สวัสดีเพื่อนๆสายเที่ยวทุกคนนน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวกันที่พัทลุง ขอเวลาแค่ 1 ;วัน เราขอรับรองว่าทุกคนจะต้องติดใจแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วก็ก่อนเดินทางกันได้เล๊ยยยยยยยย
ทริปนี้พวกเราเริ่มต้นกันด้วยที่ แสงแรกปากประ อยากบอกว่ามันเป็นการเริ่มต้นทริปที่โคตรจะโรแมนติกเลยอ่า ทุกคนลองคิดตามเราดูน่ะ คือบรรยากาศมันจะแบบท้องฟ้าสืส้มอ่อนๆตัดกับพื้นน้ำสีฟ้าๆเขียวๆ และมีลมพัดโชยมาแบบเบาๆ เมื่อพอสูดลมหายใจเข้าลึกๆก็จะพบกับอากาศที่บริสุทธิ์ โอ้ยยยยย อยากจะบอกว่ามันเป็นอะไรที่โคตรจะชิวๆ โรแมนติกๆ เหมาะกับการมากับแฟนด้วยกัน 2 คนที่สุดอ่ะ (โอ้ย! แต่คงจะอีกนานอ่ะกว่าจะมีวันนั้น เห้อออ) อย่าเป็นว่าเราไปชมภาพกันดีกว่าเนอะ ไปโล้ยยยยยยยย
หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้ากันไปแล้ว พวกเราก็ไม่รอช้าที่จะเดินทางไปยังสถานที่ที่ 2 กันต่อเลยจ้า ซึ่งสถานที่แห่งที่ 2 ที่พวกเราไปกันนั้นก็คือ การไปชมควายน้ำ น้าม น้าม น้าม น้าม คือแบบตอนแรกก็งงอ่ะว่าจะพามาดูทำไมให้มันเสียเวลามันก็แค่ควายธรรมดาๆ แต่พอได้มาเห็นเท่านั้นแหละ เห้ย! ควายอ่ะ คือแบบควายที่นี้เค้าไม่เหมือนควายทั่วๆไปเว้ยเห้ย มันดำน้ำได้ด้วยอ่ะ คือแบบมันAmazingพัทลุงสุดๆไปเลยอ่ะ คือมันแบบเป็นอะไรที่โคตรจะแปลก พิสดาร คือไม่รู้จะอธิบายยังไงอ่ะ เอาเป็นว่าไปชมภาพน่ารักๆของพวกมันกันดีกว่าเนอะ (เห้ย! แต่แบบ ควายที่นี่ของเค้าน่ารักจริงๆอ่ะ อยากจะลักกลับบ้านเอาไปเลี้ยงดูเล่นซะจริงๆ)
หลังจากนั้นก็ไปต่อกันด้วยการนั่งเรือไปชม “ทะเลบัว” อยากจะบอกว่าจากพื้นน้ำธรรมดาก็กลับกลายมาเป็นพื้นน้ำแห่งสีชมพูที่เต็มไปด้วยบัวสีชมพูอันสดใส ที่กำลังเบิกบานเพื่อรอการมาเยือนของนักท่องเที่ยวทั่วทุกสารทิศที่กำลังจะเดินทางมาชมความงามของธรรมชาติแห่งนี้ เอาเป็นว่าอย่ามัวแต่พูดกันอยู่เลย เราไปชมความงามของมันกันเลยดีกว่า
เมื่อพวกเราได้ชม และอิ่มเอมกับธรรมชาติที่แสนสวยกันไปอย่างเต็มอิ่มแล้วก็มาถึงเวลาที่รอคอยมานานแสนนาน เป็นเวลาที่มีแต่ความสุขที่สู๊ดดดดดด นั่นก้คือ เวลาแห่งการกินนั่นเองงงง ซึ่งสถานที่ที่พวกเราไว้ใจให้ดูแลเรื่องปากท้องของพวกเราในวันนี้ก็คือ ร้านอาหาร “หลานตาชู” ซึ่งเป็นร้านที่เรียกได้ว่าเป็นร้านที่ขึ้นชื่อที่สุดของพัทลุง แบบถ้าใครมาพัทลุงแล้วไม่มากินที่นี่ถือว่าคุณพลาดม๊ากกกก เพราะที่นี่ของเค้าอร่อยจริงไรจริง (ถ้าไม่อร่อยจริงเราคงไม่ฟาดแบบไม่เหลือซากหรอก อิอิ เขินนนน) สด สะอาด ใหม่ทุกวัน แถมราคาก็ไม่แพงด้วย เรียกได้ว่าคุ่มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน ถ้าไม่เชื่อก็ลองตามมาชิมกันได้น่าจ๊า

