พอดี อ่านแล้วชอบเลยเอามาแบ่งๆกันครับ
==============================================
พระพุทธเจ้า : ถ้าเจ้าโยนหินลงน้ำ ทำให้น้ำกระเพื่อม ทำให้เกิดกระแสน้ำขึ้นมากมายทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
พระอานนท์ : เพราะหินมันดันน้ำทำให้เกิดกระแสน้ำ - พระอานนท์ ตอบ
พระพุทธเจ้า : ข้าสร้างกระแสน้ำในตัวเจ้า และพวกเจ้าต้องสร้างกระแสน้ำในใจคนอื่นต่อไป
==============================================
- ต่อไปเขาจะไม่บูชาความถูกต้อง แต่จะบูชาบุคคล ความถูกต้องถูกทำลายลงแล้ว ผู้คนจะบูชาแต่ปฏิหารย์ ดังนั้น หากมีพระรูปใดก็ตามแสดงปฏิหารย์ใดๆอีก ถือว่าไม่ใช่สาวกของเรา พวกเขาจะว่าร้ายข้า แต่ข้าไม่รู้สึกโกรธ ทำไมเจ้าต้องโกรธด้วย เราต้องนำพวกเขาสู่ความจริงอันนิรันดร์ แต่ถ้าเหล่าภิกษุเอาแต่แสดงปฏิหารย์กันเช่นนี้ พวกเขาก็จะออกนอกเส้นทางแห่งการหลุดพ้น -พระพุทธเจ้าสอนพระสงฆ์ผู้ที่แสดงอิทธิฤทธิ์ไปแล้ว
==============================================
- ชีวิตที่สุขสบาย ความงาม และชื่อเสียงที่สะสมมา มันมีความหมายหรือไม่ จะเกิดอะไรขึ้นหากวันนึงมันหายไป ความงามย่อมถดถอย ไม่มีอะไรยั่งยืนในชีวิต มันมีแต่จะเพิ่มความโศกเศร้าในใจของเรามากยิ่งขึ้น วัตถุอาจจไม่มีคุณค่า แต่การยึดติดความงามนั้น มันจะเป็นสิ่งที่เกาะกุมเราไว้ มันจะเพิ่มอัตตาของเจ้า หล่อเลี้ยงอัตตา แต่มันไม่ยั่งยืน เมื่อทำสมาธิเจ้าจะพบว่าเจ้ายึดติดกับสิ่งที่เสื่อมสลายได้แล้วความทุกข์ของเจ้าจะค่อยๆหายไปทีละน้อย และเจ้าจะสัมผัสความสุขที่ไม่อาจพรากด้วยความตาย หรือไม่อาจพรากด้วยอายุ -พระพุทธเจ้าสอนอัมมราปาลี
==============================================
- ท่านได้อะไรจากการทำสมาธิ?
ไม่ได้อะไรเลย ข้าเสียความโกรธ ความทุกข์ ความกังวล ความไม่มั่นคง คาวกลัวความชรา และ ข้าได้ชัยชนะเหนือความตาย ตอนนี้ข้าปฏิบัติตนอย่างดีที่สุด หากตอนนี้มีไฟไหม้ป่า มันจะเผาผลาญพืชพันธ์ ต้นไม้ที่ขวางทางอยู่เพื่อลุกลามต่อไป ยิ่งเผาผลาญเชื่อเพลิงเท่าไหร่เปลวไฟยิ่งร้อนแรงเท่านั้น เฉกเช่นการประพฤติที่ไม่ดี มันจะร้อนแรง มันจะยิ่งเติมเชื้อฟืน ความโกรธ ความกังวล ความโลภ ความกลัว มันจะยิ่งร้อนแรงมากขึ้น หากเรายิ่งโหมกระพือใส่มัน ไฟแห่งความเกลียดชังจะอยู่ ไฟแห่งความละโมภจะอยู่
หากเรายังคงยึดติดกับเรื่องทางโลก หากคนเราต่างจดจ่อแต่กับการได้มาซึ่งวัตถุ เขายิ่งได้มามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเท่านั้น เขาจะไม่มีวันพอ เขาจะอยู่ด้วยความหวาดกลัว หากเราตัดความมั่งมีออกซะล่ะ
หากเราตัดสิ่งกีดขวางออกไปได้ล่ะ เราก็จะไม่ต้องกลัวอนาคต หรือจมปลักอยู่กับอดีต เราจะเป็นคนที่มั่นคง เราจะอยู่ในแต่ละช่วงของชีวิต เราจะตั้งตนอยู่ที่จุดศูนย์กลาง ไม่เอนไปซ้ายขวา เราจะมีความสุข เราจะไม่อยากได้อยากมี แต่เราจะได้รับความสุขจากโลกใบนี้ -พระพุทธเจ้าตอบคำถาม
