เลือกตั้งครั้งหน้าห้ามใช้นโยบายประชานิยม พวกชอบแบมือขอ พึ่งพาตัวเองไม่เป็น อย่างคนเสื้อแดงอนาคตจะเป็นอย่างไร

- 10,000 บาท รักษาทุกโรค - ยกเลิกจำนำข้าวตนละ 15,000 - ค่าแรง 112 บาท , เงินเดือน ป.ตรี 7,500 บาท - รถไฟไทยดั้งเดิมเพื่ออนุรักษ์ของเก่าไว้ชั่วลูกชั่วหลาน - ยกเลิกกองทุนหมู่บ้านละ 1,000,000 บาท - ยกเลิ

หยุดนโยบายประชานิยม ที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงเลือกตั้ง เพราะมันเป็นนโยบายที่สิ้นคิด นโยบายที่มักง่าย เพียงแค่คิดทุ่มเงินลงไปให้ถูกจุด เพื่อหวังผลชนะเลือกตั้งก็เท่านั้น แต่ผลเสียตกอยู่กับประเทศ นักการเ

แก้ไขปัญหาปราบปรามการทุจริตล่าช้า ด้วยการตั้งองค์กรที่เป็นปฏิปักษ์เข้าสืบสวนสอบสวน ป้องกันเอกสารเกี่ยวกับการทุจริตสูญหาย ด้วยการรีบฟ้องในข้อหาไม่ยับยั้งโครงการที่ “ส่อทุจริต” แก้ไขปัญหา

นักการเมืองก็จะมองประชานิยมแบบไหน หลอกคนได้ โกงกินได้ คนก็จะงอมืองอตีน ดูว่าประชานิยมแบบไหนกูกินได้ โครงการมีปัญหา ก็ไม่มีใครรับผิดชอบแก้ไข มีแต่กู้มาโปะและก็มากิน ถ้าไม่ปฏิรูป โครงการประชานิยมแ

การป้องกันคอร์รัปชั่นที่อาจเกิดจากระบบบริวารในระบอบประชาธิปไตย ไม่อาจทำได้ด้วยการมีคณะกรรมการปิตาธิปไตย หรือสภาคุณธรรม ขึ้นมากำกับนโยบายของนักการเมือง (ถ้าอย่างนั้นจะให้ประชาชนเลือกตั้งไปทำไม) แต่ต้อง

แค่เปลี่ยนชื่อ การแจกก็จะไม่เป็นประชานิยม แค่เปลี่ยนรัฐบาล ก็ไม่มีใครกลัวลูกหลานเป็นหนี้ไปอีกหลายสิบปี แค่เปลี่ยนหน้าที่ ก็ไม่ต้องรอถนนดินลูกรังหมดประเทศ แค่เปลี่ยนข้าง คดีก็หมดอายุความ แค่เปลี่ยน

สรุปคือกลัวว่าถ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงกฏบางกฏ มันจะไม่เข้าทางพรรคตัวเอง เช่น การใช้นโยบายประชานิยม การทุ่มเงินในการหาเสียง การโฆษณษชวนเชื่อหลอกชาวนาชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ถ้าคุณแน่จริงก็ ยอมให้เค้า