ผลแอดเพิ่งประกาศ ความจริงเราไม่ค่อยอยากบอกพี่สาวสักเท่าไหร่ เพราะพี่มักพูดให้เราหดหู่
เราเลือกลงมหาลัยแค่ 2 ที่ใกล้ๆ เพราะพ่อเคยด่าเราตอนไปสอบรับตรงศิลปากรประมาณว่าเปลืองเงินบลาๆ พี่ชายก็บอกเราว่าพ่อบ่นว่าอยากให้เรียนใกล้บ้าน เราก็เค เลยเลือก 2 ที่ที่แกชอบพูดๆ กัน
เรากลัวว่าถ้าแอดไปไกลแบบปีก่อนเราจะโดนด่าอีก
(ปีที่แล้วเราแอด มน. โดนพ่อด่ารัวในวันประกาศจนร้องไห้เลย สุดท้ายไม่ได้ไปสอบสัมภาษณ์ค่ะ คือแกฝากแม่มาถามทีหลังว่าเราอยากไปอยู่ไหม ตอนนั้นความรู้สึกเราไปหมดล่ะ เรายิ่งไม่ได้มั่นใจสายวิทย์อยู่พอโดนพูดตัดกำลังใจเลยยิ่งไม่มั่นใจกว่าเดิม จนไม่อยากทำอะไรแล้ว)
ผลออกเราได้อยู่จังหวัดที่เรากำลังอยู่ ซึ่งเป็นมอดังในภาคอีกสาน
ส่วนคณะที่เราแอดอาจไม่ใช่คณะที่ดังๆ แต่เราดีใจมากค่ะ
แม่บอกว่าแม่จะให้เราอยู่หอและคืนบ้านเช่าหลังนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
เราดีใจเพราะจะได้หลุดวงจรแย่ๆ นี้สักที แต่แล้วแม่เราก็กลับคำ มาถามเราว่า
"หนูอยู่บ้านนี้คนเดียวได้ไหม เพราะพี่ชาย เวลากลับมาจะไม่มีที่พัก" (พี่เราเรียน มอ ในอีกจังหวัดใกล้ๆ กันซึ่งเป็นหนึ่งในมอที่เราลงแอดด้วย)
เราปฏิเสธ แม่เราเหมือนไม่ยอม เราเลยรู้สึกว่าไอ้ทุกครั้งเลยเวลาแม่ถามเราคือแกมีคำตอบในใจอยู่แล้วจะถามเราทำไม
ช่วงมัธยมก็เคยให้เราไปหาหอหน้า รร. บอกว่าจะให้อยู่หอ พอดูๆ ก็กลับคำไม่ให้ล่ะ ยื้อมาจนวันนี้
เราเครียดมาก
ขอดักไว้นะคะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเป็นห่วงหรืออะไรทั้งนั้น พ่อแม่แค่เป็นพวกลังเลชอบกลับคำ
ซึ่งเรื่องคืนบ้านเช่ามันมีมาตั้งแต่กลางปีที่แล้วยันกลางปีนี้ เราย้ำกับแม่หลายครั้งแล้วว่าแม่พูดอะไรเอาให้มันแน่นอน แต่ไม่เลย
ค่าใช้จ่ายก็เยอะ จะให้เราอยู่บ้านเช่าคนเดียวเนี่ยนะ ?
บ้าไปล่ะ มาพูดอีกว่าหอมันอันตราย เราว่าแถวบ้านเรามันอันตรายกว่าอีก
แถมบ้านไม่ได้ใหญ่มากหรอกค่ะ แต่ว่าถ้าให้เราอยู่คนเดียว เราต้องสติแตกแน่ มีบางช่วงเราต้องเฝ้าบ้านคนเดียวเพราะแม่กลับ ตจว. เรายังกังวลเรื่องล็อคประตูเรียบร้อยยัง หรือตอนเราไม่อยู่จะมีใครแอบเข้ามาขโมยอะไรไหม มันหลายอย่างมากค่ะ
กับพี่สาว เราพยายามไม่อัพเฟชว่าเราติดอะไรเพราะไม่อยากให้พี่มาบ่นเรา
พี่ชอบพูดใส่เรามาก เรื่องคณะที่เราจะเรียนมันมีแต่จะตกงาน ไม่ก็มีแต่พวกมีพรสวรรค์เท่านั้นที่จะไปรอด
พี่เราดูถูกหลายอย่างมาก ตามประสาคนเก่งสุดในบรรดาพี่น้องแหละค่ะ เราเลยหดหู่หลายครั้งมาก
เราอยากระบายลงเฟชแบบนิดๆ ไม่ได้ด้วยเพราะพี่ชายอีกคนดักไว้...