รวมคำสนทนาและคำสอน จากซีรีส์พระพุทธเจ้า
==============================================
พระพุทธเจ้า : ถ้าเจ้าโยนหินลงน้ำ ทำให้น้ำกระเพื่อม ทำให้เกิดกระแสน้ำขึ้นมากมายทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
พระอานนท์ : เพราะหินมันดันน้ำทำให้เกิดกระแสน้ำ - พระอานนท์ ตอบ
พระพุทธเจ้า : ข้าสร้างกระแสน้ำในตัวเจ้า และพวกเจ้าต้องสร้างกระแสน้ำในใจคนอื่นต่อไป
==============================================
- ต่อไปเขาจะไม่บูชาความถูกต้อง แต่จะบูชาบุคคล ความถูกต้องถูกทำลายลงแล้ว ผู้คนจะบูชาแต่ปฏิหารย์ ดังนั้น หากมีพระรูปใดก็ตามแสดงปฏิหารย์ใดๆอีก ถือว่าไม่ใช่สาวกของเรา พวกเขาจะว่าร้ายข้า แต่ข้าไม่รู้สึกโกรธ ทำไมเจ้าต้องโกรธด้วย เราต้องนำพวกเขาสู่ความจริงอันนิรันดร์ แต่ถ้าเหล่าภิกษุเอาแต่แสดงปฏิหารย์กันเช่นนี้ พวกเขาก็จะออกนอกเส้นทางแห่งการหลุดพ้น -พระพุทธเจ้าสอนพระสงฆ์ผู้ที่แสดงอิทธิฤทธิ์ไปแล้ว
==============================================
- ชีวิตที่สุขสบาย ความงาม และชื่อเสียงที่สะสมมา มันมีความหมายหรือไม่ จะเกิดอะไรขึ้นหากวันนึงมันหายไป ความงามย่อมถดถอย ไม่มีอะไรยั่งยืนในชีวิต มันมีแต่จะเพิ่มความโศกเศร้าในใจของเรามากยิ่งขึ้น วัตถุอาจจไม่มีคุณค่า แต่การยึดติดความงามนั้น มันจะเป็นสิ่งที่เกาะกุมเราไว้ มันจะเพิ่มอัตตาของเจ้า หล่อเลี้ยงอัตตา แต่มันไม่ยั่งยืน เมื่อทำสมาธิเจ้าจะพบว่าเจ้ายึดติดกับสิ่งที่เสื่อมสลายได้แล้วความทุกข์ของเจ้าจะค่อยๆหายไปทีละน้อย และเจ้าจะสัมผัสความสุขที่ไม่อาจพรากด้วยความตาย หรือไม่อาจพรากด้วยอายุ -พระพุทธเจ้าสอนอัมมราปาลี
==============================================
- ท่านได้อะไรจากการทำสมาธิ?
ไม่ได้อะไรเลย ข้าเสียความโกรธ ความทุกข์ ความกังวล ความไม่มั่นคง คาวกลัวความชรา และ ข้าได้ชัยชนะเหนือความตาย ตอนนี้ข้าปฏิบัติตนอย่างดีที่สุด หากตอนนี้มีไฟไหม้ป่า มันจะเผาผลาญพืชพันธ์ ต้นไม้ที่ขวางทางอยู่เพื่อลุกลามต่อไป ยิ่งเผาผลาญเชื่อเพลิงเท่าไหร่เปลวไฟยิ่งร้อนแรงเท่านั้น เฉกเช่นการประพฤติที่ไม่ดี มันจะร้อนแรง มันจะยิ่งเติมเชื้อฟืน ความโกรธ ความกังวล ความโลภ ความกลัว มันจะยิ่งร้อนแรงมากขึ้น หากเรายิ่งโหมกระพือใส่มัน ไฟแห่งความเกลียดชังจะอยู่ ไฟแห่งความละโมภจะอยู่
หากเรายังคงยึดติดกับเรื่องทางโลก หากคนเราต่างจดจ่อแต่กับการได้มาซึ่งวัตถุ เขายิ่งได้มามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเท่านั้น เขาจะไม่มีวันพอ เขาจะอยู่ด้วยความหวาดกลัว หากเราตัดความมั่งมีออกซะล่ะ
หากเราตัดสิ่งกีดขวางออกไปได้ล่ะ เราก็จะไม่ต้องกลัวอนาคต หรือจมปลักอยู่กับอดีต เราจะเป็นคนที่มั่นคง เราจะอยู่ในแต่ละช่วงของชีวิต เราจะตั้งตนอยู่ที่จุดศูนย์กลาง ไม่เอนไปซ้ายขวา เราจะมีความสุข เราจะไม่อยากได้อยากมี แต่เราจะได้รับความสุขจากโลกใบนี้ -พระพุทธเจ้าตอบคำถาม