ไม่อารัมภบท…เข้าเรื่องเลยนะคะ
ตอนนี้เราคุยกับคนๆหนึ่ง คุยกันมาได้จะครึ่งปีแล้ว ก็มีที่ทะเลาะจนห่างๆไปบ้างช่วงหนึ่ง
เราก็ตามง้ออยู่ประมาณหนึ่งจนมันท้อก็เลยตัดสินใจถอยออกมา เขาก็ไม่เคยทักไลน์หรือส่งข้อความมาหาเราก่อนเลยตั่งแต่มีปัญหากัน ทั้งที่เมื่อก่อนจะถามไถ่ห่วงใยตลอด
พักหลังตั่งแต่เกิดเรื่องถามคำตอบคำ จนเราคิดว่าควรเริ่มเปิดใจให้คนอื่นบ้าง แต่ก็อีกแหละ…ใจเราก็ไม่คิดไรมากนอกจากเพื่อนกัน…เลยกลับมามองตัวเองรักตัวเองมากขึ้นแทน
ช่วงนั้นเป็นอะไรที่หน่วงมาก ยิ่งทำงานที่เดียวกัน แล้วมันต้องเจอกันทุกวัน เวลาพบกันเขาก็มีคุยบ้างยิ้มให้บ้างแต่ก็นะบรรยากาศมันไม่เหมือนเดิมแล้ว
ปกติเราจะไม่ค่อยหายไปจากวงจรชีวิตเขานาน มากสุดก็ไม่เกินสามวัน พอวันที่สี่ก็มักจะเป็นเราเองที่อดคิดถึงเขาไม่ได้จนต้องเป็นฝ่ายทักไปหาเอง
แต่คราวล่าสุดมันไม่เหมือนเคย เราเลือกเดินออกมาแล้ว…แต่ก็ไม่ได้ตัดช่องทางการติดต่อเพราะคิดว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราเอง
จนกระทั่งเข้าวันที่ห้า จู่ๆเขาก็ทักมา ข้อความที่ส่งมาคือขอโทษ ขอโทษที่ทำเราเสียใจ ทำให้คิดมาก
แต่ก็ไม่ได้ขอคืนดีอะไร เราเห็นว่ายังไงก็คงเป็นเพื่อนกันต่อได้ก็โอเคไม่ถือสา แม้ตอนนั้นจะมีอารมณ์โกรธโมโหจนต้องระบายออกไปบ้าง
ซึ่งหลังจากวันนั้นเขาก็ทักมาถามหลังเลิกงานตลอดว่า…ทำไรอยู่ กินข้าวยัง เขาพยายามชวนเราไปกินข้าว ไปเที่ยว
จนสุดท้ายตอนนี้ก็กลับมาคุยกันแบบเก่า แต่ปัญหาคือ พอเราถามถึงสถานะ คำตอบที่ได้กลับดูอึนๆชอบกล คือบอกว่าเราเป็นทุกอย่าง…แฟนก็ได้ กิ๊กก็ได้ พี่ชายน้องชาย เพื่อน เป็นได้หมดที่เราอยากให้เขาเป็น
แต่พออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขากลับทำเฉยๆกับเรา คือทักแซว แต่ไม่แสดงออกว่าคบกับเราอยู่
พอถามคำตอบคือ ไม่อยากให้รู้ อยากให้ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ถ้าคบกันไม่จำเป็นต้องบอกเดี๋ยวคนเขาก็รู้กันเอง(จะรู้ได้ไง ก็ตัวเองชอบทำเหมือนไม่มีอะไร?)
