พอดีเราสงสัย ว่าตัวเองคิดมากไปเองใช่มั้ย?! ก็เลยอยากมาถามเพื่อนๆดู
เรื่องมีอยู่ว่า... วันเสาร์ อาทิตย์ ที่ผ่านมาเราไปไหว้พระวัดหนึ่งในจังหวัดระยอง มีแฟนเรา(แม็ก) รุ่นพี่แฟนเรา(พี) แฟนรุ่นพี่ (ติ๊ก) และแม่ของพี่ติ๊ก (เป็นชื่อสมมุติขึ้นทั้งหมด) เรานัดเจอกันที่บ้านของพี่ติ๊กเพื่อเอารถไปคันเดียว ซึ่งเรากับแฟนงอนกันนิดหน่อยก่อนออกเดินทางเลยไม่ค่อยคุยกัน พอถึงบ้านพี่ติ๊กเราก็ขึ้นรถออกเดินทาง เราไม่ค่อยสนิทกับพวกพี่เขาเลยไม่ค่อยคุยกับใคร ส่วนแม็กสนิทกับทุกคนมากจึงคุยกันตลอด พี่ติ๊กเปิดร้านอาหารอยู่แถวสีลมก็จะคุยเรื่องเมนูอาหารใหม่ที่ร้านและได้ชวนแม็กไปชิมบอกว่าเดี๋ยวให้แม่ทำให้กิน แล้วก็คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ แล้วได้ถามแม็กว่าวันเกิดพี่ให้ไรพี่ละ แม็กก็ไม่ได้ตอบไรได้แต่ขำละถามกลับไปว่าพี่พีให้ไร พี่ติ๊กเอารูปแหวนเพชรให้แม็กดูถามว่าสวยมั้ย แม็กก็บอกว่าพี่พีอย่าบอกว่าสวยนะ ครึ่งแสนเลยนะพี่ (ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรแต่หลังจากเหตการณ์ทั้งหมดมันทำให้เราคิดถึงเรื่องนี้ด้วย) มีแวะกินข้าวบ้าง แวะปั๊มบ้าง จนมาถึงวัด เราก็ไหว้พระกันปกติ พี่ติ๊กก็มีชวนเราคุยบ้างนิดหน่อย พอเราไหว้พระเสร็จเราก็เดินทางกลับมาพักแถวๆพัทยา ถึงที่พักประมาณ4โมงกว่าๆ พอมาถึงเราก็แบ่งห้องกัน พี่ติ๊กเป็นคนจัดแจงเรื่องห้องให้ ตอนเข้าห้องเห็นว่ามี2เตียง คือเตียงใหญ่และเตียงเล็ก พี่ติ๊กก็พูดขึ้นว่ามี2เตียงพอดีเลยแยกกันนอนคนละเตียงแล้วกันเนอะ(อาจเป็นเพราะว่าพี่เขาเห็นเรากับแฟนงอนกัน) หลังจากนั้นต่างคนต่างเข้าห้อง เราเข้ามาก็นอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง ส่วนแม็กก็เอาของออกจากกระเป๋า สักพักพี่ติ๊กก็มาเคาะประตูถามว่าแม็กล่ะ เราก็บอกว่าเข้าห้องน้ำ พอแม็กออกมาจากห้องน้ำพี่เขาก็ได้ชวนแม็กออกมานั่งเล่นข้างนอกกับเขาและพี่พี และด้วยความที่เรากะแม็กทะเลาะกัน แม็กก็ออกไป ส่วนเราอาการไม่ค่อยดีเลยกินยาและก็นอนไม่ได้สนใจอะไร ไม่นานแฟนเราก็เข้ามาเพื่อมาปรับความเข้าใจกับเรา แต่ดูเหมือนมันจะยิ่งทะเลาะกันไปมากกว่าเดิม แฟนเราเลยเดินออกไปนั่งเล่นข้างนอกแทน