สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนนะครับ ว่านี่เป็นกระทู้แรกในชีวิต ที่อยากจะตั้งกระทู้ ก็เผื่อว่า จะเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับพี่ๆ น้องๆ วัยรุ่น หรือใครก็ตามที่มีใจรักงานเกษตร ปลูกผัก ให้ได้มีกำลังใจที่จะทำตามความฝันของตัวเอง ถึงแม้วันนี้จะยังเป็นก้าวแรกเริ่มต้นของผม ที่ได้ลงมือทำการเกษตรเล็กๆ เป็นของตัวเอง แต่อนาคต ผมจะขยายให้ใหญ่ขึ้น และจะนำประสบการณ์ที่ได้ลองผิดลองถูก มาเผยแพร่ให้พี่ๆ น้องๆ ได้นำเอาไปพัฒนาต่อยอดในสวนเกษตรของตนเองนะครับ
เริ่มเลยนะครับ ผมเป็นวัยรุ่นคนนึง ที่ ณ ตอนนี้ รวบรวมอายุได้ก็อายุ 29 ขวบปี แล้ว (ก็เริ่มจะไม่วัยรุ่นแล้วนะ) ตอนเด็กๆ ผมอาศัยอยู่กับตายาย ที่ปลูกผัก เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เพื่อหารายได้ในการดำรงชีวิต ผมคลุกคลีกับเกษตรมาตั้งแต่ยังเล็กๆ มีใจชอบการทำเกษตรมาตลอด แต่พอมาช่วงหนึ่ง ตอนนั้นผมต้องจากบ้านเกิด มาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่ มหานครเมืองหลวง (ใจจริงๆ ไม่ได้อยากมาเลยครับ แต่ตอนนั้นเป็นเด็กดีมาก จึงโดนถีบหัวส่งมาดัดสันดร ซะเลย) ชีวิตก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเรียนจบ ป.ตรี ผมก็ได้กลับมาทำงานโรงแรมที่เชียงใหม่ ได้ 2 ปี ช่วงนั้น คำว่าเกษตร ได้ถูกลบออกจากสมองอย่างเกือบถาวร เหลือไว้อยู่ใต้ก้นบึ้งที่ถูก เกมส์ และสิ่งยั่วยุต่างๆ กดทับไว้ จนวันหนึ่ง เมื่อถึงคราที่ต้องทำหน้าที่ชายไทย ที่จะต้องไปจับใบแดง (จริงๆ ไม่ได้จับหรอกครับ ก็อยู่เป็นคนสุดท้าย ใบแดงเหลือใบสุดท้าย พอดี) พอได้มาเป็นทหาร ก็ได้มารู้จักกับการทำเกษตรแบบไม่ได้ตั้งใจ จากที่ความชอบทำเกษตรถูกกดทับไว้ใต้สุดของความทรงจำ ตอนนี้มันค่อยๆ ผุดขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย เพราะตอนที่เป็นทหารเกณฑ์ ในค่ายเขาจะให้ทหาร ได้ทำงานต่างๆ ซึ่งจะมีการแบ่งหน้าที่กันออกไป ผมได้ลงไปทำงานในส่วนโรงประกอบเลี้ยง (ห้องครัวของค่าย) ที่นั่น จะมีการทำเกษตรด้วย เช่น ปลูกผัก เลี้ยงหมู ฯ ทำให้ผมได้รู้จักและลองทำเกษตรด้วยตัวเอง ทำให้รู้ว่าผมรักและชอบทำการเกษตรอย่างแท้จริง
ต่อมา หลังจากที่ผมปลดประจำการ ผมก็ได้เข้าสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการทหาร ปลาดุก(กฎ) ว่าผมสอบติดครับ ชีวิตทหารของผม ต้องย้ายถิ่นฐานตามเจ้านาย นายไปไหน ผมไปด้วย จนปี 2557 ผมมีโอกาสได้ลงไปปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตอนนั้นผมทำงานในส่วนของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผมได้ไปดูงานและศึกษาข้อมูลโครงการต่างๆ ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงดำริให้ก่อตั้งขึ้น เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ที่เดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆ ในประเทศ กว่า 4,000 โครงการ ซึ่งทำให้ผมยิ่งรักพ่อหลวงของเรามากยิ่งขึ้น จากที่เป็นวัยรุ่น เกิดในยุคที่ทันสมัย ไม่ได้ค่อยสนใจเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ซักเท่าไหร่ พอผมได้มารู้ มาเห็น สิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อประชาชนชาวไทย ทำให้ผมรักและเทิดทูนพระองค์ท่านอย่างหมดหัวใจ และขอตั้งใจไว้ว่า ผมจะเป็น ข้าราชการ "เป็นผู้ทำการงานต่าง(แทน)พระราชา ในนามพระราชา เพื่อไพร่ฟ้าประชาชน" ให้ดีที่สุด
หลังจากที่จบภารกิจมาจากภาคใต้ ผมได้ย้ายกลับมาประจำการที่ค่าย ในจังหวัดบ้านเกิดของผม จากนั้น ผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้กำลังพล ปลูกผัก ทำการเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อช่วยแบ่งเบาภารค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบมาทำอาหาร และให้ได้ร่วมกันทำเกษตรพอเพียง ตามแนวทางพระราชดำริของพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ เพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน จากที่ผมไม่ค่อยได้จับจอบ จับเสียม จับแต่มือถือและมองแต่จอคอม เจอแต่เอกสาร ในวันนี้ ผมได้ทำการเกษตรอย่างแท้จริง ได้ขุดดิน ได้เพาะกล้าต้นไม้ ได้ขุดบ่อเลี้ยงปลา จนมือผมเป็นแผล มือลอก แต่ผมก็จะไม่ท้อ เพราะผมได้ทำในสิ่งที่ผมรัก ได้ทำตามที่ในหลวงสอนมา ถึงแม้มันจะยังเป็นสวนผักเล็กๆ แต่ผมก็ดีใจ ที่ได้เห็นผักของผมเติบโต ออกผลให้ผมได้เก็บกิน และที่สำคัญ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้านได้มากเลยทีเดียว
........................ต่อไปขออนุญาตอธิบายเป็นรูปภาพบ้างนะครับ หากมันน่าเบื่อก็ขออภัยนะคร้าบบบบบบบ....................
ตอนลงไปทำงานใต้ครับ อิอิ

