วันนี้เป็นวันพระ และเป็นวันหวยออกพอดี โยมตาบอดเอาล็อตเตอรี่มายืนขายอยู่ตรงทางขึ้นบันไดศาลาแต่เช้า เพราะมีญาติโยมมาทำบุญที่วัดมากกว่าปกติ หลังฉันเช้าเสร็จ โยมตาบอดมากราบหลวงพ่อ
หลวงพ่อถามว่ากินข้าวกินปลาแล้วหรือยังโยม ?
ชายตาบอดตอบว่า กินกับญาติโยมที่โรงอาหารแล้วครับ หลวงพ่อ
บ้านอยู่ไหน ? แล้วมายังไงล่ะ โยม ? หลวงพ่อถาม
อยู่บ้านไผ่ล้อม ถัดจากหมู่บ้านนี้ไป 2 หมู่บ้าครับ หลวงพ่อ ติดรถเพื่อนบ้านเขามาครับหลวงพ่อ
ขายดีไหมโยม ?
ขายดีครับหลวงพ่อ ขายหมดเกลี้ยงเลยครับ แล้วหยิบแบงค์ขึ้นมาใบหนึ่ง ผมขอทำบุญกับหลวงพ่อ 50 บาทครับ
หลวงพ่อไม่ค่อยได้ใช้เงิน โยมเก็บเอาไว้ใช้เองเถิด ถือว่าหลวงพ่อรับไว้ด้วยใจแล้ว และขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยน่ะ
ไม่ได้หรอกครับ ถ้าไม่ได้ทำบุญกับหลวงพ่อแล้ว ผมไม่สบายใจครับ
แสดงว่า การทำบุญทำให้โยมสบายใจใช่ไหม ?
ใช่ครับหลวงพ่อ
ถ้าโยมไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจเลย โยมจะสบายใจไหม ? หลวงพ่อถาม
ถ้าไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมันต้องสบายใอยู่แล้ว หลวงพ่อ ผมมีเรื่องต้องเดือดเนื้ร้นใจบ่อย ๆ ถ้ามันมีวิธีที่ทำให้ไม่มีเรื่องที่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจเลยได้ ก็ดีซิครับหลวงพ่อ ?
มีซิ มีวิธี โยม ถ้าโยมได้มาศึกษาธรรม ของพระพุทธองค์
ผมตาบอด โง่เขลา ไม่รู้หนังสือ จะศึกษาธรรมของพระพุทธองค์ได้หรือครับ หลวงพ่อ ?
เวลาโยมคิด โยมหิว โยมปวดขี้ โยมปวดเยี้ยว โยมรู้ไหม ?
รู้ครับหลวงพ่อ
ที่โยมบอกว่ารู้ ตัวรู้นั้นแหละคือใจโยม ความโง่ก็เกิดที่ใจ ความฉลาดก็เกิดที่ใจ ความสบายใจ ไม่สบายใจ ก็เกิดที่ใจ อะไร ๆ มันก็เกิดที่ใจทั้งนั้นแหละ แม้แต่เรื่องราวของโลกทั้งโลกนี้มันก็เกิดจากใจ โยม การศึกษาธรรมของพระพุทธองค์จึงต้องศึกษาที่ใจ เพื่อให้รู้ว่าทำอย่างไร ? ใจมันจึงจะไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ โยม มันไม่เกี่ยวกับตาที่บอด ไม่เกี่ยวกับรู้หรือไม่รู้หนังสือ เลยโยม
การศึกษาธรรมของพระพุทธองค์จะทำให้คนโง่กลายมาเป็นคนฉลาด คนตาบอดจะกลายมาเป็นคนตาดี เพราะรู้ว่า อะไรควรทำ อะไรควรละ โยมว่ามันน่าสนใจไหม ?
ฟังหลวงพ่อพูดแล้วมันน่าสนใจดีครับ ทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นแยะเลยครับหลวงพ่อ แต่ตอนนี้ต้องกราบลาหลวงพ่อก่อน เพราะเพื่อนบ้านเขารอกลับบ้านอยู่ ว่าง ๆ ผมจะมาคุยกับหลวงพ่อใหม่ ขอบพระคุณที่หลวงพ่อให้ความเมตตาครับ
ดีดี โยม แล้วเจอกันใหม่นะโยม
เรื่องดีดีที่ว้ดบ้านนอก
หลวงพ่อถามว่ากินข้าวกินปลาแล้วหรือยังโยม ?
