
ฟุ้งซ่านมากนะ..เหล่าสาวกหงส์ในเมืองไทย..!!! พอได้ข่าวจะซื้อตัวนั้นตัวนี้ก็ไม่เป็นอันกินอันนอนกันแล้ว..บางคนถึงกับทำปุ่ม F5 พังคามือกันเลย..พอได้ยินกันว่าเป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ บางคนก็ถึงกับลงทุนตั้งกระทู้ถึงอดีตสมัยอยู่เชลซียุคของจ่ามูกันเลย..ว่าเคยล้มเหลวในสมัยนั้นแล้วสโมสรลิเวอร์พูลถึงกับไปซื้อของที่จ่ามูไม่ใช้แล้วมาในราคาระดับสถิติใหม่ได้ไง..???

ไม่แปลกครับสำหรับคนที่ความจำสั้นครับ..เพราะเพิ่งจะผ่านเวลาไปไม่นานมากนักในยุคของ แบรนดัล ร็อดเจอร์ ที่พาหงส์ควบปุเลง ๆ ขึ้นหัวตารางจนเกือบๆจะได้แชมป์ในซีซั่น 2013-14 ทีมชุดนั้นบุกตะลุยเก็บชัยชนะติดต่อกันกว่าสิบนัด..ในช่วงตลาดรอบสองเปิดขึ้นมาทีมของเราก็มีข่าวว่าได้เข้าทาบทาม โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ จากทีมบาเซิ่ลทีมหัวตารางของลีกสวิตเซอร์แลนด์แต่ราคาที่เสนอซื้อไปเจ้าของสิทธิ์เขาไม่พอใจนี่ดิ..
ไม่รู้ว่าจะเรียกกระบวนการในตอนนั้นว่าไงกันดีครับ..ยื้อ / ร่ำไร / งี่เง่า / รอบคอบ / ต่อรองตามเชิง / ฯลฯ สุดแต่จะคิดกันครับ แต่ในที่สุดจ่ามูที่ตามข่าวนี้อยู่ก็เกิดปิ๊งไอเดียร์แสบ ๆ ที่จะ "ฉ่าเช่า" (ใครที่ไม่รู้ความหมายก็ไปถามเพื่อนหรือคนรู้จักที่เข้าใจภาษาจีนแต้จิ๋วว่าคำๆนี้แปลว่าอะไร..???)
แล้วจ่ามูแกทำไงนะเรอะ..??!!!
แกก็จัดไปสิครับทีมบาเซิ่ลต้องการเท่าไรจัดไป..จากที่ไล่อ่านมาหลายต่อหลายแหล่งข้อมูลคือแกจัดการเปิดกระเป๋าเงินเสี่ยหมีหยิบเศษๆเงินออกมา 11 ล้านปอนด์จ่ายให้ทีมบาเซิ่ลไปตามที่ต้องการ..
นั่นจึงทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า.."เงินมาผ้าหลุด..!!!"

เราจึงเห็นเจ้า ซาล่าห์ ไปโผล่ที่ลอนดอนแทนที่จะมาลงเอยที่เมืองลิเวอร์พูล..
ประเด็นคือจ่ามูแกต้องการซื้อปีกดาวรุ่งจริงๆรึ..???
แล้วเมื่อเราย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของหมอนี่ในเรื่องการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่ง..???
หมอนี่ชอบพัฒนานักเตะที่มีศักยภาพหรือชอบเรียกใช้ของแบรนเนม..???
อยากรู้ว่าใครเป็นคนอย่างไรก็ให้มองย้อนกลับไปถึงอดีตของเขา..นั่นแหละที่จะบอกเราว่าเขาเป็นคนอย่างไร..
คำถามที่อาจจะตามมาก็คือ..แล้วจ่ามูแกไปควักเงิน 11 ล้านปอนด์ไปซื้อนักเตะคนหนึ่งมาแล้วไม่คิดจะใช้เพื่ออะไร..???
ง่ายๆครับเงิน 11 ล้านจ่ายไปก็เพียงเพื่อลดโอกาสของคู่แข่งที่ฟอร์มกำลังแรง..เพราะหมอนี่มองเกมขาดว่าด้วยองค์ประกอบที่ลิเวอร์พูลมีอยู่ในซีซั่นนั้นถ้าได้นักเตะสไตล์จี๊ดแบบ ซาล่าห์ เข้ามาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น..??? ซีซั่นนั้นทีมรักของเราตะบี้ตะบันยิงจนทะลุ 100 ลูกในซีซั่นเดียว..!!! เกมรุกเร็วจี๊ดคมกริบแล้วได้ตัวเสริมที่เร็วระดับจรวดทางเรียบนั่นหมายถึง..