พี่ติ๊กก็มาเคาะประตูบอกเราว่าเดี๋ยวออกไปกินข้าวที่ข้างนอกกัน เราก็บอกปฏิเสธไปและอ้างว่าไม่ค่อยสบายไม่อยากไป ต่อมาไม่นานพี่พีก็มาเคาะประตูเรียกเราอีก เราก็บอกไปว่าเราไม่ไป ไปกันเลยไม่ต้องห่วงเราไม่อยากมาละเป็นภาระใคร แม็กเข้ามาเพื่อเตรียมตัวจะออกไปกินข้าวกับพวกเขาละบอกให้เราไปด้วยอย่ามาทำให้คนอื่นต้องเป็นห่วง เราก็เลยบอกว่าไม่ไป และไม่ต้องห่วงเรา ละพวกเขาก็ออกไปกินข้าวกัน กลับมาตอน3ทุ่มกว่าๆ แม็กก็เข้ามาบอกเราว่าเอาข้าวมาให้แล้วลุกขึ้นมากินข้าวจะได้กินยา พี่ติ๊กก็เข้ามาเอายามาให้เราแล้วก็หันไปชวนแม็กให้ออกไปนั่งกินเบียร์ข้างนอกกับพี่พี แม็กก็เลยออกไป ส่วนเราได้แต่นอนและก็นั่งคิดว่าเรามาเพื่อมาเป็นส่วนเกินหรือป่าว แม็กกลับเข้าห้องมาตอน5ทุ่ม เพื่ออาบน้ำละก็นอนคนละเตียงกับเราเนื่องจากมีปากเสียงกันมากขึ้น
เช้าวันต่อมาเราตื่นประมาณ7 โมง ตื่นมาก็อาบน้ำเตรียมตัวออกไปกินอาหารเช้าของทางโรงแรม พอเราอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเราก็เรียกแม็กให้ไปกินข้าวกัน เขาตอบมาว่าไม่ไป เราเลยไปกินคนเดียว พอกลับมาแม็กก็บอกให้เรารอเขาอาบน้ำเดี๋ยวเขาไปด้วย เราบอกไปว่าเราไปมาแล้ว แม็กก็เข้าไปอาบน้ำ ไม่นานพี่ติ๊กก็มาเปิดประตูถามว่าแม็กล่ะ เราก็บอกว่า อ่อ อาบน้ำ เขาก็ชวนเราคุยต่อว่าไปกินไรมายัง กินไรไปบ้างอร่อยไหม พอแม็กอาบน้ำเสร็จก็ออกไปหาไรกิน พี่ติ๊กก็เตรียมตัวจะเล่นน้ำสระกับพี่พี เขาใส่ชุดว่ายน้ำมาเคาะประตูห้องเราละถามว่าแม็กล่ะ เราก็บอกแค่ว่าไม่อยู่ แม็กกลับมาจากกินข้าวก็เตรียมเอกสารเรื่องงานออกไปทำที่ข้างสระว่ายน้ำเพื่อรอเวลากลับบ้าน พวกเขาเล่นน้ำกัน จนใกล้ๆ11โมง แม็กก็เข้ามาเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน แต่เขาก็ไม่ได้พูดไรกับเราสักคำ ขนของขึ้นรถเสร็จก็เดินทางกลับ ระหว่างทางไม่มีใครคุยกับเราเลยสักคนแม้แต่แม็ก ส่วนเราก็นั่งอ่านนิยายบ้างฟังเพลงบ้าง เล่นโทรศัพท์บ้าง จนมาถึงร้านข้าวก็ลงไปกินข้าว และแวะซื้อของฝาก เราก็เหมือนเดิมคือไม่ลงไป ระหว่างทางกลับบ้านพวกเขาก็คุยกันปกติ จนมาถึงตอนพี่ติ๊กพูดว่า วันนั้นที่พวกเราไปดู Fast 8 ด้วยกัน 3 คนสนุกมากเลยเนอะ (ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าแม็กไปดูกับพวกเขา) ละชวนแม็กว่าวันจันทร์จะเข้าไปกินข้าวที่ร้านมั้ยเดี๋ยวให้แม่ทำกุ้งซอสมะขามไว้ให้ อยากกินไรอีกหรือป่าว แม็กก็บอกว่าเดี๋ยวเข้าไปกินละกัน ละบทสนทนาทั้งหมดก็เงียบและจบลงแค่นั้น จนมาถึงบ้านพี่ติ๊กก็ขนของลงเตรียมตัวแยกย้ายกันกลับบ้าน