สวนผักน้อยๆ

มีอะไรก็ปลูกๆ ลงไป ปลูกแล้วขุด ขุดแล้วปลูก

บ่อปลาดุกเล็กๆ

สตอเบอรี่ก็มีนะแจ๊ะ

ต้นผักผมสูงท่วมหัวเลยนะจิบอกห้ายยยย

พริกแก่แดด ต้นสูงเท่าเข่า ดูมานออกลูก

เอ้า พนมมือสิ รอไรอยู่ครับ มะเขือเทศ(น์)

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมนะครับ ผิดพลาดประการใดก็กราบแทบเท้าขออภัยมา ณ ที่นี้นะคร้าบบบบบบ จากทหารตัวน้อย ที่ใจรักเกษตร
ทายซิ ผมคนหนาย 5555
เกษตรตามฝัน ของทหารยศน้อยๆ
เริ่มเลยนะครับ ผมเป็นวัยรุ่นคนนึง ที่ ณ ตอนนี้ รวบรวมอายุได้ก็อายุ 29 ขวบปี แล้ว (ก็เริ่มจะไม่วัยรุ่นแล้วนะ) ตอนเด็กๆ ผมอาศัยอยู่กับตายาย ที่ปลูกผัก เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เพื่อหารายได้ในการดำรงชีวิต ผมคลุกคลีกับเกษตรมาตั้งแต่ยังเล็กๆ มีใจชอบการทำเกษตรมาตลอด แต่พอมาช่วงหนึ่ง ตอนนั้นผมต้องจากบ้านเกิด มาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่ มหานครเมืองหลวง (ใจจริงๆ ไม่ได้อยากมาเลยครับ แต่ตอนนั้นเป็นเด็กดีมาก จึงโดนถีบหัวส่งมาดัดสันดร ซะเลย) ชีวิตก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเรียนจบ ป.ตรี ผมก็ได้กลับมาทำงานโรงแรมที่เชียงใหม่ ได้ 2 ปี ช่วงนั้น คำว่าเกษตร ได้ถูกลบออกจากสมองอย่างเกือบถาวร เหลือไว้อยู่ใต้ก้นบึ้งที่ถูก เกมส์ และสิ่งยั่วยุต่างๆ กดทับไว้ จนวันหนึ่ง เมื่อถึงคราที่ต้องทำหน้าที่ชายไทย ที่จะต้องไปจับใบแดง (จริงๆ ไม่ได้จับหรอกครับ ก็อยู่เป็นคนสุดท้าย ใบแดงเหลือใบสุดท้าย พอดี) พอได้มาเป็นทหาร ก็ได้มารู้จักกับการทำเกษตรแบบไม่ได้ตั้งใจ จากที่ความชอบทำเกษตรถูกกดทับไว้ใต้สุดของความทรงจำ ตอนนี้มันค่อยๆ ผุดขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย เพราะตอนที่เป็นทหารเกณฑ์ ในค่ายเขาจะให้ทหาร ได้ทำงานต่างๆ ซึ่งจะมีการแบ่งหน้าที่กันออกไป ผมได้ลงไปทำงานในส่วนโรงประกอบเลี้ยง (ห้องครัวของค่าย) ที่นั่น จะมีการทำเกษตรด้วย เช่น ปลูกผัก เลี้ยงหมู ฯ ทำให้ผมได้รู้จักและลองทำเกษตรด้วยตัวเอง ทำให้รู้ว่าผมรักและชอบทำการเกษตรอย่างแท้จริง
ต่อมา หลังจากที่ผมปลดประจำการ ผมก็ได้เข้าสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการทหาร ปลาดุก(กฎ) ว่าผมสอบติดครับ ชีวิตทหารของผม ต้องย้ายถิ่นฐานตามเจ้านาย นายไปไหน ผมไปด้วย จนปี 2557 ผมมีโอกาสได้ลงไปปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ตอนนั้นผมทำงานในส่วนของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผมได้ไปดูงานและศึกษาข้อมูลโครงการต่างๆ ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงดำริให้ก่อตั้งขึ้น เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ที่เดือดร้อนในพื้นที่ต่างๆ ในประเทศ กว่า 4,000 โครงการ ซึ่งทำให้ผมยิ่งรักพ่อหลวงของเรามากยิ่งขึ้น จากที่เป็นวัยรุ่น เกิดในยุคที่ทันสมัย ไม่ได้ค่อยสนใจเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ซักเท่าไหร่ พอผมได้มารู้ มาเห็น สิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อประชาชนชาวไทย ทำให้ผมรักและเทิดทูนพระองค์ท่านอย่างหมดหัวใจ และขอตั้งใจไว้ว่า ผมจะเป็น ข้าราชการ "เป็นผู้ทำการงานต่าง(แทน)พระราชา ในนามพระราชา เพื่อไพร่ฟ้าประชาชน" ให้ดีที่สุด
หลังจากที่จบภารกิจมาจากภาคใต้ ผมได้ย้ายกลับมาประจำการที่ค่าย ในจังหวัดบ้านเกิดของผม จากนั้น ผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้กำลังพล ปลูกผัก ทำการเกษตรแบบผสมผสาน เพื่อช่วยแบ่งเบาภารค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบมาทำอาหาร และให้ได้ร่วมกันทำเกษตรพอเพียง ตามแนวทางพระราชดำริของพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ เพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน จากที่ผมไม่ค่อยได้จับจอบ จับเสียม จับแต่มือถือและมองแต่จอคอม เจอแต่เอกสาร ในวันนี้ ผมได้ทำการเกษตรอย่างแท้จริง ได้ขุดดิน ได้เพาะกล้าต้นไม้ ได้ขุดบ่อเลี้ยงปลา จนมือผมเป็นแผล มือลอก แต่ผมก็จะไม่ท้อ เพราะผมได้ทำในสิ่งที่ผมรัก ได้ทำตามที่ในหลวงสอนมา ถึงแม้มันจะยังเป็นสวนผักเล็กๆ แต่ผมก็ดีใจ ที่ได้เห็นผักของผมเติบโต ออกผลให้ผมได้เก็บกิน และที่สำคัญ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้านได้มากเลยทีเดียว
........................ต่อไปขออนุญาตอธิบายเป็นรูปภาพบ้างนะครับ หากมันน่าเบื่อก็ขออภัยนะคร้าบบบบบบบ....................
ตอนลงไปทำงานใต้ครับ อิอิ
สวนผักน้อยๆ
มีอะไรก็ปลูกๆ ลงไป ปลูกแล้วขุด ขุดแล้วปลูก
บ่อปลาดุกเล็กๆ
สตอเบอรี่ก็มีนะแจ๊ะ
ต้นผักผมสูงท่วมหัวเลยนะจิบอกห้ายยยย
พริกแก่แดด ต้นสูงเท่าเข่า ดูมานออกลูก
เอ้า พนมมือสิ รอไรอยู่ครับ มะเขือเทศ(น์)
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมนะครับ ผิดพลาดประการใดก็กราบแทบเท้าขออภัยมา ณ ที่นี้นะคร้าบบบบบบ จากทหารตัวน้อย ที่ใจรักเกษตร
ทายซิ ผมคนหนาย 5555