
กระเป๋าชำรุดกับการเดินทางเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะหลังจากเราเช็คอินโหลดสัมภาระที่เค้าเตอร์สนามบินแล้ว เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ากระเป๋าเดินทางของเรานั้นจะถูกลำเลียงไปด้วยวิธีใด อาจมีการกระแทกหรือโดนกระเป๋าใบอื่นซ้อนทับกันหลายชั้นจนเกิดความเสียหายได้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมได้เดินทางกลับจากสนามบินฮ่องกงด้วยสายการบิน Emirates (A380) เที่ยวบินที่ EK385 วันที่ 13 มิถุนายน มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ตามกำหนดจะถึงเวลา 23.45 น. แต่เนื่องจากไฟล์ทดีเลย์ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ทำให้มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 01.00 น. ของวันที่ 14 มิถุนายน หลังจากรอรับกระเป๋าบริเวณสายพานที่ 16 เป็นระยะเวลาหนึ่ง ผมก็ยกกระเป๋าออกจากสายพาน ซึ่งตอนแรกผมไม่ได้สังเกตความผิดปกติของกระเป๋าเลย แต่พอกำลังลากกระเป๋าไปยังทางออก รู้สึกว่ากระเป๋ามันมีเสียงกรอบแกรบ เลยตรวจสอบดูพบว่ามีรอยแตกดังรูป จึงได้เดินไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่บริเวณนั้น เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ให้ไปทำเรื่องเคลมกระเป๋ากับสายการบิน Emirates โดยตรงจะสะดวกกว่า ณ เวลานั้น เป็นเวลา 01.35 น. ผมไม่แน่ใจว่าจะมีเจ้าหน้าที่ของสายการบิน Emirates stand by อยู่มั้ย ประกอบกับผมค่อนข้างเหนื่อยและอยากกลับบ้านมาก จริงตัดสินใจว่าค่อยดำเนินการในเช้าวันรุ่งขึ้น
เช้าวันที่ 14 มิถุนายน เวลา 10.00 น. ผมติดต่อไปยังสำนักงานของสายการบิน Emirates (ที่อโศก) เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ติดต่อไปที่แผนก lost and found ของสายการบิน Emirates พร้อมกับให้เบอร์ติดต่อ ซึ่งสำนักงานอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผมจึงโทรติดต่อและอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ส่งรายละเอียดเข้ามาทาง e-mail โดยให้ชี้แจงรายละเอียดของกระเป๋าและข้อมูลต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ภาพถ่ายกระเป๋าเต็มใบ และส่วนบริเวณที่เกิดความเสียหาย
- ยี่ห้อ รุ่น ขนาด และสีของกระเป๋า
- อายุการใช้งานของกระเป๋า (ของผมอายุการใช้งาน 1 ปี 9 เดือน ผ่านการเดินทางมาประมาณ 20 เที่ยวบิน)
- Boarding Pass
- Baggage Claim card
- หน้า Passport ของผู้เดินทาง
ผมจึงส่งรายเอียดดังกล่าวไปทาง e-mail ในช่วงเวลา 12.15 น.