ความจริงพี่เราแทบห้ามเราโพ้สทุกอย่างเลย เราเครียดมากค่ะ
บางทีเราอยากถามแม่มาก ถ้าสมมติหนูแอดไปที่ไหนก็ได้อย่างลงกลางขึ้นเหนือ ไม่ใช่ว่าหนูจะโดนด่าแบบปีที่แล้วเหรอ
และหากหนูไม่ติดที่นี่ แม่จะยังเช่าบ้านทิ้งไว้เพื่อให้ลูกชายกลับมาพักผ่อนไหม ?
เราเกิดความรู้สึกว่า...ไม่น่าเลย
แต่จะไม่เอาปีนี้ก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นโอกาสสุดท้ายของเราแล้ว เราเกลียดทุกคน..เกลียด..
เราเกลียดคำพูดเชิงพ่อแม่ทุกคนหวังดีกับลูกด้วย.. หากคุณเป็นเราคุณจะรู้เบื้องลึกการเลี้ยงดูลูกในบ้านของพ่อแม่เราเป็นการลงทุน
สร้างเครื่องจักรไว้เลี้ยงดูตอนพวกท่านแก่ (เราไม่ถึงขั้นจะทิ้งพ่อแม่ตอนแก่หรอก)
เรายังคิดเลยว่าโชคดีจังที่วันนี้พ่อเราอยู่บ้าน ตจด. ไม่งั้นถ้าแกพูดต่อหน้าเรา เราคงหมดความอดทนไปกระโดดน้ำจริงๆ ล่ะ
ไม่กี่เดือนก่อนเราก็อยากกระโดดจากดาดฟ้า หลายปีก่อนเราไปเดินแถวมิตรภาพเพื่อรอถูกรถชน
อย่างไรเราก็กลัวความตาย กลัวทำคนอื่นเดือดร้อนอยู่ดี
ตอนนี้เราใช้ชีวิตเพื่ออะไรนะ...เป้าหมายคืออะไรกันแน่...เราเกิดมาเพื่อมีเป้าหมายอะไร
เกลียดการคุยกับคนในบ้านมากค่ะ
เราเลือกลงมหาลัยแค่ 2 ที่ใกล้ๆ เพราะพ่อเคยด่าเราตอนไปสอบรับตรงศิลปากรประมาณว่าเปลืองเงินบลาๆ พี่ชายก็บอกเราว่าพ่อบ่นว่าอยากให้เรียนใกล้บ้าน เราก็เค เลยเลือก 2 ที่ที่แกชอบพูดๆ กัน
เรากลัวว่าถ้าแอดไปไกลแบบปีก่อนเราจะโดนด่าอีก
(ปีที่แล้วเราแอด มน. โดนพ่อด่ารัวในวันประกาศจนร้องไห้เลย สุดท้ายไม่ได้ไปสอบสัมภาษณ์ค่ะ คือแกฝากแม่มาถามทีหลังว่าเราอยากไปอยู่ไหม ตอนนั้นความรู้สึกเราไปหมดล่ะ เรายิ่งไม่ได้มั่นใจสายวิทย์อยู่พอโดนพูดตัดกำลังใจเลยยิ่งไม่มั่นใจกว่าเดิม จนไม่อยากทำอะไรแล้ว)
ผลออกเราได้อยู่จังหวัดที่เรากำลังอยู่ ซึ่งเป็นมอดังในภาคอีกสาน
ส่วนคณะที่เราแอดอาจไม่ใช่คณะที่ดังๆ แต่เราดีใจมากค่ะ
แม่บอกว่าแม่จะให้เราอยู่หอและคืนบ้านเช่าหลังนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
เราดีใจเพราะจะได้หลุดวงจรแย่ๆ นี้สักที แต่แล้วแม่เราก็กลับคำ มาถามเราว่า
"หนูอยู่บ้านนี้คนเดียวได้ไหม เพราะพี่ชาย เวลากลับมาจะไม่มีที่พัก" (พี่เราเรียน มอ ในอีกจังหวัดใกล้ๆ กันซึ่งเป็นหนึ่งในมอที่เราลงแอดด้วย)
เราปฏิเสธ แม่เราเหมือนไม่ยอม เราเลยรู้สึกว่าไอ้ทุกครั้งเลยเวลาแม่ถามเราคือแกมีคำตอบในใจอยู่แล้วจะถามเราทำไม
ช่วงมัธยมก็เคยให้เราไปหาหอหน้า รร. บอกว่าจะให้อยู่หอ พอดูๆ ก็กลับคำไม่ให้ล่ะ ยื้อมาจนวันนี้
เราเครียดมาก
ขอดักไว้นะคะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเป็นห่วงหรืออะไรทั้งนั้น พ่อแม่แค่เป็นพวกลังเลชอบกลับคำ
ซึ่งเรื่องคืนบ้านเช่ามันมีมาตั้งแต่กลางปีที่แล้วยันกลางปีนี้ เราย้ำกับแม่หลายครั้งแล้วว่าแม่พูดอะไรเอาให้มันแน่นอน แต่ไม่เลย
ค่าใช้จ่ายก็เยอะ จะให้เราอยู่บ้านเช่าคนเดียวเนี่ยนะ ?