เรื่องที่คิดมากคือ
1. พี่ติ๊กไม่ได้คิดอะไรกับแม็กจิงๆหรอ
2. พี่พีทำไมไม่ว่าพี่ติ๊กเลยทั้งที่พี่ติ๊กเข้าหาแม็กตลอด
3. ทำไมพี่ติ๊กต้องชวนแม็กมากกว่าที่จะชวนพี่พีแฟนตัวเอง (อย่างเช่นใส่ชุดว่ายน้ำมาชวนแฟนเราไปว่ายน้ำด้วยทั้งๆที่แฟนตัวเองก็อยู่ข้างสระ)
4. เราคิดมากไปเองใช่มั้ย เขาไม่ได้คิดไรกันเลยจิงๆใช่มั้ย
5. พี่พีกับพี่ติ๊กไม่ได้แต่งงานกันแต่พี่พีมาอาศัยบ้านพี่ติ๊กโดยที่พี่ติ๊กเป็นคนที่จ่ายทุกอย่าง(มีรายได้มากกว่ามาก) แต่แม็กมีรายได้ดี งานดี มีคอนโดของตัวเอง คิดว่าผู้หญิงจะสนใจใคร
6. แม่พี่ติ๊กก็ชอบแม็ก
7. แม็กล่ะ คำถามนี้เราฟังหลายรอบมากจากปากผู้หญิงคนนี้
8. หลังจากกลับมาเรากับแม็กก็มีปากเสียงกันเรื่องพี่ติ๊กและพี่พี่แต่แม็กเลือกที่จะเข้าข้างอีกฝ่ายมากกว่าเรา บอกว่าเราคิดมากไป
ผู้หญิงแบบนี้ก็มีด้วยหรอ?!
เรื่องมีอยู่ว่า... วันเสาร์ อาทิตย์ ที่ผ่านมาเราไปไหว้พระวัดหนึ่งในจังหวัดระยอง มีแฟนเรา(แม็ก) รุ่นพี่แฟนเรา(พี) แฟนรุ่นพี่ (ติ๊ก) และแม่ของพี่ติ๊ก (เป็นชื่อสมมุติขึ้นทั้งหมด) เรานัดเจอกันที่บ้านของพี่ติ๊กเพื่อเอารถไปคันเดียว ซึ่งเรากับแฟนงอนกันนิดหน่อยก่อนออกเดินทางเลยไม่ค่อยคุยกัน พอถึงบ้านพี่ติ๊กเราก็ขึ้นรถออกเดินทาง เราไม่ค่อยสนิทกับพวกพี่เขาเลยไม่ค่อยคุยกับใคร ส่วนแม็กสนิทกับทุกคนมากจึงคุยกันตลอด พี่ติ๊กเปิดร้านอาหารอยู่แถวสีลมก็จะคุยเรื่องเมนูอาหารใหม่ที่ร้านและได้ชวนแม็กไปชิมบอกว่าเดี๋ยวให้แม่ทำให้กิน แล้วก็คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ แล้วได้ถามแม็กว่าวันเกิดพี่ให้ไรพี่ละ แม็กก็ไม่ได้ตอบไรได้แต่ขำละถามกลับไปว่าพี่พีให้ไร พี่ติ๊กเอารูปแหวนเพชรให้แม็กดูถามว่าสวยมั้ย แม็กก็บอกว่าพี่พีอย่าบอกว่าสวยนะ ครึ่งแสนเลยนะพี่ (ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไรแต่หลังจากเหตการณ์ทั้งหมดมันทำให้เราคิดถึงเรื่องนี้ด้วย) มีแวะกินข้าวบ้าง