สรุปข้อสงสัยทุกเรื่องเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูง อ่านกะทู้นี้จบ (เนื้อหาค่อนข้างเยอะ)

ไปอ่านกะทู้เต็มๆ พร้อมรูปภาพและวีดีโอประกอบได้ที่ เพจ Kittitouch Chaiprasith ตามลิงค์ข้างล่าง

https://www.facebook.com/kittitouch.chaiprasith/posts/1487989381265216


ยังไงช่วยรบกวนโหวตกะทู้ให้ขึ้นกะทุ้แนะนำทีครับ จะได้รู้เรื่องรถไฟความเร้วสูงมากขึ้น


#############################################################
มาตามสัญญานะครับกับเรื่อง
รถไฟ ไทย-จีน และไทย-ญี่ปุ่น
โพสท์นี้เกิดจากความเข้าใจผิด
ของคนไทยหลายคนที่หลงเชื่อ
ข่าวลือมั่วๆ ซั่วๆ หรือประเภท
เรื่องเล่า+รูปประกอบลวงโลก
ที่ส่งกันตามโซเซียลมีเดีย

ผมจะสรุปประเด็นสั้นๆ
ให้ฟังทีละเรื่องนะครับ

-------------------
ทำไมต้อง จีน-ญี่ปุ่น
-------------------

- หลายคนบอกว่า "ทำไมต้องจีน"
(แต่มักไม่พูดถึงญี่ปุ่นด้วย) โดยไม่รู้
ว่ารถไฟที่เราจะสร้าง มันคือข้อตกลง
ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและ
ประเทศจีน กับ ประเทศญี่ปุ่น ตาม
แผนพัฒนาระบบคมนาคมในภูมิภาค

เส้นทางสายหลักอาจแบ่งออกได้ 3 เส้น

1. เส้นทางสายเหนือ-ใต้งเชื่อม
จีน-ลาว-ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์
ซึ่งเชื่อมจากเหนือคือจีนไปสุดที่สิงคโปร์
โดยผ่าน ลาว ลงมายังไทย และมาเลเซีย
ซึ่งปัจจุบันมาเลเซียก็ใช้เทคโนโลยีจากจีน
และจะทำเชื่อม "ภูมิภาคอาเซียน" กับจีน
(ซึ่งก็คือทำเชื่อมกับไทย-ลาว-จีน นั่นแหละ)

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1478073793
.....................

2. เส้นทางสายตะวันออก-ตะวันตก
เชื่อมจากท่าเรือทวายในประเทศพม่า
(ซึ่งญี่ปุ่นไปลงทุนเอาไว้มหาศาลแล้ว)
ผ่านประเทศไทยมาทาง จ.กาญจนบุรี
ผ่าน กทม. แล้วแยกสองทางคือสร้ะแกว
กับลงท่าเรือแหลมฉบังซึ่งเป็นที่ตั้งของ
บริษัทญี่ปุ่นในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ

โดยจากสระแก้วก็จะเชื่อมไปต่อกับ
กัมพูชาและเวียดนาม ซึ่งญี่ปุ่นก็มี
ฐานการผลิตอยู่ที่รอบๆ โฮจิมินต์
....................

3.เส้นสายเหนือ-ใต้ กทม.-เชียงใหม่
เส้นนี้ญี่ปุ่นสนใจจะเชื่อม จ.อยุธยา
ซึ่งเป็นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมของตน
เข้ากับเส้นตะวันออก-ตะวันตก โดย
ในอนาคตญี่ปุ่นมีแผนจะทำเชื่อมต่อ
ตะวันออก-ตก อีกหนึ่งเส้นที่วิ่งจาก
แม่สอดไปออกมุกดาหารและลาว
ก่อนจะเข้าเวียดนามจากตอนกลาง

(เส้นใต้ไปเชื่อมกับโฮจิมินต์ที่อยู่ใต้
เส้นเหนือวิ่งเชื่อมกับดานังที่อยู่กลาง)

