เที่ยวกับแฟนจนเลยมาเป็นสามีและจะก้าวเข้าสู้วัยกลางคน

        สวัสดีทุกๆ เรียกเราว่ากระเพราก็ได้นะ กระทู้นี้เราต้องการแนะนำตัวนะคะ เราไปเที่ยวมาเยอะพอสมควรแต่เราไม่เคยรีวิว หรือเอามาแบ่งปั่นใดๆเลย เนื่องด้วยทุกคนที่ไปเที่ยวมาแล้วไม่ทำ เหตุผลคงคล้ายๆกัน คือผลัดวันประกันพรุ่ง พอจะเริ่มทำก็ลืมหารูปยากบ้างล่ะ บลาๆ ซึ่งเรานั้นขี้เกียจตัวเป็นขน เมื่อก่อนเราทำงานประจำจนลาออกมาเที่ยวเราก็ยังไม่ได้เขียนอะไรซักกระทู้เลย ฮ่าๆๆๆ จะอ้างว่าไม่มีเวลาคงไม่ใช่ละซิเนอะ

        เริ่มเลยนะกระทู้นี้ยังไม่ได้รีวิวอะไรนะคะเรามาพูดคุยกันก่อนเราอยากเล่าเรื่องของเราก่อน เราเที่ยวตั้งแต่อายุ 24 ปี สำหรับสมัยนี้มันช้ามากเลยเนอะเห็นเด็กเที่ยวตั้งแต่อายุ 16  ปีละแอบอิจฉาเบาๆ แต่อะๆไม่ใช่นะ  24 ปีที่ว่าของเราเมื่อ 8 ปีที่แล้วน่ะดูแก่ขึ้นมาทันทีเลย ตอนนั้นมี Facebook แล้วล่ะ แต่คนยังเห่อ Hi5 กันอยู่ เราเริ่มเที่ยวเมื่อเราเริ่มมีเงินเหลือจากการทำงานประจำที่เริ่มทำตั้งเเต่จบมาก็อายุ 22 ปี และที่สำคัญอีกหนึ่งสิ่งคือเรามีเพื่อนไปด้วยแล้วนั่นคือแฟนเรา ที่เรามีแฟนเพื่อการนี้โดยเฉพาะ กิกิ เริ่มจากเราเที่ยวในประเทศไทยนี่แหละ เหนือ​-ใต้ ออก-ตก แรงบันดาลใจในการเที่ยวของเราน่ะเหรอ ไม่ใช่กระทู้พันทิปหรอกไม่แน่ใจสมัยนั้นมีรึยังเรา Low technology แต่มาจากเพื่อนสาวของเราหนึ่งคน นางไปเที่ยวกะแฟนแล้วเอารูปมาอวดเรา เราดูจากแฟรชไดร์ฟนาง มันไม่ค่อยจะสะดวกสบายแบบตอนนี้หรือไม่นางก็ส่งเมล์มาให้ดู เราก็อยากไปแบบนี้บ้างอะ แต่ยังไม่มีแฟนพอมีแฟนก็ไปเลยค่ะ (เราไม่ชอบเที่ยวคนเดียวเราขี้เหงาค่ะ บวกกับเพื่อนเมื่อก่อนก็นัดกันทีกว่าจะพร้อมก็ข้ามปีคะไปกะแฟนสะดวกสุด) หลังจากนั้นเราก็ไม่เคยหยุดคิดที่จะออกเดินทางเลยค่ะ ว่างจากงานเมื่อไหร่เราดูปฏิทินวันหยุดแล้ว และแพลน แพลน และก็แพลน เราไปเที่ยวเหนือครั้งแรกเรานั่งรถทัวร์นอนคืนนึงไปเช้าที่เชียงใหม่ แล้วเราเช่ารถที่โน้นคะ เป็นครั้งแรกที่เราได้เที่ยวด้วยกันสนุกมากๆๆๆ เพราะเราพึ่งคบกันเราขับรถจากจังหวัดนึงไปอีกจังหวัดนึง ไม่เบื่อเลยคะ เราเที่ยวเหนือตั้งแต่ Google map ยังไม่พัฒนาเลยบวกกะมือถือเราตอนนั้นไม่รองรับคะ (Low อีกแล้วเรา) เราใช้แผนที่ที่ Print มาเป็น A4 เราดูทางแฟนเราขับเราอ่านเเผนที่เก่ง แฟนเราชม เราไปในที่ที่ไม่มีป้ายบอกทางเราอาศัยดูเลขหลักกิโลเอา ตอนเราไปดอยวาวีที่เชียงรายเราไม่เจอป้ายเลยสักป้าย โอ้โห!!! มาไกลแล้ว "กลับตัวก็ไม่ได้ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง" อารมณ์แบบนั้นเลยค่ะ บางครั้งเรากะเวลาไม่ถูกเรายังขับอยู่บนท้องถนนที่เป็นโค้งข้างเขา ข้างล่างอีกฝั่งเป็นเหว แต่เราขับกันในตอนกลางคืน คิดดูว่าขับได้แค่ 40-60 จะแซงก็ต้องลุ้นกันขนตั้งล่ะค่ะ แต่มันคือเสน่ห์ที่ทำให้เราจดจำจนถึงวันนี้ เดี๋ยวนี้เหรอค่ะเราสบายขึ้นแล้วค่ะ แค่จิ้ม Google map มันก็พาเราไปได้แทบทุกที่แล้วเนอะ ทุกอย่างมันง่ายมากแค่พิมพ์แค่จิ้มก็ได้อย่างใจฝันละมันทำให้เราไปเที่ยวได้สะดวกขึ้นมากๆ เลยว่ามะ