นรกสำหรับทีมคู่แข่ง..!!!
ดังนั้นด้วยเศษเงิน(ของคนอื่น)เพียงแค่ 11 ล้านที่จ่ายออกไป..แต่มันทำให้ทีมที่เล่นด้วยเกมรุกแบบนรกแตกที่สุดในยุโรปในซีซั่นนั้นก็ไม่สามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีกจนยากจะต้านทานได้ในที่สุด..แถมยังมีเกมที่ทีมอย่างเชลซี(ตอนนั้นยังมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่เลย)จะต้องมาเยือนสนามแอนฟิลด์ในช่วงท้ายซีซั่น..นั่นหมายถึงการจ่าย 11 ล้านนั้นจะสามารถเพิ่มโอกาสในการเอาตัวรอดกลับออกไปจากสนามแอนฟิลด์..(แต่ในที่สุดเงิน 11 ล้านนั้นกลับได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งไปกว่านั้น..) และในที่สุดด้วยแต้มเพียงแค่ 2 แต้มที่เราตามหลังทีมเรือบรรทุกน้ำมันไปในที่สุดก็ทำให้เราต้องชวดแชมป์ซีซั่นนั้นไป..!!!

จากการเฝ้ามองดูแนวทางการเสริมทีมของ
เจอร์เกนส์ คล็อปป์ นั้นผมพบว่า..
จากแนวทางการเล่นของทีมลิเวอร์พูลในซีซั่นที่เพิ่งจะจบไปนั้นพบว่า..เจอร์เก้น คล็อปป์ ชอบแนวทางการเล่นแบบที่ทีมของเราเล่นอยู่และจะใช้เป็นแนวทางในการเสริมทีมในซีซั่นนี้..!!!
แล้วไอ้แนวทางที่ว่าเนี่ยมันเป็นแบบไหน..???
- เพรสซิ่งแบบสุดขีด..!!!
- ทีมจะต้องพัฒนาต่อเนื่องระยะยาวได้..
- นักเตะที่จะนำเข้ามาต้องสามารถเล่นได้มากกว่า 1 ตำแหน่ง..
- ไม่มีหน้าตัวเป้าปักหลักรอบอลในแดนหน้า..(แต่ใช้ตัวรุกหลายคนผลัดกันจู่โจมคู่ต่อสู้แบบนี้ป้องกันยากกว่า)
.....จากโจทย์ที่ได้ถอดรหัสออกมาแล้วเราก็พอจะมองออกว่านักเตะที่จะนำเข้ามาเสริมคุณภาพในทีมจนก้าวไปถึงแชมป์ BPL ได้นั้นเป็นแบบไหน..ก่อนอื่นต้องมองก่อนว่าของเดิมที่มีคุณภาพมากพอที่จะใช้งานต่อไป..รายชื่อของนักเตะเดิมที่มีศักยภาพที่จะพาทีมไปต่อได้เพื่อคว้าแชมป์นั้นมีดังนี้..
- ซิมง มิโญเลต์
- โจแอล มาติป
- เดยัน ล็อฟเลน
- เจมส์ มิลเนอร์
- นาธาเนี่ยล ไคลน์
- จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
- เอมเร่ ชาน
- จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
- ฟิลิปเป้ คูติญโญ่
- อดัม ลัลลาน่า
- โรแบร์โต ฟีร์มีโน่
- ซาดิโอ มาเน่
คัดมาแบบเน้นๆก็ได้ตามนี้..นอกนั้นยังไม่ถือว่าการันตีว่าจะอยู่ในชุดที่จะสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ..และนักเตะที่พอจะพิจารณาว่ามีโอกาสจะพัฒนาขึ้นมาอยู่ในแผนสร้างทีมได้..ซึ่งก็มีรายชื่อต่อไปนี้..
