ประสบการณ์ไปเที่ยวและพักฟรี 10 วัน เกาหลีตรั๊ยยยยยยยยย

สวัสดีค่า กะทู้นี้เป็นการรีวิวครั้งแรกของเราเลย แถมไม่เคยตั้งกะทู้ในพันทิปมาก่อนด้วย
จุดประสงค์ในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะมาบอกเล่าประสบการ์ณการไปเที่ยวเกาหลีใต้ครั้งแรกของเรา

แน่นอนว่าเมนพ้อยท์ก็คือ การได้พักฟรีนั่นเองงงงงง

ทุกคนคงอยากรู้ว่าเราได้ที่พักฟรีมาได้ยังไง ไม่ใช่บ้านเพื่อน บ้านญาติ หรือคนรู้จักอะไรทั้งนั้นค่ะ คนแปลกหน้าดีๆนี่เอง

นอกจากการได้พักฟรีแล้ว เราจะเล่าประสบการ์ณแปลกๆที่เกิดขึ้นระหว่างไปเที่ยวเกาหลีใต้ด้วย อิอิ



เนื่องจากเราไปเที่ยว 10 วัน ให้เล่าทุกๆวันก็คงไม่ไหว เราจะเล่าเฉพาะวันแรกนะคะเพราะพีคจริง

Go Go!!

เริ่มจากก่อนเปิดเรียนซัมเมอร์เราก็แพลนจะไปเที่ยวเกาหลีใต้ซัก 5 วัน เพราะช่วงนั้นมีคอนเสิร์ตมากมาย และเราก็อยากไปดูคอนที่นั้น บวกด้วยตอนนั้นสายการบินหางแดงมีโปรอยู่พอดีเราเลยไม่ลังเลที่จะจองค่า!

แต่ว่าคิดไปคิดมา ชั้นก็อยากจะพาเพื่อนๆไปสนุกด้วยกัน เราเลยส่งแมจแสจแบบหว่านแหไปหาเพื่อนทุกคนที่เราสนิท

"แก ชั้นจะไปเกาหลีไปด้วยกันเถอะ!"

สองวันผ่านไปก็ยังไม่มีใครเซย์เยส... เราเลยปลงแล้วคิดว่าคงต้องไปคนเดียวแล้วแหละ ต้องรีบจองตั๋วด้วย เดี๋ยวราคาโปรมันจะหมด เราเลยกดจองตั๋วไปเกาหลีทั้งหมด 5 วัน ทำการจ่ายเงินอะไรเรียบร้อย

คราวนี้มาถึงที่พักค่ะ ปกติเวลาเราไปต่างประเทศเราชอบพัก airbnb และโชคดีที่ได้ที่พักดีทุกครั้งเลย เลยกะว่าจะใช้บริการ airbnb อีก

แต่ว่าาาาา

เหมือนจะนึกออกว่ามีรุ่นน้องเคยไปเที่ยวประเทศฝั่งยุโรปซักประเทศนึงนี่แหละ แล้วได้พักฟรี (ออกแนว Backpacker)
น้องแนะนำเว็บนึงมาให้เราค่ะ นั่นก็คือ  couchsurfing นั่นเอง คนที่ชอบท่องเที่ยวหลายคนอาจจะเคยได้ยินเว็บนี้กันมาบ้างนะคะ คนไทยก็ใช้กันอยู่จำนวนหนึ่ง เป็นเว็บที่เราสามารถหาที่พักฟรีได้ทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปประเทศไหน นอกจากจะหาที่พักแล้วยังสามารถจัดการมีตติ้งเล็กๆในหมู่ couchsurfer (กลุ่มคนที่ใช้เว็บ couchsurfing) ได้ด้วย

หลังจากนึกถึงเว็บที่รุ่นน้องบอก เราก็เลยลองเข้าไปสมัครและเขียนโปรไฟล์ตัวเองลงไปดู สิ่งที่ต้องเขียนก็มีตั้งแต่ประวัติคร่าวๆของเรา งานอดิเรก ความสนใจ ประเทศที่เคยไปเที่ยวมา บลาๆๆ couchsurfer คนอื่นๆ หรือโฮสท์ที่เราขอที่พักไปจะพิจารณาเราจากข้อมูลที่เราเขียนในโฮมเพจของเรานี่แหละค่ะ

แต่เราก็ชะงักและคิดได้ว่า เอ๊ะ ชั้นไปคนเดียวนี่หว่า มันจะดีเหรอ ถ้าได้โฮสท์ไม่ดีล่ะ ไม่เอาดีกว่า