        เราเที่ยวไปเรื่อยจนไปต่างประเทศ ประเทศแรกคือญี่ปุ่นค่ะ เราไปตั้งแต่ญี่ปุ่นยังต้องขอวีซ่านั่นแหละคะสมัยนี้ฟรี 15 วันสำหรับญี่ปุ่นเราบาดเจ็บทางด้านการเงินและจิตใจค่ะ ไว้เราต้องมาเล่าให้ฟังในกระทู้รีวิวนะคะ อดใจรอนิดนึง เราไปเที่ยวอีกหลายประเทศจนในที่สุดเราก็ข้ามทวีปและข้ามอีก เหมือนเดิมและเราจะเล่าให้ฟังว่าเราไปไหนมาบ้าง เราคิดว่าจุดเด่นที่เราจะเล่าคือเรื่องระหว่างการเดินทาง ผู้คน การใช้ชีวิต อาหารการกิน เราว่ามันสนุกดีจากที่เราไปเจอมาเราอยากเล่าให้ฟังมันตลกและตื่นเต้นด้วยผ่านไปนานเราก็ยังไม่ลืมเลย เราไปเที่ยวจนเราแต่งงานกัน ระหว่างที่เราคบกันมีเหตุให้เราต้องเกือบเลิกลากันหลายครั้งแต่ทุกครั้งจบด้วยการที่เราจองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วกลับมาไปเที่ยวด้วยกันอยู่แบบนี้จนตอนนี้แต่งมาจะครบ 3 ปีละคะ เราชอบที่จะเที่ยวกับสามีของเรานะ แม้ระหว่างทางมันจะลำบากมาก กว่าจะได้ไปด้วยกันก็ตามแต่พอได้ไปแล้วเราก็มีความสุขค่ะที่ "ได้เห็นโลกกว้างๆที่เราไม่เคยเห็นแล้วพอหันไปข้างๆจะเจอเขาเสมอ" ไม่รู้เขาเป็นแบบเราไหม แต่เรามองเขาตลอดแม้เวลาจะผ่านมา 8 ปีแล้วก็ตาม (แอบบอกรักสามีไม่ว่ากันนะ อิอิ)
         เรามีรูปสวยๆเยอะเลยนะ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีคนอยากอ่านเรื่องของเราไหม ยังไงส่งมาบอกกันบ้างนะคะ ถ้ามีคนอยากอ่านเราก็มีกำลังใจที่จะทำค่ะ ไว้เจอกันกระทู้หน้านะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่