[WANNAONE] เหตุผล 5 ข้อ ที่ทำให้เราเป็นเมน ♥ 'แบจินยอง' ♥


จบกันไปแล้วค่ะ กับ Produce 101 season 2


          กระทู้นี้เราตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนจะจบรายการ ไม่ว่าจินยองจะได้เดบิวต์หรือไม่ เราก็อยากจะเขียนอะไรถึงน้องสักหน่อย แต่วันที่รายการจบจริงๆมีเหตุสะเทือนใจทำให้เราไม่สามารถตั้งกระทู้อะไรได้เลย จริงๆเราก็รู้ตั้งแต่แรกแหละว่าเราต้องเสียใจ เพราะคนที่เชียร์มีมากกว่า 11 คน แต่ความรู้สึกในวันนั้นมันบอกไม่ถูกเลย ทำใจเต็มที่ว่าเมนหลักอย่างจินยองคงจะไม่ได้เดบิวต์และหวังว่าควานลินน่าจะได้ แต่กลับกลายเป็นว่าน้องได้เข้าทั้งคู่ ในขณะที่เหนือเมนของเราไม่ได้ ก็ดีใจไม่ออก จุกๆไปเลย

          ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาสักพักหนึ่งแล้ว เราสบายใจขึ้นมากเมื่อเห็นทิศทางที่ดีของนิวอิส และของเด็กฝึกคนอื่นๆที่เราเชียร์ ประกอบกับช่วงนี้เราตามดูกระแสของจินยองเรื่อยๆ มีทั้งที่เริ่มเอ็นดูน้องมากขึ้น แล้วก็ไม่ชอบน้อง (คลิปน้องในยูทูปจะมีจำนวนคนกด Dislike มากกว่าคนอื่น) เรารู้ว่าต่างคนต่างใจเนอะ แต่ละคนก็ชอบอะไรไม่เหมือนกัน แต่เราอยากจะเขียนถึงเหตุผลที่เราชอบเด็กผู้ชายคนนี้ค่ะ
‘แบจินยอง’


*** กระทู้อวย คำเตือน มีเนื้อหายาว และรูปเยอะ ***


  ♥  เริ่มกันเลยค่ะ  ♥  


★ 1.    Rank#2 Visual: C9 Bae Jinyoung  ★




            แบจินยอง หรือ แพจินยอง มาจากค่ายที่เน้นไปทางนักแสดงและศิลปินเดี่ยวอย่าง C9 จินยองเปิดตัวเป็นสายวิชวลเต็มตัวโดยได้รับความสนใจการแสดงเพลง ‘นายานา’ ด้วยมีฉากเห็นหน้าเห็นตา 1 วินาที และคอนเซปตอนแนะนำตัวที่ทำออกมาได้น่ารัก สดใส ความวิชวลนี้ทำให้จินยองอยู่ใน TOP 11 ก่อนรายการจะออกอากาศ และได้รับการโหวตจากเพื่อนๆให้เป็น วิชวลอันดับ 2 จินยองเป็นเด็กฝึกที่โด่งดังเพราะใบหน้าของเขาเล็กมาก แฟนแอคเกือบทุกอันจะต้องลงท้ายว่า เขาหน้าเล็กมากจริงๆ ความวิชวลของจินยองนั้นไม่ค่อยคงที่ จะขึ้นอยู่กับทรงผม และสภาพใต้ตาของน้องในเวลานั้นๆ ที่จริงเรื่องหน้าตานี่ค่อนข้างจะเฉพาะบุคคล สเป็คคนเราไม่เหมือนกันอยู่แล้วเนอะ
           สิ่งที่เราชอบที่สุดในความวิชวลของจินยอง คือ รอยยิ้มค่ะ จินยองเป็นคนมีปากเล็ก ฟันเรียงสวย มีรอยยิ้มแบบใสๆ ตายิ้มน่ารักน่าเอ็นดู (โดยเฉพาะสำหรับแม่ๆอย่างเรา) แฟนจีนบอกว่าน้องเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูน และตั้งชื่อเล่นในน้องว่า 小狼 แปลว่าหมาป่าน้อย ถ้าเอาแบบไทยก็คงเป็นเชาหลางค่ะ เพราะอ้างอิงจากชื่อพระเอกในเรื่อง ซากุระมือปราบไพ่ทาโร่