- โดยสายนี้จะเชื่อมกับพม่าที่เมือง
Mawlamyine (ไม่กล้าสะกดกลัวอ่านผิด)
ซึ่งใกล้กับย่างกุ้ง และจะเชื่อมต่อออกไป
จนถึงประเทศอินเดีย ตามแผนงานที่วางไว้

http://www.posttoday.com/biz/gov/497045
https://goo.gl/SucUhA
https://goo.gl/2EBpD4

- จากแผนงานทั้งหมดซึ่งเป็นความร่วมมือ
ระหว่างประเทศทั้ง จีน ญี่ปุ่น และอาเซียน
จะทำให้ภูมิภาคนี้เชื่อมต่อกันได้หมดเลย
(นี่ยังไม่พูดถึงล่างลงไปจากสิงคโปร์ด้วย)

*** ดังนั้นใครที่ยังไม่เข้าใจและพูดว่า
"ทำไมไม่ประมูลให้ฝรั่งเศส-เยอรมัน
หรือ ทำไมสายอีสานไม่ให้ญี่ปุ่นทำ
(หรือสายตะวันออก-ตกไม่ให้จีนทำ)"

คือคนที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวเหล่านี้
เป็น #แผนยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค
มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาบอกว่า...

"ฉันจะให้คนนั้นคนนี้ทำรถไฟเส้นนี้
แล้วฉันจะไม่เชื่อมต่อกันกับใครเลย
ใครอยากจะเชื่อมต่อกับฉัน ต้องมา
เปลี่ยนขบวนที่ประเทศฉัน แล้วค่อย
เปลี่ยนขบวนอีกรอบหลังพ้นบ้านฉัน"

ลองนึกภาพ จีน-ลาว นั่ง/ขนของลงมาถึง
หนองคาย แล้วต้องยกของออกจากขบวน
แล้วไปขึ้นรถไฟอีกสาย ที่ใช้กันคนละระบบ
พอลงไปถึงปาดังเปซา ก่อนเปลี่ยนขบวนอีก
ขึ้นลงรถใหม่ ขนของจากเส้นหนึ่งไปอีกเส้น
เพื่อไปต่อขบวนอีกระบบที่มาเลเซีย (ระบบจีน)

*** เค้าเชื่อมกันทั้งถูมิภาคเอเชียตะวันออก
(เชื่อมไปถึงอินเดียด้วยซ้ำ) เราจะมาบอกว่า
เราจะทำเอง โดยไม่สนใจว่าจะเชื่อมคนอื่น
ได้หรือไม่ (ใ้ช้คนละระบบกับเส้นทางนั้นๆ)

มันคงจะไม่ได้หรอกนะครับ

*** และด้วยเหตุผลนี้ จีนก็ไม่สนใจจะทำ
เส้นตะวันออก-ตก เพราะมันเป็นของญี่ปุ่น
ทำไปก็เชื่อมกันไม่ได้ ส่วนญี่ปุ่นก็ไม่สนใจ
ที่จะทำเส้นสายอีสานไปเชื่อมกับลาว-จีน
เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่เค้าต้องการ!!

-------------------
ที่มาของโครงการ
-------------------

- โครงการรถไฟความเร็วสูงเป็นโครงการ
ที่รัฐบาลนาย ชวน หลีกภัย ได้สั่งการไว้ให้
มีการศึกษาความเป็นไปได้ไว้เมื่อปี 2535
และ ครม.รัฐบาลชวน ได้อนุมัติไว้ปี 2537
(ที่มาจาก: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติปี 2539)

http://www.nesdb.go.th/…/rapid_train_summary%20-%20january2…


<<<< อ่านต่อกะทู้ถัดไปนะครับโพสลงทั้งหมดไม่ได้พันทิพห้ามพิมพ์เยอะ>>>>
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
ข้อความบิดเบือน

