สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เอาตามที่ท่านสบายใจเลยแล้วกัน
ที่จริงไม่ต้องมาเสียเวลาจัดพิธีจับสลากให้วุ่นวายหรอก เอาแบบว่ามาเลเซียอยากเจอใครบ้างก็แบ่งสายมาเลย
จะเอาแบบ กลุ่ม A มีมาเลเซีย ลาว กัมพูชา บรูไน ติมอร์ กลุ่ม B มีไทย พม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เลยก็ได้



หรือไม่งั้นแบบนี้เลย 10 ทีม แบ่งเป็นกลุ่มละ 5 ทีม เตะกันจนเหลือทีมเดียวค่อยมาชิงเหรียญทองกับมาเลเซีย แบบว่าถ้ายังไม่ได้เหรียญทองอีก ก็สมควรเอาปี๊บคลุมหัวได้





ที่จริงไม่ต้องมาเสียเวลาจัดพิธีจับสลากให้วุ่นวายหรอก เอาแบบว่ามาเลเซียอยากเจอใครบ้างก็แบ่งสายมาเลย
จะเอาแบบ กลุ่ม A มีมาเลเซีย ลาว กัมพูชา บรูไน ติมอร์ กลุ่ม B มีไทย พม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เลยก็ได้




หรือไม่งั้นแบบนี้เลย 10 ทีม แบ่งเป็นกลุ่มละ 5 ทีม เตะกันจนเหลือทีมเดียวค่อยมาชิงเหรียญทองกับมาเลเซีย แบบว่าถ้ายังไม่ได้เหรียญทองอีก ก็สมควรเอาปี๊บคลุมหัวได้







แสดงความคิดเห็น
แบบนี้ก็ได้เหรออาเซี่ยน ฟุตบอลซีเกมส์ "มาเลเซีย" จิ้มอยู่สายไหนก็ได้
เปิดเผยวิธีการจับสลาก ของฟุตบอลซีเกมส์ ที่กัวลาลัมเปอร์ ในเดือนสิงหาคมนี้ ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า กฎใหม่ที่เจ้าภาพคิดค้นเพื่อใช้การแข่งขันครั้งนี้ในเฉพาะ คือ มาเลเซีย จะสามารถเลือกจิ้มไปอยู่ในสายไหนก็ได้ตามที่ตัวเองต้องการ
หนังสือทางการของ มาเลเซีย ระบุวิธีการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลไว้ดังนี้
1. ทีมแชมป์เก่า "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ในฐานะเต็งแชมป์ อยู่กลุ่ม A (เป็นทีม A1) ส่วน เมียนมาร์ รองแชมป์ ให้ไปอยู่กลุ่ม B (เป็นทีม B2)
2. อีก 6 ทีมที่เหลือจาก 9 ทีม ยกเว้นเจ้าภาพ จะจับสลับอยู่ในสาย A , B จนครบ 6 ทีม (A2,A3,A4 และ B2,B3,B4 )
3. จากนั้นเมื่อแต่ละสายจับได้ 4 ทีมแล้ว มาเลเซีย ในฐานะเจ้าภาพ จะมีสิทธิ์เลือกได้ว่าจะอยากอยู่สายไหน A หรือ B ก็ได้
4. ในกรณีที่มาเลเซีย เลือกกลุ่ม A 2 ทีมที่เหลือจะต้องไปอยู่กลุ่ม B ส่วนในกรณีถ้า เจ้าภาพเลือก B ทีมที่เหลือจะไปอยู่กลุ่ม A
เท่ากับว่า ในกฏนี้ มาเลเซียจะเลือกไปอยู่กลุ่มไหนก็ได้ ที่ตัวเองเห็นว่าง่าย ซึ่งแฟนบอลหลายๆประเทศ ต่างออกมาตั้งคำถามว่า วิธีการนี้ เป็นการยุติธรรมหรือไม่ เพราะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับชาติเจ้าภาพโดยตรง
สำหรับ การแข่งขันซีเกมส์ จะมีทีมลงแข่งชิงเหรียญทองในกีฬาฟุตบอลทั้งสิ้น 11 ทีม แบ่งเป็นสองสาย A และ Bโดยทีมอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละสายจะผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป
.....R.I.P.กะลาอาเซี่ยนจริงๆ.....
ที่มา http://m.siamsport.co.th/news/detail/363319