จงเป็นผู้มีสติคู่กันไปกับสัมปชัญญะ(พระสูตร)

ภิกษุทั้งหลาย !
ภิกษุ พึงเป็นผู้มีสติอยู่ อย่างมีสัมปชัญญะ :
นี้เป็น อนุสาสนีของเราแก่พวกเธอทั้งหลาย.
ภิกษุทั้งหลาย !
ภิกษุเป็นผู้มีสติ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในกรณีนี้
เป็นผู้เห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ มีความเพียร
เผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำออกเสียได้ซึ่งอภิชฌา
และโทมนัสในโลก;
เป็นผู้เห็นเวทนาในเวทนาอยู่เป็นประจำ มีความ
เพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำออกเสียได้ซึ่ง
อภิชฌาและโทมนัสในโลก;
เป็นผู้เห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ มีความเพียร
เผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำออกเสียได้ซึ่งอภิชฌา
และโทมนัสในโลก;
เป็นผู้เห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำออกเสียได้
ซึ่งอภิชฌาและโทมนัสในโลก.
ภิกษุทั้งหลาย !
อย่างนี้แล เรียกว่า ภิกษุเป็นผู้มีสติ.
ภิกษุทั้งหลาย !
ภิกษุเป็นผู้มีสัมปชัญญะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้รู้ตัว
รอบคอบในการก้าวไปข้างหน้า การถอยกลับไปข้างหลัง
การแลดู การเหลียวดู, การคู้ การเหยียด, การทรงสังฆาฏิ
บาตร จีวร, การฉัน การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม, การถ่าย
อุจจาระ ปัสสาวะ, การไป การหยุด การนั่ง การนอน
การหลับ การตื่น การพูด การนิ่ง.
ภิกษุทั้งหลาย !
อย่างนี้แล เรียกว่า ภิกษุเป็นผู้มีสัมปชัญญะ.
ภิกษุทั้งหลาย !
ภิกษุ พึงเป็นผู้มีสติอยู่ อย่างมีสัมปชัญญะ :
นี้เป็น อนุสาสนีของเราแก่พวกเธอทั้งหลาย.
มหา. ที. ๑๐/๑๑๒/๙๐.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่