ขอถามคำถามที่คนอาจดูว่าโง่ค่ะ…แบบนี้คือเขาไม่คิดจริงจังกับเราใช่หรือเปล่าคะ
ปล.1. เขากับเราเกินเลยกันแล้ว
ปล.2. เขาเคยชวนทีเล่นทีจริงให้เราไปกินข้าวพร้อมหน้าพ่อแม่เขา
ปล.3. เรารู้สึกให้ใจเราได้ไม่หมดเหมือนแรกๆแล้ว
สถานะ 'เป็นทุกอย่าง' นี่ตกลงมันชัดเจนหรือไม่ชัดเจนกันแน่…
ตอนนี้เราคุยกับคนๆหนึ่ง คุยกันมาได้จะครึ่งปีแล้ว ก็มีที่ทะเลาะจนห่างๆไปบ้างช่วงหนึ่ง
เราก็ตามง้ออยู่ประมาณหนึ่งจนมันท้อก็เลยตัดสินใจถอยออกมา เขาก็ไม่เคยทักไลน์หรือส่งข้อความมาหาเราก่อนเลยตั่งแต่มีปัญหากัน ทั้งที่เมื่อก่อนจะถามไถ่ห่วงใยตลอด
พักหลังตั่งแต่เกิดเรื่องถามคำตอบคำ จนเราคิดว่าควรเริ่มเปิดใจให้คนอื่นบ้าง แต่ก็อีกแหละ…ใจเราก็ไม่คิดไรมากนอกจากเพื่อนกัน…เลยกลับมามองตัวเองรักตัวเองมากขึ้นแทน
ช่วงนั้นเป็นอะไรที่หน่วงมาก ยิ่งทำงานที่เดียวกัน แล้วมันต้องเจอกันทุกวัน เวลาพบกันเขาก็มีคุยบ้างยิ้มให้บ้างแต่ก็นะบรรยากาศมันไม่เหมือนเดิมแล้ว
ปกติเราจะไม่ค่อยหายไปจากวงจรชีวิตเขานาน มากสุดก็ไม่เกินสามวัน พอวันที่สี่ก็มักจะเป็นเราเองที่อดคิดถึงเขาไม่ได้จนต้องเป็นฝ่ายทักไปหาเอง
แต่คราวล่าสุดมันไม่เหมือนเคย เราเลือกเดินออกมาแล้ว…แต่ก็ไม่ได้ตัดช่องทางการติดต่อเพราะคิดว่าทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราเอง
จนกระทั่งเข้าวันที่ห้า จู่ๆเขาก็ทักมา ข้อความที่ส่งมาคือขอโทษ ขอโทษที่ทำเราเสียใจ ทำให้คิดมาก
แต่ก็ไม่ได้ขอคืนดีอะไร เราเห็นว่ายังไงก็คงเป็นเพื่อนกันต่อได้ก็โอเคไม่ถือสา แม้ตอนนั้นจะมีอารมณ์โกรธโมโหจนต้องระบายออกไปบ้าง
ซึ่งหลังจากวันนั้นเขาก็ทักมาถามหลังเลิกงานตลอดว่า…ทำไรอยู่ กินข้าวยัง เขาพยายามชวนเราไปกินข้าว ไปเที่ยว
จนสุดท้ายตอนนี้ก็กลับมาคุยกันแบบเก่า แต่ปัญหาคือ พอเราถามถึงสถานะ คำตอบที่ได้กลับดูอึนๆชอบกล คือบอกว่าเราเป็นทุกอย่าง…แฟนก็ได้ กิ๊กก็ได้ พี่ชายน้องชาย เพื่อน เป็นได้หมดที่เราอยากให้เขาเป็น
แต่พออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขากลับทำเฉยๆกับเรา คือทักแซว แต่ไม่แสดงออกว่าคบกับเราอยู่
พอถามคำตอบคือ ไม่อยากให้รู้ อยากให้ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ถ้าคบกันไม่จำเป็นต้องบอกเดี๋ยวคนเขาก็รู้กันเอง(จะรู้ได้ไง ก็ตัวเองชอบทำเหมือนไม่มีอะไร?)
ขอถามคำถามที่คนอาจดูว่าโง่ค่ะ…แบบนี้คือเขาไม่คิดจริงจังกับเราใช่หรือเปล่าคะ
ปล.1. เขากับเราเกินเลยกันแล้ว
ปล.2. เขาเคยชวนทีเล่นทีจริงให้เราไปกินข้าวพร้อมหน้าพ่อแม่เขา
ปล.3. เรารู้สึกให้ใจเราได้ไม่หมดเหมือนแรกๆแล้ว