คิดอะไรเพลินๆ แต่ไม่มีทรัพยากรต่างๆ ที่จะทำให้ระบบนี้เกิดขึ้นได้จริง เลยอยากจะนำเสนอไอเดียปรับปรุงคุณภาพการให้บริการของ Taxi สาธารณะเพื่อการแข่งขันกับ Uber และ App อื่นๆ ถ้าใครมาเห็นเอาไปทำให้เป็นจริงได้จะอนุโมทนาสาธุด้วย
ระบบที่คิดไว้จะเป็นการเพิ่มเติมความสามารถของ Meter ปกติให้ฉลาดขึ้น โดย Feature ที่เพิ่มมาสำหรับตัว Meter คือ
1. อุปกรณ์ระบุ identity ของรถ (ทะเบียน สี ยี่ห้อ และสังกัดเช่นชื่ออู่รถ) ผมมองว่าใช้เป็นลักษณะของ Beacon หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ detect โดย Smartphone ได้
2. Smart Card Reader เพื่อใช้อ่านข้อมูลประจำตัวผู้ขับรถ (ถ้าไม่เสียบการ์ดรถสตาร์ตไม่ติด)
โดยอุปกรณ์เพิ่มเติมบนตัวรถจะทำงานร่วมกับ app ที่พัฒนาขึ้นมาดังรายละเอียดต่อไปนี้
การทำงานของระบบ
1. เมื่อผู้ขับขึ้นมาบนรถจะต้องเสียบสมาร์ทการ์ดและระบบจะเริ่มบันทึกข้อมูล
2. เมื่อมีผู้โดยสารขึ้นมาบนรถ โดย Smartphone ของผู้โดยสารลง App และลงทะเบียนผู้ใช้เรียบร้อยแล้ว App จะรับข้อมูล Car ID และ Driver ID แล้วส่งข้อมูลไปยัง Server ของระบบเพื่อเริ่มบันทึกว่าผู้โดยสารคนดังกล่าวใช้งาน Taxi คันดังกล่าวจริง (Passenger Check-in)
3. การทำ Passenger Check-in สามารถเลือกได้โดย user ว่าต้องการให้ check-in อัตโนมัติทุกครั้ง หรือต้องการ confirm เองว่าจะ check-in หรือไม่เพื่อเหตุผลด้าน privacy
Note - ตอนแรกคิดง่ายๆ ว่า Taxi ทุกคันจะมี QR Code ติดเพื่อระบุเลขรถ แต่คิดไปคิดมามันลำบากที่ผู้โดยสารจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย QR เพราะตัวคนขับเองอาจจะแสดงอาการไม่พอใจได้
4. ผู้โดยสารที่มีรายการ check-in สามารถที่จะให้คะแนน (Feedback) คุณภาพการให้บริการใน Trip นั้นๆ ได้ (มีทั้งเป็นคะแนนและเป็น comment เพื่อการปรับปรุง) โดยระบบสามารถปรับแก้ Model การให้ Scoring ได้เช่น ถ่วงน้ำหนักตามระยะการเดินทาง ถ่วงน้ำหนักตามช่วงเวลาการเดินทาง เป็นต้น
5. ประโยชน์อีกประการของการ check-in คือในเรื่องการติดตามผู้โดยสารในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ผิดปกติ เกิดเหตุร้าย แต่ประเด็นนี้ต้องให้ความมั่นใจในเรื่องของ Privacy & Confidentiality ให้ได้
6. คนขับเองสามารถตรวจสอบคะแนนการให้บริการของตัวเองได้ผ่านระบบ (Mobile/Web) โดยรายละเอียดของคะแนนจะไม่เปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูล
รูปแบบการนำข้อมูลไปใช้งาน
1. ผู้โดยสารสามารถปฏิเสธผู้ขับขี่ได้โดยดูจาก Rating ที่รายงานผ่าน App ได้ (หรือในอนาคตอาจโชว์หน้ารถแบบไฟ ว่าง ก็ได้) - ระบบอาจจะแสดงเฉพาะคะแนนเฉลี่ยรายเดือน รายสามเดือน 10 ครั้งสุดท้ายก็ได้
2. ผู้ขับขี่มีข้อมูลในการพัฒนาการให้บริการของตัวเอง