ยอดเงินลงทุนจริงๆ ที่กระทรวงคมนาคม
วางแผนไว้นั้น สูงถึง "4.2 ล้านล้านบาท" ครับ
ไม่ใช่ทั้ง 2.2 ล้านล้าน และ 3.3 ล้านล้านบาท
*** เรื่องนี้ กิตติรัตน์ ณ ระนองสมัยเป็น รมต.
ก็เคยแถลงออกสื่อแล้วว่า งบในการพัฒนาจริง
ที่ต้องใช้นั้นอยู่ที่ 4.2 ล้านล้านบาท
แต่รัฐบาล
จะกู้ (ด้วยวิธีพิเศษ) มา 50% คือ 2.2 ล้านล้าน

อ้างอิง ไปถึง http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1375170200

ที่ขีดเส้นใต้  บอกว่า งบในการพัฒนาจริง    เป็นการบิดเบือน จากคำพูดของคุณกิติรัตน์
พูดว่า ....
" พ.ร.บ.นี้เป็นการกำหนดกรอบการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่งที่ควบคุมขนาดลงทุนไว้ที่2ล้านล้านบาท

  ภาพรวมของโครงการ2ล้านล้านจึงเป็นการลงทุนที่มีทั้งทางรางทางถนนทางน้ำและศุลกากร
  โดยเรื่องทางรางเป็นการลงทุนในสัดส่วนที่มาก
  แต่รัฐบาลเคยวิเคราะห์ให้เห็นว่าถ้าเราจะลงทุนในระบบของเราเต็มรูปแบบและทำให้ประเทศเรามีความพร้อมที่สุด
  เราถูกคาดหวังให้ลงทุน 4.2 ล้านๆ
  แต่หารือกระทรวงการคลัง กรมศุลกากร เราควรจะถึงขนาดให้เป็นประเทศความพร้อมสูงสุดเลยหรือไม่
  ก็พิจารณาให้ประเมินคุ้มค่าพอเดินได้ที่จะต่อยอดพัฒนาเศรษฐกิจไทย
  โดยพิจารณาประกอบไปกับการลงทุนหนี้สาธารณะของประเทศให้ต่ำในระดับที่น่าพอใจ"

สรุปคือ พิจารณาลงทุนแค่ 2 ล้านๆ    ควบคุมด้วย พรบ

           แต่ ผู้เขียน เฟส เขียนเป็นว่า จะใช้งบ 4.2 ล้านๆ
           แล้วกู้ 2.2 ล้านๆ

เป็นการเขียนเพื่ออะไร ?
เพื่อกลบเกลื่อนการใช้งบที่มากกว่า (คือ 3.3 ล้านๆ) ใช่ไหม ?
ความคิดเห็นที่ 36
ความคิดเห็นที่ 8
คนตั้งทู้   ตั้งทู้เมื่อ 30 นาทีก่อน   ยาวเหยียด  แปะหลายลิงค์

คนอวย  อวยเมื่อ 15 นาทีก่อน ว่าเนื้อหาแน่นปึ๊ก

แหม๊  อ่านเร็ว เข้าใจไว  วิเคราะห์เยี่ยม  อัจฉริยะจริง ๆ
555
ความคิดเห็นที่ 1
- แต่หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540
โครงการนี้ก็ไม่ถูกพูดถึงอีกจนกระทั่ง
ปี 2551 ซึ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์ประกาศว่า
จะหยิบโครงการนี้มาพัฒนาและปัดฝุ่น
โดยให้ประเทศต่างๆ เข้ามาเสนอท่าที
โดยประเทศที่สนใจก็คือ จีน และ ญี่ปุ่น

- โดย #จีนสนใจเส้นทางสายอีสาน
เพื่อเชื่อมต่อกับลาวและจีนตอนใต้
ส่วน #ญี่ปุ่นสนใจเส้นทางสายเหนือ
ขึ้นเชียงใหม่ ตามยุทธศาสตร์ของเค้า

(ซึ่งก็ตามที่ได้อธิบายไว้แล้วเบื้องต้น)

แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ดี รัฐบาลญี่ปุ่นก็หายไป
จากสมการดังกล่าว แม้จะเปลีย่นรัฐบาล
ไปถึงสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ รัฐบาลญี่ปุ่น
ก็ไม่ปรากฎชื่อในข้อตกลงความร่วมมือ
กลายเป็นจีนทั้งหมดที่มาดูแลข้อตกลง

- จนเมื่อเปลี่ยนเป็นรัฐบาล คสช.
ญี่ปุ่นก็ได้กลับมาอยู่ในความร่วมมือ
โดยได้ทำรถไฟสาย กทม.เชียงใหม่
และสายตะวันออก-ตก ตามที่ตั้งใจไว้
แถมด้วยข้อตกลงเรื่องการส่งขนสินค้า
ที่มา รฟท.ร่วมมือกับทางรัฐบาลญี่ปุ่น

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1454652432
http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx

- ซึ่งได้มีการทดลองระบบคอนเทนเนอร์
กันไปเมื่อปีที่แล้ว จนเมื่อสองสัปดหา์ก่อนนี้
ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น
ใน 8 เรื่องสำคัญ ทั้งเรื่องรถไฟ+ความเร็วสูง
และเรื่องระบบ logistic (ขยส่งสินค้า) กัน

http://www.posttoday.com/biz/gov/497045

(พวกฝ่ายการเมืองที่ชอบบิดเบือน
มักจะเอาไปพูดว่าญี่ปุ่นไม่ร่วมมือกับ
รัฐบาล คสช.เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย
ซึ่งในความเป็นจริง ตรงกันข้ามแบบสุดขั้ว
เพราะตั้งแต่รัฐบาล คสช.เข้ามานั้น รัฐบาล
ที่มาเสนอความร่วมมือด้านต่างๆ มากที่สุด
ก็คือ รัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น นั่นเอง....)

-------------------
โครงการรถไฟมูลค่าเท่าไร?
-------------------

- ความเข้าใจผิดๆ ที่บรรดาเพจการเมือง
ชอบเอาสร้างข้อมูลมั่วๆ ซั่วๆ แล้วเอาภาพ
มาทำเป็น infographic สวยๆ ไปหลอกคน

เปรียบเทียบระหว่างโครงการกู้ 2.2 ล้านล้าน
กับงบประมาณพัฒนาระบบคมนาคมรัฐบาลนี้
ประมาณวงเงินไว้ที่ 3.3 ล้านล้านบาท ตามที่
กระทรวงคมนาคมเสนอมา ก็เป็นเรื่องโกหก
บิดเบือนกันจนไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี....

- ต้องเข้าใจให้ถูกต้องกันก่อนนะครับ
ตัวเลข 2.2 ล้านล้านบาท เป็น #ยอดเงินกู้
ไม่ใช่งบประมาณโครงการรถไฟความเร็วสูง
และไม่ใช่งบประมาณของการพัฒนาระบบ
คมนาคมทั้งหมดที่ทางกระทรวงคมนาคม
นำเสนอต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มันเป็นเพียง
"ยอดเงินกู้" ที่จะเอาไปดูในรูปแบบพิเศษ

คือ #กู้นอกระบบงบประมาณ ซึ่งผมจะอธิบาย
ให้เข้าใจง่ายๆ คือ การกู้แบบนี้คือเหมาจ่าย(กู้)
โดยที่ยังไม่มีการศึกษารายละเอียดเบื้องต้นว่า
โครงการต่างๆ จะใช้งบประมาณเท่าไรกันแน่
แต่ก็เหมาๆ เอาว่าต้องกู้มา 2.2 ล้านล้านก่อน

- อย่างเวลานั้น ยังไม่มีการศึกษาความคุ้มค่า
ของโครงการรถไฟความเร็วสูงรวมถึงยอดเงิน
ที่จะต้องใช้จริง (ตัวเลขที่ ปชป.และ เพื่อไทย
นำเสนอมานั้นเป็นเพียง #ประมาณการ ทั้งสิ้น)
ทั้งจีนและญี่ปุ่นยังไม่ได้เริ่มลงมือศึกษาจริงจัง