ชายตาบอดตอบว่า กินกับญาติโยมที่โรงอาหารแล้วครับ หลวงพ่อ
บ้านอยู่ไหน ? แล้วมายังไงล่ะ โยม ? หลวงพ่อถาม
อยู่บ้านไผ่ล้อม ถัดจากหมู่บ้านนี้ไป 2 หมู่บ้าครับ หลวงพ่อ ติดรถเพื่อนบ้านเขามาครับหลวงพ่อ
ขายดีไหมโยม ?
ขายดีครับหลวงพ่อ ขายหมดเกลี้ยงเลยครับ แล้วหยิบแบงค์ขึ้นมาใบหนึ่ง ผมขอทำบุญกับหลวงพ่อ 50 บาทครับ
หลวงพ่อไม่ค่อยได้ใช้เงิน โยมเก็บเอาไว้ใช้เองเถิด ถือว่าหลวงพ่อรับไว้ด้วยใจแล้ว และขออนุโมทนาบุญกับโยมด้วยน่ะ
ไม่ได้หรอกครับ ถ้าไม่ได้ทำบุญกับหลวงพ่อแล้ว ผมไม่สบายใจครับ
แสดงว่า การทำบุญทำให้โยมสบายใจใช่ไหม ?
ใช่ครับหลวงพ่อ
ถ้าโยมไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจเลย โยมจะสบายใจไหม ? หลวงพ่อถาม
ถ้าไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมันต้องสบายใอยู่แล้ว หลวงพ่อ ผมมีเรื่องต้องเดือดเนื้ร้นใจบ่อย ๆ ถ้ามันมีวิธีที่ทำให้ไม่มีเรื่องที่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจเลยได้ ก็ดีซิครับหลวงพ่อ ?
มีซิ มีวิธี โยม ถ้าโยมได้มาศึกษาธรรม ของพระพุทธองค์
ผมตาบอด โง่เขลา ไม่รู้หนังสือ จะศึกษาธรรมของพระพุทธองค์ได้หรือครับ หลวงพ่อ ?
เวลาโยมคิด โยมหิว โยมปวดขี้ โยมปวดเยี้ยว โยมรู้ไหม ?
รู้ครับหลวงพ่อ
ที่โยมบอกว่ารู้ ตัวรู้นั้นแหละคือใจโยม ความโง่ก็เกิดที่ใจ ความฉลาดก็เกิดที่ใจ ความสบายใจ ไม่สบายใจ ก็เกิดที่ใจ อะไร ๆ มันก็เกิดที่ใจทั้งนั้นแหละ แม้แต่เรื่องราวของโลกทั้งโลกนี้มันก็เกิดจากใจ โยม การศึกษาธรรมของพระพุทธองค์จึงต้องศึกษาที่ใจ เพื่อให้รู้ว่าทำอย่างไร ? ใจมันจึงจะไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ โยม มันไม่เกี่ยวกับตาที่บอด ไม่เกี่ยวกับรู้หรือไม่รู้หนังสือ เลยโยม
การศึกษาธรรมของพระพุทธองค์จะทำให้คนโง่กลายมาเป็นคนฉลาด คนตาบอดจะกลายมาเป็นคนตาดี เพราะรู้ว่า อะไรควรทำ อะไรควรละ โยมว่ามันน่าสนใจไหม ?
ฟังหลวงพ่อพูดแล้วมันน่าสนใจดีครับ ทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นแยะเลยครับหลวงพ่อ แต่ตอนนี้ต้องกราบลาหลวงพ่อก่อน เพราะเพื่อนบ้านเขารอกลับบ้านอยู่ ว่าง ๆ ผมจะมาคุยกับหลวงพ่อใหม่ ขอบพระคุณที่หลวงพ่อให้ความเมตตาครับ
ดีดี โยม แล้วเจอกันใหม่นะโยม