☀ 2.    Development: From Deep Dark to Bae Jinyoung ☀

          อีพีแรกๆเป็นอีพีที่เราดูเรื่อยๆค่ะ เราดูเพราะชอบรายการแนวนี้อยู่แล้ว ติดตามมาตั้งแต่ซีซันแรก เราก็ชอบก็เชียร์คนนู้นคนนี้ไปเรื่อย ทั้งจีฮุน คุณแดน คุณอง ลีดจง ดงโฮ อูจินเขี้ยว แต่ไม่เคยคิดจะชอบจินยองเลยจริงๆ จะเรียกว่าจินยองถือเป็น Hate at first sight ของเราก็ไม่ผิดเท่าไร เราเข้าไม่ถึงความมืดมนของน้องเลยค่ะ เปิดมาเข้าคลาสแรก รอบเพลงธีมของรายการ ‘นายานา’ จินยองได้อยู่เกรด C และมีแอร์ไทม์ทันที แต่เป็นแอร์ไทม์ที่เรากดข้ามเลยค่ะ บอกตามตรงเรารำคาญ อะไรกันแค่นี้ก็ร้องไม่ได้ ครูตบมือให้จังหวะรอขนาดนี้ ทำไมไม่ร้องอะไรออกไปบ้าง รอบออดิชั่น (ตอนนั้นเพื่อนๆเรียกให้ดูหน้าเล็กๆของน้องกันใหญ่ เกาหลีเค้าชอบหน้าเล็กๆกันจริงๆ)  จินยองใช้เพลง อือรือรอง ของ EXO ซึ่งก็ร้องและเต้นได้ประมาณนึงแต่จินยองก้มหน้าเกือบตลอดเวลาที่เต้น เหมือนกำลังมองหาความมั่นใจที่ตัวเองทำหล่นไว้ที่ไหนสักแห่ง




             หลายคนอาจจะสงสัยว่าน้องมืดมนจริงๆรึเปล่า ส่วนตัวเราว่าในตอนนั้น จริงค่ะ เราว่าน้องประหม่า ขาดความมั่นใจในตัวเองมาก และเป็นประเภท ‘กับคนอื่นแบบหนึ่งกับคนที่สนิทจะอีกแบบหนึ่ง’ ค่ะ อายุก็เท่านี้ ไปอยู่แปลกที่แปลกคน ตอนนั้นเหมือนจินยองจะไม่มีเพื่อนจริงๆ ช่วงเวลาไม่กี่วันก่อนรอบประเมินผลอีกครั้งเด็กฝึกส่วนใหญ่ก็ซ้อมกันเอง ดูเหมือนว่าจินยองค่อนข้างจะโดดเดี่ยวเลย เวลาเข้าคลาสก็นั่งคนเดียวอยู่มุมๆ ตอนรอเต้นประเมินเกรดเพลงนายานา น้องก็นั่งข้างหน้านิ่งๆไม่หือไม่อืออะไรกับใครเค้าเลย ไม่รู้ว่าน้องคิดอะไรอยู่ (ช่วงแรกๆจินยองไม่มีรีแอคชั่นอะไรเลยจริงๆ) แม้แต่ตอนเต้นประเมินเกรดก็มองพื้นตลอด สุดท้ายน้องก็ได้ปรับลงไปอยู่คลาส F ค่ะ และกลายมาเป็นหนึ่งในกลุ่มหนุ่มดอกไม้ B1F4




Avengers team?!


          ต่อมาในรอบ Battle จินยองถูกเลือกเข้าทีม ‘อเวนเจอร์’ ค่ะ และเป็นคนหนึ่งที่ถูกกลืนหายไปกับกระแสในรอบนี้เหมือนกับสมาชิกในทีมคนอื่นๆที่โดนความเซ็นเตอร์ของจีฮุนกลบเกือบมิด ปิดด้วยดราม่าการเลือกลูกทีมของแดฮวี และเทปูนทับกับความปังของทีม ซังนัมจา2 แต่เราซึ่งเชียร์ทีมซังนัมจา2 ในตอนนั้น (ก็ติ่งมาจากทรงเสยผมของดงโฮอ่ะค่ะ ไหนจะสายตาของควานลินอีก  มันกร้าวใจมากจริงๆ ) กลับสนใจน้องขึ้นมาค่ะ
          ดราม่าทีมอเวนเจอร์ที่เลือกลูกทีมมาเหมือนจะดีแล้วเชียว แต่กลับไม่ลงตัว ไม่เข้ากับเพลงอย่างที่สมาชิกในทีมคาดกันไว้แต่แรก ทำให้มีประเด็นท่อนไฮโน้ตที่ทำได้ไม่ดีพอ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของจีฮุนกับจินยอง เราไม่อินดราม่านี้เลย กลับกันเราเอาแต่คอยมองหน้าน้องตลอดคลาสโวคอลเลยค่ะ ตอนเลือกเซนเตอร์จินยองมียิ้มออกมานิดๆ (เอ้า โดนใจอิแม่) ตอนโดนครูติจินยองไม่มีบทพูดอะไรเลย มีแต่ซีนยืนฟังหน้านิ่งๆ เราดูไปก็คิดวนไปแค่ว่า คนนี้ใครเนี่ย ใคร ใคร (ตอนนั้นยังจำชื่อจินยองไม่ได้เลย) จนเราตามไปถึง Focuscam ของน้องค่ะ



           ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวเมื่อดู Focus cam ของจินยอง คือ  ช่างแต่งหน้าลางานหรอ? คอนซีลเลอร์หน่อยมั้ยลูก 55555 แต่ความคิดต่อมาของเราคือ ‘เข้าท่าแฮะ’ เต้นพอถูไถ อารมณ์เพลงก็พอใช้ได้ ท่อนร้องของตัวเองคนเดียวมี  1 ท่อนถ้วน กับท่อนไฮโน้ตก็พอไปวัดไปวาได้อยู่ โดยเฉพาะตอนที่นิ่งยิ้มอยู่ข้างหน้า น้องยิ้มน่ารักมากจริงๆ (แอบอวยตรงนี้) ไม่เหมือนจินยองคนที่ก้มหน้ามองพื้นคนนั้น และเห็นได้ชัดว่าน้องพยายามสู้กับกล้องสู้กับคน บังคับตัวเองให้ไม่ก้มไปมองพื้นอย่างหนัก แต่ก็มีหลุดอยู่หลายครั้ง น้องพยายามแก้ไข พัฒนาตัวเอง และเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นในทุกรอบ ทำให้เราเห็นถึงพัฒนาการตลอดทั้งรายการ แม้สุดท้ายความสามารถของน้องยังไม่ได้ถึงขั้นพูดได้เต็มปากว่าดี แต่จินยองก็ให้สัญญาที่จะพยายามต่อไปเรื่อยๆ ส่วนตัวเราคิดว่าน้องยังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก




♫ 3.    Jinyoung’s voice  ♫

           แบจินยองเป็นเด็กฝึกที่ได้รับการเทรนมา 10 เดือนก่อนเข้ารายการ และไม่มีตำแหน่งของตัวเองในตอนแรก จินยองเลือกสายโวคอลในรอบ Position และเลือกเพลง Spring day ของ BTS ค่ะ ซึ่งเป็นเพลงที่ทำให้น้องเป็นที่รู้จักมากขึ้น ด้วยเนื้อเสียงที่มีเอกลักษณ์ แม้จะไม่ได้มีความสามารถโดดเด่นอะไรมาก เสียงแมนๆแบบที่ไม่ค่อยเข้ากับหน้าตาของน้องเท่าไรบวกกับที่ปิดตาเสริมดวงของน้องก็ทำให้หลายๆคนเริ่มรู้สึกถึงการมีตัวตนของน้องมากขึ้น ถึงแม้ว่าผลโหวตในรอบสดน้องจะได้อันดับ 4 ในทีม ภายหลังก็มีความเห็นในอินเตอร์เน็ตชื่นชมน้องมากมาย ส่วนตัวเราชอบเสียงจินยองมากค่ะ ไม่ซ้ำกับใครดี แม้จำนวนคนในวงจะเยอะ เวลาถึงท่อนร้องของจินยองทีไร แยกง่ายมากเลย




✿ 4.    Innocent  ✿

           เหตุผลที่ทำให้เราติดบ่วงน้องจริงๆจังๆ คือ ความแบ้วธรรมชาติของจินยองค่ะ เราค่อยๆรู้สึกไปทีละน้อย ชอบน้องมากขึ้นไปทีละหน่อย ไล่ไปจากคลิปทำเมอแรงค์ ซึ่งน้องตั้งใจแต่โก๊ะ เสียดายไข่ขาวอะไรขนาดนั้น ตีไข่อย่างใจเย็น พอหมดเวลาก็งงๆ โค้งแล้วเดินออกไปเฉยๆ



