สวัสดีท่านผู้อ่านกระทู้ทุกท่านอีกครั้งครับ ครั้งนี้กลับมากับทริปท่องเที่ยวเหมือนเดิม แต่ขอเกริ่นก่อนว่า นานๆที จะมีวันหยุดยาวให้ผมได้พักบ้าง พอถึงช่วงสงกรานต์จัดการเรื่องลาอะไรให้เรียบร้อย ผมได้วันหยุดตั้งแต่ 12-18 เมษายน (โดยวันที่ 11 ก็ลาได้ครึ่งวันบ่ายด้วย) จึงคิดที่เที่ยวมามากมาย
โดยสุดท้ายก็นึกถึง
“ ประเทศไต้หวัน “ ขึ้นมา ซึ่งเป็นประเทศที่ผมเองยังไม่เคยไป แถมฟรีวีซ่าอีกด้วยยิ่งฟิน พอเริ่มค้นคว้าหาข้อมูล จึงได้ทราบว่า “ ของกินถูกพอๆกับที่ไทย “ นั่นแหละประเด็นหลักที่ทำให้เลือกประเทศนี้ เมี่อเทียบกับประเทศยอดฮิตของคนไทยในช่วงสงกรานต์คือญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลีใต้นั่นเอง
หลังจากนั้นก็หาข้อมูลว่าประเทศนี้เป็นยังไง ตั้งอยู่ตรงไหน ภูมิอากาศช่วงนั้นเป็นยังไง
ประเทศไต้หวัน ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ ดังนั้นไม่แปลกใจเลยที่จะเจอคนญี่ปุ่นและคนฟิลิปปินส์มาเที่ยวเยอะมาก แต่ความสัมพันธ์กับจีนนั้นไม่ค่อยจะดีเท่าไร
ส่วนภูมิอากาศในเดือนเมษายนอยู่ในช่วง Spring อากาศไม่หนาวจนเกินไป แต่พอไปจริง โคตรร้อนเลยยย แถมคนที่นี่ก็ใส่ชุดกันหนาวจัดเต็มมาก
การแต่งกายของคนไต้หวัน ถือว่าแต่งเต็มนะครับ แต่งสบายๆแบบไปสิงคโปร์ไม่ค่อยจะมี เคยใส่ชุดนอนไปซื้อของเซเว่นตรงข้ามโรงแรม คนมองเยอะทีเดียว แถมคนที่นี่ใส่เสื้อกันหนาว แม้อากาศจะไม่หนาวก็ตาม เอาเป็นว่ามีความเป็นแฟชั่นสุดๆ
ของกินที่นี่เยอะมาก ไม่มีทางอดตายแน่นอน มีหลายแบบ ทั้ง street food, junk food, fine dining, buffet ราคาไม่แพง แถมมีเมนูครีเอทหลากหลาย ฟินมากครับ
เราเริ่มกันเลยดีกว่า ทริปของเราไป 11-18 เมษายน 2560 แต่วันที่ 11 ไปถึงก็เที่ยงคืนตีหนึ่งแล้ว ดังนั้นทริปนี้ก็เหมือนได้เที่ยว 7 วัน 7 คืนครับ
โดยกระทู้นี้จะเสนอ
Day 0 : เดินทางจากกรุงเทพ-ฮ่องกง-ไต้หวัน, นอนที่สนามบิน
Day 1 : Yehliu geopark, Maokong gondola, National Dr. Sun Yat-sen memorial hall, Ciyou temple, Rainbow bridge, Raohe street night market
[CR] [ NIXANT ] I’m from T(H)AI WAN : เมื่อไทยไปไทเป เจ็ดวันเจ็ดคืน [Part I] _
สวัสดีท่านผู้อ่านกระทู้ทุกท่านอีกครั้งครับ ครั้งนี้กลับมากับทริปท่องเที่ยวเหมือนเดิม แต่ขอเกริ่นก่อนว่า นานๆที จะมีวันหยุดยาวให้ผมได้พักบ้าง พอถึงช่วงสงกรานต์จัดการเรื่องลาอะไรให้เรียบร้อย ผมได้วันหยุดตั้งแต่ 12-18 เมษายน (โดยวันที่ 11 ก็ลาได้ครึ่งวันบ่ายด้วย) จึงคิดที่เที่ยวมามากมาย
โดยสุดท้ายก็นึกถึง “ ประเทศไต้หวัน “ ขึ้นมา ซึ่งเป็นประเทศที่ผมเองยังไม่เคยไป แถมฟรีวีซ่าอีกด้วยยิ่งฟิน พอเริ่มค้นคว้าหาข้อมูล จึงได้ทราบว่า “ ของกินถูกพอๆกับที่ไทย “ นั่นแหละประเด็นหลักที่ทำให้เลือกประเทศนี้ เมี่อเทียบกับประเทศยอดฮิตของคนไทยในช่วงสงกรานต์คือญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลีใต้นั่นเอง
หลังจากนั้นก็หาข้อมูลว่าประเทศนี้เป็นยังไง ตั้งอยู่ตรงไหน ภูมิอากาศช่วงนั้นเป็นยังไง
ประเทศไต้หวัน ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ ดังนั้นไม่แปลกใจเลยที่จะเจอคนญี่ปุ่นและคนฟิลิปปินส์มาเที่ยวเยอะมาก แต่ความสัมพันธ์กับจีนนั้นไม่ค่อยจะดีเท่าไร
ส่วนภูมิอากาศในเดือนเมษายนอยู่ในช่วง Spring อากาศไม่หนาวจนเกินไป แต่พอไปจริง โคตรร้อนเลยยย แถมคนที่นี่ก็ใส่ชุดกันหนาวจัดเต็มมาก
การแต่งกายของคนไต้หวัน ถือว่าแต่งเต็มนะครับ แต่งสบายๆแบบไปสิงคโปร์ไม่ค่อยจะมี เคยใส่ชุดนอนไปซื้อของเซเว่นตรงข้ามโรงแรม คนมองเยอะทีเดียว แถมคนที่นี่ใส่เสื้อกันหนาว แม้อากาศจะไม่หนาวก็ตาม เอาเป็นว่ามีความเป็นแฟชั่นสุดๆ
ของกินที่นี่เยอะมาก ไม่มีทางอดตายแน่นอน มีหลายแบบ ทั้ง street food, junk food, fine dining, buffet ราคาไม่แพง แถมมีเมนูครีเอทหลากหลาย ฟินมากครับ
เราเริ่มกันเลยดีกว่า ทริปของเราไป 11-18 เมษายน 2560 แต่วันที่ 11 ไปถึงก็เที่ยงคืนตีหนึ่งแล้ว ดังนั้นทริปนี้ก็เหมือนได้เที่ยว 7 วัน 7 คืนครับ
โดยกระทู้นี้จะเสนอ
Day 0 : เดินทางจากกรุงเทพ-ฮ่องกง-ไต้หวัน, นอนที่สนามบิน
Day 1 : Yehliu geopark, Maokong gondola, National Dr. Sun Yat-sen memorial hall, Ciyou temple, Rainbow bridge, Raohe street night market
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น