(เหมือนคิดเอาเองว่าจะสร้างบ้าน น่าจะใช้ 2 ล้าน
แต่พอไปดูที่จริง ไปให้ผู้รับเหมาประเมินแบบจริง
กลายเป็น 3 ล้านขึ้น แพงขึ้น 50% อะไรแบบนั้น)

- สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)
ก็ได้ออกมาโจมตีว่า พรบ.เงินกู้นี้มีช่องโหว่มาก
บัญชีแนบท้ายก็มีรายละเอียดน้อยมากถึงไม่มี
(มีแค่ 2 แผ่น) แล้วก็ให้ฝ่ายนิติบัญญัติอนุมัติ

http://www.siamintelligence.com/2-trillion-infrastructure-…/
https://www.youtube.com/watch?v=7CZwzhMDwzw
https://www.youtube.com/watch?v=y947o67F63k

- คือ อนุมัติก้อนเดียว 2.2 ล้านล้านบาท
แล้วก็เอามาใช้ได้ โดยไม่ต้องพิจารณาอีก
ต่างกับการกู้ในระบบงบประมาณ ที่จะต้อง
พิจารณากฎหมาย เป็นช่วงๆ ตามโครงการ
(ได้ตรวจสอบเรื่องเงิน เป็นระยะๆ อยู่เรื่อยๆ)
.........................

- ส่วนตัวเลข 3.3 ล้านล้านบาท ก็ไม่ใช่ยอด
ของโครงการรถไฟความเร็วสูงด้วย ยอดจริง
อยู่ที่ประมาณ 4 แสนล้าน - 5 แสนล้านบาท
โดยล่าสุดทางญี่ปุ่นศึกษามาแล้วว่าถ้าทำ
รถไฟความเร็วสูงจาก กทม.-เชียงใหม่นั้น
ยอดจะอยุ่ที่ประมาณ 5.3 แสนล้านบาท

- ซึ่งจากการศึกษาทั้งหมดระบุว่า
"ไม่คุ้มค่าการลงทุนในด้านการเงิน"
"แต่คุ้มค่าในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ"
ญี่ปุ่นจึงบอกให้ไทยไปพัฒนาพื้นที่ข้างทาง
เพื่อทำให้มีความคุ้มค่าด้านการเงินเพิ่มขึ้น

https://www.matichon.co.th/news/158267
https://www.youtube.com/watch?v=C9Iwv49IMaE

- ส่วนยอดสาย กทม.-หนองคายที่จีนทำนั้น
อยู่ที่ 4-5 แสนล้านเช่นกัน โดยทางจีนเสนอที่
5 แสนล้าน แต่ไทยประเมินไว้ที่ 4.4 แสนล้าน
(อันนี้คือยอดจริงที่ทำการศึกษาแล้ว ไม่ใช่
ประมาณการลอยๆ เบื้องต้นเหมือนที่ผ่านมา)

ก็เลยยังมีปัญหากัน ก่อนจะเคลียร์ได้ว่า
ไทยจะลงทุนเองทั้งหมด เพื่อลดค่าใช้จ่าย
โดยทางจีนจะเป็นผู้ก่อสร้างและวางระบบให้

https://www.dailynews.co.th/politics/387468

*** คำถาม แล้วตัวเลข 3.3 ล้านล้าน คืออะไร?
มันคือยอดวงเงินตามแผนพัฒนาระบบคมนาคม
ทั้งประเทศ ที่กระทรวงคมนาคมเสนอมาตั้งแต่
รัฐบาลชุดก่อนๆ โดยวงเงินนี้ รวมตั้งแต่รถไฟ
ท่าเรือ สนามบิน รถไฟฟ้าใน กทม.สายต่างๆ
ไปจนถึงถนนหนทางต่างๆ ทั่วทั้งประเทศ

