ถ้าถามถึงเรื่องการเรียน หลายๆคนที่เรียนไม่เก่งอาจจะค่อนข้างกังวล ซึ่งจขกท.เชื่อว่าไม่มีใครหรอกที่เรียนไม่เก่ง แต่เป็นเพราะวิธีที่เราเรียนนั้นอาจจะไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับเรา แต่เพียงแค่เราสามารถหาวิธีที่เหมาะสมกับเราจริงๆให้ได้นั่น การเรียนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ส่วนเหตุผลที่สามารถพูดได้เต็มปาดแบบนี้เพราะจขกท.ก็พึ่งค้นพบวิธีที่ติวให้ตนเองเข้าใจได้นั่นเอง ในตอนแรกเราเรียนอ่อนมากค่ะ เหตุผลมาจากในตอนเด็กๆเราเป็นคนหนึ่งที่ไม่สนใจเรียน ไม่ฟังที่พ่อแม่บอก ไม่สนใจคุณครูที่พยายามเคี่ยวเข็น นั้นเลยเป็นผลกระทบที่ตกมาในตอนโตค่ะ เราพึ่งได้รู้ตัวและเสียใจมากๆกับการกระทำนั้น แต่ตอนนี้ก็มาทำได้แค่นั่งโทษตัวเองค่ะ เพราะเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว สิ่งที่เราทำได้คือต้องมานั่งพยายามใหม่เพื่อทำอนาคตให้ดีค่ะ ถึงจะคิดได้อย่างนั้น แต่พอมาลองทำจริงๆเราก็พบอุปสรรคมากมายที่ทั้งเกิดจากความขี้เกียจของตัวเอง เกิดจากความขี้เกียจในตอนเด็ก และการติดเล่นจนมากเกินไป นั้นทำให้เกรดออกมาตกต่ำมากๆค่ะ
และผลของเกรดนั้นก็เป็นแรงลักดันทำให้เราเลือกที่จะหาวิธีเรียนที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุดค่ะ ลองมาหลายวิธีมากๆ ทั้งการนั่งอ่านคนเดียวในที่เงียบๆ อ่านไปฟังเพลงไป หรือการติวแบบกลุ่ม ถามว่ามันได้ผลไหม? มันก็พอได้นะ แต่ก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมากหรอกค่ะ ติวกลุ่มก็ห่วงคุยอีก(เรานี่แหละตัวชวนคุย) ติวเดี่ยวแอบเล่นเอง พอจะติวไปฟังเพลงไปก็กันไม่รู้เรื่องอีก เราเลยตัดสินใจที่จะหาวิธีใหม่ค่ะ ซึ่งมันเป็นวิธีเดียวกันที่จะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังด้วย วิธีนี้ทำให้เราเกรดสูงขึ้นจนตัวเองยังตกใจ ได้รองท็อปทั้งๆที่ชีวิตนี้ไม่เคยได้ ความรู้สึกนั้นเป็นอะไรที่เกินคาดจริงๆค่ะ
ฟังมาเริ่มรู้สึกตื่นเต้นรึยังคะ? ถ้าคิดว่ามันจะเป็นวิธีแสนเลิศเลอดาวล้านดวงก็ดับฝันไปได้เลย เพราะมันเป็นวิธีง่ายๆอย่างที่คาดไม่ถึงเชียวละค่ะ ซึ่งวิธีนั้นคือ ‘การสอนตัวเอง’ ฟังแล้วงงไหมคะว่ามันจะสอนยังไงไอสอนตัวเองเนี่ย เทคนิกนี้เป็นเทคนิกที่ไม่มีกลักการอะไรเป็นหลักเลยค่ะสามารถประยุกต์ตามแบบของคุณได้สบายๆ โดยขั้นแรกของเราคือจะให้เราอ่านหนังสือแบบผ่านๆค่ะ เอาอ่านแบบปกติที่อ่านสอบของเราแล้วที่เราคิดว่าเราจะได้เลยค่ะ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมาแล้วปิดหนังสือค่ะ จากนั้นค่อยพูดสิ่งที่เราจำได้ออกมา พูดให้เหมือนกับว่าเรากำลังสอนใครสักคน โดยที่เรารับบทเป็นครู โดยในระหว่างนั้นถ้าบ้านคุณมีไวท์บอร์ดหรือกระดาษก็อาจจะขีดเขียนลงไปขณะอธิบาย วาดรูปประกอบบ้าง มันจะเป็นอะไรที่เพลินมากๆกับการติวนี้ ส่วนถ้าเมื่อเราใกล้ๆง่วง เราไม่ได้ต้องนั่งอ่านอยู่กับที่อย่างเดียว ให้ลุกขึ้นเดินไปเดินมาแล้วพูดเหมือนสอนใครสักคน (คนๆนั้นก็คือเรานั่นแหละ) ถ้าให้สะดวกก็อาจจะใช้ดินสอขีดเขียนหนังสือในมือ วงข้อความสำคัญ วาดรูปเล่นบ้าง นั่นจะทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าเนื้อหาส่วนไหนที่เรายังลืมหรือไม่เข้าใจ โดยเปรียบตนเองให้เป็นทั้งครูและนักเรียน...
โดยวิธีที่จขกท.ชอบมาก(+ได้ผล)ที่สุดคือการสอนโดยใช้กระดานไวท์บอร์ดค่ะ มันเป็นอะไรที่ติวเพลินและสนุกที่สุดแล้ว ซึ่งสาเหตุมาจากตอนเด็กๆชอบเล่นกระดานมากๆ ชอบเขียนชื่อล้อเพื่อนไม่ก็วาดรูปเล่นไป แต่ก็โดนครูว่าประจำ(โรงเรียนจขกท.ห้ามเขียนกระดานเล่นค่ะ) นั่นจึงกลายเป็นความฝันเล็กๆว่าอยากเป็นครูเพราะจะได้เขียนกระดาน ซึ่งความฝันเล็กๆนี้ก็ดันไปเป็นไอเดียขึ้นมาในตอนที่นั่งติวตอนสอบอยู่ เราเลยได้ใช้ในตอนนั้นเลย แล้วพอได้มองผลที่ออกมาก็ภูมิใจมากๆค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าวิธีการติวนี้จะเป็นวิธีที่ทำให้เราเรียนดีขึ้นขนาดนี้
แต่ในความเป็นจริงคำว่า ‘ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ’ ก็ตรงกับวิธีติวแบบนี้จริงๆค่ะ ถ้ามองผ่านๆอาจจะไม่รู้ว่าความจริงเทคนิกนี้มีจุดอ่อนซ่อนอยู่ค่ะ ถึงมันจะใช้ได้กับหลายๆวิชาแต่สิ่งที่มันใช้กันไม่ได้เลยคือวิชาที่เกี่ยวกับคำนวณค่ะ
ถามว่าทำไม? เป็นเพราะส่วนตัวแล้วเป็นวิชาที่เราอ่อนสุดค่ะ พื้นฐานก็ด้อยพอๆกันอีก เราเลยไม่สามารถที่จะเป็น‘ครู’ เพื่อสอน ‘นักเรียน’ ได้จริงๆ มันเป็นวิชาที่ต้องใช้ความเข้าใจและการฝึกฝนมากกว่า ปัจจุบันเราเลยต้องคุ้ยเนื้อหาเก่าๆขึ้นมาทำความเข้าใจใหม่ทั้งหมดเพื่อปูพื้นฐานให้แน่น แต่มันก็ไม่ทันสิ่งที่เรียนอยู่และกำลังจะสอบ เลยอยากถามเพื่อนๆถึงวิธีติวหรือเทคนิกที่มีกัน สามารถบอกได้ของทุกวิชาเลยค่ะ เพราะเราอยากลองมานำปรับใช้กับตัวเองบ้าง
สุดท้ายนี้หวังว่ากระทู้ของเราจะเป็นประโยชน์ให้กับคนอ่านไม่มากก็น้อยนะคะ...ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ
(ถ้าแท็กห้องผิดอย่างไรขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)
เทคนิกการเรียนอย่างไรให้ได้ผล!!!
