กระทู้นี้เหมาะสำหรับตนชอบอะไรยาวๆนะจ้ะ กระทู้นี้เนี้ยฉบับนิยายน้าา เราก็ขอเพ้อบ้างไรนะ5555555 ป้ะไปเริ่มกันเลย
สวัสดีค่ะ ฉันนางสาว ภัทรวี อินทรกุญชร ตอนนี้ฉันยังเป็นนักเรียนอยู่ปีนี้ฉันอายุ 16 แล้วฉันรู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร
คนเรานี้ก็แปลกนะว่าไหม ตอนที่เรายังเป็นเด็กเราก็อยากโตแต่พอเราโตเราก็อยากจะกลับไปเป็นเด็กสะงั้น โตมามีแต่เรื่องให้ฉันปวดหัวอยู่เรื่อยเลย แต่อย่างน้อยๆมันก็สอนอะไรฉันหลายๆอย่าง ไม่ว่าเป็นเรื่องของความรับผิดชอบ หน้าที่ๆควรจะทำ มีหลายๆเรื่องที่ฉันชอบจะเรียนรู้ไปกับมันแต่ก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่ให้บทเรียนกับฉันอย่างใหญ่หลวงเลยแหละ นั้นก็คือเรื่องของความรัก มันทำให้ฉันรู้ว่าฉันทำอะไร ไปเพื่อใคร แล้วก็ไม่ต้องรอผลตอบแทน อย่างที่ใครๆเขาบอกกันว่าถ้าเรามองความรักในด้านดีมันก็จะพาเราดีไปด้วยนี้แหละค่ะความรักของฉัน ฉันจะพาไปรู้จักกับเขากัน
เขาชื่อ ลุกเชิง ค่ะนั้นแหนะแค่ชื่อก็แหลกแล้วใช่ไหมหละ เขาเป็นคนมาเลเซียค่ะ ฉันเจอกับเขาครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย เราเจอกันที่ค่ายๆหนึ่งที่บังเอิญว่าตอนนั้นฉันมีโอกาสได้ไปพอดี ไม่รู้ว่ามันบังเอิญหรืออะไรกำหนดไว้แต่ฉันรู้สึกสิ่งที่ฉันเจอมันดีไปหมดเลยเราย้อนไปวันแรกที่ฉันได้เจอกับเขากันเลยดีกว่าค่ะ
13 ธันวาคม 2559 เวลาประมาณบ่าย 3ครึ่ง.
ฉันเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก เป็นคนผิวน้ำผึ้ง ผมสั้นประบ่า วันนี้ฉันใส่เสื้อโปโลสีดำกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว วันนี้ฉันปล่อยผมออกไป และที่ข้อมือของฉันก็มียางรัดผมประมาณ 4 อันและฉันสะพายเป้ยีน เดินเท้าไปยัง RDC ซึ่งเป็นสถานที่ๆทางค่ายนัดรวมตัวกันตอนบ่าย3 แต่เราดันไปสายเลยไม่รู้ว่าเขาต้องทำอะไรกันบ้าง
ฉันกับเพื่อนเดินไปเซ้นชื่อรับริบบิ้น ป้ายชื่อ ป้ายกระเป๋า ฉันได้ริบบิ้นสีเขียวแล้วก็มีคนมาบอกให้ฉันเดินไปตามหากลุ่มที่มีสีเขียวเหมือนกับฉัน ฉันเดินเข้าไปเห็นคนนั้นเป็นกลุ่มๆฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งเด่นออกมาจากคนอื่นๆ เขาสูงผมลองทรงจนเกือบๆจะยาว เขามองมาที่ฉัน
‘ เอ้ะ!เขามีริบบิ้นสีเขียวติดบนแขนเสื้อด้านขวาเหมือนกับฉันเลย เราน่าจะได้อยู่กลุ่มเดียวกันนะ’
แล้วในก็เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย เราได้อยู่กลุ่มเดียวกัน เหมือนฟ้าจะรู้อะไรนะฉันว่ามันแหม่งๆอยู่เหมือนกัน ที่ทุกอย่างมันดันตรงกันความคิดของฉันไปสะหมด ภายในกลุ่มมีคนประมาณ 13 คน