3. ข้อมูล Check-in/Check-out สามารถใช้ตรวจสอบในกรณีลืมของ กรณีเหตุฉุกเฉิน หรือกรณีอื่นๆ ได้ (ต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ข้อตกลงเรื่อง Privacy และต้องกำหนดขั้นตอน การขอข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบ)
4. เจ้าของอู่ Taxi สามารถใช้ข้อมูล Rating ของ Driver ในการพิจารณาให้เช่า หรือไม่ให้เช่ารถได้
5. กรมการขนส่งทางบกสามารถออกกฏเกณฑ์ในการควบคุม และออกหลักเกณฑ์การนำข้อมูล Rating และ Feedback มาใช้ในการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตได้
Challenge & Concern
1. ความกังวลของ user ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวและข้อมูล (ควรให้เอกชนเป็นผู้ operate และดูแลระบบ)
2. การระบุและยืนยันตัวบุคคลของผู้โดยสารในขั้นตอนการลงทะเบียน (เนื่องจากปัจจุบันมี Process การลงทะเบียนซิมบังคับอยู่แล้ว อาจใช้ร่วมกับ OTP ในการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนได้)
3. Adoption rate ของผู้ใช้งานอาจจะน้อยต้องมีการหา Campaign ต่างๆมาช่วย drive ให้มีฐานผู้ใช้ app มากๆ
4. ต้นทุนในการปรับเปลี่ยนระบบ โดยเฉพาะในส่วนอุปกรณ์ที่ติดบนรถ
ส่วนประกอบของระบบ
1. อุปกรณ์ระบุตัวรถ (Car ID or Taxi ID)
2. อุปกรณ์ Smart Card Reader สำหรับอ่านใบขับขี่ผู้ขับ
3. Application (iOS, Android, Web)
4. Application Server, Database Server
ใครทำได้เอาไปทำต่อที เผื่อใครมี connection กับหน่วยงานหรือมีโอกาสเอาไปนำเสนอผู้เกี่ยวข้องก็ได้ ถ้าทำสำเร็จขึ้นมาก็ขอแค่บอกว่าได้ไอเดียจากกระทู้ในพันทิพ แค่นั้นก็โอเคแล้วครับ
ข้อเสนอการแก้ปัญหา Taxi และแข่งขันกับ Uber
ระบบที่คิดไว้จะเป็นการเพิ่มเติมความสามารถของ Meter ปกติให้ฉลาดขึ้น โดย Feature ที่เพิ่มมาสำหรับตัว Meter คือ
1. อุปกรณ์ระบุ identity ของรถ (ทะเบียน สี ยี่ห้อ และสังกัดเช่นชื่ออู่รถ) ผมมองว่าใช้เป็นลักษณะของ Beacon หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ detect โดย Smartphone ได้
2. Smart Card Reader เพื่อใช้อ่านข้อมูลประจำตัวผู้ขับรถ (ถ้าไม่เสียบการ์ดรถสตาร์ตไม่ติด)
โดยอุปกรณ์เพิ่มเติมบนตัวรถจะทำงานร่วมกับ app ที่พัฒนาขึ้นมาดังรายละเอียดต่อไปนี้
การทำงานของระบบ
1. เมื่อผู้ขับขึ้นมาบนรถจะต้องเสียบสมาร์ทการ์ดและระบบจะเริ่มบันทึกข้อมูล
2. เมื่อมีผู้โดยสารขึ้นมาบนรถ โดย Smartphone ของผู้โดยสารลง App และลงทะเบียนผู้ใช้เรียบร้อยแล้ว App จะรับข้อมูล Car ID และ Driver ID แล้วส่งข้อมูลไปยัง Server ของระบบเพื่อเริ่มบันทึกว่าผู้โดยสารคนดังกล่าวใช้งาน Taxi คันดังกล่าวจริง (Passenger Check-in)
3. การทำ Passenger Check-in สามารถเลือกได้โดย user ว่าต้องการให้ check-in อัตโนมัติทุกครั้ง หรือต้องการ confirm เองว่าจะ check-in หรือไม่เพื่อเหตุผลด้าน privacy
