สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน ไม่ได้รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวมานานมากๆละแต่ทริปที่ผ่านมาอดไม่ได้ที่จะนำแหล่งท่องเที่ยวดีๆมานำเสนอครับ พอดีผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสสถานที่หนึ่งในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ.......
ต.เมืองคอง เป็นอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ครับ มีแค่ 6 หมู่บ้านราษฎรมีประมาณ 1,000 ครัวเรือน แต่ที่พิเศษคือเมืองคองนี้ตั้งอยู่หลังดอยหลวงเชียงดาวครับ ห่างจากตัวเมืองเชียงดาวประมาณ 38 กม.ทางสายหลักจะเข้าทางดอยหลวงเชียงดาว ผ่านด่านหน่วยพิทักษ์ป่าด่านห้วยผาตั้ง เลาะไปตามแนวเขาและแน่นอนทางเส้นนี้จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง บ้านระเบียงดาว ครับ......เริ่มน่าสนใจแล้วใช่มั้ยครับ
ทริปนี้ผมเดินทางออกจากลำพูนเวลาประมาณ 07.30 น.โดยรถคู่ใจ CB500X ไปคนเดียวครับ ดูเวลาจากอากู๋บอกว่าจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ระยะทาง 138 กม.ถ้าท่านเดินทางจากเชียงใหม่ก่น่าจะใช้เวลาประมาฯ 2.50 ชม.ระยะทางประมาณ 120 กม.ครับ

เดินทางมาได้หนึ่งชั่วโมงก่มาพักรถพักคนที่จุดประจำคือ ปตท.แม่แตงครับ ที่นี่จะเจอเพื่อนๆชาวสองล้อเยอะมากๆ...สำหรับผมแล้วที่นี่เป็นเสมือน Check point ที่เป็นสัญญาณบอกว่าเราได้ออกจากในเมืองและกำลังจะเข้าสู่อ้อมกอดของธรรมชาติแล้ว อิอิ

ออกจาก ปตท.แม่แตงมาได้สักสี่สิบกว่าโลก่ถึงแยกบายพาสเลี่ยงเมืองเชียงดาวครับ เราก่ตรงไปทางดอยหลวงเชียงดาวตามป้ายบอกทางเลย จากนั้นก็เดินทางเข้าไปทางวัดดอยหลวงเชียงดาวครับ ทางเส้นนี้สวยงามมากๆนะ ผมว่า.....ชอบเป็นการส่วนตัวครับ


เราตรงเข้าเรื่อยๆนะครับ จะเจอกับด่านหน่วยพิทักษ์ป่าสบห้วยผาตั้ง-นาเลา มอเตอร์ไซด์ไม่คิดเงินแต่ถ้าเป็นรถยนต์ก่จะเสียค่าผ่านด่านนิดนึงนะ พี่ๆที่ด่านนี้ใจดีมากๆครับเราสอบถามเส้นทางได้เขาจะอธิบายโดยละเอียดนะ ที่ด่านนี้มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และลานจอดรถกว้างๆไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ

เส้นทางหลังจากด่านนี้เข้าไประยะทางประมาณ 3 กม.จะลาดชันและคดเคี้ยวมากๆครับ..ขอบอก เส้นทางจะเลาะสันเขาโค้งไปโค้งมาและร่มรื่นๆมากๆครับ ผมนิเปิดชิวล์หมวกกันน็อครับอากาศดีๆตลอดทางเลย 555......เราออกจากด่านนี้ไปอีกประมาณ 14 กม.ก็จะไปถึง บ้านระเบียงดาวครับ จะอยู่ทางซ้ายมือ .......สำหรับผมแล้วที่นี่คือ วิมานบนดิน ชัดๆเลยครับ จอดแวะชิมกาแฟและดื่มด่ำกับธรรมชาติเป็นชั่วโมงเลยครับ