สุดท้ายเราก็เลยยังไม่กล้าที่จะลอง couchsurfing

แต่เหมือนโชคเข้าข้างยังไงไม่รู้  หนึ่งในเพื่อนที่เราส่งแมจเสจไปชักชวนนางเที่ยวเกาหลีกับเราทักมาบอกเราว่า "ชั้นไปกับแกได้นะยะ พร้อมมากตอนนี้"

ตอนนั้นแบบ ีใจมาก มีคนไปด้วยแล้วว้อยยยยยย เราเลยจัดการจองตั๋วเครื่องบินไฟลท์เดียวกับเราให้นาง

แต่....นังเพื่อนทัวร์เดร ดันบอกเราหลังจากจองไฟลท์เรียบร้อยแล้วว่า "ชั้นว่า 5 วันไม่พอว่ะแก ไปกันซัก 10 วันมะ"

นังนี่...

เราก็เห็นด้วยกับนาง เลยเข้าไปทำการแก้ไขบุ๊คกิ้ง แต่ว่า........

เสียค่าธรรมเนียมคนละ 2500 จ้าาา  เกือบล้มเลิกละ แต่เพื่อนนางก็บอกว่า 2500 เอง คุ้มๆ ไซโคกันสุดฤทธิ์

ก็ได้ย่ะ สุดท้ายก็ทำการแก้ไขบุ๊คกิ้งไป   จอง 10 วันตั้งแต่แรกก็ประหยัดไป 5000 ละ ฮือ

ทีนี้ พอมีเพื่อนไป เราก็นึกถึงอีเว็บนั้นขึ้นมาอีก เอ๊ะ ชั้นจะลองดีมั้ย มีเพื่อนละ เป็นตายร้ายดีก็เอามันไปเสี่ยงด้วยเลย

เราก็เลยปรึกษาเพื่อนดู นางก็โอเค เอาเลยแกร

คราวนี้ก็ส่งรีเควสไปแบบหว่านแหอีกแล้วจ้า (เลือกเมืองที่จะไปพักนะคะ ไปโซลแต่ไปขอโฮสท์ปูซานนี่ วืดดิ)

จำได้ว่าเราส่งไปเยอะมาก พยายามนั่งอ่านโปรไฟล์โฮสท์ เลือกคนที่มี reference ดีๆ (reference:จะมีการรีวิวให้โฮสท์ ทั้งคำชม ความประทับใจ หรือแม้กระทั่งคำติ เราก็เลือกดูคนจาก reference นี่แหละจ้า)

แต่เราก็หาโรงแรมสำรองไว้ด้วยนะคะ เผื่อชวดจาก couchsurfing จะได้มีแพลนบีไว้
ในใจเราก็คิดว่าน่าจะหาได้ยากเพราะเรามัน newbie ไม่มี reference ซักกะอัน แง

แต่สุดท้าย...

ก็มีคนยอมรับ request เราค่าาา ดีใจมากกกกกกเพราะเราขอไป 10 วันเลย ไม่ได้กะจะไปพักที่อื่นเลย 555555555

พอมีคนแรกก็มีคนเสนอที่พักให้เรามาเรื่อยๆ 5555 แต่คนแรกที่เสนอที่พักให้เรามา ขอเรียกสั้นๆว่าลุงคิมนะคะ ลุงคิม reference ดีมากค่า หนึ่งในนักท่องเที่ยวที่รีวิวให้ลุงแน่นอนว่ามีคนไทยด้วย เราเลยไม่ลังเลที่จะไปพักกับลุงนี่แหละ อิอิ แต่ก่อนเราจะตัดสินใจเราก็เอาที่อยู่อะไรไปหาข้อมูลมานะคะ หาเท่าที่จะทำได้ คุณลุงให้เฟสมาด้วยค่ะเลยน่าเชื่อถือให้หลายๆระดับ 555555555555

หลังจากนั้นก็แลกคอนแทคอะไรกัน พอใกล้ถึงวันเดินทางลุงคิมก็ทักไลน์เรามาเผื่อบอกข้อมูล พวกรหัสเข้าบ้าน ห้องที่เราต้องอยู่ กฎระเบียบต่างๆ เราเลยแบบเห้ย ทำไมมันดีจังวะ รูปที่พักที่ลุงคิมส่งมาให้ดูก็ดีเกินกว่าที่เราจะได้นอนฟรี เพิ่งรู้ว่าบ้านที่ลุงให้เราพักลุงคิมทำ airbnb ด้วยคืนนึงก็เกือบพันเลยนะ  (ขอไม่ลงรูปบ้านนะคะมาตั้งกะทู้นี้เราไม่ได้ขออนุญาติลุงคิมมาก่อน)