ส่วนเหตุผลที่สามารถพูดได้เต็มปาดแบบนี้เพราะจขกท.ก็พึ่งค้นพบวิธีที่ติวให้ตนเองเข้าใจได้นั่นเอง ในตอนแรกเราเรียนอ่อนมากค่ะ เหตุผลมาจากในตอนเด็กๆเราเป็นคนหนึ่งที่ไม่สนใจเรียน ไม่ฟังที่พ่อแม่บอก ไม่สนใจคุณครูที่พยายามเคี่ยวเข็น นั้นเลยเป็นผลกระทบที่ตกมาในตอนโตค่ะ เราพึ่งได้รู้ตัวและเสียใจมากๆกับการกระทำนั้น แต่ตอนนี้ก็มาทำได้แค่นั่งโทษตัวเองค่ะ เพราะเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว สิ่งที่เราทำได้คือต้องมานั่งพยายามใหม่เพื่อทำอนาคตให้ดีค่ะ ถึงจะคิดได้อย่างนั้น แต่พอมาลองทำจริงๆเราก็พบอุปสรรคมากมายที่ทั้งเกิดจากความขี้เกียจของตัวเอง เกิดจากความขี้เกียจในตอนเด็ก และการติดเล่นจนมากเกินไป นั้นทำให้เกรดออกมาตกต่ำมากๆค่ะ
และผลของเกรดนั้นก็เป็นแรงลักดันทำให้เราเลือกที่จะหาวิธีเรียนที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุดค่ะ ลองมาหลายวิธีมากๆ ทั้งการนั่งอ่านคนเดียวในที่เงียบๆ อ่านไปฟังเพลงไป หรือการติวแบบกลุ่ม ถามว่ามันได้ผลไหม? มันก็พอได้นะ แต่ก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมากหรอกค่ะ ติวกลุ่มก็ห่วงคุยอีก(เรานี่แหละตัวชวนคุย) ติวเดี่ยวแอบเล่นเอง พอจะติวไปฟังเพลงไปก็กันไม่รู้เรื่องอีก เราเลยตัดสินใจที่จะหาวิธีใหม่ค่ะ ซึ่งมันเป็นวิธีเดียวกันที่จะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังด้วย วิธีนี้ทำให้เราเกรดสูงขึ้นจนตัวเองยังตกใจ ได้รองท็อปทั้งๆที่ชีวิตนี้ไม่เคยได้ ความรู้สึกนั้นเป็นอะไรที่เกินคาดจริงๆค่ะ
ฟังมาเริ่มรู้สึกตื่นเต้นรึยังคะ? ถ้าคิดว่ามันจะเป็นวิธีแสนเลิศเลอดาวล้านดวงก็ดับฝันไปได้เลย เพราะมันเป็นวิธีง่ายๆอย่างที่คาดไม่ถึงเชียวละค่ะ ซึ่งวิธีนั้นคือ ‘การสอนตัวเอง’ ฟังแล้วงงไหมคะว่ามันจะสอนยังไงไอสอนตัวเองเนี่ย เทคนิกนี้เป็นเทคนิกที่ไม่มีกลักการอะไรเป็นหลักเลยค่ะสามารถประยุกต์ตามแบบของคุณได้สบายๆ โดยขั้นแรกของเราคือจะให้เราอ่านหนังสือแบบผ่านๆค่ะ เอาอ่านแบบปกติที่อ่านสอบของเราแล้วที่เราคิดว่าเราจะได้เลยค่ะ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมาแล้วปิดหนังสือค่ะ จากนั้นค่อยพูดสิ่งที่เราจำได้ออกมา พูดให้เหมือนกับว่าเรากำลังสอนใครสักคน โดยที่เรารับบทเป็นครู โดยในระหว่างนั้นถ้าบ้านคุณมีไวท์บอร์ดหรือกระดาษก็อาจจะขีดเขียนลงไปขณะอธิบาย วาดรูปประกอบบ้าง มันจะเป็นอะไรที่เพลินมากๆกับการติวนี้ ส่วนถ้าเมื่อเราใกล้ๆง่วง เราไม่ได้ต้องนั่งอ่านอยู่กับที่อย่างเดียว ให้ลุกขึ้นเดินไปเดินมาแล้วพูดเหมือนสอนใครสักคน (คนๆนั้นก็คือเรานั่นแหละ) ถ้าให้สะดวกก็อาจจะใช้ดินสอขีดเขียนหนังสือในมือ วงข้อความสำคัญ วาดรูปเล่นบ้าง นั่นจะทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าเนื้อหาส่วนไหนที่เรายังลืมหรือไม่เข้าใจ โดยเปรียบตนเองให้เป็นทั้งครูและนักเรียน...
