ปอ ทฤษฎี ผู้จากไป-โบว์ แวนดา-มะลิ -หมู พิมพ์ผกา-นาย ณภัทร -เป๊ก ผลิต ผู้กลับมา และการเลี้ยงลูกของ "พ่อแม่ดารา" ที่น่าคิด

1


                      “ผมเข้าใจหัวอกพ่อแม่ดี ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าลูก คนเป็นพ่อเป็นแม่คนย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอ แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าสิ่งที่พ่อแม่คิดว่าดีและเลือกมาให้ลูกนั้น...มันเหมาะกับลูกหรือลูกชอบด้วยหรือเปล่านะ  ”

                      
                            
                        

                 ตอนที่พี่ปอพูดกับเรา ตอนนั้นเราไม่เข้าใจสิ่งที่พี่ปอพูดเลยแม้แต่น้อย และรู้สึกแปลกใจด้วยซ้ำว่าทำไมถึงพูดอย่างนี้ เมื่อก่อนคุยกัน  ไม่เคยเห็นพี่ปอพูดอย่างนี้เลยสักที เพิ่งมาถึงวันนี้...วันที่เราเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า....ลึกๆ หลักๆ แล้วพี่ปอตั้งใจสื่อถึงอะไร

     วันที่พี่ปอพูดเรื่องลูกนั้น  เป็นวันที่เราไปดูการแสดงพระมหาชนก แล้วพาลูกไปเข้าคิวเข้ารถสุขาเคลื่อนที่ซึ่งยาวมาก และเด็กก็ทนรอไม่ไหว ยืนบิดไปบิดมาขณะรอ  จังหวะนั้นพี่ปอเดินมาทักทายแฟนคลับพอดี เราเลยมีโอกาสได้สวัสดีทักทายพี่ปอ พี่ปอคุยอยู่แป๊บนึง เห็นลูกเราทรมานกับการปวดท้องเข้าห้องน้ำ ก็เลยสงสาร ช่วยพาลูกไปเข้าห้องน้ำนักแสดง และได้คุยกับเราเรื่องการเลี้ยงลูกของเราสั้นๆ  ระหว่างที่รอลูกไปเข้าห้องน้ำ
    และประโยคหนึ่งที่เราจำได้ไม่ลืมก็คือ ประโยคข้างต้นนั่นเองค่ะ



                     

                                       


            “ถึงหมูจะเห็นว่าลูกไม่ใช่เด็ก และคิดว่าเป็นเพื่อนคู่คิด บางครั้งก็เป็นผู้นำให้แม่แต่เด็กก็ควรได้ใช้ชีวิตแบบเด็ก โตแบบเด็ก ให้เขาได้ใสๆ   ตามวัย ถ้าเราเอาความเป็นผู้ใหญ่ไปใส่ให้เด็ก เด็กก็จะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป เด็กก็เหมือนผลไม้ค่ะ หมูปล่อยไปตามเวลา ไม่เร่งโต ไม่รีบบ่มเร่งสุก ปล่อยให้สุกตามธรรมชาติ และก็ไม่รีบเข้าวงการ ถ้าไม่พร้อมจริงๆ ก็ยังไม่ให้เข้า ต้องฝึกจนพร้อมก่อนค่ะ ”


               คำบอกเล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่พี่หมู-พิมพ์ผกา เคยคุยกับเราเมื่อครั้งเคยถามว่า ทำไมไม่ให้น้องนายเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กๆ  สำหรับน้องนายนั้น เราเคยเห็นน้องมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เมื่อก่อนบ้านเรากับพี่หมูอยู่ละแวกเดียวกัน ก่อนที่พี่หมูย้ายบ้าน เราจะเจอพี่หมูพาน้องนายไปทำบุญที่วัดลาดพร้าวอย่างสม่ำเสมอ และยังเคยยีผมหยองกับหยิกแก้มยุ้ยของน้องนายเล่นด้วย ไม่เคยคิดเลยว่า มาวันนี้จะมากรี๊ดในความพร้อมสรรพ ในความสมบูรณ์แบบและความหล่อของเด็กน้อยในวันนั้นเลย  

                     

                                               
             
             ที่ผ่านมา  เราเคย....และทำงานกับพี่ปอมาร่วมๆ 20 ครั้ง ส่วนกับพี่หมูก็หลายครั้งอยู่เหมือนกัน  เรารับรู้ได้ว่า พี่ปอ กับ พี่หมู มีวิธีการเลี้ยงลูกที่คล้ายกันมาก  และเราก็ชื่นชมทั้งคู่มากทีเดียว โดยเฉพาะพี่หมู เรายกย่องพี่หมูที่เลือกพูดความจริงทั้งหมดกับลูก แต่มีวิธีการบอกอย่างสวยงาม ไม่ทำให้ลูกเสียใจกับการตัดสินใจเลิกรากันของพ่อแม่ และไม่เคยว่าให้ร้ายพ่อของลูกให้ลูกฟังเลยแม้แต่ครั้งเดียว