- ลอริส คาริอุส
- แดนนี่ วอร์ด
- โจ โกเมซ
- เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
- มาร์โก กรูยิช
- โอวี่ เอจาเรีย
- เชยี โอโจ
- แฮร์รี วิลสัน
- แดนนี อิงส์
- เบน วูดเบิร์น
- แดเนียล สเตอร์ริดจ์
- ดิว๊อค โอริกี้
รายชื่อนักเตะในกลุ่มนี้ยังไม่พร้อมที่จะอยู่ในโครงสร้างหลัก..ซึ่งบางคนนั้นไม่ได้มีปัญหาในเรื่องคุณภาพ..แต่มาจากปัญหาในเรื่องสุขภาพและทัศนคติ..ในจำนวนนี้มีนักเตะดาวรุ่งที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาขึ้นมาเป็นแกนหลักในอนาคตได้..แต่ที่เราต้องการคือนักเตะที่เข้ามาแล้วจะต้องดีกว่าหรือมีโอกาสดีกว่าที่มีอยู่ในตอนนี้..และที่เราได้เข้ามา 2 คนแรกนั้นจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม..
-
โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ .. นี่ตัวจริงในระบบแน่ๆ (จ่ายราคานี้เพื่อเอามานั่งข้างสนามคงจะไม่ฉลาดแน่ๆ..)

-
โดมินิก โซลันเก้ .. ยังไม่ชัวร์ว่าจะเป็นตัวจริงแน่ๆแต่ใกล้เคียงมากๆที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักได้เลย..
ทั้งสองตัวที่ได้มานั้นเล่นได้หลายตำแหน่ง..เล่นในแดนกลางได้ / หน้าได้ ทั้งคู่..ทั้งสองตัวเล่นในแบบเข้าทำได้และสร้างโอกาสได้..ไม่ปักหลักในพื้นที่ใดเป็นพิเศษ / เล่นบอลง่าย / มองหาเพื่อนก่อนเสมอ..
นักเตะที่ตัดออกไปได้เลยคืออายุเกิน 25-26 ปี..เพราะไม่อยู่ในเงื่อนไขการสร้างทีมอย่างต่อเนื่องในระยะยาวได้มากพอ..และนำมาพัฒนาวิธีการเล่นให้เข้าระบบเกเก้นเพรสซิ่งได้ยากกว่า..ตัวที่เล่นได้เพียงตำแหน่งเดียวก็ตัดออกไปได้เลย..หรือตัวที่ไม่ดีกว่าหรือดีพอๆกับนักเตะที่มีอยู่ในกลุ่มตัวหลัก 12 คนแรกก็ตัดออกไปได้เลย..นักเตะที่อยู่ในข่าวนั้นมีอยู่หลายต่อหลายคนที่เข้าแก็ปที่เป็นสเป็คของ
คล็อปป์ มีดังนี้..
-
นาบี้ เกอิต้า .. เป้าจริงแน่ๆครับตัวนี้นี่..เพราะสเป็คนี่เป๊ะเลยได้หมดทั้งรุกและรับเล่นได้ทั่วแดนกลางแถมเติมขึ้นหน้าได้เนียนกริ๊ป..อายุยังน้อยมากๆด้วยแค่ 22 เท่านั้น..ตำแหน่งที่เล่นได้คือ กลางรับ / กลางรุก / กองหน้า / แบ็ค..
-
อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน .. ตัวนี้ตรงสเป็คเป็ะอีกตัวแถมได้โฮมโกรนอีกด้วย..นี่เป้าจริงชัวร์อายุแค่ 23 เท่านั้น..เร็ว / คล่อง / หลากหลาย / ไม่ต้องปรับตัวในพรีเมียร์ลีก..ตำแหน่งที่เล่นได้คือ แบ็ค / กองกลาง
-
เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ .. นี่ก็เล่นได้หลากหลายกองหลังได้ / กลางรับ / เติมเกมรุกได้สุดถึงหน้าประตู / จบสกอร์ได้..
-
คาลิดู คูลิบาลี .. ตัวนี้ผมชอบมากกว่า VVD ซะอีก..เล่นได้ครบทั้งแนวรับ / กองกลาง / เติมได้สุดถึงกรอบ 6 หลาของคู่ต่อสู้.. / แท็กเคิ้ลแม่นและชัวร์มาก / อ่านเกมได้เนี๊ยบ..เสียก็ตรงเรื่องสัญชาตินี่แหละครับเพราะนักเตะแอฟริกาของเราจะเยอะมากๆ..ซึ่งในซีซั่น 2018/19 เนี่ยปวดหัวแน่ๆ..เพราะมีทั้ง มาเน่ / ซาล่าห์ / เกอิต้า ถ้ารวมกับ คูลิบาลี ด้วยเนี่ยหงส์ของเราป่วยแน่ๆ..