ซึ่งยอดเงินลงทุนจริงๆ ที่กระทรวงคมนาคม
วางแผนไว้นั้น สูงถึง "4.2 ล้านล้านบาท" ครับ
ไม่ใช่ทั้ง 2.2 ล้านล้าน และ 3.3 ล้านล้านบาท

*** เรื่องนี้ กิตติรัตน์ ณ ระนองสมัยเป็น รมต.
ก็เคยแถลงออกสื่อแล้วว่า งบในการพัฒนาจริง
ที่ต้องใช้นั้นอยู่ที่ 4.2 ล้านล้านบาท แต่รัฐบาล
จะกู้ (ด้วยวิธีพิเศษ) มา 50% คือ 2.2 ล้านล้าน

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1375170200
http://www.manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx…&

- โดยในช่วง 8 ปีแรกซึ่งเป็นระยะเร่งด่วน
คาดว่าจะใช้งบอยู่ที่ประมาณ 1.9-2 ล้านล้าน
ซึ่งแผนงานทั้งหมดว่ามีอะไรบ้างยอดเงินเท่าไร
แบ่งจ่ายหรือช่วงงานเป็นอย่างไรในแต่ละปีๆ
ซึ่งผมก็ได้นำไฟล์ PDF ของกระทรรวงฯ
มาทำเป็นภาพและลงไว้ใน album แล้ว

https://www.facebook.com/kittitouch.chaiprasith/media_set
https://www.facebook.com/kittitouch.chaiprasith/media_set

ถ้าใครสงสัยก็ลองเข้าไปดูได้ครับ

*** ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าคนที่เอาภาพมาทำ
แล้วบอกว่ารัฐบาลเพื่อไทยทำรถไฟความเร็วสูง
ใช้ 2.2 ล้านล้าน แต่ คสช.ทำความเร็วปานกลาง
ใช้ 3.3 ล้านล้าน จึงเป็นเรื่อง #มั่วซั่วและบิดเบือน

เพราะ 2.2 ล้านล้านคือยอดเงินกู้
เพื่อมาแปะในโครงการ 4.2 ล้านล้าน
ส่วน 3.3 ล้านล้าน ก็คือยอดที่คิดว่าจะใช้
โดยไม่กู้นอกระบบงบประมาณเท่านั้นเอง
(ส่วนขาดเหลืออะไรจาก 4.2 ล้านล้านนั่น
คงต้องไปถามกระทรวงคมนาคมกันเอง)

หมายเหตุ: ใครอยากดูง่ายๆ ว่างบคมนาคม
ใช้ทำอะไรกันบ้าง ก็ดูในภาพนี้ก็พอจะได้ครับ
http://www.prachachat.net/…/20…/03/13946075691394607615l.jpg
https://f.ptcdn.info/532/028/000/1424167711-1402741037-o.jpg

-------------------
ตกลงรถไฟไทย-จีน เป็นอย่างไร
-------------------

- หลายคนในโลกออน์ไลน์ชอบพูดว่า
รัฐบาลหมดเม็ด จะยกประเทศให้จีน บลาๆ
แต่ไม่เห็นพูดว่าจะยกประเทศให้ญี่ปุ่นบ้าง
ทั้งที่ญี่ปุ่นได้โครงการเยอะกว่าจีนมหาศาล
(ภายใต้รัฐบาลชุดนี้) ดังที่กล่าวไปเบื้องต้น

- ทั้งที่ในความเป็นจริง ข้อมูลการพูดคุย
และเจรจา รวมถึงบันทึกความร่วมมือ (MOU)
ก็มีให้ดาวโหลดในเวปไซท์อย่างเป็นทางการ
ที่รัฐบาลชุดนี้จัดทำขึ้นมา โดยมีตั้งแต่การคุย
ครั้งที่ 1 ในวันที่ 21-22 มกราคม 2558 จนถึง
ครั้งที่ 18 ในวันที่ 22-24 พฤษภาคม 2560
ที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่สัปดาห์นี้เองนะครับ

