SALE คลีนิคเสริมความงามแห่งหนึ่งเอาเงินมัดจำของคุณแม่เราไปให้ลูกค้าคนอื่น!

ต้องขอเท้าความก่อนว่าคุณแม่ของเรามีความตั้งใจจะทำศัลยกรรมตาและจมูก แต่ได้มีการทำตาไปแล้วโดยคุณหมอจากรพ. เนื่องจากหนังตาคุณแม่มีผลในการมองเห็นทำให้ส่งผลต่อเนื่องไปถึงโรคที่คุณแม่รักษาอยู่ คุณแม่จึงคิดจะทำจมูกแทน
    คุณแม่ของเรานั้นเคยมีเพื่อนที่คบค้าสมาคมกันอยู่กลุ่มนึ่ง เป็นดร.ท่านนึงกับภรรยา(ขอแทนภรรยาของดร.ท่านนี้ว่า คุณ พ) ช่วงนึงนั้นคุณแม่เคยได้ขอความช่วยเหลือทางการเงินกับสามีภรรยาคู่นี้ คุณแม่ก็ทยอยจ่ายคืน(รวมถึงดอกเบี้ย)มาตลอด
คุณแม่และคุณ พ มีความสนิทสนมกันดี คุณ พ พาคุณแม่ให้ไปคลินิกเสริมความงามแห่งนี้ เมื่อวันที่ 23/1/59 คุณแม่ได้จ่ายเงินมัดจำไว้จำนวน 5,000 บาท (ในตอนแรกเป็นค่าทำตาแต่คุณแม่เปลี่ยนเป็นจมูกแทนในตอนหลัง) แนบรูปในสปอยนะคะเพราะรูปอาจจะใหญ่ไป[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่เมื่อกลางปีที่แล้วสภาพธุรกิจแย่ลง เกิดปัญหาภายในบริษัทขึ้นทำให้เกิดการล่าช้าในการคืนเงิน ทางสามีภรรยาคู่นี้ไม่พอใจ จึงเกิดการฟ้องร้องขึ้น ทางเราก็ยินดีให้เรื่องเป็นไปตามกฎหมาย จนถึงวันที่ศาลได้ตัดสินออกมาว่ายกฟ้อง วันนั้นเรารู้สึกว่าได้ความเป็นธรรม แต่ทางคุณ พ และสามี คงไม่คิดแบบนั้น มีการพูดถึงคุณแม่ในทางเสียๆหายๆมาตลอดแต่คุณแม่เราไม่ตอบโต้ จนเมื่อไม่นานนี้คุณแม่เราตัดสินใจจะไปทำจมูกกับคลินิกนี้ จึงโทรไปสอบถาม ครั้งแรกทางเซล(ขอแทนว่า คุณ ต) แจ้งรายละเอียดว่าสามารถทำได้ให้คุณแม่เพิ่มส่วนต่างอีก 23,000 บาท แต่อีก2-3วันต่อมาคุณ ต กลับโทรมาแจ้งคุณแม่ว่าไม่สามารถใช้มัดจำ 5,000 บาทที่ทางคุณแม่มัดจำไว้ได้ เนื่องจากได้โอนมัดจำส่วนนี้ไปให้ คุณ พ เรียบร้อยแล้ว เราจึงโทรไปเพื่อขอคำชี้แจงว่าทางคุณโอนเงินมัดจำคุณแม่เราไปให้คุณ พ ได้อย่างไร???

ขอลำดับเหตุการณ์ตามนี้นะคะ

1. โทรติดต่อ call center ทางจนท.แจ้งว่าจะประสานงานกับคุณ ต ให้

2. ผ่านไปเป็นชั่วโมง ไม่มีจนท.คนไหนติดต่อกลับมา

3. คุณ พ โทรมาหาคุณแม่เรื่องเงินมัดจำ (ในจุดนี้ทุกคนงงมั้ยคะว่าโทรมาทราบได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่คุณ ต โทรไปรายงาน -..-) เราเป็นคนรับสายและแจ้งคุณ พ ไปว่าจะไม่ขอคุยกับคุณ พ เรื่องนี้ เนื่องจากเราคิดว่าปัญหาอยู่ที่ตัวเซล ที่โอนเงินคุณแม่เราให้คุณ พ โดยไม่แจ้งหรือขออนุญาต

4. จบจากสายคุณ พ ยังไม่มีจนท.คนไหนติดต่อกลับมา เราเริ่มโมโหแล้วเพราะแทนที่คุณ ต จะเข้ามารับผิดชอบตั้งแต่แรก กลับเป็นคุณ พ โทรมาต่อว่าคุณแม่เรา เราจึงโทรกลับไปตอน 15.22น. แจ้งเรื่องที่คุณ พ โทรมาและขอคุยกับคนที่มีอำนาจ จนท.บอกจะติดต่อกลับ จนเวลา 17.15น. เราโทรไปเองอีกรอบ เพื่อขอคุยกับจนท.ที่รับเรื่อง จนท.บอกว่าไม่ทราบเรื่องที่คุณ พ โทรไป และพูดทำนองว่าไม่เคยเจอลูกค้าทั้ง2คน(คุณ พ และ แม่เรา) คือทำนองว่าไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยนั่นแหละ เห้ออออ และแจ้งว่าจะให้คุณ ต โทรกลับทันที

