Keyhole Garden ผสานการปลูกผักและปุ๋ยหมักไว้ด้วยกัน

การเกษตรของไทยกำลังอยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ปลอดภัยขึ้น (ผมว่าอย่างนั้นนะ)  เกษตรอินทรีย์จึงกำลังเป็นที่นิยมตามมาติดๆด้วยแนวคิดของการกิน และผลิตพืชผักที่ปลอดภัย ผมเขียนในบทความเสมอว่า มาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยและเชื่อใจได้ที่สุดคือ 1) ปลูกกินเอง และ 2) มาตรฐานการเชื่อใจจากเพื่อนบ้านที่ปลูกและรับประทาน  3) มาตรฐานที่ออกโดยภาครัฐ หรือเอกชน ซึ่งทั้ง 3 มาตรฐานนั้นน่าจะเป็นที่เชื่อใจได้มากที่สุด

แต่วันนี้ผมจะมานำเสนอมาตรฐานที่ 1 ก็คือมาตรฐานปลูกพืชผักกินเอง แต่… จะนำเสนอในวิธีการปลูกพืชในรูปแบบที่เรียกว่า Keyhole garden ซึ่งเป็นการรวมการทำปุ๋ยหมักและปลูกผักไว้ในเรื่องเดียวกัน

ปกติการปลูกพืชผักและการทำปุ๋ยหมักเป็นเรื่องที่ต้องแยกกันจริงมั้ยครับ  แต่วิธีการนี้เราเอาทั้งสองขั้นตอนมารวมกันเลย ด้วยแนวคิดการแยกพื้นที่ของการหมักปุ๋ยจากเศษอินทรีย์วัตถุ (อาจเป็นเศษอาหารเหลือๆก็ได้) ไว้บริเวณส่วนกลางของพื้นที่โดยมีกระแกรงกั้นไม่ให้เศษอินทรีย์วัตถุที่เราต้องการทำปุ๋ยไปรวมกับดินที่ใช้ในการปลูก


ส่วนพื้นที่ปลูกนั้นเราก็สามารถออกแบบได้ด้วยตัวเองเลยครับว่าจะเอารูปแบบไหนเพียงมีข้อแม้ว่าเราจะต้องเดินเอาเศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ หรือพวกอินทรีย์วัตถุต่างๆ ใส่ลงตะกร้าด้านในได้ง่ายๆ ส่วนด้านนอกก็ใช้ดินใส่ให้เต็ม แล้วก็นำผักที่เราเพาะนำลงมาปลูก ไว้ลองดูตามรูปที่ให้ไว้เป็นตัวอย่างครับ


คอนเซ็ปของการทำงานในระบบ Keyhole garden นั้นก็คือ พืชสามารถหยั่งรากไปหาปุ๋ยที่เกิดจากการหมักเศษอินทรีย์วัตถุต่างๆได้ด้วยตัวเอง ในบางช่วงเวลาที่ปุ๋ยยังอยู่ในช่วงกระบวนการหมักที่ยังไม่สมบูรณ์และเกิดความร้อนรากของพืชเค้าก็รับรู้ได้ครับ และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้บริเวณนั้นไปก่อน ส่วนความร้อนที่เกิดขึ้นมันจะถูกระบายขึ้นด้านบนของตะแกรงที่เรากั้นไว้อย่างง่ายดาย เพราะเราไม่ได้ปิดฝาหรือทำไห้เกิดการอบที่จะทำไห้สะสมความร้อนในนั้นครับ ดังนั้นพอถึงเวลารากพืชก็จะเข้าไปดูซึมอาหารที่เหมาะสมของเขาได้เอง

เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องใหม่ในเมืองไทยครับ แต่สำหรับต่างประเทศเค้าให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะการทำสวนผักแบบ keyhole นั้นใช้พื้นที่น้อยมากแต่กลับให้พืช ผักนั้นเติบโต และแข็งแรงแบบเป็นธรรมชาติแถมยังปลอดภัยไม่มีสารเคมีปนเปื้อนอย่างแท้จริง มันจึงเหมาะกับโลกในยุคที่ต้องการอาหารสะอาดในตอนนี้ครับ


ยังมีเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจที่เว็บไซต์ผมเองครับ https://www.idiarygeek.com

ขอบคุณต้นเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจในบทความนี้ ทั้งเนื้อหาบางส่วนและรูปจาก pinterest ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่