โดยวิธีที่จขกท.ชอบมาก(+ได้ผล)ที่สุดคือการสอนโดยใช้กระดานไวท์บอร์ดค่ะ มันเป็นอะไรที่ติวเพลินและสนุกที่สุดแล้ว ซึ่งสาเหตุมาจากตอนเด็กๆชอบเล่นกระดานมากๆ ชอบเขียนชื่อล้อเพื่อนไม่ก็วาดรูปเล่นไป แต่ก็โดนครูว่าประจำ(โรงเรียนจขกท.ห้ามเขียนกระดานเล่นค่ะ) นั่นจึงกลายเป็นความฝันเล็กๆว่าอยากเป็นครูเพราะจะได้เขียนกระดาน ซึ่งความฝันเล็กๆนี้ก็ดันไปเป็นไอเดียขึ้นมาในตอนที่นั่งติวตอนสอบอยู่ เราเลยได้ใช้ในตอนนั้นเลย แล้วพอได้มองผลที่ออกมาก็ภูมิใจมากๆค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าวิธีการติวนี้จะเป็นวิธีที่ทำให้เราเรียนดีขึ้นขนาดนี้
แต่ในความเป็นจริงคำว่า ‘ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ’ ก็ตรงกับวิธีติวแบบนี้จริงๆค่ะ ถ้ามองผ่านๆอาจจะไม่รู้ว่าความจริงเทคนิกนี้มีจุดอ่อนซ่อนอยู่ค่ะ ถึงมันจะใช้ได้กับหลายๆวิชาแต่สิ่งที่มันใช้กันไม่ได้เลยคือวิชาที่เกี่ยวกับคำนวณค่ะ
ถามว่าทำไม? เป็นเพราะส่วนตัวแล้วเป็นวิชาที่เราอ่อนสุดค่ะ พื้นฐานก็ด้อยพอๆกันอีก เราเลยไม่สามารถที่จะเป็น‘ครู’ เพื่อสอน ‘นักเรียน’ ได้จริงๆ มันเป็นวิชาที่ต้องใช้ความเข้าใจและการฝึกฝนมากกว่า ปัจจุบันเราเลยต้องคุ้ยเนื้อหาเก่าๆขึ้นมาทำความเข้าใจใหม่ทั้งหมดเพื่อปูพื้นฐานให้แน่น แต่มันก็ไม่ทันสิ่งที่เรียนอยู่และกำลังจะสอบ เลยอยากถามเพื่อนๆถึงวิธีติวหรือเทคนิกที่มีกัน สามารถบอกได้ของทุกวิชาเลยค่ะ เพราะเราอยากลองมานำปรับใช้กับตัวเองบ้าง
สุดท้ายนี้หวังว่ากระทู้ของเราจะเป็นประโยชน์ให้กับคนอ่านไม่มากก็น้อยนะคะ...ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ
(ถ้าแท็กห้องผิดอย่างไรขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)