5. ไม่นานคุณ ต โทรกลับมา เรารับละถามคุณ ต ตามตรงว่าเราโทรไปตั้งแต่บ่ายแล้ว ทำไมถึงไม่มีใครตดต่อกลับมา แล้วกลายเป็นคุณ พ โทรมาแทน ... ไม่มีคำตอบจากนางจ้า เราเลยถามถึง solution ที่จะใช้แก้ปัญหา และบอกตามตรงว่าเราและคุณแม่คิดเหมือนกันคือไม่สะดวกใจจะกลับไปทำศัลยกรรมที่คลีนิคนี้แล้ว(ขอเงินคืนเพราะทางคลีนิคผิดเงื่อนไขของเราก่อน) เราและเสียความรู้สึกมาก คุณแม่เราแก่แล้วถ้าเราไม่โทรไปเพื่อทวงสิทธิของคุณแม่ ก็เท่ากับคุณแม่เสียสิทธิไปโดยการทำงานชุ่ยๆของเซลแบบนี้หรอ?? คุณ ต บอกว่าจะคุยกับทางผู้ใหญ่แล้วจะโทรกลับมาอีก 15 นาที

6. คุณ ต โทรกลับมาและบอกว่าได้โอนเงินมัดจำไปเป็นชื่อคุณแม่ตามเดิมแล้ว (เอ้ย ไม่ใช่มั้ย คือเราจะไม่ทำกับคุณแล้วไม่เข้าใจตรงไหน) คุณ ต กับเราเถียงกันไปมาตามบทสนทนาคร่าวๆนี้

เรา: โอนเงินไปโดยไม่มีการยินยอมของคุณแม่ได้อย่างไร??

คุณ ต: คุณ พ แจ้งว่าเงินนี้เป็นเงินคุณ พ คุณแม่เราเป็นหนี้คุณ พ ให้โอนคืนคุณ พ

เรา: แล้วทำไมคุณถึงไม่แจ้งคุณแม่ก่อน

คุณ ต: โทรหาคุณแม่ไม่ติดเลยโอนไป (ถ้าโทรไม่ติดก็ต้องholdไว้มั้ยอ่ะ ไม่ใช่โอนเลย)

เรา: คุณแม่มีเรื่องทางกฎหมายกับคุณ พ อยู่ ถ้าคุณ ต ไม่อยากเกี่ยวข้องหางเลขไปด้วยก็ควรจะโอนเงินของคุณแม่เราคืน

คุณ ต: ไม่ขอยุ่งเรื่องของคน2คน (แล้วที่โอนเงินคุณแม่เราไปโดยไม่แจ้งคุณแม่เราก่อนเพราะคุณ พ บอกว่านี่คือหนี้ของคุณแม่ นี่ไม่เรียกยุ่งเรื่องของคน2คนหรอคะ??)

คุยไปคุยมาไม่รู้เรื่อง คุณ ต พูดกับเราว่า “คุณพูดไม่มีเหตุผล เงินแค่ 5,000 ดิฉันโอนคืนให้ก็ได้”
เดี๋ยวนะคุณ มันไม่ใช่ แค่ 5,000 แต่มันคือการกระทำที่ผดกฎหมาย คุณเอาเงินของเราไปให้คนอื่นโดยที่เราไม่รู้ไม่ได้ นี่คือตรรกะพื้นฐานรึเปล่า?? ถ้ามีคนขโมยเงินในบัญชีคุณไป คุณจะโกรธมั้ยล่ะ ลองคิดดู เราเลยส่งเลขที่บัญชีไปให้พร้อมบอกว่า ถ้าคุณใช้คำนี้กับเรา งั้นรบกวนโอนเงินคืนมาและเราจะเอามาโพสในพันทิพ

ยาวไปหน่อยแต่เราแค่อยากทวงสิทธิให้คุณแม่เรา เราไม่ได้ต้องการโจมตีคลินิก
เราแค่รู้สึกว่ามันเกินไปกับการที่ระรานแม่เรา เรื่องคดีความมันจบไปแล้ว
คุณก็ควรหยุดวุ่นวายกับเราได้แล้ว ตอนนี้คุณ พ เที่ยวเอาไปพูดว่าฟ้องแม่เราชนะแต่ไม่เอาเรื่องเพราะสงสาร
เฮ้ยมันไม่ใช่อ่ะ ศาลยกฟ้องเพราะคุณฟ้องเท็จนะคะ ได้โปรดเข้าใจด้วย!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่