    ส่วนพี่ปอนั้น ใครจะว่าตั้งใจซุกลูก ก็แล้วแต่จะคิด  แต่สำหรับเรา เราคิดว่าเขาเลือกที่จะ  “ซ่อน” ลูกให้อยู่ในที่ที่เหมาะสมมากกว่า มาคิดดู กี่คนในวงการบันเทิงที่ (แอบ) มีลูกมีผัวมีเมียแล้ว  แต่ในที่สุดก็ยังสามารถกลับมาเป็นพระเอกนางเอกได้อีกครั้ง ถ้าพี่ปอจะยอมรับว่ามีลูกแล้วอย่างลูกผู้ชาย เราว่าเขาก็ยังสามารถกลับมาเป็นพระเอกเหมือนกับคนอื่นๆ ได้อีก แต่พี่ปอกลับเลือกที่จะบอกว่าไม่มี เพียงเพราะอยากปกป้องภรรยาและลูก  ไม่อยากให้ภรรยาและลูกถูกขุดคุ้ยประวัติ ไม่อยากให้คนที่รักทั้ง 2 คนของเขา ต้องถูกตามจนไม่เหลือชีวิตเป็นของตัวเองเหมือนที่เขาเคยเป็นมา เขาจึงเลือกให้ทั้งสองคนได้อยู่ในที่ี่ที่ปลอดภัยและยอมเสียสละตัวเองให้กลายเป็นคนโกหกในสายตาคนอื่น


                      

          นอกจากนี้ เรายังมีความรู้สึกว่า “พี่หมู” มีสไตล์การเลี้ยงลูกคล้าย “พี่โบว์-แวนดา” ภรรยาของพี่ปอด้วย  2 คนนี้เป็นสุดยอดแม่ที่ไม่เคยเอาลูกมา “ขาย” ด้วยเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นในชีวิตของตัวเองเลย ทั้งสองคนไม่เคยเอาลูกมาเรียกคะแนนสงสาร ไม่เคยทำให้สถานภาพแม่เลี้ยงเดี่ยวของตัวเองน่าเห็นใจเลยแม้แต่น้อย ทั้งคู่เป็นสตรีเหล็กมากๆ เมื่อไม่มีสามีเคียงข้างแล้ว ก็ยังยืนหยัดยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง เลี้ยงลูกด้วย สองมือแม่ ครองพิภพจบสากล  อย่างภาคภูมิและสง่างาม

                      

     
    พี่หมูใจเด็ดมากที่ไม่เอาลูกเข้าวงการเพื่อมาช่วยตัวเองหารายได้ในเวลาที่ลูกไม่พร้อม  ทั้งๆที่มีพรรคพวกเพื่อนพ้องในวงการพร้อมจะให้โอกาสมากมาย และมีบางช่วงที่การเงินพี่หมูมีปัญหา ส่วนพี่โบว์ แม้น้องมะลิจะช่วยหาค่าใช้จ่ายในบ้านได้จำนวนมหาศาล แต่พี่โบว์ กลับเลือกรับงานที่เหมาะสม และให้น้องได้มีวิถีชีวิตธรรมชาติและมีความสุขในชีวิตวัยเด็กแบบเด็กทั่วๆ ไป ทั้งๆที่จะว่าไปแล้ว ตอนนี้คือเวลาที่จะกอบโกยและหาผลประโยชน์ได้มากที่สุด แต่พี่โบว์ ก็เลือกแต่สิ่งที่พอดีๆ …“ไม่เยอะ” จนเกินไป  ไม่น้อยจนเกินไป ไม่ดันลูกจนเกินงาม ไม่ยัดเยียดลูกออกสื่อ จนมีข้อครหา มีกระแสตีกลับ อะไรใดๆ ทั้งสิ้นแม้แต่น้อย


                      
    เมื่อก่อนอาจมีคนที่เคยเสียดายพี่ปอว่าพี่ปอไม่น่าเลือกผู้หญิงที่ผ่านการมีคู่มาแล้วอย่างพี่โบว์มาเป็นคู่ชิวิตเลย มาถึงวันนี้ ทุกคนได้ประจักษ์ชัดแล้วว่า พี่โบว์นั้นเป็นผู้หญิงที่มีคุณค่า คู่ควรแล้วที่พี่ปอจะปักใจรักมานมนานและตัดสินใจเลือกว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่ควรคู่เหมาะกับการเป็นแม่ของลูกของเขา เราว่าตอนนี้พี่ปอคงหมดห่วงอยู่บนสวรรค์แล้ว เพราะพี่โบว์ ได้ทำตามเจตนารมณ์ของพี่ปอให้ได้เห็นแล้วว่า

                                                 พี่ปอเลือกแต่งงานกับผู้หญิงถูกคนแล้วจริงๆ
                 
                                  Don’t marry a person you can live with, marry somebody you can’t live without.
                                   อย่าแต่งงานกับคนที่คุณ “อยู่ด้วยได้” แต่จงแต่งงานกับคนที่คุณ “ขาดไม่ได้”

                                   ขอยกย่องความรักที่ ปอ-ทฤษฏี สหวงษ์ มีให้ต่อ โบว์-แวนดา ด้วยหัวใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่