แวะปั๊มบ้าง จนมาถึงวัด เราก็ไหว้พระกันปกติ พี่ติ๊กก็มีชวนเราคุยบ้างนิดหน่อย พอเราไหว้พระเสร็จเราก็เดินทางกลับมาพักแถวๆพัทยา ถึงที่พักประมาณ4โมงกว่าๆ พอมาถึงเราก็แบ่งห้องกัน พี่ติ๊กเป็นคนจัดแจงเรื่องห้องให้ ตอนเข้าห้องเห็นว่ามี2เตียง คือเตียงใหญ่และเตียงเล็ก พี่ติ๊กก็พูดขึ้นว่ามี2เตียงพอดีเลยแยกกันนอนคนละเตียงแล้วกันเนอะ(อาจเป็นเพราะว่าพี่เขาเห็นเรากับแฟนงอนกัน) หลังจากนั้นต่างคนต่างเข้าห้อง เราเข้ามาก็นอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง ส่วนแม็กก็เอาของออกจากกระเป๋า สักพักพี่ติ๊กก็มาเคาะประตูถามว่าแม็กล่ะ เราก็บอกว่าเข้าห้องน้ำ พอแม็กออกมาจากห้องน้ำพี่เขาก็ได้ชวนแม็กออกมานั่งเล่นข้างนอกกับเขาและพี่พี และด้วยความที่เรากะแม็กทะเลาะกัน แม็กก็ออกไป ส่วนเราอาการไม่ค่อยดีเลยกินยาและก็นอนไม่ได้สนใจอะไร ไม่นานแฟนเราก็เข้ามาเพื่อมาปรับความเข้าใจกับเรา แต่ดูเหมือนมันจะยิ่งทะเลาะกันไปมากกว่าเดิม แฟนเราเลยเดินออกไปนั่งเล่นข้างนอกแทน พี่ติ๊กก็มาเคาะประตูบอกเราว่าเดี๋ยวออกไปกินข้าวที่ข้างนอกกัน เราก็บอกปฏิเสธไปและอ้างว่าไม่ค่อยสบายไม่อยากไป ต่อมาไม่นานพี่พีก็มาเคาะประตูเรียกเราอีก เราก็บอกไปว่าเราไม่ไป ไปกันเลยไม่ต้องห่วงเราไม่อยากมาละเป็นภาระใคร แม็กเข้ามาเพื่อเตรียมตัวจะออกไปกินข้าวกับพวกเขาละบอกให้เราไปด้วยอย่ามาทำให้คนอื่นต้องเป็นห่วง เราก็เลยบอกว่าไม่ไป และไม่ต้องห่วงเรา ละพวกเขาก็ออกไปกินข้าวกัน กลับมาตอน3ทุ่มกว่าๆ แม็กก็เข้ามาบอกเราว่าเอาข้าวมาให้แล้วลุกขึ้นมากินข้าวจะได้กินยา พี่ติ๊กก็เข้ามาเอายามาให้เราแล้วก็หันไปชวนแม็กให้ออกไปนั่งกินเบียร์ข้างนอกกับพี่พี แม็กก็เลยออกไป ส่วนเราได้แต่นอนและก็นั่งคิดว่าเรามาเพื่อมาเป็นส่วนเกินหรือป่าว แม็กกลับเข้าห้องมาตอน5ทุ่ม เพื่ออาบน้ำละก็นอนคนละเตียงกับเราเนื่องจากมีปากเสียงกันมากขึ้น
