อันนยองฮาเซโยค่าา ชาวพันทิปทุกคน วันนี้เราก็จะมาแชร์ประสบการณ์เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง 5คืน 6วัน
ขอเกริ่นก่อนว่าจขกท.กับเพื่อน เป็นติ่งเกาหลี ที่มีinspirationอันแรงกล้าตั้งแต่เด็กๆว่าจะต้องไปเหยียบเกาหลีให้ได้สักครั้งนึงในชีวิต 55 พอเก็บเงินได้ก้อนนึง+เจอตั๋วเครื่องบินถูกๆ ก็จัดเลยค่ะอย่าให้เสียเวลา เราจองตั๋วเครื่องบินของAirasiaไปกลับ ดอนเมือง-อินชอนไว้ จองกันตั้งแต่ก.ค. ปี2016 แต่บินพ.ค. 2017 (รีบ55)
พอได้ตั๋วเครื่องบินแล้วเราก็ต้องหาที่พักค่ะ เราหาที่พักทางAgoda มาตกลงที่24 Guesthouse Seoul station premier จองไว้5คืน ที่เลือกที่นี่เพราะคิดว่าเดินทางสะดวกดีค่ะ อยู่ใจกลางเมืองSeoulเลย
เราไปช่วงกลางเดือนพ.ค. เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของเกาหลี (แต่ว่าซากุระร่วงหมดแล้วนะ ใครอยากดูซากุระต้องไปต้นเดือน) ก่อนจะไปเราก็เช็คสภาพอากาศไว้ เขาบอกว่า กลางวันประมาณ25องศา กลางคืนประมาณ16องศา มีฝนตกนิดหน่อย ก็เตรียมเสื้อผ้าข้าวของไว้ให้เหมาะกับสภาพอากาศเนอะ
Day 1
วันที่17 พ.ค. 2017 เวลา21:00 เราก็ได้มาถึงสนามบินดอนเมืองแล้ววว จริงๆแล้วเครื่องเราออก02:50ค่ะ ตื่นเต้น ไม่เคยไปต่างประเทศ เผื่อเวลาไว้อย่างเยอะ 5555
พอถึงเวลาเช็คอินเราก็ไปต่อแถวCheck-inของเค้าท์เตอร์Airasiaค่ะ แถวยาวมากกกกก แนะนำให้เช็คอินออนไลน์มาเลยจะเร็วและสะดวกกว่าเยอะเลยค่ะ
02:50 เครื่องขึ้นแว้วววววว
วิวกรุงเทพตอนกลางคืนสวยมากกกกกกก
04:30(ไทย) 06:30(เกาหลี) หลับตางีบไปแค่แปปเดียวเองค่ะ สว่างซะแล้ว 55
้
มองท้องฟ้าไปเพลินๆ พี่แอร์สุดสวยก็เอาอาหารเช้ามาเสิร์ฟแล้ว เมนูเช้านี้คือไก่เทอริยากิ
10:30 เราได้มาถึงเกาหลีประเทศโอปป้ากันแล้ววววววว แต่ก่อนที่เราจะได้เข้าประเทศนั้น เราจะต้องผ่านตม.กันก่อน ซึ่งตม.เกาหลีเนี่ย เป็นอะไรที่เลื่องชื่อมาก แล้วช่วงที่เราไป เป็นช่วงที่มีข่าว I have water พอดี ความกลัวเลยเพิ่มทวีคูณเข้าไปอีก 5555 แต่ก็พยายามไม่คิดมากค่ะ เรามาดี ไม่ได้มาทำอะไรผิดกฎหมายบ้านเขา
ตม.ที่รัก
สิ่งที่ควรเตรียม
1.ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
2.หลักฐานการจองโรงแรม
3.บัตรนักเรียน นักศึกษา หรือ เอกสารรับรองการทำงานที่เป็นภาษาอังกฤษ
4.แพลนเที่ยว
5.แต่งตัวให้เหมาะกับสภาพอากาศ ไม่เยอะหรือไม่น้อยเกินไป
6.เงินวอน
7.ตอบคำถามภาษาอังกฤษ
พอเราลงจากเครื่องแล้ว เราก็ต้องไปขึ้นรถไฟใต้ดินไปอีกterminalนึงเพื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองค่ะ เดินตามป้ายไปเรื่อยๆเลย ไม่ต้องกลัวหลง พอถึงด่านตรวจแล้ว ก็จะมีคนต่อแถวอยู่เยอะมาก ช่องตรวจก็จะมีเยอะมาก เราได้ช่องแรกเลย ตม.ที่เราเจอเป็นผู้หญิง พอเราเข้าไป ทักตม.อย่างเฟรนด์ลี่เลยค่ะว่า ‘Hi’ พร้อมยื่นพาสปอร์ตกับใบตรวจคนเข้าเมืองที่กรอกบนเครื่องให้เขาดู ตม.มองหน้าเรา ก้มมองพาสปอร์ต แล้วก็เงยหน้ามามองหน้าเราอีกรอบ แล้วก็เราให้ปั้มนิ้วเลย งงมาก แค่เนี้ยยยย ไม่ถามสุขภาพสักคำ ตม.เกาหลีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะทุกคน เรามาดีก็เฟรนด์ลี่ใส่ไว้เลย 555555