จากนั้นเวลา 13.35 น. ได้รับ e-mail มาว่า ให้แจ้งที่อยู่และราคากระเป๋า สำหรับการดำเนินการต่อไป ผมจึงแจ้งที่อยู่และราคาไป

เวลา 15.46 มี e-mail แจ้งมาว่ากระเป๋าสามารถซ่อมได้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทซ่อมกระเป๋าติดต่อมาสอบถามเรื่องที่อยู่ เพื่อจะมารับกระเป๋าที่บ้านผมไปซ่อม

ซึ่งขณะที่อ่าน e-mail อยู่ มีเบอร์โทรเข้ามาพอดีซึ่งคือเจ้าหน้าที่ของบริษัทซ่อมกระเป๋า พูดจาดีมาก ๆ ขอชื่นชมเลยครับ แจ้งว่ากระเป๋าสามารถซ่อมได้ จะทำให้แข็งแรงเหมือนเดิม จะเลือกสีให้ใกล้เคียงที่สุด แต่ว่าพื้นผิวของกระเป๋าบริเวณที่ซ่อมแล้ว จะไม่สามารถทำให้เป็นลวดลายขรุขระแบบเดิมเหมือนเก่า เพราะเป็นแบบที่บริษัทของกระเป๋าผลิตออกมาจากโรงงาน ซ่อมแล้วบริเวณที่เคยชำรุดจะเป็นผิวเรียบ ผมแจ้งว่าขอให้ใช้งานได้เหมือนเดิมก็พอครับ ทางเจ้าหน้าที่ขอให้แนบสำเนา passport ใส่ไว้ในกระเป๋าไว้ด้วย เพื่อทางบริษัทซ่อมกระเป๋าจะไปใช้ยืนยันกับทางสายการบิน Emirates เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคิวรถที่จะมารับกระเป๋าตอนนี้ต้องรออีก 2 สัปดาห์ หากได้คิวเร็วขึ้นจะโทรมาแจ้ง ผมก็โอเค
เช้าวันรุ่งขึ้น วันที่ 15 มิถุนายน เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าจะมารับกระเป๋าวันพรุ่งนี้ เนืองจากได้คิวเร็วขึ้น และแจ้งว่าใช้เวลาในการซ่อมกระเป๋า 2-3 อาทิตย์ขึ้นกับสภาพความเสียหาย
วันที่ 16 มิถุนายน เจ้าหน้าที่มารับกระเป๋าที่บ้านไปซ่อม และให้ใบรับซ่อมสินค้ามาให้เราเก็บไว้ครับ คนมารับกระเป๋าก็พูดจาดี และสุภาพมากครับ

๋
วันที่ 23 มิถุนายน (ผ่านไป 1 อาทิตย์) เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่ากระเป๋าซ่อมเสร็จแล้วจะนำกระเป๋ามาส่งที่บ้านในวันรุ่งขึ้น
วันที่ 24 มิถุนายน กระเป๋ามาส่งถึงบ้านเรียบร้อย เช็คดูแล้ว งานซ่อมเนียนมาก แทบจะดูไม่ออกเลยครับถ้าไม่ทราบมาก่อนว่าจุดนี้เคยแตก และเหมือนจะเคลือบสีใหม่ทั้งใบให้ด้วยครับ

ต้องขอขอบคุณบริษัทที่ซ่อมกระเป๋าและสายการบิน Emirates ที่ดูแลผู้โดยสารเป็นอย่างดี ประสานงานและติดต่อด้วยความรวดเร็ว สรุปแล้วทั้งหมดใช้เวลาเพียงแค่ 11 วัน หรือไม่ถึง 2 อาทิตย์ กระเป๋าก็ซ่อมเสร็จเรียบร้อยครับ
อันนี้เป็นนามบัตรของบริษัทที่ซ่อมกระเป๋าครับ


จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ผมจึงขอแนะนำว่า
- ทุกครั้งที่เดินทางและมีการโหลดสัมภาระ เมื่อรับกระเป๋าจากสายพานควรตรวจสอบกระเป๋าทุกครั้งว่ามีการชำรุดหรือไม่ หากพบว่าการชำรุด ควรรีบติดต่อพนักงานโดยเร็วครับ ทราบมาว่าหากเกิน 1 สัปดาห์ทางสายการบินจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ครั้บ
- ควรเก็บ Boarding Pass, Baggage Claim card ไว้หลังการเดินทาง เผื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องติดต่อกับสายการบินภายหลัง ผมเคยลืมของไว้บนเครื่องบิน หรือ เคยสะสมไมล์ย้อนหลัง ก็ต้องใช้ Boarding Pass ครับ (ปกติผมเก็บไว้ 1 เดือนหลังเดินทาง)