ฮือ ทำไมมันดีอย่างนี้ ดีอะ แง

พอถึงวันเดินทางเราก็นอนคุยกับเพื่อนว่า เราจะไม่โดนเทใช่มั้ยแก เรามาหาโรงแรมเผื่อไว้กันดีมะ ตอนนั้นก็หาที่พักกันรัวๆค่า 55555555


วันเดินทางแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาา

เรามาถึงสนามบินพร้อมด้วยเอกสารที่ปริ้นท์มาอย่างเรียบร้อย ข้อมูลแน่นเว่อร์ ถ้าจะไม่ผ่านตม.คือเราสวยเกินไปเท่านั้นแหละค่ะ    ล้อเล่น
ด้วยความที่เตรียมทุกอย่างมันอย่างดิบดีมันต้องมีอุปสรรค คนอย่างเราไม่สามารถทำอะไรได้สมูท 100% หรอกค่ะ

เอกสารเพื่อที่จะยืนยันต่างด้าวอย่างเรา ชั้นโหลดลงเครื่องไปหมดเลยคร่าาา
ตอนนั้นแบบโนไอเดียมาก ข่าวเรื่องตมเพิ่งจะบูมด้วยแถมหญิงไทยยังเป็นที่เพ่งเล็ง เราเลยวิ่งไปคุยกับพนักงานที่เคาท์เตอร์แอร์เอเชีย เจอพี่ผช.คนนึง เราก็ถามว่าสามารถขอกระเป๋าคืนได้มั้ยคะ มีเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ยื่นตมอยู่ในนั้น พี่เค้าก็ถามว่ามีอะไรบ้างครับ เราก็สาธยายไป สุดท้ายพี่พนักงานก็บอกว่า "มา มีไฟล์ติดตัวอยู่มั้ย เดี๋ยวพี่ปริ้นให้" กรี๊ดดดดด สวรรค์โปรดสุดๆ พี่สุดหล่อก็ปริ้นให้เรากับเพื่อนครบทุกอย่างเลยค่ะ ฮือ ชื่นชมมาก พี่เค้าบอกว่าความจริงไม่ได้น้า แต่นี่เป็นบริการพิเศษ เรากับเพื่อนนี่เดินระลึกบุญคุณพี่เค้าตั้งแต่ตม.จนเข้าเกท

พอถึงเกาหลีเราก็ไปหาตม.ที่เค้าเลื่องลือกันค่ะ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้อย่างฉลุย แต่ในไฟลท์เรามีคนโดนหลายคนอยู่นะ คนก่อนหน้าเราก็โดน ตอนนั้นใจแป้วเลย

ออกจากสนามบินก็หาลู่ทางไปบ้านที่ลุงคิมส่งโลเคชั่นมาให้ แต่ตอนนั้นดึกมากเราเลยต้องนั่งไนท์บัส ตอนกำลังเดินออกจากสนบ. ก็เจอคุณลุงคนไทยเดินมาถามว่า 200,000 วอนนี่ประมาณกี่บาทเหรอหนู เราก็คำนวนคร่าวๆให้คุณลุงไป คุณลุงแบบ โอ้ย ตายแล้ว ลุงไปเรียกแท็กซี่มันบอกว่าสองแสนวอน เราก็เลย มา คุณลุง ฟอลโล่มี! ออนอินสตาแกรม

....

ผิด

ตามหนูมา หนูจะพาลุงไปไนท์บัสราคาหมื่นวอนเอง!
ด้วยความที่คุณลุงซึ้งในความใจดีของเรา (แค่พามาขึ้นบัส) คุณลุงได้ทำการออกค่ารถบัสให้เรากับเพื่อนจ้า! เย้ ใจดีที่สุด คนดีสุดท้ายก็มีที่อยู่นะคะ
เราเลยพาคุณลุงมายังโซลสเตชั่นเพื่อต่อรถแท็กซี่ แน่นอนว่าถูกกว่าโบกจากสนบ.แน่ ระหว่างต่อคิวที่ยาวมากๆ เราก็หิวว่ะ บนเครื่องไม่ได้กินไรเลย
เลยชักชวนคุณลุงและเพื่อนไปกินข้าวและรอเวลาซับเวย์เปิดบริการ ทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันหมด พีคอีกละ คุณลุงเลี้ยงข้าว ฮือ ผู้มีบุญคุณคนที่สอง พยายามจ่ายแล้วนะคะ อย่าหาว่าเราเห็นแก่กินไป แต่เค้าใช้ความเป็นผู้ใหญ่มาอ้าง ใช่สิ เรามันผู้น้อย เอิ้ก