พอเราเอากระเป๋า เช่าwifiอะไรเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาเดินทางไปที่พักค่ะ เราเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินแบบexpress ต่อเดียวไปถึงSeoul Stationเลย เที่ยวละ 8,000วอน
อันนี้คือแผนที่ของที่พักนะคะ เดินทางง่ายมาก
ที่พักคือดีงามมากค่ะทุกคน ถ้าอยากได้ที่พักแบบราคาประหยัด ไม่เกี่ยงเรื่องเดินขึ้นบันไดหรือที่แคบ แนะนำเลยจริงๆ ถึงห้องจะเล็กแต่มีทุกอย่างให้ครบเลยจริงๆ Wi-Fi ทีวี ตู้เย็น กาต้มน้ำ ไดร์เป่าผม ในห้องน้ำก็มีสบู่ ยาสระผมให้(ขวดใหญ่ด้วย55) อาจอชีที่นี่ใจดีมากก พูดภาษาอังกฤษเก่งมากด้วยค่ะ
มีห้องครัวบนดาดฟ้าให้ทำอาหารกินเองได้ด้วย ของที่อยู่ในห้องครัวกินได้ทุกอย่างนะ ไม่เสียเงินเพิ่ม
บนดาดฟ้ามองเห็นSeoul Towerด้วย ได้บรรยากาศมากก
จริงๆแล้ววันแรกเราวางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวแถววังเคียงบกกุงกันค่ะ แต่ว่าวุ่นวายเรื่องเช่าWi-Fiในสนามบิน เลยทำให้เสียเวลาไปเยอะมาก เลยเลื่อนไปวันพรุ่งนี้แทน วันนี้เราก็เลยจะไปเที่ยวฮง-ันค่ะ
เราจะเดินทางโดยSubwayกัน เพราะเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุด แต่Subwayเกาหลีก็เป็นอีกอย่างที่เลื่องชื่อมากเรื่องคนหลง 55
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับคนที่กลัวหลงเราแนะนำโหลดแอปSubway Koreaไว้ใช้นะ สะดวกขึ้นเยอะเลย
แต่อันดับแรกเราต้องไปหาซื้อบัตรT-Moneyกันก่อน บัตรนี้ซื้อได้ตามGS25หรือเซเว่นได้เลยนะ แล้วก็บอกเขาขอเติมเงินในบัตร บัตรตัวนี้เนี่ยใช้ขึ้นได้ทุกอย่างในเกาหลี ขึ้นรถไฟใต้ดิน ขึ้นแท็กซี่ ขึ้นรถเมล์ ซื้อของในGS25
พอได้บัตรT-Moneyแล้วเราก็ได้เวลาเดินทางไปฮง-ัน
วิธีเดินทาง
ลงสถานีHongik Univ. สายที่2 สีเขียว ทางออก8 แล้วเราก็จะมาถึงฮงแดแล้วค่ะ
หาของกินลงท้องก่อน ทั้งเราทั้งเพื่อนก็หิวกันทั้งคู่เลย มาหยุดที่ร้านหมูย่างร้านนึง ขายเป็นเซท น่าจะเซทละ15,000วอนมั้ง จำราคาแน่นอนไม่ได้แล้วอ่ะ ขอโทษด้วยค่าา
เขาว่ากินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ เราเลยมาต่อกันที่ไอติมค่ะ
อาจอชีคนขายพูดไทยได้นิดหน่อย น่ารักมาก อันละ3,000 วอน ไม่เหมาะสำหรับคนกินช้านะ เพราะมันละลายเร็วมากกก เลอะมือไปหมดเลย
รูปไม่ชัด ขออภัยอย่างแรง 55
ช้อปEtudeที่ฮงแดมีพนักงานคนไทยด้วยนะ ตอนแรกตกใจทำไมคนเกาหลีพูดไทยชัดจัง ที่ไหนได้คนไทยนี่เอง 555555
ขากลับSubwayคนเยอะมาก
วันนี้ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ก่อนค่ะคุณกิตติ