-
คีเลียน เอ็มบัปเป้ .. ถ้าย้ายมาพรีเมียร์ลีกจริงเราจะร่วมแจมหรือไม่..ในทัศนะของผมนั้นมองว่าเป็นไปได้ครับ..เพราะเจ้าหนูคนนี้มีครบในนักเตะระดับสุดยอดควรจะมี..เร็ว / ทักษะดี / มีความเข้าใจเกมสูงมาก / ขยัน / ไม่ชอบปักหลักในแดนใดแดนหนึ่ง..แต่ราคานั้นจะต้องสมเหตุสมผลเท่านั้น..
- แบ็คซ้าย .. นักเตะตำแหน่งนี้จำเป็นหรือไม่..???
ถ้าได้ตัวตามลิสที่ยกมาข้างบนเข้ามาครบแล้วอาจจะไม่ต้องการแบ็คซ้ายเข้ามาอีกก็ได้..เพราะตัวที่มีอยู่สามารถจัดแท็กติกเข้ารองรับในตำแหน่งนี้ได้..ถ้าจะได้นักเตะในตำแหน่งนี้มาต้องมีความพิเศษมากกว่าเล่นได้แค่แบ็คซ้าย..ต้องบีบเกมแดนกลางได้ดี / เติมเข้ากรอบ 18 หลาได้ / เกมรับต้องเข้าซ้อนเซ็นเตอร์ได้ด้วย..และถ้าตัวที่จะได้มาเป็นไปตามรายชื่อที่ยกมาคงจะไม่มีนักเตะในตำแหน่งแบ็คซ้ายอาชีพเข้ามาแน่ๆครับ..ถ้าจะมีก็อาจจะเป็นดาวรุ่งมากกว่า
ตามข่าวทีมของเราในช่วงนี้เราต้องอ่านเกมอ่านใจของ
คล็อปป์ ซึ่งแนวทางที่ทีมลิเวอร์พูลเล่นในซีซั่น 2016/17 เนี่ยลงตัวแล้วครับ..ตัวที่ได้มาต้องเข้า concept ในแนวทางการเล่นของ
คล็อปป์ เมื่อมองลึกลงไปในแนวทางการเล่นแนวของ
คล็อปป์ แล้วหน้าเป้าตัวหลักเนี่ยไม่ตรงกับ concept ของเขา..เพราะการจู่โจมแบบที่เราเห็นนี่มันป้องกันยากกว่าการมีหน้าเป้าเสียอีกครับ..
"ผมสอนลูกสาวผมเสมอว่าเมื่อเราต้องลงมือทำอะไรจะต้องทำให้เต็มที่ในทุกเรื่องที่ต้องทำ..
คุณภาพและความรับผิดชอบเป็นเรื่องสำคัญ..เพราะถ้าเราคิดจะเป็นผู้นำคนเราจะต้องเป็นคนที่มีคุณภาพสูง..
เพราะวันหนึ่งหากเราจำเป็นจะต้องท้วงติงหรือตำหนิใคร..คนที่ถูกเราตำหนิจะไม่สามารถจะมาย้อนแย้งเราได้..
เราต้องสร้างมาตรฐานตัวเองให้อยู่ในระดับสูง..เพราะคนเก่งย่อมอยากจะทำงานร่วมกับคนเก่ง..
ต้องบอกกับตัวเองว่าเราดีขึ้นได้มากกว่าที่เป็นอยู่..แม้ในวันที่แย่ที่สุดมันก็จะต้องไม่แย่กว่าวันวาน..
คนโง่มักจะไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองโง่..และคนที่ไม่ยอมรับความจริงก็ยากที่จะพัฒนาตัวเองได้เช่นกัน..
การทำผิดนั้นมันไม่ใช่ปัญหา..แต่ถ้ายังปล่อยให้เกิดความผิดซ้ำๆในเรื่องเดิม ๆ นั่นคือความโง่.."

... "ซินแสเกินร้อย" ...
