อีก 2 ปี 30 แล้ว แต่ที่บ้านหวง จนต้องไปหาหมอ พบจิตแพทย์จริงจัง!

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ คือ เรามีเรื่องอัดอั้นใจมากจนถึงขั้นอึดอัด จนอยากระเบิดบึ้มในทุ่งหญ้าสาลีเหมือนโกโก้ครันช์ พยายามแก้ปัญหามานานแล้ว จนอายุจะอีก 2 ปีก็ 30 แล้ว แต่มีปัญหากับที่บ้านทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องทัศนคติเรื่องการมีคู่ จนเรารู้สึกว่า เราอยากแก้ปัญหาด้วยการขึ้นคานตลอดชีวิต เขาจะได้ภูมิใจ 555

บอก background ก่อนนะคะ ซิส คือ เราเป็นลูกสาวคนโต อยู่บ้านครอบครัวฐานะปานกลาง ปีนี้ก็อายุ 28 แล้ว แต่อยู่กับที่บ้าน เพราะเป็นคนกรุงเทพ อยู่กรุงเทพแต่เกิด เรียนที่กรุงเทพ ทำงานก็ทำที่กรุงเทพ ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เราไม่เห็นความจำเป็นที่จะย้ายออกจากบ้าน และเราก็เป็น freelance ที่รายได้ไม่แน่ไม่นอน แต่ไม่เคยรบกวนที่บ้านเลย ให้เงินที่บ้านทุกเดือนด้วย ดูแลคนที่บ้าน พาไปโน่นนี่ เราก็ประเมินตัวเองว่า อืม เราเป็นลูกที่ดีพอสมควรเลยล่ะ เราไม่เคยสร้างปัญหาให้พ่อแม่ กลับบ้านทุกวันถ้าไม่ได้ไปทำงานต่างจังหวัด ผับ บาร์ ไม่เข้า บุหรี่ไม่สูบ เหล้าไม่ดื่ม แค่โซดาก็เมาแล้วค่ะ ถถถถ

ตอนเรียนอยู่เราไม่เคยมีแฟน เพราะที่บ้านอยากให้เรียนๆๆๆๆ แล้วโอกาสเจอผู้ก็น้อยนิดมาก พูดสั้นๆ คือ เราไม่โฟกัสเรื่องนี้ แต่พอทำงาน เรามีประสบการณ์ความรักครั้งแรกไม่ดีนัก แต่เราก็ผ่านมาได้ จน strong ขึ้น 18 ล้านเท่า อยู่เป็น เอาตัวรอดได้ รู้จักนิสัยผู้ชายมากขึ้น ไม่ innocent แบบเมื่อก่อนแน่นอน และแล้วก็มาถึงความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับหนุ่มต่างชาติ เขาก็เป็นคนดี คบกันมาปีกว่าละ เคยพามาให้พ่อแม่รู้จัก ไปเที่ยวด้วยกัน กินข้าว แม่ก็ดูปลื้มๆ นะ พอเขากับประเทศก็ถามถึง โอเค แม่ผ่าน พ่อก็ผ่าน ชีวิตก็น่าจะดี แต่....นั่นเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นใต้น้ำค่ะ ในใต้น้ำ มันมีอะไรเยอะกว่านั้น!!!!

เรากลับรู้สึกแย่ทุกครั้งเวลาที่แฟนขอให้ค้างบ้าน เราต้องมาพร้อมข้ออ้างมากมาย แต่จะไม่พูดความจริงว่า "พ่อแม่ไม่ให้ค้างค่ะ" เพราะมันดูเหลือเชื่อมากในสายตาฝรั่งที่ออกจากบ้านพ่อแม่มาตั้งแต่เข้ามหาลัยแล้วมาเจอคนอายุ 28 ที่พ่อแม่หวง (คนไทยบางคนก็ยังไม่เข้าใจเลยจ้าาาา)  บ้านเรากับบ้านแฟนค่อนข้างไกล เขาพูดมาคำนึงว่า "ทำไมพ่อแม่เธอถึงอยากให้เธอขับรถกลับบ้านดึกๆ คนเดียวแทนที่จะมาให้ค้างบ้านเราอย่างปลอดภัยล่ะ"