Note - ตอนแรกคิดง่ายๆ ว่า Taxi ทุกคันจะมี QR Code ติดเพื่อระบุเลขรถ แต่คิดไปคิดมามันลำบากที่ผู้โดยสารจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย QR เพราะตัวคนขับเองอาจจะแสดงอาการไม่พอใจได้
4. ผู้โดยสารที่มีรายการ check-in สามารถที่จะให้คะแนน (Feedback) คุณภาพการให้บริการใน Trip นั้นๆ ได้ (มีทั้งเป็นคะแนนและเป็น comment เพื่อการปรับปรุง) โดยระบบสามารถปรับแก้ Model การให้ Scoring ได้เช่น ถ่วงน้ำหนักตามระยะการเดินทาง ถ่วงน้ำหนักตามช่วงเวลาการเดินทาง เป็นต้น
5. ประโยชน์อีกประการของการ check-in คือในเรื่องการติดตามผู้โดยสารในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ผิดปกติ เกิดเหตุร้าย แต่ประเด็นนี้ต้องให้ความมั่นใจในเรื่องของ Privacy & Confidentiality ให้ได้
6. คนขับเองสามารถตรวจสอบคะแนนการให้บริการของตัวเองได้ผ่านระบบ (Mobile/Web) โดยรายละเอียดของคะแนนจะไม่เปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูล
รูปแบบการนำข้อมูลไปใช้งาน
1. ผู้โดยสารสามารถปฏิเสธผู้ขับขี่ได้โดยดูจาก Rating ที่รายงานผ่าน App ได้ (หรือในอนาคตอาจโชว์หน้ารถแบบไฟ ว่าง ก็ได้) - ระบบอาจจะแสดงเฉพาะคะแนนเฉลี่ยรายเดือน รายสามเดือน 10 ครั้งสุดท้ายก็ได้
2. ผู้ขับขี่มีข้อมูลในการพัฒนาการให้บริการของตัวเอง
3. ข้อมูล Check-in/Check-out สามารถใช้ตรวจสอบในกรณีลืมของ กรณีเหตุฉุกเฉิน หรือกรณีอื่นๆ ได้ (ต้องอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์ข้อตกลงเรื่อง Privacy และต้องกำหนดขั้นตอน การขอข้อมูลให้ละเอียดรอบคอบ)
4. เจ้าของอู่ Taxi สามารถใช้ข้อมูล Rating ของ Driver ในการพิจารณาให้เช่า หรือไม่ให้เช่ารถได้
5. กรมการขนส่งทางบกสามารถออกกฏเกณฑ์ในการควบคุม และออกหลักเกณฑ์การนำข้อมูล Rating และ Feedback มาใช้ในการพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตได้
Challenge & Concern
1. ความกังวลของ user ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวและข้อมูล (ควรให้เอกชนเป็นผู้ operate และดูแลระบบ)
2. การระบุและยืนยันตัวบุคคลของผู้โดยสารในขั้นตอนการลงทะเบียน (เนื่องจากปัจจุบันมี Process การลงทะเบียนซิมบังคับอยู่แล้ว อาจใช้ร่วมกับ OTP ในการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนได้)
3. Adoption rate ของผู้ใช้งานอาจจะน้อยต้องมีการหา Campaign ต่างๆมาช่วย drive ให้มีฐานผู้ใช้ app มากๆ
4. ต้นทุนในการปรับเปลี่ยนระบบ โดยเฉพาะในส่วนอุปกรณ์ที่ติดบนรถ
ส่วนประกอบของระบบ
1. อุปกรณ์ระบุตัวรถ (Car ID or Taxi ID)
2. อุปกรณ์ Smart Card Reader สำหรับอ่านใบขับขี่ผู้ขับ
3. Application (iOS, Android, Web)
4. Application Server, Database Server
ใครทำได้เอาไปทำต่อที เผื่อใครมี connection กับหน่วยงานหรือมีโอกาสเอาไปนำเสนอผู้เกี่ยวข้องก็ได้ ถ้าทำสำเร็จขึ้นมาก็ขอแค่บอกว่าได้ไอเดียจากกระทู้ในพันทิพ แค่นั้นก็โอเคแล้วครับ