เมื่อแวะกินกันเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปสถานที่ต่อไปกันได้เลยยยย สถานที่ต่อไปของพวกเราก็คือ go to ล่องแก่งหนานมดแดง แดง แดง แดง แดง อยากบอกว่าสนุกมากๆ ไม่แค่นั้นน่ะ ยังได้ชมธรรมชาติของลำน้ำที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ น้ำนี่เย็นมากๆ แบบคลายร้อนได้เป็นอย่างดีเลยอ่ะ และอีกอย่างน่ะ อยากจะบอกว่าในการล่องแก่งครั้งนี้โคตรเหนื่อยเลย (ไม่เหนื่อยก็แปลกล่ะ ตั้ง 6 กิโลครึ่ง ใช้เวลาไปทั้งหมด 2 ชั่วโมง) แต่อยากจะบอกว่าคุ้มมากกับราคาที่ต้องจ่าย เพราะราคาแค่ 200 บาท/คน เท่านั้น สำหรับเด็กเค้าลดให้เหลือครึ่งราคาเท่านั้นจ้า เพียงแค่ 100 บาท/คน อยากบอกว่าคุ้มสุดๆ (แต่เด็กเนี่ยส่วนสูงต้องไม่สูงเกิน 130 ซม. น่ะจ๊ะ และเด็กที่จะลงล่องได้ต้องมีอายุ 5 ปีขึ้นไปน่ะจ๊ะ เด็กอายุต่ำกว่านี้ห้ามลงโดยเด็ดขาดจ้า) เอาเป็นว่าไม่พูดมากดีกว่า ให้ภาพเป็นตัวบรรยายดีกว่าว่ามันจะสนุกขนาดไหน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมภาพกันเต๊อะะะะ
หลังจากขึ้นจากล่องแก่งแล้วเราก็มาต่อกันด้วยการเล่นสไลเดอร์ ซึ่งเป็นสไลเดอร์ที่มีความยาวถึง 111 เมตร 11 โค้ง หึหึ อยากจะบอกว่าไม่ใช่ที่ไหนไกลหรอก เป็นสไลเดอร์ของที่ล่องแก่งหนานมดแดงเองจ้า ราคาแค่ 80 เท่านั้น เล่นได้ไม่จำกัดรอบจำกัดเวลากันเลยทีเดียว ขอย้ำว่า ราคาแค่ 80 เท่านั้น เล่นได้ไม่จำกัดรอบจำกัดเวลาเด้อออออ อยากรู้ว่าจะสนุก และมันขนาดไหนก็ลองมาสัมผัสกันดูน่ะค่ะ
หลังจากล่องแก่ง และเล่นสไลเดอร์เสร็จแล้ว ทางล่องแก่งก็มีห้องอบสมุนไพรเอาไว้ให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายร่างกายหลังจากเล่นล่องแก่ง และเล่นสไลเดอร์เสร็จกันด้วยน่ะ และที่สำคัญคือ อยากบอกว่า (ฟรี) โอ้ววววอะไรที่มันจะดีต่อใจขนาดนี้
หลังจากเสร็จกิจกรรมที่ล่องแก่งแล้วสถานที่ต่อไปที่พวกเราเลือกเอาไว้สำหรับการปิดทริปในครั้งนี้ก็คือ “ร้านกาแฟขนำคอฟฟี่” นั่นเอง ซึ่งบรรยากาศโดยรอบจะถูกโอบล้อมไปด้วยทุ่งนา ภูเขา มันเป็นอะไรที่บริสุทธิ์สุดๆ และได้กลิ่นไอของธรรมชาติโดยแท้จริง เอาแบบว่าพวกเราขอปิดทริปนี้ไปแบบชิวๆ ท่ากลางบรรยากาศการนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินพร้อมกับการนั่งจิบกาแฟอร่อยๆล่ะกันเน้ออออออ บายยยยยยยยยยยย
------------------------------------------------ แล้วเจอกันทริปหน้าเด้ออออออออออออ.........