เขาให้แนะนำตัวทีละคน คนแรกชื่อ แซนดี้ คนที่สองชื่อ ลี คนที่สามชื่อ เร เด็กทั้งสามคนนี้อายุ 13 ปีเท่ากัน
คนต่อมาชื่อ คริสตอล แล้วก็ ลี ซีมิน ทั้งสองคนอายุ 15 เท่ากับฉันเลย ต่อมาเป็นเพื่อนคนแรกที่ชวนฉันคุยเขาชื่อ ลาวีน่า เขาอายุ 17 แล้วแต่เราคุยกันเหมือนเพื่อนเลยหละ คนที่นู้นเขาก็คงไม่ถือหรอกมั้ง ต่อมาก็เพื่อนฉันเอง ชื่อ ฮิว แล้วก็ตามาด้วยรุ่นพี่ของฉัน ชื่อ มีนา ต่อมาก็ฉันๆชื่อ บูม พวกเขาดูตื่นเต้นกับชื่อฉันดีนะ พอเรียกชื่อฉันทีไรต้องพูดเหมือนเสียงระเบิดตลอดเลย มันก็เป็นเรื่องที่คนที่นู้นเขาสนใจแตกต่างกับคนที่ไทยที่ไม่เคยสนใจอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้เลย มันก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ฉันยิ้มได้เหมือนกันนะ เราไปรู้จักกับชื่อสมาชิกกับต่อดีกว่า คนถัดมาเนี้ยดีกรีไม่ธรรมดานะจ้ะ ขาเป็นถึง คอนซิ้วตัวยงของค่าย ค่ายเนี้ยมีมาประมาณ7ปีละมั้งนางก็ได้สัก5ครั้งเลยหละ เขาชื่อ สตีฟเฟน อายุ 18 ปีและคนต่อมาก็คือผู้ชายคนนั้น คนที่ทำให้ฉันเห็นกลุ่ม เขาชื่อ ลุกเชิงชิน อายุ 17 ปีหลังจากนั้นฉันก็ต้องรอเวลาให้สมาชิดของแต่ละกลุ่มครบระหว่างที่ฉันก็พูดคุยภาษาไทยเรื่อยเปื่อยตามประสาคนพูดมาก ฉันมองดูคนรอบๆตัวทุกๆคนต่างตื่นเต้น พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ตัวเองเคยเจอมา ฉันเป็นคนเฟรนลี่นะ แต่เฟรนลี่กับคนที่อยากจะเฟรนลี่ด้วย ฉันยื่นหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อออกไปทัก วีน่า ซึ่งเธอกำลังคุยกับเพื่อนๆฉันอยู่
“ ไงวีน่า ฉันชื่อบูมนะ ”
“ ไงฉันชื่อวีน่า ”
“ วีน่า ”
“ ช่ายยย ”
แล้วเธอก็ถามเกี่ยวกับ ชื่อโรงเรียนของฉัน ซึ่งมันเป็รเรื่องที่ยากมากสำหรับคนที่นู้นสำหรับการออกเสียง ฉันเข้าใจ5555
สักพักฉันก็หันมาคุยกับพี่มีนา
“ พี่มีนา โคตะระบังเอิญเลยอ่ะได้อยู่กลุ่มเดียวสตีฟด้วย55555 ”
“ เวรกรรมมากกว่า ”
“ เออน่า555 ”
แล้วฉันได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อฉัน
“ Boom! Boom! Boom! ”
‘ ใครวะ ’ ฉันหันไปมองก็เป็นผู้ชายคนนั้น ลุกเชิงเขาเรียกชื่อฉัน
“ What? ”
สตีฟเฟ่นกระซิบข้างหูของลุกเชิง เหมือนเขา 2 คนคุยความลับอะไรสักอย่าง เขาเงยขึ้นมาพูกกับฉัน
“ Steven said you’re so pretty ” (สตีเฟนบอกว่าคุณน่ารัก)
ฉันอึ้งมาก ฉันยิ้มออกมาอ่อนๆ แล้วเปร่งเสียงออกมาแผ่วๆ “ Thank you ” จากตอนแรกที่ฉันสบตากับเขา แต่ฉันกลับต้องหลบตาเขาฉันเขินๆแบบทำอะไรไม่ถูกเลย
ฉันหันไปมองหน้าพี่มีนาแบบ งงๆ
“ เอาแล้วบูมม ”
“ เห้ยยย5555บ้าป่าว ”
ทุกคนคะจุดเริ่มต้นของเรา2คนอาจจะดูแหม่งๆแปลกๆแต่บูมเชื่อว่าต่อไปมันจะแปลกยิ่งกว่านี้อีกค่ะ อย่าลืมติดตามอ่านต่อนะคะ