อิ่มจังตังค์อยู่ครบ (ตั้งแต่เหยียบเกาหลี)

นั่งๆนอนอยู่ในร้านแล้วเหลือบไปเห็นว่าแท็กซี่ไม่มีคนแล้ว เลยตัดสินใจกลับไปเรียกแท็กซี่ ด้วยความที่คุณลุงมาแบบอโลนและสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ คนดีแบบเราก็เลยส่งคุณลุงขึ้นรถไปโรงแรมก่อน พร้อมบอกว่าถึงแล้วทักหนูมานะลุง โชคดีจ้า

เราก็โบกแท็กซี่ไปที่พักเราค่ะ พอถึงที่พักแบบเดินวนหาอยู่นานมาก บ้านหน้าตาเหมือนกันหมด เราพักอยู่แถว bukchon ค่ะ บ้านจะเป็น traditional house หมดเลย สวยและน่ารักมากก สุดท้ายก็เจอบ้านที่หน้าตาเหมือนที่ลุงคิมส่งมา ก็จัดการย้ายตัวเองเพื่อนและสัมภาระเข้าบ้านไป (เป็น self check-in ค่ะ)

ก่อนจะนอนก็แอบสำรวจบ้าน แง มีห้องนอนส่วนตัวให้เรากับเพื่อน ตอนแรกลุงคิมบอกว่าต้องนอนรวมกับต่างชาติคนนึงนะแบบหอหญิง แต่สุดท้ายก็ได้ห้องแยกมา มีห้องครัวให้พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ห้องน้าแยกกันชายหญิง มีไดร์ให้ด้วยน้า ชะนีชอบสระผมอย่างเรานี่ปลื้ม ที่ห้องครัวจะมีบอร์ดให้แขกเขียนแพลนแต่ละวันของเรา เผื่อมีแขกคนอื่นอยากจะมาจอยกับเราด้วย

เริ่มเหนื่อยละ นอนดีกว่า แต่ยังจ้า อย่าลืมว่าคนอย่างเราต้องมีอุปสรรคอยู่เสมอ จำคุณลุงผู้มีพระคุณได้มั้ยคะ คุณลุงเฟสไทม์มาหาเรา เราก็แบบ อ่า สงสัยคงถึงโรงแรมแล้ว แต่เอ๊ะ เฟสไทม์มาหาเลยหรา สงสัยอยากจะเซย์กู๊ดไนท์

กดรับผู้มีพระคุณสิคะ รออะไร

รับปุ๊ป ตกใจปั๊บ เสียงเหมือนใครทะเลาะกัน โหวกเหวกโวยวายมาก คุณลุงก็บอก แท็กซี่มันมาส่งผิดที่อะ นี่ที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วก็โวยวายกันไปมา เกาหลีก็ด่า ไทยก็ด่า เราก็แบบ... ทำไงดีวะ พี่เกาหลีสปีคอิ้งไม่ได้แน่ๆอะ เราก็บอกคุณลุงลองยืมโทรสัพท์แท็กซี่โทรหาโรงแรมมั้ยคะ แล้วให้โรงแรมคุยกับแท็กซี่ไง แต่ก็ไม่เกิดผลพี่เกาหลีเอาแต่โวยวาย คุณลุงโวยวายภาษาไทยกลับ เราก็แบบ คือเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นอะ ภาษามือก็ไม่สามารถทำให้เค้าเข้าใจได้ ฮือ เราก็แบบคิดๆ คุณลุงต้องได้นอน ไม่งั้นเราก็ไม่ได้นอน!