- ซื้อประกันการเดินทางทีครอบคลุมกระเป๋าเดินทางสูญหายหรือชำรุด หากเกิดกรณีดังกล่าว อย่างน้อยเราก็ยังได้รับค่าชดเชยในกรณีสายการบินไม่รับผิดชอบครับ (ครั้งนี้ผมซื้อประกันเดินทางแต่ว่าไม่ได้ครอบคลุมในส่วนของกระเป๋าเดินทางสูญหายหรือชำรุด ยังโชคดีที่สายการบินรับผิดชอบให้ครับ)
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักเดินทางทุกท่านครับ
[CR] Baggage Claim กับความเป็นมืออาชีพของสายการบิน Emirates
กระเป๋าชำรุดกับการเดินทางเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะหลังจากเราเช็คอินโหลดสัมภาระที่เค้าเตอร์สนามบินแล้ว เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ากระเป๋าเดินทางของเรานั้นจะถูกลำเลียงไปด้วยวิธีใด อาจมีการกระแทกหรือโดนกระเป๋าใบอื่นซ้อนทับกันหลายชั้นจนเกิดความเสียหายได้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมได้เดินทางกลับจากสนามบินฮ่องกงด้วยสายการบิน Emirates (A380) เที่ยวบินที่ EK385 วันที่ 13 มิถุนายน มายังสนามบินสุวรรณภูมิ ตามกำหนดจะถึงเวลา 23.45 น. แต่เนื่องจากไฟล์ทดีเลย์ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ทำให้มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 01.00 น. ของวันที่ 14 มิถุนายน หลังจากรอรับกระเป๋าบริเวณสายพานที่ 16 เป็นระยะเวลาหนึ่ง ผมก็ยกกระเป๋าออกจากสายพาน ซึ่งตอนแรกผมไม่ได้สังเกตความผิดปกติของกระเป๋าเลย แต่พอกำลังลากกระเป๋าไปยังทางออก รู้สึกว่ากระเป๋ามันมีเสียงกรอบแกรบ เลยตรวจสอบดูพบว่ามีรอยแตกดังรูป จึงได้เดินไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่บริเวณนั้น เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ให้ไปทำเรื่องเคลมกระเป๋ากับสายการบิน Emirates โดยตรงจะสะดวกกว่า ณ เวลานั้น เป็นเวลา 01.35 น. ผมไม่แน่ใจว่าจะมีเจ้าหน้าที่ของสายการบิน Emirates stand by อยู่มั้ย ประกอบกับผมค่อนข้างเหนื่อยและอยากกลับบ้านมาก จริงตัดสินใจว่าค่อยดำเนินการในเช้าวันรุ่งขึ้น
เช้าวันที่ 14 มิถุนายน เวลา 10.00 น. ผมติดต่อไปยังสำนักงานของสายการบิน Emirates (ที่อโศก) เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ติดต่อไปที่แผนก lost and found ของสายการบิน Emirates พร้อมกับให้เบอร์ติดต่อ ซึ่งสำนักงานอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผมจึงโทรติดต่อและอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้ส่งรายละเอียดเข้ามาทาง e-mail โดยให้ชี้แจงรายละเอียดของกระเป๋าและข้อมูลต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ภาพถ่ายกระเป๋าเต็มใบ และส่วนบริเวณที่เกิดความเสียหาย
- ยี่ห้อ รุ่น ขนาด และสีของกระเป๋า
- อายุการใช้งานของกระเป๋า (ของผมอายุการใช้งาน 1 ปี 9 เดือน ผ่านการเดินทางมาประมาณ 20 เที่ยวบิน)
- Boarding Pass
- Baggage Claim card
- หน้า Passport ของผู้เดินทาง
ผมจึงส่งรายเอียดดังกล่าวไปทาง e-mail ในช่วงเวลา 12.15 น.