          คลิปล้วงกล่อง จินยองได้ล้วงกล่องคู่กับน้องฮังนยอน ซึ่งจินยองไม่ยอมล้วงรอจนน้องจูนำไปก่อน จนเกิดเป็นความเด๋อ ลืมชื่อตัวเองค่ะ ขานชื่อฮังนยอนแทน ตลก ถึงตอนนี้ความเอ็นดูเริ่มก่อเกิดในจิตใจแล้วค่ะ น้องจูช่วยโปรโมทจินยองให้ด้วย เด็กๆสดใสกันมาก



          สุดท้ายเรามาปักใจและตั้งต้นเป็นเมนจินยองก็ตรง คลิป eye contact ค่ะ เป็นคลิป 11 วิ ที่เราดูไม่ต่ำกว่า 10 รอบรัวๆ


           คลิปทั้งสามนี้ทำให้เรารู้จักตัวตนของน้องมากขึ้น จากเด็กมืดมนกลายมาเป็นแบจินยอง เด็กผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีหลายมิติเหมือนคนอื่นๆทั่วไป ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเขาจากมุมไหนเท่านั้นเอง โดยส่วนตัวจินยองเป็นเด็กผู้ชายแสบๆคนหนึ่งค่ะ ท่าทางอ้อนพี่ๆเก่งไม่เบา แต่คงไม่เท่าเจ้าเจี๊ยบกับหลินนะ 555

           ความแบ้วธรรมชาติของน้องเป็นส่วนหนึ่งในคาแรกเตอร์ Deep Dark ของจินยองค่ะ มันมาจากความไม่มั่นใจและความประหม่าของน้อง เช่น มีคลิปที่รายการถามน้องว่า น้องชอบพูดแทนตัวเองผิด เป็น ‘ชอกา’ จริงๆต้องเป็น ‘เชกา’ (เราไม่รู้เกาหลีนะคะ แต่เคยอ่านผ่านๆว่า ‘ชอ’ แปลว่าฉัน แต่พอเอามารวมกับ ‘กา’ แล้วจะกลายเป็น ‘เชกา’ แทน) น้องบอกว่ารู้ว่าตัวเองพูดผิด แต่พอเริ่มประโยคต่อมา น้องก็พูด ชอกา ออกมาอีก (555) น้องบอกว่าติดเป็นนิสัยเสียแล้ว เวลาประหม่าจะพูดผิดตลอด  และตอนที่น้องพูดขอบคุณตอนที่ได้อันดับ 10 น้องก็พูด ชอกา ออกมาค่ะ แล้วคงรู้ตัวรีบแก้เป็น เชกา พอเราได้ยินก็อมยิ้มนะ เจ้าหนูนี่โก๊ะกังจริงๆ  ไหนจะคลิปขอบคุณที่ได้รับตุ๊กตาหมี ที่อยู่ๆก็คันแก้มก็เลยเกาซะ กลายเป็นแบ้วสุดๆไปเลย ไหนจะท่าเอียงหัวที่เจ้าตัวชอบทำบ่อยๆทั้งตอนซ้อมเพลง Always และตอนพูดขอบคุณอีก การเอามือปิดหน้าเวลาเขินก็อีก ที่จริงอาจจะมองว่าท่าทางพวกนี้เป็นบุคลิกภาพที่ไม่ดีไม่มั่นใจของน้อง แต่กลายเป็นว่าน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาเราค่ะ 5555




♥ 5.    Relationship  ♥

          สำหรับเรา เราคิดว่าเราไม่ได้เห็นการทำงานเป็นทีมของจินยองมากนัก ด้วยการจัดกลุ่มในแต่ละรอบนั้นน้องมักจะได้อยู่กับคนอายุไล่ๆกัน หรืออยู่กับสมาชิกประเภทสบายๆเสียมาก ไม่มีดราม่าระหว่างเพื่อนร่วมทีม และส่วนใหญ่ซีนในทีมน้องก็โอเคๆ ง่ายๆ ใช้วิธีโหวตตลอด ในรอบ Position เราได้เห็นจินยองในมุมที่ดูเป็น 'พี่' เพิ่มขึ้นนิดหน่อย เวลาอยู่กับอูจินเล็กและเจี๊ยบซอนโฮ

            ความเป็น ‘จินยอง’ ค่อยๆเผยออกมาช้าๆในช่วงรอบ Position มาดนิ่งเริ่มเปลี่ยนมาเป็นความทะเล้น ท่าทางอมทุกข์กลายมาเป็นรอยยิ้ม เพราะจินยองไม่ได้อยู่คนเดียวในค่ายเหมือนตอนเข้ามาอีกต่อไป จินยองกลมกลืนและเข้ากับคนอื่นๆได้ดี มีเพื่อนสนิทและเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่