเลย

เดินดูซอยข้างๆ กันหน่อย

ของสดก็มา

อันนี้นับเป็นของสดมั้ย?
ร้านต้นไม้ยังมี

ร้านของมือสองร้านนี้ก็เดินสนุกนะ ชื่อร้าน Mode Off ถัดจากซอยโรงแรมมาประมาณ 2-3 ซอย

ถัดออกมาข้างนอกอีกนิด แค่เดินข้ามสถานีรถไฟอุเอโนะมา ก็ถึงสวนสัตว์อุเอโนะเลย ค่าเข้า 600 เยน เดินเพลินมากกก

สัตว์น่ะน่ารักดี แต่คนน่าเบื่อมากกกกก มีความเซ็งเบาๆ ในยามที่เรามาคนเดียว

จากสวนสัตว์ เดินทะลุมาอีกหน่อยก็คือสวนสาธารณะอุเอโนะ เดินเล่นเย็นๆ ก็ชิลล์ดีนะ

นั่งรถไฟเลยมาอีกไม่กี่สถานี ก็นี่เลย สถานที่โปรดของป้า .. ศาลเจ้าเมจิ ทั้งสวย สงบ เหมือนเดินอยู่อีกโลก ที่ไม่ใช่กลางโตเกียว
คราวนี้ฟลุค ได้มาเจอบ่าวสาวในพิธีแต่งงานด้วยละ

มุมยอดนิยมในศาลเจ้าเมจิ

ปิดท้ายวันชิลล์ ที่แลนด์มาร์คของโตเกียว

อาจจะไม่ได้เป็นสถานที่แปลกหูแปลกตาหวือหวา แต่ป้าก็หวังว่าจะมีประโยชน์กับใครบ้าง ไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ ไว้คราวหน้าถ้ามีเวลา ป้าจะมาแนะนำสถานที่ว้าวๆ ในญี่ปุ่นมั่ง เผื่อใครสนใจจะตามรอย

แล้วเจอกันจ้าาา บุยยย อมยิ้ม13อมยิ้ม13

หากเมตากรุณา กด like / follow เพจ https://www.facebook.com/auntietour/ ของป้าให้หน่อยน้าาา มีอัพเดทที่เที่ยวในเพจเรื่อยๆ จ้า ... ขอขอบพระคุณยิ่งล่วงหน้าเลยยยยย
ชื่อสินค้า:   แคปซูลโฮเต็ล อุเอโนะ โตเกียว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่