[CR] เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง 5คืน 6วัน
อันนยองฮาเซโยค่าา ชาวพันทิปทุกคน วันนี้เราก็จะมาแชร์ประสบการณ์เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง 5คืน 6วัน
ขอเกริ่นก่อนว่าจขกท.กับเพื่อน เป็นติ่งเกาหลี ที่มีinspirationอันแรงกล้าตั้งแต่เด็กๆว่าจะต้องไปเหยียบเกาหลีให้ได้สักครั้งนึงในชีวิต 55 พอเก็บเงินได้ก้อนนึง+เจอตั๋วเครื่องบินถูกๆ ก็จัดเลยค่ะอย่าให้เสียเวลา เราจองตั๋วเครื่องบินของAirasiaไปกลับ ดอนเมือง-อินชอนไว้ จองกันตั้งแต่ก.ค. ปี2016 แต่บินพ.ค. 2017 (รีบ55)
พอได้ตั๋วเครื่องบินแล้วเราก็ต้องหาที่พักค่ะ เราหาที่พักทางAgoda มาตกลงที่24 Guesthouse Seoul station premier จองไว้5คืน ที่เลือกที่นี่เพราะคิดว่าเดินทางสะดวกดีค่ะ อยู่ใจกลางเมืองSeoulเลย
เราไปช่วงกลางเดือนพ.ค. เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิของเกาหลี (แต่ว่าซากุระร่วงหมดแล้วนะ ใครอยากดูซากุระต้องไปต้นเดือน) ก่อนจะไปเราก็เช็คสภาพอากาศไว้ เขาบอกว่า กลางวันประมาณ25องศา กลางคืนประมาณ16องศา มีฝนตกนิดหน่อย ก็เตรียมเสื้อผ้าข้าวของไว้ให้เหมาะกับสภาพอากาศเนอะ
Day 1
วันที่17 พ.ค. 2017 เวลา21:00 เราก็ได้มาถึงสนามบินดอนเมืองแล้ววว จริงๆแล้วเครื่องเราออก02:50ค่ะ ตื่นเต้น ไม่เคยไปต่างประเทศ เผื่อเวลาไว้อย่างเยอะ 5555
พอถึงเวลาเช็คอินเราก็ไปต่อแถวCheck-inของเค้าท์เตอร์Airasiaค่ะ แถวยาวมากกกกก แนะนำให้เช็คอินออนไลน์มาเลยจะเร็วและสะดวกกว่าเยอะเลยค่ะ
02:50 เครื่องขึ้นแว้วววววว
วิวกรุงเทพตอนกลางคืนสวยมากกกกกกก
04:30(ไทย) 06:30(เกาหลี) หลับตางีบไปแค่แปปเดียวเองค่ะ สว่างซะแล้ว 55
มองท้องฟ้าไปเพลินๆ พี่แอร์สุดสวยก็เอาอาหารเช้ามาเสิร์ฟแล้ว เมนูเช้านี้คือไก่เทอริยากิ
10:30 เราได้มาถึงเกาหลีประเทศโอปป้ากันแล้ววววววว แต่ก่อนที่เราจะได้เข้าประเทศนั้น เราจะต้องผ่านตม.กันก่อน ซึ่งตม.เกาหลีเนี่ย เป็นอะไรที่เลื่องชื่อมาก แล้วช่วงที่เราไป เป็นช่วงที่มีข่าว I have water พอดี ความกลัวเลยเพิ่มทวีคูณเข้าไปอีก 5555 แต่ก็พยายามไม่คิดมากค่ะ เรามาดี ไม่ได้มาทำอะไรผิดกฎหมายบ้านเขา
ตม.ที่รัก
สิ่งที่ควรเตรียม
1.ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
2.หลักฐานการจองโรงแรม
3.บัตรนักเรียน นักศึกษา หรือ เอกสารรับรองการทำงานที่เป็นภาษาอังกฤษ
4.แพลนเที่ยว
5.แต่งตัวให้เหมาะกับสภาพอากาศ ไม่เยอะหรือไม่น้อยเกินไป
6.เงินวอน
7.ตอบคำถามภาษาอังกฤษ
พอเราลงจากเครื่องแล้ว เราก็ต้องไปขึ้นรถไฟใต้ดินไปอีกterminalนึงเพื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองค่ะ เดินตามป้ายไปเรื่อยๆเลย ไม่ต้องกลัวหลง พอถึงด่านตรวจแล้ว ก็จะมีคนต่อแถวอยู่เยอะมาก ช่องตรวจก็จะมีเยอะมาก เราได้ช่องแรกเลย ตม.ที่เราเจอเป็นผู้หญิง พอเราเข้าไป ทักตม.อย่างเฟรนด์ลี่เลยค่ะว่า ‘Hi’ พร้อมยื่นพาสปอร์ตกับใบตรวจคนเข้าเมืองที่กรอกบนเครื่องให้เขาดู ตม.มองหน้าเรา ก้มมองพาสปอร์ต แล้วก็เงยหน้ามามองหน้าเราอีกรอบ แล้วก็เราให้ปั้มนิ้วเลย งงมาก แค่เนี้ยยยย ไม่ถามสุขภาพสักคำ ตม.เกาหลีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะทุกคน เรามาดีก็เฟรนด์ลี่ใส่ไว้เลย 555555