----------------------------------------------
[CR] พัทลุงเมืองนี้มีดีกว่าที่คิด One day Trip ในความทรงจำ
ทริปนี้พวกเราเริ่มต้นกันด้วยที่ แสงแรกปากประ อยากบอกว่ามันเป็นการเริ่มต้นทริปที่โคตรจะโรแมนติกเลยอ่า ทุกคนลองคิดตามเราดูน่ะ คือบรรยากาศมันจะแบบท้องฟ้าสืส้มอ่อนๆตัดกับพื้นน้ำสีฟ้าๆเขียวๆ และมีลมพัดโชยมาแบบเบาๆ เมื่อพอสูดลมหายใจเข้าลึกๆก็จะพบกับอากาศที่บริสุทธิ์ โอ้ยยยยย อยากจะบอกว่ามันเป็นอะไรที่โคตรจะชิวๆ โรแมนติกๆ เหมาะกับการมากับแฟนด้วยกัน 2 คนที่สุดอ่ะ (โอ้ย! แต่คงจะอีกนานอ่ะกว่าจะมีวันนั้น เห้อออ) อย่าเป็นว่าเราไปชมภาพกันดีกว่าเนอะ ไปโล้ยยยยยยยย
หลังจากชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้ากันไปแล้ว พวกเราก็ไม่รอช้าที่จะเดินทางไปยังสถานที่ที่ 2 กันต่อเลยจ้า ซึ่งสถานที่แห่งที่ 2 ที่พวกเราไปกันนั้นก็คือ การไปชมควายน้ำ น้าม น้าม น้าม น้าม คือแบบตอนแรกก็งงอ่ะว่าจะพามาดูทำไมให้มันเสียเวลามันก็แค่ควายธรรมดาๆ แต่พอได้มาเห็นเท่านั้นแหละ เห้ย! ควายอ่ะ คือแบบควายที่นี้เค้าไม่เหมือนควายทั่วๆไปเว้ยเห้ย มันดำน้ำได้ด้วยอ่ะ คือแบบมันAmazingพัทลุงสุดๆไปเลยอ่ะ คือมันแบบเป็นอะไรที่โคตรจะแปลก พิสดาร คือไม่รู้จะอธิบายยังไงอ่ะ เอาเป็นว่าไปชมภาพน่ารักๆของพวกมันกันดีกว่าเนอะ (เห้ย! แต่แบบ ควายที่นี่ของเค้าน่ารักจริงๆอ่ะ อยากจะลักกลับบ้านเอาไปเลี้ยงดูเล่นซะจริงๆ)
หลังจากนั้นก็ไปต่อกันด้วยการนั่งเรือไปชม “ทะเลบัว” อยากจะบอกว่าจากพื้นน้ำธรรมดาก็กลับกลายมาเป็นพื้นน้ำแห่งสีชมพูที่เต็มไปด้วยบัวสีชมพูอันสดใส ที่กำลังเบิกบานเพื่อรอการมาเยือนของนักท่องเที่ยวทั่วทุกสารทิศที่กำลังจะเดินทางมาชมความงามของธรรมชาติแห่งนี้ เอาเป็นว่าอย่ามัวแต่พูดกันอยู่เลย เราไปชมความงามของมันกันเลยดีกว่า
เมื่อพวกเราได้ชม และอิ่มเอมกับธรรมชาติที่แสนสวยกันไปอย่างเต็มอิ่มแล้วก็มาถึงเวลาที่รอคอยมานานแสนนาน เป็นเวลาที่มีแต่ความสุขที่สู๊ดดดดดด นั่นก้คือ เวลาแห่งการกินนั่นเองงงง ซึ่งสถานที่ที่พวกเราไว้ใจให้ดูแลเรื่องปากท้องของพวกเราในวันนี้ก็คือ ร้านอาหาร “หลานตาชู” ซึ่งเป็นร้านที่เรียกได้ว่าเป็นร้านที่ขึ้นชื่อที่สุดของพัทลุง แบบถ้าใครมาพัทลุงแล้วไม่มากินที่นี่ถือว่าคุณพลาดม๊ากกกก เพราะที่นี่ของเค้าอร่อยจริงไรจริง (ถ้าไม่อร่อยจริงเราคงไม่ฟาดแบบไม่เหลือซากหรอก อิอิ เขินนนน) สด สะอาด ใหม่ทุกวัน แถมราคาก็ไม่แพงด้วย เรียกได้ว่าคุ่มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน ถ้าไม่เชื่อก็ลองตามมาชิมกันได้น่าจ๊า