หลังจากนั้นก่ออกเดินทางจากบ้านระเบียงดาวประมาณ 22 กม.ก็จะเข้าเขต ต.เมืองคองแล้วครับ เส้นทางเป็นถนนลาดยางคอนกรีตสลับกับลาดยางมะตอยสุดสายครับไม่มีทางลูกรังเลย ตลอดเส้นทางมีต้นไม้สองข้างทางให้ความร่มเย็น มีออกซิเจนให้สูด...และมีเจ้าถิ่นมาคอยต้อนรับครับ 555

ถึงเมืองคองแล้วครับ ที่นี้เป็นตำบลที่สงบเงียบดียังมีวิถีชุมชนเก่าๆให้เราได้เห็น ผู้คนมีมิตรไมตรีดีมากๆ ยิ่งรู้ว่าเรามาจากต่างถิ่นเขายิ่งแนะนำสถานที่และมุมสวยๆของตำบลในลองไปดูนะครับ



ผมมีเป้าหมายที่จะมาเที่ยวทริปนี้คือ เมืองคองโฮมสเตย์ครับและก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่นี่เป็นบ้านพักทรงพี่น้องกระเหรี่ยงครับ มีห้องนอนที่เรียบง่ายอยู่ติดกับชายทุ่งท้ายหมู่บ้านเลย มีระเบียงไม้ไผ่ที่สามารถทำกิจกรรมยามค่ำคืนได้ด้วยนะ ที่นี่มีห้องนอนหลายขนาดสามารถรับแขกได้ 30-50 คนเลยทีเดียวนะครับ แถมยังมีห้องเล็กๆสำหรับท่านที่มาเป็นคู่ด้วยนะ 555 เจ้าของคืออ้ายด่องใจดีสุดๆครับ....ค่าที่พักก็ 350 บาท/คน/คืนครับ เสียดายที่ผมไม่ได้เตรียมตัวมานอนครับ ต้องกลับลำพูนนะ....ไม่งั้นนิ จัดเต็มแน่ๆ555



ผมใช้เวลานอนเล่นๆอยู่ที่นี่นานเหมือนกันครับ นอนคิดถึงบรรยากาศที่บ้านเก่าๆสมัยเป็นเด็กนะ สมัยกลิ่นโคลนสาปควาย ในวิถีที่ไม่เร่งรีบเหมือนเช่นปัจจุบันนี้นะครับ นั่งไปคิดไปยิ้มไป...นิเราบ้าไปรึเปล่านิ 555
จากนั้นสักบ่ายสามโมงก็เดินทางกลับลำพูนครับ ระหว่างทางมีเรื่องระทึกตลกๆนะ คือ ผมไปเจอเจ้าถิ่นข้างทางตัวสีชมพูนอนกันอยู่สามตัว บ้านผมเรียกว่าควายปอนครับซึ่งนานๆจะได้เจอสักทีนึงเลยจอดรถถ่ายรูปเก็บไว้นะ

ระหว่างที่ผมก่มองไปที่ควาย และควายก็มองมาที่ควาย เอ๊ย! มองมาที่ผม ผมก็เหลือบไปเห็นเพื่อนของเจ้าถิ่นตรงปรี่มาที่ผมอีกสามตัวครับ มันอาจสงสัยว่าไอ้หมอนี่มันมาทำอะไรเพื่อนตรูหรือเปล่าอะไรทำนองนั้น เดินเข้ามาอย่างเร็วครับ ..ตัวผมเองก่ใช่จะกลัวนะแต่ก็รีบเก็บโทรศัพท์แล้วบึ่งรถออกมาแทบไม่ทันนะ 555 เกือบโดนเจ้าถิ่นสั่งสอนเสียแล้วเรา 555

