เลิกกับแฟนเพราะจับได้ว่า เล่นยามั่วเซ็ก แถมติด HIV

ก่อนอื่นต้องบอกไว้นะครับ ผม เป็นประเภทชายรักชาย ผมมีแฟนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา 4 ปีกว่าได้ครับ ทั้งๆที่ก็รู้ว่าเค้ามีเชื้อ HIV ก่อนหน้าที่จะมาเป็นแฟนกันก็รู้เบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับชีวิตเค้าพอสมควร จนกระทั้งมาคบกันเป็นแฟนในช่วงแรก เราก็มีเพศสัมพันธ์กันตามปกติ แต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง จนมาวันหนึ่งคบกันได้ประมาณ 5 เดือนเรามีปัญหาทะเลาะกัน เค้าบอกว่า ถ้าเค้า มีเชื้อ HIV ยังจะรักเค้าอยู่ไหม ? ซึ่งตอนนั้นคิดว่าเค้าพูดเล่น

จนในที่สุดเค้าบอกว่าเค้าติดเชื้อจริงๆ จากแฟนเก่า ซึ่งเราก็ถามไปว่า เคยหมู่มาหรอ? ทำไมถึงติดได้ เค้าบอกว่าไม่เคย (แต่จริงๆแล้วตอนหลังผมรู้เค้าเคยหมู่และมั่วมานั่นแหละครับ)  แต่วินาทีนั้น ผมก็ตกใจ กังวลใจตายห่าแล้ว แล้วกูละ ? ผมด้วยความกลัว เลยรีบไปตรวจ สรุปผมเป็น Negative และตอนนี้ผ่านมา4 ปีกว่า ผมตรวจซ้ำอีกรอบก็เลือดปกติครับเพราะผมใช้ชีวิตด้วยกันกับเค้าถึงแม้ไม่มีเพศสัมพันธ์ ก็ตรวจเพื่อความชัวร์อีกครั้ง

สรุปก็เลือกอยู่และคบกับเค้าต่อ เพราะมันได้รัก ไปแล้ว ทำให้ผมตัดสินใจที่จะอยู่เคียงข้างเค้าโดยไม่ได้รังเกียจอะไรเลย บางครั้งผมก็เตือนว่ากินยายัง? ซึ่งเค้าจะต้องกินให้ตรงเวลาทุกวัน  ผมใช้ชีวิตกับเค้าแบบปกติสุข เพราะเราไปทำกิจกรรม เที่ยวต่างจังหวัด กินข้าวดูหนัง มันก็คือช่วงเวลาดีๆที่ใช้ชีวิตด้วยกันจริงๆ ในช่วงเวลาที่เราคบกันมาผมก็เคยขอมีเพศสัมพันธ์ แต่โดนปฎิเสธ แต่ผมก็บอกว่าเราก็ภายนอกก็ได้ แต่เค้าไม่โอเค ผมก็ไม่สนใจ จบตรงนั้นไป

จนกระทั้งปัจจุบัน  มีช่วงที่เราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันประมาณ 3 เดือน ผมกลับมาค้นห้องเจอ อุปกรณ์เสพยาไอซ์ ไวอาก้า สายรัดฉีด และเจลหล่อลื่น และอื่นๆ  ซึ่งตอนช่วงที่ผมไม่อยู่เกือบ3 เดือนเค้าสารภาพว่า เคยไปแบบนี้แค่ 2-3 ครั้งแต่จริงๆไม่ใช่ครับ มากกว่านั้น และเค้ากลับไปใช้ ยาเสพติดอีกครั้ง ไม่ว่าจะไอซ์ และ E  ผมโกรธจนตัวสั่น เพราะนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตเค้าเป็นแบบนี้เพราะ ยาเสพติด  เค้ากลับไปใช้มัน เพื่อแสวงหาเซกส์ แบบเดิม ซึ่งถ้าใครใช้มันในกลุ่มชายรักชายส่วนใหญ่ ก็จะมั่วเซกส์ไม่ใส่ถุงยาง สาระพัดอย่างครับ ซึ่งอาจจะฉีดเข้าเส้น ไม่ใช่แค่เสพทางดูดควันอย่างเดียว ผมรับไม่ได้มากเสียใจที่สุด และทำให้ตัดใจจากเค้าได้คือคำพูดที่บอกว่า  ไม่ไฮก็ไม่มีอารมณ์ทางเพศ  และ "ที่มีกะคนอื่นเพราะไม่ได้แคร์ ถือว่าทำกรรมมาร่วมกัน"

ผมนิ่งไปชั่วขณะว่านี่คือสิ่งที่เค้าคิดออกมาจากใจเค้าจริงๆหรอ!! ผมบอก ว่ามันคือการทำลายชีวิตคนอื่นเลยนะ โดยคนที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยเค้าไม่ได้รับรู้เลยว่าคุณอะมีเชื้อ HIV อาจจะพลาดหรือไม่ระมัดระวังด้วยซ้ำไป   ผมคิดทบทวนเป็นอาทิตย์ "ว่าความสุขที่แท้จริงของเค้าก็คือการที่เค้าใช้ยาเสพติดแล้วไปมีเซกส์ " ถือเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคทางสัมคมที่น่ารังเกียจมากครับ โดยไม่ได้สนใจคนที่อยู่เคียงข้างเค้าที่รู้ว่าเค้าติดเชื้อ ทำให้ย้อนไปถึงช่วงเวลาที่เรามีความสุขมันคงจบแล้ว เพราะผมคิดว่าผมสามารถเปลี่ยนเค้าได้ในช่วงหนึ่ง และยอมใช้ชีวิตอยู่กับเค้าโดยไม่รังเกียจ แต่สิ่งที่ผมเปลี่ยนไม่ได้ คือ สันดาน  แต่กลับคิดไม่ได้ในเรื่องแบบนี้คนเราพอเลือกเดินทางผิดตั้งแต่แรก เราก็คิดว่าน่าจะดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พร้อมที่จะต่อสู้กับโรคร้ายนี้ และมีอีกอย่างหนึ่งเค้าจะชอบบ่นว่าผมห้ามทุกอย่างแม้กระทั่งดูดบุหรี่ เห้อ คนเราคงมองว่าความห่วงใยที่มีให้เค้าจริงๆ เป็นสิ่งที่เราไปวุ่นวายในชีวิต ทำให้ผมตัดสินใจเลิกลากับเค้าไป แบบจบไม่สวย  ไม่อย่างงั้นคงจมอยู่กับ นรก ไปอีกนาน.............


หวังว่าคงไม่มีใครที่เป็นเหยื่อและได้รับเชื้อจากคนประเภทนี้นะครับ  เพราะในสังคมเกย์ พิศวาทเรื่องรูปร่างภายนอกกันเป็นหลัก แต่ใครจะรู้ว่าข้างในสกปรก



#ยาเสพติดทำลายชีวิต #อย่ามองคนที่ภายนอก #นิสัยเปลี่ยนได้แต่สันดานเปลี่ยนไม่ได้
#ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่การใช้ยาเสพติด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่