(ทุกครั้งมีข้อมูลให้ดาวโหลดได้หมดเลย
มีตั้งแต่ MOU ไปจนถึงข่าวการประชุม)

http://maps.mot.go.th/pao/

*** MOU ที่พูดถึงเรื่องความรับผิดชอบงาน
จะอยู่ใน MOU ครั้งที่ 2-3 และครั้งที่ 10 ครับ
เนื่องจากหลังจากครั้งที่ 4 จะเป็นการคุยเรื่อง
การลงทุนและยอดเงิน ซึ่งตกลงกันไม่ได้เลย
สุดท้ายปีที่แล้วรัฐบาลจึงประกาศว่าไทยจะ
ลงทุนเองทั้งหมด โดยอยู่ในการประชุม
ทวิภาคี ในวันที่ 23 มีนาคม 2559

(นี่คือสาเหตุว่าทำไมครั้งที่ 9 แล้วมันมี
การประชุม 2 ครั้งคั่นกลาง ก่อนครั้งที่ 10)

http://maps.mot.go.th/pao/doc/2ndMeeting.pdf
http://maps.mot.go.th/pao/doc/3rdMeeting.pdf
http://maps.mot.go.th/pao/doc/10thMeeting.pdf

*** #งานโยธาและการก่อสร้างเกือบทั้งหมด
จะเป็นของทางฝั่งไทย ยกเว้นช่วงอุโมงค์และ
ไหล่เขานั้น จีนจะรับผิดชอบเพราะเชี่ยวชาญ
ส่วนงานระบบราง ตัวรถ สัญญาณ สถานี ฯลฯ
ที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถไฟ จีนจะรับผิดชอบ

(ในภาพ MOU ผมจะเขียนกรอบสีไว้ให้
ของทางไทยสีน้ำเงิน ของทางจีนสีแดง)

*** เรื่องต่อมา #การถ่ายทอดเทคโนโลยี
ทางจีนต้องมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ไทย
การเดินรถจะเป็นแบบร่วมกัน โดยช่วงแรกนั้น
ทางจีนจะดูแลให้ก่อน เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญ
แล้วจากนั้นจะให้ทางเจ้าหน้าที่ไทยก็จะสานต่อ
ก่อนที่สุดท้ายไทยจะเป็นผู้ดูแลระบบเองทั้งหมด

*** นอกจากนี้ไทยขอให้จีนตั้งโรงงานผลิต
และ #ศูนย์ซ่อมบำรุงในประเทศไทย เพื่อให้
สามารถเรียนรู้เทคโนโลยี และผลิตเครื่องจักร
ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาจีนในอนาคต
รวมถึงไทยขอให้จีนสร้างศูนย์ควบคุมรถไฟ
เพราะในอนาคตไทยจะเป็นศูนย์กลางของ
ภูมิภาคอาเซียน (จึงต้องเรียนรู้งานทั้งหมด)

- ทั้งหมดนี้คือกรอบความร่วมมือที่ตกลงกัน
ส่วนตัวร่างสัญญาอย่างเป็นทางการที่ต้องมี
รายละเอียดปลีกย่อย ตั้งแต่เรื่องการฝึกอบรม
ใครรับผิดชอบอะไรยังไง ทั้งหมดนี้เจ้าหน้าที่
กำลังร่างอยู่ภายใน 120 วัน (4 เดือน) ต่อไปนี้

-------------------
การยกที่ดินให้จีนได้สัมปทานข้างทาง??
-------------------

- ในการพูดคุยภายใต้รัฐบาล คสช.นั้นไม่เคยมีเลย
จะมีก็สมัยรัฐบาล ปชป. ที่จีนเสนอว่าจีนจะสร้างให้
แต่อาจมีการขอสัมปทานที่ข้างทางรถไฟแบบเดียว
กับที่จีนสร้างให้ลาว (เค้าไม่สร้างให้ฟรีหรอกครับ)
ซึ่งนั่นคือสัญญาที่ทางรัฐบาลลาวตกลงกับจีน
เนื่องจากลาวไม่มีเงินที่จะลงทุนก่อสร้างเอง