หนึ่งวันสำหรับมนุษย์เงินเดือนกับการพักผ่อนในสถานที่สงบๆร่มรื่น ในวิถีชุมชนที่เรียบง่ายพร้อมความมีน้ำใจของพี่น้องชาวเมืองคอง ผมรู้สึกประทับใจมากๆครับและจะมาอีกแน่นอนในช่วงที่ต้นข้าวโตแล้ว นาข้าวขั้นบันไดที่นี่ก่สวยไม่แพ้ใครนะ..ขอบอก และขอจบรีวิวฉบับง่ายๆด้วยภาพนาข้าวขั้นบันไดเมืองคองสวยๆจากรูปของเมืองคองโฮมสเตย์นะครับ ลองมาเที่ยวกันนะครับ
เมืองคอง..................ความสงบเงียบหลังขุนเขาใหญ่
สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน ไม่ได้รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวมานานมากๆละแต่ทริปที่ผ่านมาอดไม่ได้ที่จะนำแหล่งท่องเที่ยวดีๆมานำเสนอครับ พอดีผมมีโอกาสได้ไปสัมผัสสถานที่หนึ่งในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ.......
ต.เมืองคอง เป็นอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ครับ มีแค่ 6 หมู่บ้านราษฎรมีประมาณ 1,000 ครัวเรือน แต่ที่พิเศษคือเมืองคองนี้ตั้งอยู่หลังดอยหลวงเชียงดาวครับ ห่างจากตัวเมืองเชียงดาวประมาณ 38 กม.ทางสายหลักจะเข้าทางดอยหลวงเชียงดาว ผ่านด่านหน่วยพิทักษ์ป่าด่านห้วยผาตั้ง เลาะไปตามแนวเขาและแน่นอนทางเส้นนี้จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง บ้านระเบียงดาว ครับ......เริ่มน่าสนใจแล้วใช่มั้ยครับ
ทริปนี้ผมเดินทางออกจากลำพูนเวลาประมาณ 07.30 น.โดยรถคู่ใจ CB500X ไปคนเดียวครับ ดูเวลาจากอากู๋บอกว่าจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ระยะทาง 138 กม.ถ้าท่านเดินทางจากเชียงใหม่ก่น่าจะใช้เวลาประมาฯ 2.50 ชม.ระยะทางประมาณ 120 กม.ครับ
เดินทางมาได้หนึ่งชั่วโมงก่มาพักรถพักคนที่จุดประจำคือ ปตท.แม่แตงครับ ที่นี่จะเจอเพื่อนๆชาวสองล้อเยอะมากๆ...สำหรับผมแล้วที่นี่เป็นเสมือน Check point ที่เป็นสัญญาณบอกว่าเราได้ออกจากในเมืองและกำลังจะเข้าสู่อ้อมกอดของธรรมชาติแล้ว อิอิ
ออกจาก ปตท.แม่แตงมาได้สักสี่สิบกว่าโลก่ถึงแยกบายพาสเลี่ยงเมืองเชียงดาวครับ เราก่ตรงไปทางดอยหลวงเชียงดาวตามป้ายบอกทางเลย จากนั้นก็เดินทางเข้าไปทางวัดดอยหลวงเชียงดาวครับ ทางเส้นนี้สวยงามมากๆนะ ผมว่า.....ชอบเป็นการส่วนตัวครับ
เราตรงเข้าเรื่อยๆนะครับ จะเจอกับด่านหน่วยพิทักษ์ป่าสบห้วยผาตั้ง-นาเลา มอเตอร์ไซด์ไม่คิดเงินแต่ถ้าเป็นรถยนต์ก่จะเสียค่าผ่านด่านนิดนึงนะ พี่ๆที่ด่านนี้ใจดีมากๆครับเราสอบถามเส้นทางได้เขาจะอธิบายโดยละเอียดนะ ที่ด่านนี้มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และลานจอดรถกว้างๆไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วยนะครับ