และคืนไหนเราอยู่กับแฟนถึงดึกเกิน 4 ทุ่ม เราก็จะรู้สึกกระวนกระวายใจ รู้สึกผิด ต้องรีบกลับบ้าน เราพยายามให้ถึงบ้านไม่เกินเที่ยงคืน ไม่งั้นเราจะรู้สึกผิดมากจริงๆ

แล้ววันนึง แฟนก็ชวนไปเที่ยวตจว. นั่งรถไฟชิลๆ ไรงี้ เราอยากไปเที่ยวนะ คือ เบื่อชีวิตเมืองมาก เคยนั่งร้องไห้คนเดียวตอนรถติด 4 ชม. เขาเองก็เป็น freelance ก็เลยจะไปวันธรรมดานี่ล่ะ แต่เพื่อนเราก็ทำงานประจำ ไม่มีใครไปได้ สุดท้ายก็เหลือแค่ 2 คน moment ที่แฟนชวน เราก็ร้อนๆ หนาวๆ ใจนึงคือก็อยากไป อีกใจจะบอกพ่อแม่ยังไงดี

กรุณาหยุดคิดเรื่องมุ้งมิ้งหรือเรื่องอย่างว่าไปได้เลยนะ 555 จริงๆ แล้วการไปเที่ยวกับแฟนมันเป็นเรื่องที่ดีนะ ในมุมมองของเรา คือ จะทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น ได้ใช้เวลาร่วมกัน ความทรงจำร่วมกัน ได้รู้จักนิสัยและมุม dark ของกันและกัน 555 มันคือ the must ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักดีขึ้น แต่คือ พ่อแม่คัดค้านแน่นอน เพราะเขาไปโฟกัสแต่เรื่องอย่างว่า ซึ่งมันเป็นแค่ subset ของความสัมพันธ์เท่านั้น นี่คือในความเห็นเรานะ

....พอเขียนทู้นี้ไปครึ่งทาง ก็ลงไปบอกพ่อนะ ว่าจะไปไหน กับใคร กี่วัน พ่อก็นิ่ง (พ่อพูดง่ายและเข้าใจมนุษย์มากกว่าแม่) เราก็บอก นี่มาบอก ไม่ได้มาขออนุญาติ โตแล้ว...พอดื้อใส่ กบฎใส่เขาก็อึ้ง เขาก็แนะนำว่า ไปเช้าเย็นกลับสิ เอิ่ม พ่อ รถไฟไทย มิใช่ชินคันเซ็น จะไปเช้าเย็นกลับได้ พ่อก็บอกว่ามันดูไม่ดี (ทั้งๆ ที่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเราไปมาบ้านแฟนบ่อยมาก และแฟนก็อยู่คนเดียว อ่ะ ใบ้ให้ขนาดนี้แล้ว เคลียร์นะคะ ซิส) ดูไม่ดี สายตาใคร ใครจะแคร์ คนที่ไปเที่ยวก็ไม่ได้รู้จักเรากับแฟนป่ะ? อ่ะ นี่คือ คิดแบบเห็นแก่ตัวสุดๆ ด่าได้ แต่อย่าแรง

บางที...เราก็อิจฉาคู่อื่นๆ นะ แบบกระทู้มุ้งมิ้งพาแฟนเที่ยวที่สวยๆ เราไม่เคยมี moment นี้เลย....