แนวการทำทีมและเสริมทีมของ เจอร์เก้นส์ คล็อปป์ ในซีซั่น 2017-18
ฟุ้งซ่านมากนะ..เหล่าสาวกหงส์ในเมืองไทย..!!! พอได้ข่าวจะซื้อตัวนั้นตัวนี้ก็ไม่เป็นอันกินอันนอนกันแล้ว..บางคนถึงกับทำปุ่ม F5 พังคามือกันเลย..พอได้ยินกันว่าเป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ บางคนก็ถึงกับลงทุนตั้งกระทู้ถึงอดีตสมัยอยู่เชลซียุคของจ่ามูกันเลย..ว่าเคยล้มเหลวในสมัยนั้นแล้วสโมสรลิเวอร์พูลถึงกับไปซื้อของที่จ่ามูไม่ใช้แล้วมาในราคาระดับสถิติใหม่ได้ไง..???
ไม่แปลกครับสำหรับคนที่ความจำสั้นครับ..เพราะเพิ่งจะผ่านเวลาไปไม่นานมากนักในยุคของ แบรนดัล ร็อดเจอร์ ที่พาหงส์ควบปุเลง ๆ ขึ้นหัวตารางจนเกือบๆจะได้แชมป์ในซีซั่น 2013-14 ทีมชุดนั้นบุกตะลุยเก็บชัยชนะติดต่อกันกว่าสิบนัด..ในช่วงตลาดรอบสองเปิดขึ้นมาทีมของเราก็มีข่าวว่าได้เข้าทาบทาม โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ จากทีมบาเซิ่ลทีมหัวตารางของลีกสวิตเซอร์แลนด์แต่ราคาที่เสนอซื้อไปเจ้าของสิทธิ์เขาไม่พอใจนี่ดิ..
ไม่รู้ว่าจะเรียกกระบวนการในตอนนั้นว่าไงกันดีครับ..ยื้อ / ร่ำไร / งี่เง่า / รอบคอบ / ต่อรองตามเชิง / ฯลฯ สุดแต่จะคิดกันครับ แต่ในที่สุดจ่ามูที่ตามข่าวนี้อยู่ก็เกิดปิ๊งไอเดียร์แสบ ๆ ที่จะ "ฉ่าเช่า" (ใครที่ไม่รู้ความหมายก็ไปถามเพื่อนหรือคนรู้จักที่เข้าใจภาษาจีนแต้จิ๋วว่าคำๆนี้แปลว่าอะไร..???)
แล้วจ่ามูแกทำไงนะเรอะ..??!!!
แกก็จัดไปสิครับทีมบาเซิ่ลต้องการเท่าไรจัดไป..จากที่ไล่อ่านมาหลายต่อหลายแหล่งข้อมูลคือแกจัดการเปิดกระเป๋าเงินเสี่ยหมีหยิบเศษๆเงินออกมา 11 ล้านปอนด์จ่ายให้ทีมบาเซิ่ลไปตามที่ต้องการ..
นั่นจึงทำให้เกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า.."เงินมาผ้าหลุด..!!!"
เราจึงเห็นเจ้า ซาล่าห์ ไปโผล่ที่ลอนดอนแทนที่จะมาลงเอยที่เมืองลิเวอร์พูล..
ประเด็นคือจ่ามูแกต้องการซื้อปีกดาวรุ่งจริงๆรึ..???
แล้วเมื่อเราย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของหมอนี่ในเรื่องการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่ง..???
หมอนี่ชอบพัฒนานักเตะที่มีศักยภาพหรือชอบเรียกใช้ของแบรนเนม..???
อยากรู้ว่าใครเป็นคนอย่างไรก็ให้มองย้อนกลับไปถึงอดีตของเขา..นั่นแหละที่จะบอกเราว่าเขาเป็นคนอย่างไร..
คำถามที่อาจจะตามมาก็คือ..แล้วจ่ามูแกไปควักเงิน 11 ล้านปอนด์ไปซื้อนักเตะคนหนึ่งมาแล้วไม่คิดจะใช้เพื่ออะไร..???
