พลิกรักจากหลังไมค์ ตอนที่ 10 ค่ะ :)

สิ่งที่ทำให้เธอเริ่มกังวลขึ้นมาก็คือเรื่องคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับภัทร

‘เราจะหาทางเอาตัวรอดจากนายภัทรยังไงดีนะ มันต้องมีวิธีสิน่า แค่ตอนนี้เธออาจจะยังคิด
ไม่ออกเท่านั้นแหละ’

รินพยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้สัญญาที่เธอให้ไว้นั้นกลายเป็นโมฆะ แต่คิดจนหัวแทบแตก
เธอก็ยังคิดไม่ออก ฉะนั้น เธอจึงคิดว่าทางที่ดีก็คือ เธอควรจะรอดูท่าทีของภัทรไปก่อน

‘ถ้าเขายังไม่พูดอะไรขึ้นมา เราก็อย่าไปทัก เราต้องทำตัวดีๆ กับเขาเอาไว้ แล้วก็ต้อง
สงบปากสงบคำ แกล้งทำเป็นลืมเรื่องสัญญา ยื้อเวลาไปสักพักก่อนดีกว่า ไม่แน่อีกหน่อย
เราก็อาจจะหาทางออกที่ดีได้ เอ๊ะ รึจะเอาเงินฟาดหัว แต่ เอ่อ บ้านเขารวยกว่าบ้านเรานี่นา
เงินเดือนของเรากี่เดือน เขาถึงจะพอใจล่ะเนี่ย
ว่าแต่ตานั่นต้องไม่ได้ต้องการเงินแน่ๆ เลย เอาเถอะ ยังไงก็แกล้งทำเป็นความจำเสื่อม
กับเรื่องนี้ไปก่อนแล้วกันนะยายริน ตานั่นอาจจะเปลี่ยนใจไปกินผู้ชายแทนเธอก็ได้นะ’

รินคิดแล้วก็ยิ้มขำไปด้วย แต่จากแนวคิดนี้เธอก็รู้สึกเริ่มเห็นแสงสว่างรำไรๆ ขึ้นมานิดๆ เช่นกัน

‘สงสัยเราคงต้องไปหาเพื่อนสาวของเราสักคนมาเป็นเครื่องบรรณาการแทนตัวเราซะแล้ว
วิธีนี้มันก็อาจจะโออยู่นะ’

คิดแล้ว รินก็อดฮากับความช่างมโนของตนไม่ได้



หลังจากหมั้นกันได้สามสัปดาห์

ทั้งคู่ก็พยายามทำตัวให้แนบเนียนกับการเป็นคู่หมั้นกันโดยเฉพาะในสายตาของผู้ใหญ่
ทั้งคู่เดินทางไปเยี่ยมพ่อกับแม่ของทั้งสองฝ่าย ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ โดยที่ภัทรก็
รับหน้าที่เป็นสารถีตามเคย โดยเริ่มจากบ้านพ่อแม่ของรินในสุดสัปดาห์ที่สอง และ
บ้านพ่อแม่ของภัทรในสุดสัปดาห์ที่สามหลังจากวันหมั้น


ขณะที่ไปหาพ่อแม่ของภัทร และรับประทานมื้อเย็นด้วยกันอยู่นั้น จู่ๆ แม่ของภัทร
ก็หันไปถามภัทรขึ้นมาว่า

“แล้วนี่เมื่อไหร่จะแต่งกันสักทีล่ะลูก?”

เมื่อภัทรได้ยินประโยคนี้เข้าเท่านั้นแหละ ร่างสูงก็ถึงกับสำลักข้าวจนไอออกมา
อย่างหนักขึ้นมาทันที

รินแอบยิ้มขำที่ภัทรสำลักข้าว แต่ก็ช่วยพูดตอบแทนให้ว่า

“พอดีเราสองคนคบกันก่อนหน้านี้ค่อนข้างจะสั้นน่ะค่ะ ขอเวลาพวกเราศึกษา
กันเพิ่มอีกสักนิดนะคะแม่ เผื่อภัทรยังไม่ทันออกลายขึ้นมา เกิดจริงๆ แล้ว
ภัทรชอบแอบมองคนนู้นคนนี้ขึ้นมา รินจะได้รีบทิ้งทัน” รินพูดเสร็จก็ยิ้มสวย
ก่อนจะหันไปยักคิ้วให้ภัทรแบบกวนๆ

‘นายรู้ใช่ไหมล่ะ ว่าคนนู้นคนนี้ของฉันหมายถึงผู้ชายน่ะ’

รินแอบคิดขำๆ ในใจ

ส่วนพ่อของภัทรที่ปกติเงียบๆ ก็เผลอพูดขึ้นมาว่า

“ไม่ต้องถึงกับทิ้งหรอกมั้งลูก ริน มันเรื่องปกติของผู้ชายที่จะแอบเหล่สาว
พ่อนะ ทำเป็นประจำเลย” พูดเสร็จพ่อก็นึกขึ้นได้ หันไปเจอหน้าเมียตัวเอง
ที่มีรังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมาก็เลยรีบหาทางลงต่อไปว่า

“เอ่อ เมื่อกี้พ่อพูดขำๆ นะแม่ ฮ่าๆ ฮ่าๆ”

แต่ที่พ่อคิดในใจก็คือ…

‘เห้อ เกือบตายละกู’



หลังจากที่พ่อรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด และทุกคนเริ่มหันกลับ
มารับประทานอาหารกันต่อ แม่ก็หันมาพูดกับรินบ้างว่า

“แต่แม่อยากอุ้มหลานแล้วนะริน”

หลังจากเจอประโยคนี้เข้าไปเท่านั้น รินก็ถึงกับสำลักน้ำแกงที่กำลัง
ซดอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่