เส้นทางหลังจากด่านนี้เข้าไประยะทางประมาณ 3 กม.จะลาดชันและคดเคี้ยวมากๆครับ..ขอบอก เส้นทางจะเลาะสันเขาโค้งไปโค้งมาและร่มรื่นๆมากๆครับ ผมนิเปิดชิวล์หมวกกันน็อครับอากาศดีๆตลอดทางเลย 555......เราออกจากด่านนี้ไปอีกประมาณ 14 กม.ก็จะไปถึง บ้านระเบียงดาวครับ จะอยู่ทางซ้ายมือ .......สำหรับผมแล้วที่นี่คือ วิมานบนดิน ชัดๆเลยครับ จอดแวะชิมกาแฟและดื่มด่ำกับธรรมชาติเป็นชั่วโมงเลยครับ
หลังจากนั้นก่ออกเดินทางจากบ้านระเบียงดาวประมาณ 22 กม.ก็จะเข้าเขต ต.เมืองคองแล้วครับ เส้นทางเป็นถนนลาดยางคอนกรีตสลับกับลาดยางมะตอยสุดสายครับไม่มีทางลูกรังเลย ตลอดเส้นทางมีต้นไม้สองข้างทางให้ความร่มเย็น มีออกซิเจนให้สูด...และมีเจ้าถิ่นมาคอยต้อนรับครับ 555
ถึงเมืองคองแล้วครับ ที่นี้เป็นตำบลที่สงบเงียบดียังมีวิถีชุมชนเก่าๆให้เราได้เห็น ผู้คนมีมิตรไมตรีดีมากๆ ยิ่งรู้ว่าเรามาจากต่างถิ่นเขายิ่งแนะนำสถานที่และมุมสวยๆของตำบลในลองไปดูนะครับ
ผมมีเป้าหมายที่จะมาเที่ยวทริปนี้คือ เมืองคองโฮมสเตย์ครับและก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่นี่เป็นบ้านพักทรงพี่น้องกระเหรี่ยงครับ มีห้องนอนที่เรียบง่ายอยู่ติดกับชายทุ่งท้ายหมู่บ้านเลย มีระเบียงไม้ไผ่ที่สามารถทำกิจกรรมยามค่ำคืนได้ด้วยนะ ที่นี่มีห้องนอนหลายขนาดสามารถรับแขกได้ 30-50 คนเลยทีเดียวนะครับ แถมยังมีห้องเล็กๆสำหรับท่านที่มาเป็นคู่ด้วยนะ 555 เจ้าของคืออ้ายด่องใจดีสุดๆครับ....ค่าที่พักก็ 350 บาท/คน/คืนครับ เสียดายที่ผมไม่ได้เตรียมตัวมานอนครับ ต้องกลับลำพูนนะ....ไม่งั้นนิ จัดเต็มแน่ๆ555
จากนั้นสักบ่ายสามโมงก็เดินทางกลับลำพูนครับ ระหว่างทางมีเรื่องระทึกตลกๆนะ คือ ผมไปเจอเจ้าถิ่นข้างทางตัวสีชมพูนอนกันอยู่สามตัว บ้านผมเรียกว่าควายปอนครับซึ่งนานๆจะได้เจอสักทีนึงเลยจอดรถถ่ายรูปเก็บไว้นะ
หนึ่งวันสำหรับมนุษย์เงินเดือนกับการพักผ่อนในสถานที่สงบๆร่มรื่น ในวิถีชุมชนที่เรียบง่ายพร้อมความมีน้ำใจของพี่น้องชาวเมืองคอง ผมรู้สึกประทับใจมากๆครับและจะมาอีกแน่นอนในช่วงที่ต้นข้าวโตแล้ว นาข้าวขั้นบันไดที่นี่ก่สวยไม่แพ้ใครนะ..ขอบอก และขอจบรีวิวฉบับง่ายๆด้วยภาพนาข้าวขั้นบันไดเมืองคองสวยๆจากรูปของเมืองคองโฮมสเตย์นะครับ ลองมาเที่ยวกันนะครับ