ผมเป็นคนหนึ่งครับที่อยากมีบ้าน บ้านที่ผมอยากจะมีสิทธิ์ครอบคลองโดยสมบูรณ์ (โดยส่วนตัวนั้นคือผมต้องมีโฉนดบ้านที่เป็นชื่อผม) ผมซื้อบ้านของการเคหะครับ ชื่อโครงการว่าเอื้ออาทรบางขุนเทียน 1 เป็นอาคารชุดเคหะเอื้ออาทร อยู่บนโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๖๒o๗๙ และ ๑๗๓๔๙๗ ตำบลท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. เป็นอาคารสูง 4 ชั้น จำนวน 24 หลัง โดยผมได้ทำการซื้อ มาแล้วจำนวน 5 ปี และได้ทำการผ่อนชำระจนหมดเมื่อวันที่ 10/06/60 ที่ผ่านมา หลังจากที่ผมจ่ายค่าบ้านเสร็จ ผมได้สอบถามขอโฉนดกับทางธนาคาร (ปกติเมื่อเราชำระยอดครบแล้วทางธนาคารจะนัดรับโฉด) แต่คำตอบที่ได้คือธนาคารไม่มีโฉนดให้ครับ และแจ้งกลับมาว่าในส่วนของการชำระเสร็จสิ้นแล้วแต่ฉโนดต้องไปติดต่อกับทางเคหะ บ้าไปแล้ว!!! ผ่อนมา 5 ปีกว่าเข้าใจว่าฉโนดไปรออยู่ที่ธนาคารแล้ว สู้ทนเก็บเงินและใช้จ่ายอย่างประหยัดเพื่อให้ได้สิ่งนี้ ผมไม่รอช้าเลยครับลางานไปที่การเคหะเพื่อขอโฉนดของผม และคำตอบที่ไม่อยากจะเชื่อก็เกิดขึ้น โดยทางการเคหะกล่าวว่าต้องรอจัดตั้งนิติก่อนถึงจะโอนได้ ผมถามกลับว่าแล้วเมื่อไหร่จะจัดตั้งนิติ ทางการเคหะตอบว่ากำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งถ้าเป็นตาสียายสาคงจบแค่นั้นด้วยการรอครับ แต่ผมคงจบไม่ได้เพราะสิ่งที่เราพยายามมาตลอดต้องจบไปด้วยคำว่ารอ.......
ผมรีบดำเนินการหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันทีโดยได้ขอความกรุณจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมเคารพ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบัญหาที่การเคหะได้หมกเม็ดปิดบังผู้ซื้อบ้านทั้งหลายไว้ โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ
บันทึกข้อความที่ มท 0517.3/335 วันที่ 20 มิ.ย. 2559 เวลา 16.30 น. เรื่อง หารือการจดทะเบียนอาคารชุด บ้านเอื้ออาทรบางขุนเทียน 2/1 และบางขุนเทียน 2/2 มีข้อผิดพลาดดังนี้
1. การเคหะแห่งชาตินำโฉนดที่ดินที่ได้รับอนุญาติปลูกสร้างอาคาร และได้รับใบรับรองการก่อสร้างอาคาร (แบบ อ.๖) แล้วไปรวมแล้วแบ่งแยกโฉนดแล้ว ไม่นำฉโนดที่ดินบางแปลงมาขอยื่นขดทะเบียนอาคารชุดว่าจะสามารถจดทะเบียนเป็นอาคารชุด
2. ไม่สามารถแยกส่วนที่ดินที่เป็นของทรัพย์ส่วนกลางให้เป็นของอาคารชุดแต่ละอาคารชุดได้อย่างชัดเจน
3. ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ไว้ การจดทะเบียนอาคารชุดจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามรายงานการวิเคาระห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วยกรณีดังกล่าว จึงไม่อยู่ในเงื่อนไขที่สามารถจดทะเบียนอาคารชุดได้ (นั้นคือไม่ผ่าน EIA)
4. ในกรณีที่การเคหะแห่งชาติประสงค์จดทะเบียนอาคารชุด บางขุนเทียน 1 และ 2 แยกห่างจากกัน แต่ได้ออกแบบวางผังสาธารณูประโภคให้เป็นทรัพย์ส่วนกลางรวมกัน และกำหนดให้ใช้อาคารเอนกประสงค์และห้องสำนักงานนิติบุคคลของเอื้ออาทรบางขุนเทียน 1 และ 2 ร่วมกันไม่เป็นไปตามนัยมาตรา 32 ที่กำหนดให้ ที่ตั้งของสำนักงานนิติบุคคลอาคารชุดต้องตั้งอยู่ในอาคารชุดนั้น จึงเห็นว่าการเคหะแห่งชาติไม่สามารถจดทะเบียนเป็นสองอาคารชุดได้
จากที่ได้ชี้แจ้งข้างต้น ทำให้ตาสียายสา คนหาเช้ากินคำที่ต้องหาเงินมาผ่อนบ้านโดยที่ไม่รู้ชะตาตัวเองว่าจะได้ครอบครองบ้านหรือเปล่า ถ้าใครอยู่เอื้ออาทรบางขุนเทียน 1-3 ลองถามคนข้างๆดูครับว่ามีใครได้โอนแล้วหรือยัง คำตอบคือไม่ และเมื่อคุณโทรไปหาการเคหะเค้าจะตอบกลับมาว่าอยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งนิติ (จะจัดตั้งได้ไงเมื่อไม่ผ่าน EIA) สุดท้ายนี้ผมขอเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องให้กับคนจนที่หาเช้ากินค่ำครับ ผมจะเดินหน้าตามเรื่องต่อไปครับ แต่ผมคงทำไม่สำเร็จครับถ้าผมต้องสู้คนเดียวครับ จึงขอความร่วมมือช่วนผมพลักดันการเคหะแห่งชาติด้วยครับ ให้เค้าแก้ไขในสิ่งที่เค้าได้ทำค้างคาไว้ เพราะทุกอย่างคือสิทธิของเราครับ อย่าอยู่กับคำว่ารอครับ.......