ง่ายๆครับเงิน 11 ล้านจ่ายไปก็เพียงเพื่อลดโอกาสของคู่แข่งที่ฟอร์มกำลังแรง..เพราะหมอนี่มองเกมขาดว่าด้วยองค์ประกอบที่ลิเวอร์พูลมีอยู่ในซีซั่นนั้นถ้าได้นักเตะสไตล์จี๊ดแบบ ซาล่าห์ เข้ามาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น..??? ซีซั่นนั้นทีมรักของเราตะบี้ตะบันยิงจนทะลุ 100 ลูกในซีซั่นเดียว..!!! เกมรุกเร็วจี๊ดคมกริบแล้วได้ตัวเสริมที่เร็วระดับจรวดทางเรียบนั่นหมายถึง..
นรกสำหรับทีมคู่แข่ง..!!!
ดังนั้นด้วยเศษเงิน(ของคนอื่น)เพียงแค่ 11 ล้านที่จ่ายออกไป..แต่มันทำให้ทีมที่เล่นด้วยเกมรุกแบบนรกแตกที่สุดในยุโรปในซีซั่นนั้นก็ไม่สามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีกจนยากจะต้านทานได้ในที่สุด..แถมยังมีเกมที่ทีมอย่างเชลซี(ตอนนั้นยังมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอยู่เลย)จะต้องมาเยือนสนามแอนฟิลด์ในช่วงท้ายซีซั่น..นั่นหมายถึงการจ่าย 11 ล้านนั้นจะสามารถเพิ่มโอกาสในการเอาตัวรอดกลับออกไปจากสนามแอนฟิลด์..(แต่ในที่สุดเงิน 11 ล้านนั้นกลับได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งไปกว่านั้น..) และในที่สุดด้วยแต้มเพียงแค่ 2 แต้มที่เราตามหลังทีมเรือบรรทุกน้ำมันไปในที่สุดก็ทำให้เราต้องชวดแชมป์ซีซั่นนั้นไป..!!!
จากการเฝ้ามองดูแนวทางการเสริมทีมของ เจอร์เกนส์ คล็อปป์ นั้นผมพบว่า..
จากแนวทางการเล่นของทีมลิเวอร์พูลในซีซั่นที่เพิ่งจะจบไปนั้นพบว่า..เจอร์เก้น คล็อปป์ ชอบแนวทางการเล่นแบบที่ทีมของเราเล่นอยู่และจะใช้เป็นแนวทางในการเสริมทีมในซีซั่นนี้..!!!
แล้วไอ้แนวทางที่ว่าเนี่ยมันเป็นแบบไหน..???
- เพรสซิ่งแบบสุดขีด..!!!
- ทีมจะต้องพัฒนาต่อเนื่องระยะยาวได้..
- นักเตะที่จะนำเข้ามาต้องสามารถเล่นได้มากกว่า 1 ตำแหน่ง..
- ไม่มีหน้าตัวเป้าปักหลักรอบอลในแดนหน้า..(แต่ใช้ตัวรุกหลายคนผลัดกันจู่โจมคู่ต่อสู้แบบนี้ป้องกันยากกว่า)
.....จากโจทย์ที่ได้ถอดรหัสออกมาแล้วเราก็พอจะมองออกว่านักเตะที่จะนำเข้ามาเสริมคุณภาพในทีมจนก้าวไปถึงแชมป์ BPL ได้นั้นเป็นแบบไหน..ก่อนอื่นต้องมองก่อนว่าของเดิมที่มีคุณภาพมากพอที่จะใช้งานต่อไป..รายชื่อของนักเตะเดิมที่มีศักยภาพที่จะพาทีมไปต่อได้เพื่อคว้าแชมป์นั้นมีดังนี้..
- ซิมง มิโญเลต์
- โจแอล มาติป
- เดยัน ล็อฟเลน
- เจมส์ มิลเนอร์
- นาธาเนี่ยล ไคลน์
- จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
- เอมเร่ ชาน
- จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
- ฟิลิปเป้ คูติญโญ่
- อดัม ลัลลาน่า
- โรแบร์โต ฟีร์มีโน่
- ซาดิโอ มาเน่
คัดมาแบบเน้นๆก็ได้ตามนี้..นอกนั้นยังไม่ถือว่าการันตีว่าจะอยู่ในชุดที่จะสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ..และนักเตะที่พอจะพิจารณาว่ามีโอกาสจะพัฒนาขึ้นมาอยู่ในแผนสร้างทีมได้..ซึ่งก็มีรายชื่อต่อไปนี้..