https://goo.gl/Y57M4g

- แต่สำหรับประเทศไทย MOU ในรัฐบาลนี้
ทั้งหมด 18 ครั้ง ไม่เคยมีระบุเลยสักครั้งเดียว
ว่าจีนขอสัมปทานที่ดินสองข้างรถไฟ ซึ่งก็ไม่รู้
ว่าที่คนไทยบางกลุ่มลือกันมั่วๆ ในอินเตอร์เน็ท
เค้าไปเอาข้อมูลมาจากไหน ลือกันจนท่านทูตจีน
ประจำประเทศไทย ต้องออกมาให้ข่าวตั้งแต่วันที่
25 กรกฎาคม 2559 ซึ่งเอาจริงๆ ในระดับนานาชาติ

- การที่ทูตต้องออกมาพูดแบบนี้ ถือว่าเป็นเรื่อง
ที่ประเทศเราต้องขายหน้านะครับ มันเหมือนจะ
เป็นการบอกว่าคนในประเทศหูเบาเชื่อข่าวลือ
ที่ไม่มีมูล ขนาดต้องให้ทูตต่างประเทศมาพูด

(แต่ก็ยังไม่วาย ที่จะเชื่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
ถ้าเป็นตาสีตาสา เข้าไม่ถึงข่าวสารข้อมูลก็พอว่า
แต่นี่เป็นชนชั้นกลาง มีการศึกษา มีฐานะมีโอกาส
ในการเข้าถึงข้อมูล แต่กลับยังลือกันมั่วซั่วขนาดนี้)

https://www.matichon.co.th/news/224894
http://www.manager.co.th/China/viewnews.aspx

อีกอย่าง คุยตอนแรกก็เป็นการร่วมทุน
ตอนหลังเป็นไทยลงทุนเองทั้งหมดเลย
ก็ไม่รู้ว่าจีนจะไปขอสัมปทานได้อย่างไร?

(ถ้าเค้ามาสร้างให้ฟรี แล้วขอสัมปทานที่ดินสิ
ถึงจะสมเหตุผล ไม่รู้ที่ลือกันมั่วๆ ได้คิดกันไหม?)

-------------------
สถานะการณ์ปัจจุบัน
-------------------

- เมื่อวานนี้ รมต.คมนาคม ออกมาให้สัมภาษณ์
แถลงเนื้อหาทั้งหมดว่าจากข้อตกลงทั้งหมดแล้ว
โครงการนี้ไทยได้งบโครงการ 75% ซึ่งเป็นส่วน
ของรับเหมาก่อสร้าง ส่วนวัสดุทั้งหมดก็ของไทย

โดยจาก MOU ระบุไว้แล้วว่าจีนแจงเรื่องวัสดุมา
12 ชนิด โดยไทยสามารถหาได้ 11 ชนิดมีเพียงแค่
เหล็กข้ออ้อยที่จีนใช้แบบเฉพาะตัวเท่านั้น ซึ่งไทย
ไม่ได้ผลิตตามสเป็คดังกล่าว แต่จากการต่อรองกัน

ทางไทยได้ขอรายละเอียด และพาจีนไปชมโรงงาน
ซึ่งสรุปว่าทางไทยสามารถผลิตสเป็คดังกล่าวได้เอง
ดังนั้นวัสดุทั้งหมดจึงเป็นของไทย ไม่ต้องนำเข้าเลย!!

(เรื่องเหล็กข้ออ้อยและวัสดุ 12 ชนิดนั้นมีอยู่ใน
MOU ครั้งที่ 17 วันที่ 7-10 เมษายน 2560 ครับ)

http://maps.mot.go.th/pao/doc/17thMeeting.pdf

ส่วนที่เหลือเรื่องตัวรถ ระบบราง สัญญาณ และอื่นๆ
อีกจำนวน 25% ของมูลค่าโครงการจะเป็นของฝั่งจีน

https
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่