สงสัยลุงกับพี่แท็กคุย(โวยวาย) กันดังไปหน่อย ตำรวจขับรถมาจ้า แล้วก็แบบเอาแล้วไงชั้น นางก็ลงมาถามว่าเกิดไรขึ้น   ลุงก็ยื่นมือถือให้เราคุยกับตำรวจ อีนี่ก็อธิบายอังกฤษซะยืดยาว สรุป คุณตำรวจตอบมาว่า "ไอด้อนทึสปีคคึอิงลิช"...... เอเมน

ตอนนั้นมันก็ดึกมากด้วยอะ เราก็ไม่รู้จะคุยยังไงคุณลุงก็แย่งเราพูดด้วย เพื่อนเราก็ แกจัดการด้วยนะ ชั้นพูดอิ้งไม่ได้....
ชั้นพูดได้แล้วไง เค้าพูดกับชั้นไม่ได้มั้ย โว๊ะ ตอนนั้นเริ่มหงุดหงิดหน่อยๆละ แต่ความดีชนะความชั่วในใจเราเลยพยายามสื่อสารภาษาเกาหลีกากๆของเรา

สุดท้ายสรุปว่า ไปโรงพักกันทั้งหมดนี่แหละจ้า เราก็แบบ เอาจริงดิ ขึ้นโรงพักเลยเหรอ เราก็เกาะติดสถาณการณ์ไปพร้อมกับคุณลุงว่าจะเกิดอะไรชึ้น พอถึงโรงพัก  คุณพระคุณเจ้ามีตำรวจที่พูดอิ้งได้ค่า เราก็แบบดีใจมาก พอนางเข้าเฟรมกล้องมาเท่านั้นแหละ เนื้อคู่!! เนื้อคู่ชัดๆอะ ฮือ ขาวตี๋สเปคเราสุด หนุ่มเอ๊าะๆ

เราก็อธิบายเหตุการณ์กับนางไปจ้า สรุป คุณตำรวจให้คุณลุงจ่ายค่าแท็กซี่ให้พี่แท็ก แล้วเดี๋ยวคุณตำรวจจะไปส่งคุณลุงที่โรงแรมเอง เรื่องจะได้จบๆไป แอบบอกว่าพี่แท็กน่ากลัวมากอะ ตอนไปเรียนให้คุณลุงไม่เห็นเป็นงี้

สรุปเราได้นอนก็ตีห้าจ้า ช่างเป็นคืนที่ยาวนานเหลือเกิน ......

ใกล้จบละ

ตื่นเช้ามาก็ไปเที่ยว ยังแอบห่วงคุณลุงอยู่นิดๆว่าแกจะใช้ซับเวย์เป็นมั้ยเลยทักไปถาม สรุปว่าสบายแฮค่า ถ่ายรูปตัวเองที่นัมซานทาวเวอร์มาอวดด้วย แหม เราก็เที่ยวๆกันจนหมดแรงแล้วกลับมาที่พัก ตื่นเต้นมาก เพราะลุงคิมบอกว่าวันนี้เรามีปาร์ตี้หมูย่างกันนะเด็กๆ ตอนสามทุ่ม อย่าลืมมาล่ะ

ของ ฟรี อีก แล้ว จ้า!

ต่างด้าวสองคนก็กลับบ้านตรงเวลาเป๊ะ ได้พบเจอกับลุงคิมผู้ใจดีกับเพื่อนๆของคุณลุง วันนั้นสนุกมากค่ะ ลุงคิมกับเพื่อนและสตาฟที่นั้นใจดีและดูแลเราดีมาก นี่เราไปอยู่ฟรีนะ ด้วยความที่คุยกันถูกคอกับทุกคน คุณลุงเลยบอกว่าที่นี่ต้อนรับเราเสมอนะ มาได้ตลอดเลย แง ให้นามบัตรเราไว้ด้วย คุณลุงทำเว็บท่องเที่ยวด้วยนะคะชื่อว่า Potluckstay ลองค้นหากันในเฟสบุ๊คได้ มื้อนั้นก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของทุกคนค่ะ ขอบคุณออนนีด้วยที่ตื่นมาขับรถส่งเรากับเพื่อนที่โซลทาวเวอร์ มาเกาหลีได้นั่งเบนซ์ซีคลาส บุญตูดแล้วเรา

ตลอดเวลา 10 วันเราก็พอเจออีกหลายๆอย่างค่ะ ทั้งตลก ทั้งงง ทั้งไม่เข้าใจ 555555 เป็นการไปเที่ยวต่างประเทศที่คุ้มมาก แขกที่มาพักก็ไนซ์มาก มีซื้อขนมมาฝากด้วย

สำหรับคนที่อยากจะลอง couchsurfing นะคะ ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีเหมือนเรา พี่ๆในเว็บก็เจอประสบการณ์แย่ๆมาเหมือนกัน โดยเฉพาะผู้หญิง ก็อยากจะให้ใช้กันอย่างระมัดระวัง ศึกษากันดีๆเด้อ

จบละจ้า  อมยิ้ม13

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่