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
ปัญหาเรื้อรัง!!! การเคหะเอื้ออาทรบางขุนเทียน 1-3
ผมรีบดำเนินการหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันทีโดยได้ขอความกรุณจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมเคารพ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบัญหาที่การเคหะได้หมกเม็ดปิดบังผู้ซื้อบ้านทั้งหลายไว้ โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ
บันทึกข้อความที่ มท 0517.3/335 วันที่ 20 มิ.ย. 2559 เวลา 16.30 น. เรื่อง หารือการจดทะเบียนอาคารชุด บ้านเอื้ออาทรบางขุนเทียน 2/1 และบางขุนเทียน 2/2 มีข้อผิดพลาดดังนี้
1. การเคหะแห่งชาตินำโฉนดที่ดินที่ได้รับอนุญาติปลูกสร้างอาคาร และได้รับใบรับรองการก่อสร้างอาคาร (แบบ อ.๖) แล้วไปรวมแล้วแบ่งแยกโฉนดแล้ว ไม่นำฉโนดที่ดินบางแปลงมาขอยื่นขดทะเบียนอาคารชุดว่าจะสามารถจดทะเบียนเป็นอาคารชุด
2. ไม่สามารถแยกส่วนที่ดินที่เป็นของทรัพย์ส่วนกลางให้เป็นของอาคารชุดแต่ละอาคารชุดได้อย่างชัดเจน
3. ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ไว้ การจดทะเบียนอาคารชุดจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามรายงานการวิเคาระห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วยกรณีดังกล่าว จึงไม่อยู่ในเงื่อนไขที่สามารถจดทะเบียนอาคารชุดได้ (นั้นคือไม่ผ่าน EIA)
4. ในกรณีที่การเคหะแห่งชาติประสงค์จดทะเบียนอาคารชุด บางขุนเทียน 1 และ 2 แยกห่างจากกัน แต่ได้ออกแบบวางผังสาธารณูประโภคให้เป็นทรัพย์ส่วนกลางรวมกัน และกำหนดให้ใช้อาคารเอนกประสงค์และห้องสำนักงานนิติบุคคลของเอื้ออาทรบางขุนเทียน 1 และ 2 ร่วมกันไม่เป็นไปตามนัยมาตรา 32 ที่กำหนดให้ ที่ตั้งของสำนักงานนิติบุคคลอาคารชุดต้องตั้งอยู่ในอาคารชุดนั้น จึงเห็นว่าการเคหะแห่งชาติไม่สามารถจดทะเบียนเป็นสองอาคารชุดได้
จากที่ได้ชี้แจ้งข้างต้น ทำให้ตาสียายสา คนหาเช้ากินคำที่ต้องหาเงินมาผ่อนบ้านโดยที่ไม่รู้ชะตาตัวเองว่าจะได้ครอบครองบ้านหรือเปล่า ถ้าใครอยู่เอื้ออาทรบางขุนเทียน 1-3 ลองถามคนข้างๆดูครับว่ามีใครได้โอนแล้วหรือยัง คำตอบคือไม่ และเมื่อคุณโทรไปหาการเคหะเค้าจะตอบกลับมาว่าอยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งนิติ (จะจัดตั้งได้ไงเมื่อไม่ผ่าน EIA) สุดท้ายนี้ผมขอเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องให้กับคนจนที่หาเช้ากินค่ำครับ ผมจะเดินหน้าตามเรื่องต่อไปครับ แต่ผมคงทำไม่สำเร็จครับถ้าผมต้องสู้คนเดียวครับ จึงขอความร่วมมือช่วนผมพลักดันการเคหะแห่งชาติด้วยครับ ให้เค้าแก้ไขในสิ่งที่เค้าได้ทำค้างคาไว้ เพราะทุกอย่างคือสิทธิของเราครับ อย่าอยู่กับคำว่ารอครับ.......