จากเจ้าชาย อันสมบูรณ์ผู้เพียบพร้อม ทั้ง
กิน กาม เกียรติ
รูปงาม สรรพวิชา ชาติตระกูล ความสุขในทางโลก
ทว่า มีสิ่งเตือนใจให้ทรง สลดสังเวช ในความอันไม่จีรังแห่ง สังขารเหล่านั้น
วันนึง พระองค์ก้อต้อง แก่ เจ็บ ตาย
แม้เพียบพร้อมกับสิ่งเหล่านั้นสักเพียงใด
ก้อมิอาจหลุดพ้นไปจาก ความทุกข์
ทั้งทุกข์จากการพลัดพลากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ทุกข์จากต้องประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก ปรารถณาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนนั้นก้อเป็นทุกข์
ทุกข์จากไฟแห่ง ราคะ โทสะ และโมหะ
ทรงละ กิน กาม เกียรติ เพื่อแสวงหา พระบรมสัจจธรรม
เพื่อแสวงหาทางให้พ้นไปเสียจากทุกข์ทั้งปวง
และพระองค์ก้อทรงค้นพบ
ในคืนวันเพ็ญ ใต้ร่มโพธิพฤกษ์
และทรงชี้ให้เหล่า เวไนยสัตว์ทั้งหลาย ได้เห็นกองเห็นทุกข์ และทางอันจะก้าวข้ามกองแห่งทุกข์ทั้งปวงนั้นเสีย
ให้ผู้เดินตามพระองค์ คือสงฆ์สาวก ละออกจากกิน กาม เกียรติ เพื่อแสวงหาพระบรมสัจจธรรม เพื่อก้าวข้ามทุกข์นั้นเสีย
แล้วจงนำธรรมที่พระองค์ทรงบัญญัติ ไปเผยแพร่แด่เหล่า เวไนยสัตว์ทั้งหลาย
ให้เป็นผู้สืบทอด บวรพระพุทธศาสนา และเป็นเนื้อนาบุญแห่งโลก
บัดนี้
ผู้ที่ให้ สัจจวาจา ต่อหน้าพระรัตนไตร ว่าจะประพฤติ สำรวมระวังตนในพระธรรมวินัย
ว่าจะเป็นผู้มุ่งละในกิน กาม เกียรติ
กลับศึกษาปฎิบัติ ธรรมบัญญัตินั้น แล้วมาดัดแปลง ตัดแต่ง แอบอ้าง สิ่งที่พระองค์มิได้ทรงบัญญัติ ว่าพระองค์ทรงบัญญัติ
เผยแพร่ธรรมอันบิดเบือนนั้น เพียงเพื่ออามิส ลาภ สักการะ ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงรังเกียจ
บวช เพื่อกลับไปหากิน กาม เกียรติ สนองกิเลสตัณหาแห่งตน ด้วยการแอบอ้างธรรมแห่งพระพุทธองค์ มาล่อลวงสาธุชนผู้มิได้ศึกษา
แข่งกันสั่งสมกิน กาม เกียรติ อันเป็นสิ่งหาสาระ ประโยชน์อันใดมิได้
สร้างเครือข่าย เป็นธุรกิจบุญ แบบมือใครยาว สาวได้สาวเอา
อย่างไร้ความละอาย และไม่เกรงกลัวต่อบาป
และตระบัติสัจจวาจา ต่อหน้าพระรัตนไตร
ครองผ้ากาสาวพัสตร์แห่งพระองค์ ด้วยความอู้ฟู้ หรูหรา เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันเกินจำเป็น แห่งสมณเพศ
ด้วยเงินหยาดเหงือแรงงาน แห่งสาธุชนผู้มิได้ศึกษา ต้องจ่ายเงินแลกความศรัทธาในบุญและธรรม ให้แก่สำนักเหล่านั้น
เดินสวนทางแห่งพระองค์
จากเรือนหลังๆก่อนบวช มุ่งสู่คฤหาส พร้อมสรรพทั้งกิน กาม เกียรติ ใต้ร่มกาสาวพัสตร์
พร้อมกับ ข่าวคาวอันน่าสลดสังเวช ให้แก่สาธุชน
ทั้งเรื่องการทะเลาะเบาะแว้ง แย่งชิงศรัทธาจากสาธุชน ราวกับบริษัทแย่งชิงลูกกันและกัน จัดงานอิเว้นบุญแข่งกัน โปรโมทเพื่อเรียกลูกค้า
เรื่องอื้อฉาวๆเกี่ยวกับเงินๆทองๆ ข้อกังขาในพระธรรมวินัย
ตั้งสำนักกันเพื่ออะไรกัน
เพื่อมุ่งละกิน กาม เกียรติ หรือ
เพื่อมุงกิน กาม เกียรติ กันแน่ !!!!!!!!!!!