บันทึกการเดินทางของฉัน ฉบับ นิยาย
สวัสดีค่ะ ฉันนางสาว ภัทรวี อินทรกุญชร ตอนนี้ฉันยังเป็นนักเรียนอยู่ปีนี้ฉันอายุ 16 แล้วฉันรู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร
คนเรานี้ก็แปลกนะว่าไหม ตอนที่เรายังเป็นเด็กเราก็อยากโตแต่พอเราโตเราก็อยากจะกลับไปเป็นเด็กสะงั้น โตมามีแต่เรื่องให้ฉันปวดหัวอยู่เรื่อยเลย แต่อย่างน้อยๆมันก็สอนอะไรฉันหลายๆอย่าง ไม่ว่าเป็นเรื่องของความรับผิดชอบ หน้าที่ๆควรจะทำ มีหลายๆเรื่องที่ฉันชอบจะเรียนรู้ไปกับมันแต่ก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่ให้บทเรียนกับฉันอย่างใหญ่หลวงเลยแหละ นั้นก็คือเรื่องของความรัก มันทำให้ฉันรู้ว่าฉันทำอะไร ไปเพื่อใคร แล้วก็ไม่ต้องรอผลตอบแทน อย่างที่ใครๆเขาบอกกันว่าถ้าเรามองความรักในด้านดีมันก็จะพาเราดีไปด้วยนี้แหละค่ะความรักของฉัน ฉันจะพาไปรู้จักกับเขากัน
เขาชื่อ ลุกเชิง ค่ะนั้นแหนะแค่ชื่อก็แหลกแล้วใช่ไหมหละ เขาเป็นคนมาเลเซียค่ะ ฉันเจอกับเขาครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย เราเจอกันที่ค่ายๆหนึ่งที่บังเอิญว่าตอนนั้นฉันมีโอกาสได้ไปพอดี ไม่รู้ว่ามันบังเอิญหรืออะไรกำหนดไว้แต่ฉันรู้สึกสิ่งที่ฉันเจอมันดีไปหมดเลยเราย้อนไปวันแรกที่ฉันได้เจอกับเขากันเลยดีกว่าค่ะ
13 ธันวาคม 2559 เวลาประมาณบ่าย 3ครึ่ง.
ฉันเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก เป็นคนผิวน้ำผึ้ง ผมสั้นประบ่า วันนี้ฉันใส่เสื้อโปโลสีดำกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว วันนี้ฉันปล่อยผมออกไป และที่ข้อมือของฉันก็มียางรัดผมประมาณ 4 อันและฉันสะพายเป้ยีน เดินเท้าไปยัง RDC ซึ่งเป็นสถานที่ๆทางค่ายนัดรวมตัวกันตอนบ่าย3 แต่เราดันไปสายเลยไม่รู้ว่าเขาต้องทำอะไรกันบ้าง
ฉันกับเพื่อนเดินไปเซ้นชื่อรับริบบิ้น ป้ายชื่อ ป้ายกระเป๋า ฉันได้ริบบิ้นสีเขียวแล้วก็มีคนมาบอกให้ฉันเดินไปตามหากลุ่มที่มีสีเขียวเหมือนกับฉัน ฉันเดินเข้าไปเห็นคนนั้นเป็นกลุ่มๆฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งเด่นออกมาจากคนอื่นๆ เขาสูงผมลองทรงจนเกือบๆจะยาว เขามองมาที่ฉัน
‘ เอ้ะ!เขามีริบบิ้นสีเขียวติดบนแขนเสื้อด้านขวาเหมือนกับฉันเลย เราน่าจะได้อยู่กลุ่มเดียวกันนะ’
แล้วในก็เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย เราได้อยู่กลุ่มเดียวกัน เหมือนฟ้าจะรู้อะไรนะฉันว่ามันแหม่งๆอยู่เหมือนกัน ที่ทุกอย่างมันดันตรงกันความคิดของฉันไปสะหมด ภายในกลุ่มมีคนประมาณ 13 คน
เขาให้แนะนำตัวทีละคน คนแรกชื่อ แซนดี้ คนที่สองชื่อ ลี คนที่สามชื่อ เร เด็กทั้งสามคนนี้อายุ 13 ปีเท่ากัน