จากนั้นเวลา 13.35 น. ได้รับ e-mail มาว่า ให้แจ้งที่อยู่และราคากระเป๋า สำหรับการดำเนินการต่อไป ผมจึงแจ้งที่อยู่และราคาไป
เวลา 15.46 มี e-mail แจ้งมาว่ากระเป๋าสามารถซ่อมได้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทซ่อมกระเป๋าติดต่อมาสอบถามเรื่องที่อยู่ เพื่อจะมารับกระเป๋าที่บ้านผมไปซ่อม
ซึ่งขณะที่อ่าน e-mail อยู่ มีเบอร์โทรเข้ามาพอดีซึ่งคือเจ้าหน้าที่ของบริษัทซ่อมกระเป๋า พูดจาดีมาก ๆ ขอชื่นชมเลยครับ แจ้งว่ากระเป๋าสามารถซ่อมได้ จะทำให้แข็งแรงเหมือนเดิม จะเลือกสีให้ใกล้เคียงที่สุด แต่ว่าพื้นผิวของกระเป๋าบริเวณที่ซ่อมแล้ว จะไม่สามารถทำให้เป็นลวดลายขรุขระแบบเดิมเหมือนเก่า เพราะเป็นแบบที่บริษัทของกระเป๋าผลิตออกมาจากโรงงาน ซ่อมแล้วบริเวณที่เคยชำรุดจะเป็นผิวเรียบ ผมแจ้งว่าขอให้ใช้งานได้เหมือนเดิมก็พอครับ ทางเจ้าหน้าที่ขอให้แนบสำเนา passport ใส่ไว้ในกระเป๋าไว้ด้วย เพื่อทางบริษัทซ่อมกระเป๋าจะไปใช้ยืนยันกับทางสายการบิน Emirates เจ้าหน้าที่แจ้งว่าคิวรถที่จะมารับกระเป๋าตอนนี้ต้องรออีก 2 สัปดาห์ หากได้คิวเร็วขึ้นจะโทรมาแจ้ง ผมก็โอเค
เช้าวันรุ่งขึ้น วันที่ 15 มิถุนายน เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าจะมารับกระเป๋าวันพรุ่งนี้ เนืองจากได้คิวเร็วขึ้น และแจ้งว่าใช้เวลาในการซ่อมกระเป๋า 2-3 อาทิตย์ขึ้นกับสภาพความเสียหาย
วันที่ 16 มิถุนายน เจ้าหน้าที่มารับกระเป๋าที่บ้านไปซ่อม และให้ใบรับซ่อมสินค้ามาให้เราเก็บไว้ครับ คนมารับกระเป๋าก็พูดจาดี และสุภาพมากครับ
วันที่ 23 มิถุนายน (ผ่านไป 1 อาทิตย์) เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่ากระเป๋าซ่อมเสร็จแล้วจะนำกระเป๋ามาส่งที่บ้านในวันรุ่งขึ้น
วันที่ 24 มิถุนายน กระเป๋ามาส่งถึงบ้านเรียบร้อย เช็คดูแล้ว งานซ่อมเนียนมาก แทบจะดูไม่ออกเลยครับถ้าไม่ทราบมาก่อนว่าจุดนี้เคยแตก และเหมือนจะเคลือบสีใหม่ทั้งใบให้ด้วยครับ
ต้องขอขอบคุณบริษัทที่ซ่อมกระเป๋าและสายการบิน Emirates ที่ดูแลผู้โดยสารเป็นอย่างดี ประสานงานและติดต่อด้วยความรวดเร็ว สรุปแล้วทั้งหมดใช้เวลาเพียงแค่ 11 วัน หรือไม่ถึง 2 อาทิตย์ กระเป๋าก็ซ่อมเสร็จเรียบร้อยครับ
อันนี้เป็นนามบัตรของบริษัทที่ซ่อมกระเป๋าครับ
จากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ผมจึงขอแนะนำว่า
- ทุกครั้งที่เดินทางและมีการโหลดสัมภาระ เมื่อรับกระเป๋าจากสายพานควรตรวจสอบกระเป๋าทุกครั้งว่ามีการชำรุดหรือไม่ หากพบว่าการชำรุด ควรรีบติดต่อพนักงานโดยเร็วครับ ทราบมาว่าหากเกิน 1 สัปดาห์ทางสายการบินจะไม่รับผิดชอบใด ๆ ครั้บ
- ควรเก็บ Boarding Pass, Baggage Claim card ไว้หลังการเดินทาง เผื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องติดต่อกับสายการบินภายหลัง ผมเคยลืมของไว้บนเครื่องบิน หรือ เคยสะสมไมล์ย้อนหลัง ก็ต้องใช้ Boarding Pass ครับ (ปกติผมเก็บไว้ 1 เดือนหลังเดินทาง)
- ซื้อประกันการเดินทางทีครอบคลุมกระเป๋าเดินทางสูญหายหรือชำรุด หากเกิดกรณีดังกล่าว อย่างน้อยเราก็ยังได้รับค่าชดเชยในกรณีสายการบินไม่รับผิดชอบครับ (ครั้งนี้ผมซื้อประกันเดินทางแต่ว่าไม่ได้ครอบคลุมในส่วนของกระเป๋าเดินทางสูญหายหรือชำรุด ยังโชคดีที่สายการบินรับผิดชอบให้ครับ)
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักเดินทางทุกท่านครับ