บ้าไปล่ะ มาพูดอีกว่าหอมันอันตราย เราว่าแถวบ้านเรามันอันตรายกว่าอีก
แถมบ้านไม่ได้ใหญ่มากหรอกค่ะ แต่ว่าถ้าให้เราอยู่คนเดียว เราต้องสติแตกแน่ มีบางช่วงเราต้องเฝ้าบ้านคนเดียวเพราะแม่กลับ ตจว. เรายังกังวลเรื่องล็อคประตูเรียบร้อยยัง หรือตอนเราไม่อยู่จะมีใครแอบเข้ามาขโมยอะไรไหม มันหลายอย่างมากค่ะ
กับพี่สาว เราพยายามไม่อัพเฟชว่าเราติดอะไรเพราะไม่อยากให้พี่มาบ่นเรา
พี่ชอบพูดใส่เรามาก เรื่องคณะที่เราจะเรียนมันมีแต่จะตกงาน ไม่ก็มีแต่พวกมีพรสวรรค์เท่านั้นที่จะไปรอด
พี่เราดูถูกหลายอย่างมาก ตามประสาคนเก่งสุดในบรรดาพี่น้องแหละค่ะ เราเลยหดหู่หลายครั้งมาก
เราอยากระบายลงเฟชแบบนิดๆ ไม่ได้ด้วยเพราะพี่ชายอีกคนดักไว้...
ความจริงพี่เราแทบห้ามเราโพ้สทุกอย่างเลย เราเครียดมากค่ะ
บางทีเราอยากถามแม่มาก ถ้าสมมติหนูแอดไปที่ไหนก็ได้อย่างลงกลางขึ้นเหนือ ไม่ใช่ว่าหนูจะโดนด่าแบบปีที่แล้วเหรอ
และหากหนูไม่ติดที่นี่ แม่จะยังเช่าบ้านทิ้งไว้เพื่อให้ลูกชายกลับมาพักผ่อนไหม ?
เราเกิดความรู้สึกว่า...ไม่น่าเลย
แต่จะไม่เอาปีนี้ก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นโอกาสสุดท้ายของเราแล้ว เราเกลียดทุกคน..เกลียด..
เราเกลียดคำพูดเชิงพ่อแม่ทุกคนหวังดีกับลูกด้วย.. หากคุณเป็นเราคุณจะรู้เบื้องลึกการเลี้ยงดูลูกในบ้านของพ่อแม่เราเป็นการลงทุน
สร้างเครื่องจักรไว้เลี้ยงดูตอนพวกท่านแก่ (เราไม่ถึงขั้นจะทิ้งพ่อแม่ตอนแก่หรอก)
เรายังคิดเลยว่าโชคดีจังที่วันนี้พ่อเราอยู่บ้าน ตจด. ไม่งั้นถ้าแกพูดต่อหน้าเรา เราคงหมดความอดทนไปกระโดดน้ำจริงๆ ล่ะ
ไม่กี่เดือนก่อนเราก็อยากกระโดดจากดาดฟ้า หลายปีก่อนเราไปเดินแถวมิตรภาพเพื่อรอถูกรถชน
อย่างไรเราก็กลัวความตาย กลัวทำคนอื่นเดือดร้อนอยู่ดี
ตอนนี้เราใช้ชีวิตเพื่ออะไรนะ...เป้าหมายคืออะไรกันแน่...เราเกิดมาเพื่อมีเป้าหมายอะไร