คนต่อมาชื่อ คริสตอล แล้วก็ ลี ซีมิน ทั้งสองคนอายุ 15 เท่ากับฉันเลย ต่อมาเป็นเพื่อนคนแรกที่ชวนฉันคุยเขาชื่อ ลาวีน่า เขาอายุ 17 แล้วแต่เราคุยกันเหมือนเพื่อนเลยหละ คนที่นู้นเขาก็คงไม่ถือหรอกมั้ง ต่อมาก็เพื่อนฉันเอง ชื่อ ฮิว แล้วก็ตามาด้วยรุ่นพี่ของฉัน ชื่อ มีนา ต่อมาก็ฉันๆชื่อ บูม พวกเขาดูตื่นเต้นกับชื่อฉันดีนะ พอเรียกชื่อฉันทีไรต้องพูดเหมือนเสียงระเบิดตลอดเลย มันก็เป็นเรื่องที่คนที่นู้นเขาสนใจแตกต่างกับคนที่ไทยที่ไม่เคยสนใจอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้เลย มันก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ทำให้ฉันยิ้มได้เหมือนกันนะ เราไปรู้จักกับชื่อสมาชิกกับต่อดีกว่า คนถัดมาเนี้ยดีกรีไม่ธรรมดานะจ้ะ ขาเป็นถึง คอนซิ้วตัวยงของค่าย ค่ายเนี้ยมีมาประมาณ7ปีละมั้งนางก็ได้สัก5ครั้งเลยหละ เขาชื่อ สตีฟเฟน อายุ 18 ปีและคนต่อมาก็คือผู้ชายคนนั้น คนที่ทำให้ฉันเห็นกลุ่ม เขาชื่อ ลุกเชิงชิน อายุ 17 ปีหลังจากนั้นฉันก็ต้องรอเวลาให้สมาชิดของแต่ละกลุ่มครบระหว่างที่ฉันก็พูดคุยภาษาไทยเรื่อยเปื่อยตามประสาคนพูดมาก ฉันมองดูคนรอบๆตัวทุกๆคนต่างตื่นเต้น พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ตัวเองเคยเจอมา ฉันเป็นคนเฟรนลี่นะ แต่เฟรนลี่กับคนที่อยากจะเฟรนลี่ด้วย ฉันยื่นหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อออกไปทัก วีน่า ซึ่งเธอกำลังคุยกับเพื่อนๆฉันอยู่
“ ไงวีน่า ฉันชื่อบูมนะ ”
“ ไงฉันชื่อวีน่า ”
“ วีน่า ”
“ ช่ายยย ”
แล้วเธอก็ถามเกี่ยวกับ ชื่อโรงเรียนของฉัน ซึ่งมันเป็รเรื่องที่ยากมากสำหรับคนที่นู้นสำหรับการออกเสียง ฉันเข้าใจ5555
สักพักฉันก็หันมาคุยกับพี่มีนา
“ พี่มีนา โคตะระบังเอิญเลยอ่ะได้อยู่กลุ่มเดียวสตีฟด้วย55555 ”
“ เวรกรรมมากกว่า ”
“ เออน่า555 ”
แล้วฉันได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อฉัน
“ Boom! Boom! Boom! ”
‘ ใครวะ ’ ฉันหันไปมองก็เป็นผู้ชายคนนั้น ลุกเชิงเขาเรียกชื่อฉัน
“ What? ”
สตีฟเฟ่นกระซิบข้างหูของลุกเชิง เหมือนเขา 2 คนคุยความลับอะไรสักอย่าง เขาเงยขึ้นมาพูกกับฉัน
“ Steven said you’re so pretty ” (สตีเฟนบอกว่าคุณน่ารัก)
ฉันอึ้งมาก ฉันยิ้มออกมาอ่อนๆ แล้วเปร่งเสียงออกมาแผ่วๆ “ Thank you ” จากตอนแรกที่ฉันสบตากับเขา แต่ฉันกลับต้องหลบตาเขาฉันเขินๆแบบทำอะไรไม่ถูกเลย
ฉันหันไปมองหน้าพี่มีนาแบบ งงๆ
“ เอาแล้วบูมม ”
“ เห้ยยย5555บ้าป่าว ”
ทุกคนคะจุดเริ่มต้นของเรา2คนอาจจะดูแหม่งๆแปลกๆแต่บูมเชื่อว่าต่อไปมันจะแปลกยิ่งกว่านี้อีกค่ะ อย่าลืมติดตามอ่านต่อนะคะ