เช้าวันต่อมาเราตื่นประมาณ7 โมง ตื่นมาก็อาบน้ำเตรียมตัวออกไปกินอาหารเช้าของทางโรงแรม พอเราอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเราก็เรียกแม็กให้ไปกินข้าวกัน เขาตอบมาว่าไม่ไป เราเลยไปกินคนเดียว พอกลับมาแม็กก็บอกให้เรารอเขาอาบน้ำเดี๋ยวเขาไปด้วย เราบอกไปว่าเราไปมาแล้ว แม็กก็เข้าไปอาบน้ำ ไม่นานพี่ติ๊กก็มาเปิดประตูถามว่าแม็กล่ะ เราก็บอกว่า อ่อ อาบน้ำ เขาก็ชวนเราคุยต่อว่าไปกินไรมายัง กินไรไปบ้างอร่อยไหม พอแม็กอาบน้ำเสร็จก็ออกไปหาไรกิน พี่ติ๊กก็เตรียมตัวจะเล่นน้ำสระกับพี่พี เขาใส่ชุดว่ายน้ำมาเคาะประตูห้องเราละถามว่าแม็กล่ะ เราก็บอกแค่ว่าไม่อยู่ แม็กกลับมาจากกินข้าวก็เตรียมเอกสารเรื่องงานออกไปทำที่ข้างสระว่ายน้ำเพื่อรอเวลากลับบ้าน พวกเขาเล่นน้ำกัน จนใกล้ๆ11โมง แม็กก็เข้ามาเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน แต่เขาก็ไม่ได้พูดไรกับเราสักคำ ขนของขึ้นรถเสร็จก็เดินทางกลับ ระหว่างทางไม่มีใครคุยกับเราเลยสักคนแม้แต่แม็ก ส่วนเราก็นั่งอ่านนิยายบ้างฟังเพลงบ้าง เล่นโทรศัพท์บ้าง จนมาถึงร้านข้าวก็ลงไปกินข้าว และแวะซื้อของฝาก เราก็เหมือนเดิมคือไม่ลงไป ระหว่างทางกลับบ้านพวกเขาก็คุยกันปกติ จนมาถึงตอนพี่ติ๊กพูดว่า วันนั้นที่พวกเราไปดู Fast 8 ด้วยกัน 3 คนสนุกมากเลยเนอะ (ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าแม็กไปดูกับพวกเขา) ละชวนแม็กว่าวันจันทร์จะเข้าไปกินข้าวที่ร้านมั้ยเดี๋ยวให้แม่ทำกุ้งซอสมะขามไว้ให้ อยากกินไรอีกหรือป่าว แม็กก็บอกว่าเดี๋ยวเข้าไปกินละกัน ละบทสนทนาทั้งหมดก็เงียบและจบลงแค่นั้น จนมาถึงบ้านพี่ติ๊กก็ขนของลงเตรียมตัวแยกย้ายกันกลับบ้าน
เรื่องที่คิดมากคือ
1. พี่ติ๊กไม่ได้คิดอะไรกับแม็กจิงๆหรอ
2. พี่พีทำไมไม่ว่าพี่ติ๊กเลยทั้งที่พี่ติ๊กเข้าหาแม็กตลอด
3. ทำไมพี่ติ๊กต้องชวนแม็กมากกว่าที่จะชวนพี่พีแฟนตัวเอง (อย่างเช่นใส่ชุดว่ายน้ำมาชวนแฟนเราไปว่ายน้ำด้วยทั้งๆที่แฟนตัวเองก็อยู่ข้างสระ)
4. เราคิดมากไปเองใช่มั้ย เขาไม่ได้คิดไรกันเลยจิงๆใช่มั้ย
5. พี่พีกับพี่ติ๊กไม่ได้แต่งงานกันแต่พี่พีมาอาศัยบ้านพี่ติ๊กโดยที่พี่ติ๊กเป็นคนที่จ่ายทุกอย่าง(มีรายได้มากกว่ามาก) แต่แม็กมีรายได้ดี งานดี มีคอนโดของตัวเอง คิดว่าผู้หญิงจะสนใจใคร
6. แม่พี่ติ๊กก็ชอบแม็ก
7. แม็กล่ะ คำถามนี้เราฟังหลายรอบมากจากปากผู้หญิงคนนี้
8. หลังจากกลับมาเรากับแม็กก็มีปากเสียงกันเรื่องพี่ติ๊กและพี่พี่แต่แม็กเลือกที่จะเข้าข้างอีกฝ่ายมากกว่าเรา บอกว่าเราคิดมากไป