- ลอริส คาริอุส
- แดนนี่ วอร์ด
- โจ โกเมซ
- เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
- มาร์โก กรูยิช
- โอวี่ เอจาเรีย
- เชยี โอโจ
- แฮร์รี วิลสัน
- แดนนี อิงส์
- เบน วูดเบิร์น
- แดเนียล สเตอร์ริดจ์
- ดิว๊อค โอริกี้
รายชื่อนักเตะในกลุ่มนี้ยังไม่พร้อมที่จะอยู่ในโครงสร้างหลัก..ซึ่งบางคนนั้นไม่ได้มีปัญหาในเรื่องคุณภาพ..แต่มาจากปัญหาในเรื่องสุขภาพและทัศนคติ..ในจำนวนนี้มีนักเตะดาวรุ่งที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาขึ้นมาเป็นแกนหลักในอนาคตได้..แต่ที่เราต้องการคือนักเตะที่เข้ามาแล้วจะต้องดีกว่าหรือมีโอกาสดีกว่าที่มีอยู่ในตอนนี้..และที่เราได้เข้ามา 2 คนแรกนั้นจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม..
- โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ .. นี่ตัวจริงในระบบแน่ๆ (จ่ายราคานี้เพื่อเอามานั่งข้างสนามคงจะไม่ฉลาดแน่ๆ..)
- โดมินิก โซลันเก้ .. ยังไม่ชัวร์ว่าจะเป็นตัวจริงแน่ๆแต่ใกล้เคียงมากๆที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักได้เลย..
ทั้งสองตัวที่ได้มานั้นเล่นได้หลายตำแหน่ง..เล่นในแดนกลางได้ / หน้าได้ ทั้งคู่..ทั้งสองตัวเล่นในแบบเข้าทำได้และสร้างโอกาสได้..ไม่ปักหลักในพื้นที่ใดเป็นพิเศษ / เล่นบอลง่าย / มองหาเพื่อนก่อนเสมอ..
นักเตะที่ตัดออกไปได้เลยคืออายุเกิน 25-26 ปี..เพราะไม่อยู่ในเงื่อนไขการสร้างทีมอย่างต่อเนื่องในระยะยาวได้มากพอ..และนำมาพัฒนาวิธีการเล่นให้เข้าระบบเกเก้นเพรสซิ่งได้ยากกว่า..ตัวที่เล่นได้เพียงตำแหน่งเดียวก็ตัดออกไปได้เลย..หรือตัวที่ไม่ดีกว่าหรือดีพอๆกับนักเตะที่มีอยู่ในกลุ่มตัวหลัก 12 คนแรกก็ตัดออกไปได้เลย..นักเตะที่อยู่ในข่าวนั้นมีอยู่หลายต่อหลายคนที่เข้าแก็ปที่เป็นสเป็คของ คล็อปป์ มีดังนี้..
- นาบี้ เกอิต้า .. เป้าจริงแน่ๆครับตัวนี้นี่..เพราะสเป็คนี่เป๊ะเลยได้หมดทั้งรุกและรับเล่นได้ทั่วแดนกลางแถมเติมขึ้นหน้าได้เนียนกริ๊ป..อายุยังน้อยมากๆด้วยแค่ 22 เท่านั้น..ตำแหน่งที่เล่นได้คือ กลางรับ / กลางรุก / กองหน้า / แบ็ค..
- อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน .. ตัวนี้ตรงสเป็คเป็ะอีกตัวแถมได้โฮมโกรนอีกด้วย..นี่เป้าจริงชัวร์อายุแค่ 23 เท่านั้น..เร็ว / คล่อง / หลากหลาย / ไม่ต้องปรับตัวในพรีเมียร์ลีก..ตำแหน่งที่เล่นได้คือ แบ็ค / กองกลาง
- เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ .. นี่ก็เล่นได้หลากหลายกองหลังได้ / กลางรับ / เติมเกมรุกได้สุดถึงหน้าประตู / จบสกอร์ได้..