บางที...เราก็อยากเลิกกับแฟนนะ เขาไม่เคยรุ้ปัญหานี้ มันอธิบายให้เข้าใจยาก แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความ weird ของบ้านเรา จนเขาพูดว่า "เราอยากเข้าใจพ่อแม่เธอ" แต่เราเลือกที่จะไม่เล่าให้เขาฟังดีกว่า เช่น แม่ร้องไห้เวลารู้ว่าเรามีแฟน อยู่บ้านแฟน  บอกว่าเรายิ้ม (คำนี้ ควรใช้กับคนที่ไม่เลือกป่ะ ผิดความหมายนะแม่)  แล้วลากเราไปห้องพ่อ พ่อไม่พูดกับเราหลายวัน ที่เกริ่นไปด้านต้นถึงภาพสวยๆ ที่กินข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกันนั้น คือ เรา fight มาเยอะมาก ร้องไห้ทุกคืน คิดอยากจะเลิกกับแฟนให้ที่บ้านพอใจ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเขา แล้วให้เราอายุ 40 ค่อยมีแฟน (จะหาได้มั้ยยยยยย!) แต่พอทุกอย่างดีขึ้น เราก็จะไปอีก step นึง กลายเป็นว่า เขาไม่โอเคแล้ว


ป.ล. เมื่อ 3 ปีก่อน เราเคยไปหาจิตแพทย์ ตอนนั้น หมอประเมินว่าเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนั้น พ่อไปนั่งฟังด้วย หมอพูดว่า "พ่อเลี้ยงลูกผิดวัย" เห็นด้วยกับหมอมาก คือ เข้าใจว่าพ่อแม่ก็เห็นลูกเป็นเด็กตลอด แต่ก็ต้องดูด้วยว่าลูกอยู่วัยไหน ลูกอยู่วัยผู้ใหญ่แต่จะมา treat แบบวัยเด็ก วัยรุ่นไม่ได้ นั่นอาจจะเป็นสาเหตุให้เราเป็นโรคซึมเศร้า และรู้สึกผิดเวลาทำให้พ่อแม่เสียใจ และรู้สึกทรมานเวลาอยาก please ตัวเองก็เป็นได้ เพราะที่ผ่านมา เรา perfect สำหรับเขามาก ตอนเรียน สอบได้คะแนนดี top ห้อง สอบเข้าคณะที่แม่อยากเข้า แต่เข้าไม่ได้ แต่เราทำได้ และจบมาด้วยเกรดที่ค่อนข้างดี ถ้าเราผม blonde คงเป็น perfect blonde ไปแล้ว พอเรามีความคิดเป็นของตัวเอง เขาค่อนข้างรับไม่ได้ มีหลายครั้งที่เราดื้อกับพ่อ จนพ่อขู่ว่าจะทำร้ายตัวเอง จนเราต้องยอม แล้วดูเหมือนว่า เราจะวนไปอยู่ในลูปของโรคซึมเศร้าเหมือนเดิม

เหนื่อยนะคะ เวลาเป็นลูกที่ดีที่พ่อแม่อยากให้เป็นและวันหนึ่งอยากเป็นตัวของตัวเองขึ้นมา นี่ไม่ใช่แค่เรื่องความรัก แต่เป็นเรื่องหน้าที่การงานด้วย จนลามไปถึงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น การแต่งตัว ทรงผม มากมายยยยยยยยย

เพื่อนๆ คนไหนมีประสบการณ์แบบนี้มาแชร์กันได้นะคะ ขอคำแนะนำด้วยก็ดี ถ้าเป็นคำแนะนำแนวจิตวิทยาด้วยจะดีมากค่ะ

อ่อ แล้วอยากพาพ่อแม่ไปหาจิตแพทย์ด้วยค่ะ เพราะเขาทำแบบนี้กับน้องเราด้วย จนน้องเราทำร้ายตัวเอง  แต่ไม่รู้จะลากไปยังไงดี เขามองว่า การไปหาหมอจิต คือ เป็นบ้า แต่จริงๆ ไม่ใช่ เรามองว่ามันคือการสำรวจจิตใจตัวเอง การเข้าใจมนุษย์ด้วยกัน และอยู่ด้วยกันอย่างเข้าอกเข้าใจต่างหากค่ะ

ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่