พุทธ ธุรกิจ สิ่งอันสวนทางกับ พระพุทธองค์ !!!!!!!
กิน กาม เกียรติ
รูปงาม สรรพวิชา ชาติตระกูล ความสุขในทางโลก
ทว่า มีสิ่งเตือนใจให้ทรง สลดสังเวช ในความอันไม่จีรังแห่ง สังขารเหล่านั้น
วันนึง พระองค์ก้อต้อง แก่ เจ็บ ตาย
แม้เพียบพร้อมกับสิ่งเหล่านั้นสักเพียงใด
ก้อมิอาจหลุดพ้นไปจาก ความทุกข์
ทั้งทุกข์จากการพลัดพลากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ทุกข์จากต้องประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก ปรารถณาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนนั้นก้อเป็นทุกข์
ทุกข์จากไฟแห่ง ราคะ โทสะ และโมหะ
ทรงละ กิน กาม เกียรติ เพื่อแสวงหา พระบรมสัจจธรรม
เพื่อแสวงหาทางให้พ้นไปเสียจากทุกข์ทั้งปวง
และพระองค์ก้อทรงค้นพบ
ในคืนวันเพ็ญ ใต้ร่มโพธิพฤกษ์
และทรงชี้ให้เหล่า เวไนยสัตว์ทั้งหลาย ได้เห็นกองเห็นทุกข์ และทางอันจะก้าวข้ามกองแห่งทุกข์ทั้งปวงนั้นเสีย
ให้ผู้เดินตามพระองค์ คือสงฆ์สาวก ละออกจากกิน กาม เกียรติ เพื่อแสวงหาพระบรมสัจจธรรม เพื่อก้าวข้ามทุกข์นั้นเสีย
แล้วจงนำธรรมที่พระองค์ทรงบัญญัติ ไปเผยแพร่แด่เหล่า เวไนยสัตว์ทั้งหลาย
ให้เป็นผู้สืบทอด บวรพระพุทธศาสนา และเป็นเนื้อนาบุญแห่งโลก
บัดนี้
ผู้ที่ให้ สัจจวาจา ต่อหน้าพระรัตนไตร ว่าจะประพฤติ สำรวมระวังตนในพระธรรมวินัย
ว่าจะเป็นผู้มุ่งละในกิน กาม เกียรติ
กลับศึกษาปฎิบัติ ธรรมบัญญัตินั้น แล้วมาดัดแปลง ตัดแต่ง แอบอ้าง สิ่งที่พระองค์มิได้ทรงบัญญัติ ว่าพระองค์ทรงบัญญัติ
เผยแพร่ธรรมอันบิดเบือนนั้น เพียงเพื่ออามิส ลาภ สักการะ ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงรังเกียจ
บวช เพื่อกลับไปหากิน กาม เกียรติ สนองกิเลสตัณหาแห่งตน ด้วยการแอบอ้างธรรมแห่งพระพุทธองค์ มาล่อลวงสาธุชนผู้มิได้ศึกษา
แข่งกันสั่งสมกิน กาม เกียรติ อันเป็นสิ่งหาสาระ ประโยชน์อันใดมิได้
สร้างเครือข่าย เป็นธุรกิจบุญ แบบมือใครยาว สาวได้สาวเอา
อย่างไร้ความละอาย และไม่เกรงกลัวต่อบาป
และตระบัติสัจจวาจา ต่อหน้าพระรัตนไตร
ครองผ้ากาสาวพัสตร์แห่งพระองค์ ด้วยความอู้ฟู้ หรูหรา เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันเกินจำเป็น แห่งสมณเพศ
ด้วยเงินหยาดเหงือแรงงาน แห่งสาธุชนผู้มิได้ศึกษา ต้องจ่ายเงินแลกความศรัทธาในบุญและธรรม ให้แก่สำนักเหล่านั้น
เดินสวนทางแห่งพระองค์
จากเรือนหลังๆก่อนบวช มุ่งสู่คฤหาส พร้อมสรรพทั้งกิน กาม เกียรติ ใต้ร่มกาสาวพัสตร์
พร้อมกับ ข่าวคาวอันน่าสลดสังเวช ให้แก่สาธุชน
ทั้งเรื่องการทะเลาะเบาะแว้ง แย่งชิงศรัทธาจากสาธุชน ราวกับบริษัทแย่งชิงลูกกันและกัน จัดงานอิเว้นบุญแข่งกัน โปรโมทเพื่อเรียกลูกค้า
เรื่องอื้อฉาวๆเกี่ยวกับเงินๆทองๆ ข้อกังขาในพระธรรมวินัย
ตั้งสำนักกันเพื่ออะไรกัน
เพื่อมุ่งละกิน กาม เกียรติ หรือ
เพื่อมุงกิน กาม เกียรติ กันแน่ !!!!!!!!!!!