พอเราเอากระเป๋า เช่าwifiอะไรเรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาเดินทางไปที่พักค่ะ เราเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินแบบexpress ต่อเดียวไปถึงSeoul Stationเลย เที่ยวละ 8,000วอน
อันนี้คือแผนที่ของที่พักนะคะ เดินทางง่ายมาก
ที่พักคือดีงามมากค่ะทุกคน ถ้าอยากได้ที่พักแบบราคาประหยัด ไม่เกี่ยงเรื่องเดินขึ้นบันไดหรือที่แคบ แนะนำเลยจริงๆ ถึงห้องจะเล็กแต่มีทุกอย่างให้ครบเลยจริงๆ Wi-Fi ทีวี ตู้เย็น กาต้มน้ำ ไดร์เป่าผม ในห้องน้ำก็มีสบู่ ยาสระผมให้(ขวดใหญ่ด้วย55) อาจอชีที่นี่ใจดีมากก พูดภาษาอังกฤษเก่งมากด้วยค่ะ
มีห้องครัวบนดาดฟ้าให้ทำอาหารกินเองได้ด้วย ของที่อยู่ในห้องครัวกินได้ทุกอย่างนะ ไม่เสียเงินเพิ่ม
บนดาดฟ้ามองเห็นSeoul Towerด้วย ได้บรรยากาศมากก
จริงๆแล้ววันแรกเราวางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยวแถววังเคียงบกกุงกันค่ะ แต่ว่าวุ่นวายเรื่องเช่าWi-Fiในสนามบิน เลยทำให้เสียเวลาไปเยอะมาก เลยเลื่อนไปวันพรุ่งนี้แทน วันนี้เราก็เลยจะไปเที่ยวฮง-ันค่ะ
เราจะเดินทางโดยSubwayกัน เพราะเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุด แต่Subwayเกาหลีก็เป็นอีกอย่างที่เลื่องชื่อมากเรื่องคนหลง 55
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับคนที่กลัวหลงเราแนะนำโหลดแอปSubway Koreaไว้ใช้นะ สะดวกขึ้นเยอะเลย
แต่อันดับแรกเราต้องไปหาซื้อบัตรT-Moneyกันก่อน บัตรนี้ซื้อได้ตามGS25หรือเซเว่นได้เลยนะ แล้วก็บอกเขาขอเติมเงินในบัตร บัตรตัวนี้เนี่ยใช้ขึ้นได้ทุกอย่างในเกาหลี ขึ้นรถไฟใต้ดิน ขึ้นแท็กซี่ ขึ้นรถเมล์ ซื้อของในGS25
พอได้บัตรT-Moneyแล้วเราก็ได้เวลาเดินทางไปฮง-ัน
วิธีเดินทาง
ลงสถานีHongik Univ. สายที่2 สีเขียว ทางออก8 แล้วเราก็จะมาถึงฮงแดแล้วค่ะ
หาของกินลงท้องก่อน ทั้งเราทั้งเพื่อนก็หิวกันทั้งคู่เลย มาหยุดที่ร้านหมูย่างร้านนึง ขายเป็นเซท น่าจะเซทละ15,000วอนมั้ง จำราคาแน่นอนไม่ได้แล้วอ่ะ ขอโทษด้วยค่าา
เขาว่ากินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ เราเลยมาต่อกันที่ไอติมค่ะ
อาจอชีคนขายพูดไทยได้นิดหน่อย น่ารักมาก อันละ3,000 วอน ไม่เหมาะสำหรับคนกินช้านะ เพราะมันละลายเร็วมากกก เลอะมือไปหมดเลย
ช้อปEtudeที่ฮงแดมีพนักงานคนไทยด้วยนะ ตอนแรกตกใจทำไมคนเกาหลีพูดไทยชัดจัง ที่ไหนได้คนไทยนี่เอง 555555
ขากลับSubwayคนเยอะมาก
วันนี้ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ก่อนค่ะคุณกิตติ