เมื่อแวะกินกันเสร็จแล้วก็ได้เวลาเดินทางไปสถานที่ต่อไปกันได้เลยยยย สถานที่ต่อไปของพวกเราก็คือ go to ล่องแก่งหนานมดแดง แดง แดง แดง แดง อยากบอกว่าสนุกมากๆ ไม่แค่นั้นน่ะ ยังได้ชมธรรมชาติของลำน้ำที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ น้ำนี่เย็นมากๆ แบบคลายร้อนได้เป็นอย่างดีเลยอ่ะ และอีกอย่างน่ะ อยากจะบอกว่าในการล่องแก่งครั้งนี้โคตรเหนื่อยเลย (ไม่เหนื่อยก็แปลกล่ะ ตั้ง 6 กิโลครึ่ง ใช้เวลาไปทั้งหมด 2 ชั่วโมง) แต่อยากจะบอกว่าคุ้มมากกับราคาที่ต้องจ่าย เพราะราคาแค่ 200 บาท/คน เท่านั้น สำหรับเด็กเค้าลดให้เหลือครึ่งราคาเท่านั้นจ้า เพียงแค่ 100 บาท/คน อยากบอกว่าคุ้มสุดๆ (แต่เด็กเนี่ยส่วนสูงต้องไม่สูงเกิน 130 ซม. น่ะจ๊ะ และเด็กที่จะลงล่องได้ต้องมีอายุ 5 ปีขึ้นไปน่ะจ๊ะ เด็กอายุต่ำกว่านี้ห้ามลงโดยเด็ดขาดจ้า) เอาเป็นว่าไม่พูดมากดีกว่า ให้ภาพเป็นตัวบรรยายดีกว่าว่ามันจะสนุกขนาดไหน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปชมภาพกันเต๊อะะะะ
หลังจากขึ้นจากล่องแก่งแล้วเราก็มาต่อกันด้วยการเล่นสไลเดอร์ ซึ่งเป็นสไลเดอร์ที่มีความยาวถึง 111 เมตร 11 โค้ง หึหึ อยากจะบอกว่าไม่ใช่ที่ไหนไกลหรอก เป็นสไลเดอร์ของที่ล่องแก่งหนานมดแดงเองจ้า ราคาแค่ 80 เท่านั้น เล่นได้ไม่จำกัดรอบจำกัดเวลากันเลยทีเดียว ขอย้ำว่า ราคาแค่ 80 เท่านั้น เล่นได้ไม่จำกัดรอบจำกัดเวลาเด้อออออ อยากรู้ว่าจะสนุก และมันขนาดไหนก็ลองมาสัมผัสกันดูน่ะค่ะ
หลังจากล่องแก่ง และเล่นสไลเดอร์เสร็จแล้ว ทางล่องแก่งก็มีห้องอบสมุนไพรเอาไว้ให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายร่างกายหลังจากเล่นล่องแก่ง และเล่นสไลเดอร์เสร็จกันด้วยน่ะ และที่สำคัญคือ อยากบอกว่า (ฟรี) โอ้ววววอะไรที่มันจะดีต่อใจขนาดนี้
หลังจากเสร็จกิจกรรมที่ล่องแก่งแล้วสถานที่ต่อไปที่พวกเราเลือกเอาไว้สำหรับการปิดทริปในครั้งนี้ก็คือ “ร้านกาแฟขนำคอฟฟี่” นั่นเอง ซึ่งบรรยากาศโดยรอบจะถูกโอบล้อมไปด้วยทุ่งนา ภูเขา มันเป็นอะไรที่บริสุทธิ์สุดๆ และได้กลิ่นไอของธรรมชาติโดยแท้จริง เอาแบบว่าพวกเราขอปิดทริปนี้ไปแบบชิวๆ ท่ากลางบรรยากาศการนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินพร้อมกับการนั่งจิบกาแฟอร่อยๆล่ะกันเน้ออออออ บายยยยยยยยยยยย
------------------------------------------------ แล้วเจอกันทริปหน้าเด้ออออออออออออ.........
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น