"รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท." แนะวิธีเอาตัวรอดหากพลัดตกราง
ชี้ต้องตั้งสตินอนราบกับพื้นห่างจากรางเพื่อให้รถไฟวิ่งผ่านได้
ระบุราง "แอร์พอร์ตลิงก์" ไม่มีกระแสไฟฟ้าจึงไม่อันตราย
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด
ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ กล่าวว่า บริษัทฯมีระบบดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารอย่างเป็นระบบ
กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินพบเห็นผู้โดยสารตกราง นั้น ขั้นตอนแรกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะต้องกดปุ่มหยุดรถไฟทันที
เพื่อให้มีระยะในการเบรคของรถ ทั้งนี้หากผู้โดยสารที่รอรถอยู่บนชานชาลาพบเห็นผู้ประสบเหตุสามารถกดปุ่มหยุดรถไฟฟ้าทันที
ซึ่งปุ่มหยุดรถไฟจะอยู่ภายในสถานีทั้งหมด 10 จุด เมื่อกดปุ่มหยุดรถไฟแล้วเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและ
หน่วยพยาบาลจะเข้าช่วยเหลือผู้โดยสารทันที
สำหรับฝั่งผู้โดยสารในกรณีที่ตกเป็นผู้ประสบเหตุหากยังมีสติระหว่างรอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
มาช่วยเหลือ
ให้หลบตัวชิดกับตัวชานชาลาด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้ เพราะด้านข้างใกล้กับตัวชานชาลายังมีที่ว่างให้สามารถหลบได้อยู่
ทั้งนี้หากตกอยู่ในสถานการณ์กระชันชิด รถไฟใกล้จะถึงตัว ผู้โดยสารจะต้องตั้งสติ
นอนราบกับพื้น ให้ห่างจากรางรถไฟ
เพื่อให้รถไฟสามารถวิ่งผ่านไปได้
ทั้งนี้สำหรับ
รางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตนั้นไม่มีกระแสไฟฟ้าแต่อย่างใด เนื่องจากกระแสไฟจะทำงานอยู่ด้านบนเหนือตัวรถ
ส่วนรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส หากจะดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุบนรางรถไฟฟ้าจะต้องดำเนิน
การตัดกระแสไฟฟ้าที่รางรถไฟก่อนที่เข้าทำการช่วยเหลือ
สรุปคือ
ถ้าเป็น MRT ใต้ดิน หรือ BTS ลอยฟ้า ถ้ามีคนตกลงไปในราง อย่าลงไปช่วย เพราะมีกระแสไฟฟ้าอยู่บนราง
แต่ถ้าเป็น Airport Rail Link ลงไปช่วยได้ เพราะ กระแสไฟฟ้าอยุ่ด้านบนตัวรถไฟ
และถ้าเป็นคนตกลงไปเอง ให้หลบเข้าด้านชิดใต้ชานชาลา
หรือ นอนราบกับพื้น ไปตามช่องว่างระหว่างแนวรางคู่
ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/760569
มาดูกัน !! วิธีเอาตัวรอด หากตกรางรถไฟฟ้า ?!?
ชี้ต้องตั้งสตินอนราบกับพื้นห่างจากรางเพื่อให้รถไฟวิ่งผ่านได้
ระบุราง "แอร์พอร์ตลิงก์" ไม่มีกระแสไฟฟ้าจึงไม่อันตราย
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด
ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งก์ กล่าวว่า บริษัทฯมีระบบดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารอย่างเป็นระบบ
กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินพบเห็นผู้โดยสารตกราง นั้น ขั้นตอนแรกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะต้องกดปุ่มหยุดรถไฟทันที
เพื่อให้มีระยะในการเบรคของรถ ทั้งนี้หากผู้โดยสารที่รอรถอยู่บนชานชาลาพบเห็นผู้ประสบเหตุสามารถกดปุ่มหยุดรถไฟฟ้าทันที
ซึ่งปุ่มหยุดรถไฟจะอยู่ภายในสถานีทั้งหมด 10 จุด เมื่อกดปุ่มหยุดรถไฟแล้วเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและ
หน่วยพยาบาลจะเข้าช่วยเหลือผู้โดยสารทันที
สำหรับฝั่งผู้โดยสารในกรณีที่ตกเป็นผู้ประสบเหตุหากยังมีสติระหว่างรอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
มาช่วยเหลือให้หลบตัวชิดกับตัวชานชาลาด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ได้ เพราะด้านข้างใกล้กับตัวชานชาลายังมีที่ว่างให้สามารถหลบได้อยู่
ทั้งนี้หากตกอยู่ในสถานการณ์กระชันชิด รถไฟใกล้จะถึงตัว ผู้โดยสารจะต้องตั้งสตินอนราบกับพื้น ให้ห่างจากรางรถไฟ
เพื่อให้รถไฟสามารถวิ่งผ่านไปได้
ทั้งนี้สำหรับรางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตนั้นไม่มีกระแสไฟฟ้าแต่อย่างใด เนื่องจากกระแสไฟจะทำงานอยู่ด้านบนเหนือตัวรถ
ส่วนรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส หากจะดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุบนรางรถไฟฟ้าจะต้องดำเนิน
การตัดกระแสไฟฟ้าที่รางรถไฟก่อนที่เข้าทำการช่วยเหลือ
สรุปคือ
ถ้าเป็น MRT ใต้ดิน หรือ BTS ลอยฟ้า ถ้ามีคนตกลงไปในราง อย่าลงไปช่วย เพราะมีกระแสไฟฟ้าอยู่บนราง
แต่ถ้าเป็น Airport Rail Link ลงไปช่วยได้ เพราะ กระแสไฟฟ้าอยุ่ด้านบนตัวรถไฟ
และถ้าเป็นคนตกลงไปเอง ให้หลบเข้าด้านชิดใต้ชานชาลา
หรือ นอนราบกับพื้น ไปตามช่องว่างระหว่างแนวรางคู่
ที่มา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้