- คาลิดู คูลิบาลี .. ตัวนี้ผมชอบมากกว่า VVD ซะอีก..เล่นได้ครบทั้งแนวรับ / กองกลาง / เติมได้สุดถึงกรอบ 6 หลาของคู่ต่อสู้.. / แท็กเคิ้ลแม่นและชัวร์มาก / อ่านเกมได้เนี๊ยบ..เสียก็ตรงเรื่องสัญชาตินี่แหละครับเพราะนักเตะแอฟริกาของเราจะเยอะมากๆ..ซึ่งในซีซั่น 2018/19 เนี่ยปวดหัวแน่ๆ..เพราะมีทั้ง มาเน่ / ซาล่าห์ / เกอิต้า ถ้ารวมกับ คูลิบาลี ด้วยเนี่ยหงส์ของเราป่วยแน่ๆ..
- คีเลียน เอ็มบัปเป้ .. ถ้าย้ายมาพรีเมียร์ลีกจริงเราจะร่วมแจมหรือไม่..ในทัศนะของผมนั้นมองว่าเป็นไปได้ครับ..เพราะเจ้าหนูคนนี้มีครบในนักเตะระดับสุดยอดควรจะมี..เร็ว / ทักษะดี / มีความเข้าใจเกมสูงมาก / ขยัน / ไม่ชอบปักหลักในแดนใดแดนหนึ่ง..แต่ราคานั้นจะต้องสมเหตุสมผลเท่านั้น..
- แบ็คซ้าย .. นักเตะตำแหน่งนี้จำเป็นหรือไม่..???
ถ้าได้ตัวตามลิสที่ยกมาข้างบนเข้ามาครบแล้วอาจจะไม่ต้องการแบ็คซ้ายเข้ามาอีกก็ได้..เพราะตัวที่มีอยู่สามารถจัดแท็กติกเข้ารองรับในตำแหน่งนี้ได้..ถ้าจะได้นักเตะในตำแหน่งนี้มาต้องมีความพิเศษมากกว่าเล่นได้แค่แบ็คซ้าย..ต้องบีบเกมแดนกลางได้ดี / เติมเข้ากรอบ 18 หลาได้ / เกมรับต้องเข้าซ้อนเซ็นเตอร์ได้ด้วย..และถ้าตัวที่จะได้มาเป็นไปตามรายชื่อที่ยกมาคงจะไม่มีนักเตะในตำแหน่งแบ็คซ้ายอาชีพเข้ามาแน่ๆครับ..ถ้าจะมีก็อาจจะเป็นดาวรุ่งมากกว่า
ตามข่าวทีมของเราในช่วงนี้เราต้องอ่านเกมอ่านใจของ คล็อปป์ ซึ่งแนวทางที่ทีมลิเวอร์พูลเล่นในซีซั่น 2016/17 เนี่ยลงตัวแล้วครับ..ตัวที่ได้มาต้องเข้า concept ในแนวทางการเล่นของ คล็อปป์ เมื่อมองลึกลงไปในแนวทางการเล่นแนวของ คล็อปป์ แล้วหน้าเป้าตัวหลักเนี่ยไม่ตรงกับ concept ของเขา..เพราะการจู่โจมแบบที่เราเห็นนี่มันป้องกันยากกว่าการมีหน้าเป้าเสียอีกครับ..
"ผมสอนลูกสาวผมเสมอว่าเมื่อเราต้องลงมือทำอะไรจะต้องทำให้เต็มที่ในทุกเรื่องที่ต้องทำ..
คุณภาพและความรับผิดชอบเป็นเรื่องสำคัญ..เพราะถ้าเราคิดจะเป็นผู้นำคนเราจะต้องเป็นคนที่มีคุณภาพสูง..
เพราะวันหนึ่งหากเราจำเป็นจะต้องท้วงติงหรือตำหนิใคร..คนที่ถูกเราตำหนิจะไม่สามารถจะมาย้อนแย้งเราได้..
เราต้องสร้างมาตรฐานตัวเองให้อยู่ในระดับสูง..เพราะคนเก่งย่อมอยากจะทำงานร่วมกับคนเก่ง..
ต้องบอกกับตัวเองว่าเราดีขึ้นได้มากกว่าที่เป็นอยู่..แม้ในวันที่แย่ที่สุดมันก็จะต้องไม่แย่กว่าวันวาน..
คนโง่มักจะไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองโง่..และคนที่ไม่ยอมรับความจริงก็ยากที่จะพัฒนาตัวเองได้เช่นกัน..
การทำผิดนั้นมันไม่ใช่ปัญหา..แต่ถ้ายังปล่อยให้เกิดความผิดซ้ำๆในเรื่องเดิม ๆ นั่นคือความโง่.."